10101 : 101 Pieces of 1 City (Bangkok Edition) ธีสิสว่าด้วย ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาแบบบ้านๆ’ ผ่านชิ้นส่วนที่พบเห็นได้ในเมือง 101 ชิ้น

ใครเคยเดินสำรวจเมืองแล้วสะดุดตากับข้าวของเหล่านี้บ้างไหม เก้าอี้ที่ถูกดัดแปลงเพื่อฟังก์ชันบางอย่างมากกว่าการนั่ง หรือท่อ PVC ที่เป็นตั้งแต่แผงกั้นจราจรยันขาตั้งโต๊ะ ของจำพวกนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยกระบวนการออกแบบที่เราหรือแม้แต่นักออกแบบมืออาชีพเองอาจนึกไม่ถึง จะเป็นอย่างไร ถ้า ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาแบบบ้านๆ’ ถูกย่อส่วนให้กลายเป็นชิ้นส่วนคล้ายเลโก้หรืออาร์ตทอย 101 ชิ้นในรูปแบบชุดเกมที่ชวนให้เราเรียนรู้เรื่องเมือง และสำรวจความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการออกแบบไปพร้อมๆ กัน คอลัมน์ Debut ขอชวนไปรู้จัก 10101 : 101 Pieces of 1 City (Bangkok Edition) โปรเจกต์ที่เริ่มต้นสังเกตการณ์ ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของกรุงเทพฯ’ จนกลายมาเป็นชุดเครื่องมือ 101 ชิ้น โดย ‘น้อยหน่า-รมย์รวินท์ พิพัฒน์นัดดา’ นิสิตปริญญาโทจากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ (CommMA) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะพาไปเรียนรู้ ‘การออกแบบแบบบ้านๆ’ ผ่านชิ้นส่วนเล็กๆ ในเมือง การทำงานร่วมกันระหว่าง ‘การออกแบบพื้นถิ่น’ และ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ โปรเจกต์นี้เริ่มจากการตั้งคำถามว่า ‘การออกแบบพื้นถิ่นสามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผ่านเครื่องมือออกแบบได้อย่างไร’ ทำให้ 10101 : 101 Pieces […]

ชวนเที่ยวสถานที่ลับๆ ใน กทม. กับไกด์บุ๊คเที่ยวที่ลับกรุงเทพฯ (ฉบับแก๊ก) ธีสิสโปรเจกต์จบของนิสิต มศว

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเรามีโอกาสแวะไป BACC และเจองานน่ารักน่าสนใจอย่าง ‘ไกด์บุ๊คเที่ยวที่ลับกรุงเทพฯ (ฉบับแก๊ก)’ ไกด์บุ๊กรวบรวมสถานที่ลับจาก 6 กลุ่มเขตของกรุงเทพฯ เลยอยากชวนทุกคนมารู้จักโปรเจกต์นี้ให้มากขึ้นกัน ไกด์บุ๊กเล่มนี้เป็นโปรเจกต์จบของ ‘แทมมี่-นภสร มณีพลอยเพ็ชร’ นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาการออกแบบสื่อสาร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยเป็นไกด์บุ๊กที่รวบรวมสถานที่ลับๆ ใน 6 กลุ่มเขตกรุงเทพฯ จากความเห็นของคนรอบตัว แล้วนำเสนอแง่มุมใหม่ผ่านตัวละครแก๊กน่ารักๆ แทมมี่รู้สึกว่าไกด์บุ๊กในไทยหลายๆ เล่มค่อนข้างย่อยยากและยังไม่ค่อยหลากหลาย ถ้าไม่ใช่การเที่ยวตามประวัติศาสตร์ก็จะเป็นที่เที่ยวแบบจริงจังที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว นานๆ ทีถึงจะเห็นไกด์บุ๊กแบบเที่ยวตามสายรถเมล์ ตะลุยร้านในย่านชุมชน หรือนำเที่ยวตึกเก่ากรุงเทพฯ เธอเลยอยากเล่าในลักษณะนั้นมากกว่า ซึ่งนั่นนำไปสู่การรวบรวมสถานที่ที่คนเล่าแบบปากต่อปาก แทรกด้วยมุกตลกหรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของคนในพื้นที่มาเขียนและวาดตัวละครเพิ่ม เพื่อดึงจุดเด่นและเสน่ห์ของที่นั้นๆ ออกมา ในไกด์บุ๊กเล่มนี้จะมีการแทรกแก๊กกวนๆ คล้ายเวลาอ่านมังงะแล้วเปิดปกในมาเจอ Easter Egg เธอจึงสร้างตัวละครสีขาวดำตาหวานให้เป็นตัวช่วยดึงความพิเศษของสถานที่ออกมา เพราะทั้งตัวเธอเองและคนไทยโดยเฉลี่ยมักชอบเรื่องตลก ตัวการ์ตูนเหล่านี้จะทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ พอมารวมกับการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เลยยิ่งทำให้เนื้อหาย่อยง่ายและพรีเซนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ไกด์บุ๊กเล่มนี้นำเสนอทั้งร้านอาหาร คาเฟ่มุมสวยๆ สวนสาธารณะแปลกๆ หรือแม้แต่พื้นที่ชุมชนที่สอนกิจกรรมต่างๆ ให้น่าติดตามมากขึ้น โดยไม่ต้องอิงความเฉพาะทางในการท่องเที่ยวหรือความสนใจของคนเฉพาะกลุ่มเพียงอย่างเดียว โดยหลังจากรวบรวมข้อมูลสถานที่จากคนรอบตัวมาแล้ว แทมมี่พบว่าแต่ละสถานที่ห่างไกลกันมาก ทำให้เธอจัดกลุ่มพื้นที่เข้าด้วยกันผ่านการแยกเป็น 6 กลุ่มเขตกรุงเทพฯ […]

