เติมชีวิตชีวาให้ ‘ย่านพาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง’ ด้วยพลังของสีสันผ่านงานศิลปะ ถ่ายทอดเรื่องราวสะท้อนชีวิตชาวไทย-อินเดีย เตรียมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในกรุงเทพฯ

‘ความสร้างสรรค์’ นับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาเมืองให้แข็งแรงและยั่งยืน หน่วยงานและองค์กรด้านเมืองจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการสนับสนุนงานเทศกาลต่างๆ เพราะนอกจากจะสร้างความคึกคักให้เมืองแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งระดับประเทศและชุมชนในอีกทางหนึ่ง และในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ร่วมมือกันจัดงาน ‘Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025’ ในย่านพาหุรัดและริมคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองแสงแห่งศรัทธาที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความสุข และมิตรภาพระหว่างสองวัฒนธรรมไทย-อินเดีย ความพิเศษของปีนี้คือ ความตั้งใจในการยกระดับและพัฒนาพื้นที่ให้ดึงดูดคนนอกพื้นที่มากขึ้น ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วย ‘พลังแห่งสี’ ถึง 8 จุดภายในย่านพาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง โดยมี ‘Nippon Paint’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนวัตกรรมและยั่งยืนยอดขายอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก จากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้สนับสนุนให้ไอเดียงานศิลปะเหล่านี้จับต้องได้ และกลายเป็นผลงานที่จะฟื้นฟูย่านเก่าแห่งนี้ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งด้วยแนวคิด วิสัยทัศน์ และพันธกิจของแบรนด์ ที่เชื่อว่า “สี” มีพลังที่พร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและเมืองได้ ไม่เพียงแต่สร้างสีสันในช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่โปรเจกต์นี้จะช่วยให้ย่านพาหุรัดและริมคลองโอ่งอ่างกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่แห่งวัฒนธรรมไทย-อินเดียในกรุงเทพฯ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกชนชาติมาเยี่ยมเยียนและเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมวิถีชีวิตที่รุ่มรวยไปด้วยศิลปวัฒนธรรม  ว่าแต่งานนี้มีกระบวนการอย่างไร และผลงานแสดงที่จุดไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย! พาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง พื้นที่แห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม ‘พาหุรัด’ เป็นย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ […]

BIGNIK 2025 in Basel ปูผ้าปิกนิกยักษ์บนเนินเขาเมืองบาเซิล โปรเจกต์ระยะยาวที่ชวนคนออกมาใช้พื้นที่สาธารณะ

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เวลาไปปิกนิกในสวนสาธารณะใกล้บ้านคือ ผ้าปูปิกนิกสีสันสดใส ส่วนเสริมที่ทำให้การออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะมีชีวิตชีวามากขึ้น เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี  BSLA (สมาคมสถาปนิกภูมิทัศน์สวิตเซอร์แลนด์ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ) จึงหยิบเอาคอนเซปต์การออกไปปิกนิกข้างนอกมาใช้สร้างสรรค์โปรเจกต์ขนาดใหญ่ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ‘BIGNIK 2025 in Basel’ คือชื่อเรียกของโปรเจกต์ผ้าปูปิกนิกใหญ่ยักษ์ที่ปกคลุมไปทั้งเนินเขาเมืองบาเซิล มีจุดเริ่มต้นมาจาก Frank และ Patrik Riklin ศิลปินจากเมืองเซนต์กัลเลน ตั้งแต่ปี 2555 ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนหยิบผ้าจากบ้านมาเย็บต่อกันไปเรื่อยๆ แบบ 1 คน 1 ผืนต่อ โดยมีการตั้งเป้าว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2596 ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ได้มีอีเวนต์ใหญ่ของโปรเจกต์นี้ที่นำผ้าที่ได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 มาวางในพื้นที่สาธารณะจริง โดยมีผู้คนกว่า 200 คนมาร่วมเย็บผ้าสีแดงและสีขาวต่อกัน จนทำให้ผ้าปูปิกนิกผืนนี้เกิดขึ้นจากผ้าชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 1.4 x 1.4 เมตร กว่า 3,000 ผืน งานนี้ไม่ใช่เพียงโปรเจกต์ศิลปะทั่วไป แต่เป็นการเปลี่ยนพื้นที่ถนนให้กลายเป็นเส้นทางเดินเท้าขนาดใหญ่ และยังเปิดให้คนมาใช้เวลา […]

กราฟฟิตี้ช่วยพัฒนาเมือง ส่องตัวอย่างย่านและเมืองจากต่างประเทศที่ใช้งานศิลปะเป็นส่วนช่วยสร้างอัตลักษณ์เมือง