‘ร้านชำศึกษา’ ธีสิสว่าด้วยการวิเคราะห์ร้านขายของชำ ที่อยากชวนให้คนมาสนับสนุนร้านค้าเหล่านี้มากขึ้น

หากพูดถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ร้านขายของชำคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีและเป็นที่คุ้นเคยของใครหลายคน แต่หลายครั้งเราก็แค่แวะไปซื้อของหรือพูดคุยกับเจ้าของร้านนิดหน่อยก่อนจากไป ทั้งที่ความจริงแล้วร้านขายของชำยังมีแง่มุมอื่นๆ ให้สังเกตอีกมาก  Urban Creature อยากชวนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของร้านขายของชำที่เป็นมากกว่าแค่สถานที่ขายของผ่าน ‘ร้านชำศึกษา’ ธีสิสจากนิสิตสาขานิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ‘นาย-ลลิตา นาคสุ่น’ เจ้าของผลงานบอกกับเราว่า ด้วยความที่บ้านเป็นร้านขายของชำ ทำให้คลุกคลีอยู่ในสถานที่นี้ตั้งแต่เกิด ได้เห็นทั้งความเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และความน่าสนใจทั้งในแง่ของอาชีพและวิถีชีวิต จึงอยากหยิบเอาความเป็นร้านชำนี้มานำเสนอและส่งต่อเรื่องราวให้คนอื่นๆ ได้รู้ผ่านสิ่งพิมพ์เล่มนี้ จุดประสงค์หลักๆ คือ ลลิตาอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันมาสนับสนุนร้านขายของชำ โดยเธอเลือกใช้วิธีการนำเสนอวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของร้านขายของชำ เพื่อให้ค่อยๆ เข้าถึงผู้อ่านแบบที่ไม่สุดโต่งจนเกินไป และสร้างความเข้าใจว่า ร้านขายของชำเป็นส่วนหนึ่งของความโลคอลที่มีความสำคัญและสร้างชีวิตชีวาให้เมือง ภายในหนังสือร้านชำศึกษาเล่มนี้ มีเนื้อหาที่ประกอบด้วยวิถีชีวิตของชาวร้านชำ การวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ในร้านชำ ความยากและการปรับตัวที่เจ้าของร้านชำต้องเจอ หรือแม้แต่บริบทของร้านขายของชำในรูปแบบต่างๆ โดยทั้งหมดถูกนำเสนอผ่านการวิเคราะห์ในหลักการตลาด 5 Ps (Place, Product, Promotion, Price และ People)  นอกจากข้อมูลเชิงวิเคราะห์แล้ว ร้านชำศึกษายังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะทำให้เราสนิทกับโลกของร้านชำมากขึ้น ยกตัวอย่าง แผ่นพับหน้า-หลังที่เล่าเรื่องลักษณะของพื้นที่ร้านซึ่งมีกิมมิกที่ขูดได้ โดยเจ้าของผลงานเสริมว่า ไอเดียสติกเกอร์ขูดนี้ชวนให้นึกถึงการ์ดชิงโชคสมัยก่อน จึงนำมาใช้บดบังองค์ประกอบบางส่วน แล้วให้คนที่มาดูงานมีส่วนร่วมด้วยการขูดเพื่อให้เห็นส่วนต่างๆ […]

‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสว่าด้วยการจัดงานมหกรรมระดับโลกที่จะพลิกโฉมมักกะสันในฐานะหัวใจเชื่อมเมือง

‘Osaka World Expo 2025’ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในปีนี้ที่คนพูดถึงกันทั่วโลก และน่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส  เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับโลกที่แต่ละประเทศได้ร่วมเวทีประกาศความสำเร็จในแบบของตัวเองแล้ว ยังเป็นสปอตไลต์ที่ฉายความพร้อมในหลากหลายมิติของประเทศเจ้าภาพอีกด้วย แต่ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ จริงๆ แล้วไทยเองก็เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ถึงสองครั้งสองคราในปี 2020 และ 2028 แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนสนับสนุนหรือด้านโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ทว่าความหวังนี้ยังคงไม่หายไป แม้จะมีคำถามว่า แล้วตอนนี้ไทยเราพร้อมหรือยังที่จะขึ้นสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก แต่อีกคำถามที่น่าสนใจและชวนจินตนาการต่อไม่แพ้กันคือ แล้ว ‘Bangkok World Expo’ จะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ  คอลัมน์ Debut พาไปพูดคุยกับ ‘ธีร์-ธนกฤต กาญจนารมย์’ นิสิตจากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เราเห็นภาพอนาคตและศักยภาพของไทยมากขึ้น ผ่าน ‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสจบการศึกษาของเขา วาระพิเศษพลิกโฉมประเทศไทย การทำธีสิสเกี่ยวกับงานมหกรรมระดับโลกของธนกฤตเริ่มต้นจากความชอบในการดูบอล และเห็นว่าการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่อย่างบอลโลกหรือบอลพรีเมียร์ลีกมักตามมาด้วยอีเวนต์ที่ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันได้ ในขณะเดียวกัน ธนกฤตเองก็อยากทำงาน Redevelopment หรืองานพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่หยิบเอาพื้นที่ว่างมาฟื้นฟูพัฒนากลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เขาจึงเล็งเป้าไปที่ ‘World Expo’ ซึ่งเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า World […]

เมื่อเมืองเหงาจนเห็ดเรางอก! สำรวจความเหงาจากพื้นที่เมืองในโปรเจกต์ Otterlone.BKK

หลายคนอาจเคยได้ยินสังคมเหงาๆ และการแยกตัวอยู่คนเดียวแบบ ‘ฮนจก’ ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมการแยกตัวอยู่คนเดียวของเกาหลีใต้ หรือ Hitoribotchi ของสังคมญี่ปุ่นที่ Kazuhisa Arakawa ผู้เชี่ยวชาญด้านความโสดกล่าวถึงข้อมูลใน White Paper ของรัฐบาลญี่ปุ่น ปี 2020 ว่า ครัวเรือนญี่ปุ่นมีคนโสดเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 38 เปอร์เซ็นต์จากปี 1980 แถมในโตเกียวยังมีครัวเรือนที่อยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์ แต่นอกจากเมืองญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว ตอนนี้ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เองก็กลายเป็นเมืองที่มีความเหงาและการแยกตัวออกจากสังคมสูงไม่ต่างกัน Urban Creature เลยอยากแนะนำ ‘Otterlone.BKK’ ซีเนียร์โปรเจกต์ของ ‘ซันซัน-ณิชารีย์ ทรัพย์ประพฤทธิ์’ นิสิตภาควิชาการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาการออกแบบและผลิตสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พูดถึงปรากฏการณ์ความเหงาของคนในเมือง ซึ่งอาจไม่ได้เกิดจากชีวิตส่วนตัวของเราอย่างเดียว แต่เป็นผลจากเมือง การขาดพื้นที่สาธารณะ หรือสภาพกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เอื้อให้เราคลายเหงาได้ง่ายขนาดนั้น โปรเจกต์นี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) Lonely Very Mush เว็บไซต์ Interactive หน้าตาน่ารักที่จะชวนทุกคนไปสำรวจตัวเองและชีวิตเหงาๆ […]

The junk, the gems ธีสิสที่ว่าด้วยสิ่งของข้างทาง และไอเดียการประยุกต์แบบบ้านๆ ของคนไทย

นิสัยช่างสังเกตและความชอบในการเดินเมือง ทำให้ ‘ปิ๊ก-ชาคริยา เนียมสมบุญ’ บัณฑิตจากสาขาเครื่องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ปัจจุบันเป็นศิลปินอิสระ ได้ไปเดินยังจุดต่างๆ ของเมือง และพบความสนใจในการสร้างเครื่องเคลือบดินเผาจากไอเดียที่พบเห็นสิ่งของข้างทาง จนทำให้เกิดเป็นงานธีสิสชิ้นนี้ขึ้นมา ‘จุดนำสายตา’ เป็นคำนิยามที่ปิ๊กรู้สึกต่อตะกร้าผลไม้ ยางรถยนต์ แกลลอน หรือข้าวของที่วางอยู่ระเกะระกะ ควบคู่ไปกับความเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นของคนไทย ที่มักหยิบจับสิ่งของที่ดูไม่เข้ากันมาประกอบเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ใหม่ งานประดิษฐ์เหล่านี้ไม่ได้สะท้อนแค่ไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตคนไทย ที่เมื่อปัญหาบางอย่างไม่สามารถแก้ไขอย่างถาวรได้ คนไทยก็มักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยไอเดียการประยุกต์ใช้สิ่งของบางอย่าง เช่น ถ้าไม่อยากให้ใครมาจอดรถหน้าบ้าน ก็เอาแกลลอนหรือสิ่งของมาประกอบกันแล้ววางขวางพื้นที่ไว้ รวมถึงสิ่งของบางอย่างที่อาจใช้ประโยชน์ในรูปแบบเดิมไม่ได้แล้ว อย่างตะกร้าพลาสติกที่แตกบริเวณฐาน พ่อค้าแม่ค้าก็ดัดแปลงด้วยการนำมาตั้งเรียงกันเป็นโต๊ะ เพื่อไม่ให้ตะกร้าเหล่านั้นกลายเป็นขยะพลาสติกเสียเปล่าไปเฉยๆ จุดเริ่มต้นของงานนี้เกิดจากการไปเดินย่านทรงวาดของปิ๊ก และพบเข้ากับเสาไฟที่มีแกลลอนขวดนมตั้งอยู่ตรงฐาน แต่เมื่อมองเข้าไปข้างในขวดนมจะพบปลั๊กพ่วงซ่อนอยู่ ซึ่งตัวปิ๊กเองคาดเดาว่าอาจจะใช้เพื่อกันน้ำฝน หรือป้องกันไม่ให้ใครเห็น เพราะถ้าจะต่อปลั๊กจากไฟเหล่านี้ต้องมีการขออนุญาตก่อน เสาไฟและขวดนมที่ทรงวาดจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปิ๊กอัปสกิลการสังเกตของตนเองและค่อยๆ พัฒนามาเป็น ‘The junk, the gems’ ธีสิสที่บอกเล่าตามชื่อด้วยเรื่องราวของสิ่งของข้างทางที่เป็นขยะ แต่ถูกนำมาดัดแปลงจนเห็นถึง Gems ที่แทรกอยู่ในขยะเหล่านั้น โดยจุดสำคัญของผลงานชุดนี้คือ การนำเสนอไอเดียและการแก้ปัญหาของคนเมือง พร้อมสอดแทรกความเป็นตัวปิ๊กลงไป ด้วยความตั้งใจที่ไม่อยากเพียงแค่คัดลอกไอเดียที่เห็น แต่อยากจินตนาการเสียมากกว่าว่า ถ้าเธอเป็นคนทำงานชิ้นนี้ออกมา แต่ละงานจะออกมาหน้าตาแบบใด ปิ๊กเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ฟังว่า นอกจากย่านทรงวาดที่ทำให้ได้เจอกับเสาไฟที่จุดประกายไอเดียแล้ว […]

BKK in pieces ธีสิสซีนของคนทำงานออกแบบผู้สนใจเมือง นำเสนอของดีไซน์ไทยๆ ผสมผสานกับความสนุกของกราฟิก

ความชอบในสิ่งพิมพ์ การสังเกตและอธิบายสิ่งธรรมดารอบตัว และการตั้งคำถามเรื่องอะไรคือสุนทรียภาพแบบไทยๆ นำมาสู่การทำ BKK in pieces ธีสิสจบการศึกษาคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สาขานิเทศศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ของ ‘ชิตวัน เพชรรัตน์’ ในช่วงเวลาระหว่างนั้น หนังสือที่เธอกำลังอ่านชื่อ ‘The Beauty of Everyday Things’ โดย Soetsu Yanagi ก็ทำให้เห็นว่าการพิจารณาสิ่งของพาเราสืบสาวไปหารากวัฒนธรรมที่สร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร “ในหนังสือมีส่วนที่กล่าวถึง Fundamental Principle ของการชงชา (Chabi) ไว้ว่า ‘As fortune would have it, it was not an intellectual concept, but rather consisted of concrete objects that acted as intermediaries…’ “กล่าวคือ ด้วยการมีอยู่ของสิ่งที่จับต้องได้อย่างสำนักชา ทางเดินในสวน […]

The Bangkok 2040 Summer Olympics ธีสิสพัฒนาท่าเรือคลองเตยให้กลายเป็นฮับใหม่ สำหรับรองรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2040

นอกจาก ‘กีฬา’ จะเป็นยาวิเศษแล้ว กีฬายังเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างชาติอีกด้วย ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกมาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง ทั้งการเสนอเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ปี 2008 และยูธโอลิมปิก ปี 2010 แต่ก็ต้องคว้าน้ำเหลว เนื่องด้วยความไม่พร้อมในด้านต่างๆ แต่ความหวังยังไม่หมดไป หลายครั้งเราจึงเห็นคนบนโลกออนไลน์ออกมาถกเถียงกันในประเด็นนี้อยู่บ่อยๆ ว่า แล้วเราต้องทำอย่างไร ประเทศไทยถึงจะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาของมวลมนุษยชาติกับเขาสักครั้ง เช่นเดียวกับ ‘จอม-ปภัสสร นพไพบูลย์รัตน์’ นิสิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มองว่าการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการพัฒนาเมือง ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและกระตุ้นการพลิกฟื้นของเมืองได้ จนเกิดเป็น ‘The Bangkok 2040 Summer Olympics’ ธีสิสออกแบบวางผังและจัดทำแผนพัฒนาเมืองสู่การเสนอตัวมหกรรมกีฬากรุงเทพฯ โอลิมปิกในปี 2040 กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ จอมเล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนตัดสินใจทำธีสิสในหัวข้อเกี่ยวกับโอลิมปิกเกิดขึ้นเพราะสไลด์วิชาเรียนเกี่ยวกับการออกแบบเมืองในช่วงชั้นปีที่ 4 เพียงสไลด์เดียวที่พูดถึง ‘คน กิจกรรม และเมือง’ “ผมคิดว่าโอลิมปิกเป็นคำตอบสำหรับการพัฒนาเมืองที่เป็นไปได้และอิมแพกต์มากที่สุด เพราะการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาเมืองที่ช่วยแก้ไขปัญหา กระตุ้นการพลิกฟื้นของเมือง และขับเคลื่อนเมืองได้” เมื่อได้หัวข้ออย่างเป็นทางการ และหาข้อมูลไปได้ประมาณหนึ่ง จอมก็พบว่าความจริงแล้ว ประเทศไทยเคยยื่นเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันไปแล้วทั้งหมด 2 […]

ธีสิส ‘NIMBY_TH : เปิดบ้านในฝันฉันอยู่ใต้น้ำ’ จะเป็นอย่างไรถ้า ‘กรุงเทพฯ’ จมน้ำเร็วกว่าที่เราคาดคิด

“กรุงเทพฯ อาจกลายเป็นเมืองจมน้ำถาวรภายใน พ.ศ. 2593” หากพูดถึงน้ำท่วมกรุงเทพฯ หลายคนคงนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่แม้เป็นวิกฤตใหญ่กินเวลาหลายเดือน แต่เมื่อน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ถ้าในอนาคตไม่ใช่แบบนั้นล่ะ? เพื่อแสดงให้เห็นว่าปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องเล็กที่ควรถูกมองข้าม ‘เอิร์น-อรญา คุณากร’ และ ‘ไอ่ไอ๊-อนวัช มีเพียร’ นิสิตจากภาควิชาการจัดการการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์โปรเจกต์ธีสิสชื่อ ‘NIMBY_TH : เปิดบ้านในฝันฉันอยู่ใต้น้ำ’ ธีสิสนี้เกิดขึ้นในรูปแบบนิทรรศการที่ Slowcombo สามย่าน เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้โจทย์ Livable Community ที่ต้องการสื่อสารปัญหาเมืองและสิ่งแวดล้อม ให้ผู้คนตระหนักว่า หากไม่ใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่รุนแรงและแปรปรวนตอนนี้ บ้านในฝันของใครหลายคนอาจอยู่ใต้น้ำพร้อมกับระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ ‘Global Warming’ จุดเริ่มต้นของ NIMBY ‘NIMBY’ ในชื่อธีสิสของเอิร์นและไอ่ไอ๊ คือสิ่งที่พวกเธอทั้งสองคนหยิบยืมมาจากวลี ‘Not in my Backyard’ ที่มักถูกใช้ในการประท้วงเรื่องสิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา เมื่อประชาชนออกมาร่วมคัดค้านโครงการพัฒนาเมืองที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบกับชุมชนอย่างการสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อสื่อว่า ‘การพัฒนาเมืองจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ […]

สองล้อขอทางหน่อย ธีสิสเกมจำลองการใช้ชีวิตด้วยมอเตอร์ไซค์ บนท้องถนนประเทศไทยที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

“การนั่งมอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯ มันเหมือนเรากำลังเล่นเกมอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องคอยหลบนู่นหลบนี่ เลยอยากเอาอะไรพวกนี้มาทำเป็นเกมดู” ‘บีม-ภัทรลดา เตชะศฤงคาร’ เล่าถึงที่มาของธีสิสเกม ‘สองล้อขอทางหน่อยยย’ ในฐานะนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย วิชาเอกการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดีย วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่จัดแสดงบริเวณ SPHERE GALLERY 1 ชั้น M ห้างฯ Emsphere ไปเมื่อวันที่ 17 – 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา “หลายครั้งที่เราจำเป็นต้องใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางบนถนนกรุงเทพฯ แต่เมื่อมองย้อนกลับไป การเดินทางด้วยวิธีนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับคนบนมอเตอร์ไซค์เลย” บีมบอกกับเรา สองล้อขอทางหน่อยยย เป็นธีสิสเกมแนว Endless Runner Game ที่ออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอุปสรรคในการเดินทางด้วยจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ และให้ความสำคัญกับการสวมหมวกกันน็อก หลังพบว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับรถมอเตอร์ไซค์ โดยวิธีการเล่นจะคล้ายกับการเล่นเกม Subway Surfers คือผู้เล่นต้องสวมบทเป็นพนักงานเดลิเวอรีบังคับรถมอเตอร์ไซค์หลบสิ่งกีดขวางบนถนน ไม่ว่าจะเป็นกรวยจราจร ฝาท่อ บาร์เรียร์ก่อสร้าง รถยนต์ สะพานลอย เสาไฟฟ้า และผู้คน เพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด “กิมมิกหนึ่งของเกมนี้คือ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บนถนนสามเลนเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง ทำให้มอเตอร์ไซค์ต้องขึ้นไปบนฟุตพาท แต่การขึ้นฟุตพาทมันผิดกฎหมาย เลยจะมีไอเทมใบสั่งอยู่บนฟุตพาทด้วย” เจ้าของธีสิสเล่าถึงเอเลเมนต์ที่สอดแทรกผลลัพธ์ของการทำผิดกฎหมายของเหล่ามอเตอร์ไซค์เข้าไปด้วย […]

FiNESSE โปรเจกต์ธีสิสวงไอดอลระยะสั้น ที่อยากให้คนรับรู้ความแตกต่าง และยอมรับการเป็นตัวของตัวเอง

“เฟทอยากให้สังคมรับรู้ว่า ‘ความต่าง’ ที่โดนปฏิเสธมาตลอด จริงๆ แล้วมันโดนปฏิเสธเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่เก่ง แต่เป็นเพราะวงการไอดอลยังห่างไกลกับการยอมรับ Self-determination (สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง)” ในวันที่อุตสาหกรรม T-POP กำลังเติบโตและถูกจับตามองจากทั่วโลก ใครหลายคนอาจกำลังเดินตามความฝันของตัวเองอย่างสุดกำลัง แต่สำหรับใครบางคน ความฝันของพวกเขาอาจดับลงไปแล้ว เพียงเพราะพวกเขา ‘แตกต่าง’ จากสิ่งที่สังคมต้องการ ‘FiNESSE’ คือธีสิสวงไอดอลระยะสั้นจากฝีมือการโปรดิวซ์ของ ‘เฟท-ฐิตา เกษรสมบัติ’ อดีตสมาชิกไอดอลวง Siamese Kittenz ที่ปัจจุบันเป็นนิสิตชั้นปีสุดท้ายจากคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน สาขาการออกแบบและผลิตสื่อ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งโปรเจกต์นี้ทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมไอดอลที่ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่ที่เพศสภาพ อายุ หรือบิวตี้สแตนดาร์ด คอลัมน์ Debut ขอพาไปรู้จักธีสิสวงไอดอล FiNESSE ให้มากขึ้นผ่านบทสนทนาของหญิงสาว ถึงแนวคิดจุดเริ่มต้นตั้งแต่เดย์วันของการตัดสินใจทำธีสิสว่า อะไรคือสิ่งที่อยากนำเสนอ จนถึงวันนี้ที่เธอพยายามผลักดันให้วงนี้เข้าสู่อุตสาหกรรมเพลงได้จริงในอนาคต ได้เวลาทำวงไอดอลระยะสั้น หลายคนคงเคยเห็นธีสิสที่ทำขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจมาจากไอดอลที่ชอบ แต่สำหรับธีสิสของเฟทแตกต่างออกไป เพราะ ‘FiNESSE’ คือธีสิสที่เกิดจากเศษเสี้ยวความฝันการเป็นไอดอลของเธอเอง “อดีตเฟทเคยเป็นไอดอลมาก่อน แต่ในตอนนี้ ต่อให้อยากกลับไปเป็นอีกมันก็ไม่ง่ายแล้ว ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นจนเกินเพดานการสมัคร และเรารู้สึกว่ามันคงมีคนที่เป็นแบบเราเยอะ เลยตัดสินใจทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา” เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้น ธีสิสในรูปแบบวงไอดอลระยะสั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในคณะ […]

Urban Regeneration of Hat Yai Inner City ธีสิสฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ สร้างย่านเศรษฐกิจใหม่จากพื้นที่เดิม

‘หาดใหญ่’ เปรียบเสมือนเมืองหลวงของภาคใต้ที่มีพหุวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย เนื่องด้วยเป็นชุมทางรถไฟสายใต้ที่มีพื้นที่ติดต่อค้าขายกับประเทศมาเลเซีย แต่ปัจจุบันเมืองท่าแห่งนี้กลับเงียบเหงากว่าอดีตมาก หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีการปิดพรมแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ ‘เกรท-กมลฉัตร ชื่นจิตต์ศิริ’ อดีตนิสิตภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เกิดและเติบโตในพื้นที่หาดใหญ่ ตัดสินใจทำธีสิส ‘Urban Regeneration of Hat Yai Inner City’ ออกแบบพื้นที่ไฮไลต์ในตัวเมืองหาดใหญ่ใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้านเกิดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง คอลัมน์ Debut ชวนทุกคนนั่งรถไฟลงใต้ ไปสำรวจความเป็นไปได้ของการพัฒนาเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ผ่านธีสิสของลูกหลานหาดใหญ่คนนี้กัน จุดเริ่มต้นการฟื้นฟูของหาดใหญ่ “เราโตมากับหาดใหญ่ พอได้ทำธีสิสเลยเลือกพื้นที่ตรงนี้มาพัฒนา เพราะเห็นว่าปัจจุบันตัวเมืองค่อนข้างเงียบเหงา ซึ่งเรามองว่าหาดใหญ่สามารถไปได้ไกลกว่านี้” เกรทเล่าถึงความตั้งใจในการทำธีสิส โดยยึดจากปัญหาที่พบในบ้านเกิดของเธอเอง เดิมทีหาดใหญ่ได้รับความเจริญจากการเข้ามาของ ‘สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่’ ที่แบ่งการเดินทางแยกออกเป็น 2 สาย คือ ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก และปลายทางเมืองบัตเตอร์เวิร์ท ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีท่าอากาศยานหาดใหญ่ ที่ทำให้เมืองนี้มีบทบาทเป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางการเดินทาง ควบตำแหน่งเมืองการค้าที่สำคัญเนื่องจากติดกับชายแดน แหล่งรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชุมชนคนไทย จีน และมุสลิม ที่ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ มากไปกว่านั้น ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ยังมีการวางแผนสร้างระบบ ‘รถไฟฟ้ารางเดี่ยว’ […]

1 2

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.