ผนังของเมืองเป็นของใคร กราฟฟิตี้เป็นงานศิลปะทำลายความสวยงามของเมือง หรือช่วยเพิ่มอัตลักษณ์ของพื้นที่ คำถามเหล่านี้วนเวียนบนโลกอินเทอร์เน็ตจากเหตุการณ์ที่มีคนพ่นสีทับงานศิลปะบนกำแพงในซอยเจริญกรุง 30 ซึ่งเป็นภาพกราฟฟิตี้ของศิลปินชาวสเปน ภายใต้โครงการ Krung Thep Creative Streets กราฟฟิตี้คืออะไร ทำไมต้องพ่นบนกำแพง ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การทำงานศิลปะบนผนังของเมืองนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่อดีต โดยมีสองคำง่ายๆ ที่ใช้จำกัดความงานศิลปะบนผนังอย่าง Mural และ Graffiti Mural หรือ จิตรกรรมฝาผนัง คือภาพวาดหรือศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นผิวขนาดใหญ่ เช่น ผนัง เพดาน หรือกำแพง โดยส่วนใหญ่มักจะทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็พวกภาพวาดส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือจิตรกรรมฝาผนังในวัด ส่วน Graffiti เดิมทีเป็นวัฒนธรรมย่อย (Subculture) ที่เน้นการแสดงออกถึงตัวตน การประกาศอาณาเขต หรือการวิพากษ์วิจารณ์สังคม ส่วนใหญ่มักทำในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จริงๆ แล้วในปัจจุบันเส้นแบ่งระหว่าง Mural และ Graffiti เริ่มมีความเลือนรางมากขึ้น เนื่องจากศิลปินกราฟฟิตี้หลายคนพัฒนาฝีมือและได้รับการยอมรับ จนสามารถสร้างสรรค์ผลงาน Mural ขนาดใหญ่ที่ถูกกฎหมายได้ ซึ่งงานเหล่านี้มักจะผสมผสานสไตล์และเทคนิคของกราฟฟิตี้เข้าไปด้วย เราจึงเรียกศิลปะบนกำแพงในยุคใหม่ๆ นี้โดยรวมว่า […]

Food Waste Crayons โดย LUKYANG Studio เปลี่ยนขยะเศษพริกป่น กระเจี๊ยบ ใบเตย ให้กลายเป็นสีเทียนรูปทรงน่ารัก ใช้งานได้จริง

จากการประกาศรางวัล DEmark หรือ Design Excellence Award 2025 สิ่งหนึ่งที่เราสะดุดตามากคือ Food Waste Crayons หรือสีที่ทำมาจากขยะอาหาร ของ LUKYANG Studio เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า เมืองของเรากำลังประสบปัญหาขยะอาหารล้นเมือง โดยจากผลสำรวจของ Food Waste Index คนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ยคนละ 86 กิโลกรัมต่อปี LUKYANG Studio Co., Ltd. สตูดิโอออกแบบผลิตภัณฑ์รักษ์โลก (Eco Product Design Studio) จึงคิดไอเดียการทำสีเทียนจากเศษอาหาร หรือ Food Waste Crayons ที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นโปรดักต์ดีๆ ใช้งานได้จริง เริ่มต้นจากการทดลองทำสีจากของในบ้าน เช่น กาแฟ ดอกไม้แห้งต่างๆ ก่อนนำมาผลิตเป็นสีเทียนจากเศษอาหารและสมุนไพรไทย พอได้กรรมวิธีการผลิตที่พอใจแล้วก็นำวัตถุดิบต่างๆ มาผ่านกระบวนการแปรรูปผสมกับขี้ผึ้งแล้วขึ้นเป็นสีเทียนแท่ง โดยมีสีสันต่างกันไปตามวัตถุดิบที่น่าสนใจในช่วงเวลานั้นๆ ยกตัวอย่าง พริกป่น ให้โทนสีแดงและส้ม ใบเตย ให้โทนสีเขียว ฟักทอง ให้โทนสีเหลือง […]

Phayao Co-Creation ทำความรู้จักนักสร้างสรรค์ริมกว๊าน เมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีพจรพะเยาให้ไม่เหมือนเดิม

แม้จะเป็นเมืองที่มีสถาบันอุดมศึกษาที่มีสาขาวิชาครบพร้อมอย่างมหาวิทยาลัยพะเยา ทั้งยังมีบรรยากาศที่แสนสบายและเปี่ยมเสน่ห์ แต่กระนั้น ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่เล็กเกินกว่าจะดึงดูดให้คนรุ่นใหม่เลือกลงหลักใช้ชีวิต พะเยาจึงยังคงได้รับการจดจำเพียงเมืองริมกว๊าน รายล้อมด้วยภูเขา และอบอวลไปด้วยความเงียบเหงาอย่างน่าเสียดาย แต่ใช่ว่าเมืองเล็กๆ เมืองนี้จะมีแต่เด็ก คนชรา เจ้าของกิจการ หรือข้าราชการเพียงเท่านั้น เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลับมีความเคลื่อนไหวจากคนรุ่นใหม่ที่ทยอยกันกลับบ้านเกิด เปลี่ยนชีพจรของเมืองให้ไม่เหมือนเดิม พื้นที่ศิลปะในบ้านเก่า ในโรงหนังร้าง หรือกระทั่งกลางตลาดสด ตลาดนัดต้นไม้ และงานคราฟต์ในตรอกซอยและริมถนน เทศกาลดนตรีริมทะเลสาบ คาเฟ่ในบ้านโบราณ ไปจนถึงธุรกิจใหม่ๆ จากผู้ประกอบการในพื้นที่และที่อื่น ฯลฯ สีสันใหม่ๆ ต่างเข้ามาแต่งแต้ม และค่อยๆ เติมเต็มเมืองเล็กๆ เมืองนี้ด้วยความหวัง เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เรามีโอกาสไปร่วมงาน Phayao Walk and Wonder กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง CEA เชียงใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ซึ่งพากันเปิดบ้านและย่าน (ถนนราชวงศ์และท่ากว๊าน) ให้ทั้งคนในพื้นที่และผู้มาเยือนได้รู้จักพะเยาในมุมใหม่ๆ ซึ่งว่าไปแล้วก็เหมือนการ Wrap up ความเคลื่อนไหวของเมืองในพารากราฟข้างต้นในวันเดียว นั่นละ ไม่ใช่แค่พาไปรู้จักว่าพะเยาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง แต่คอลัมน์คนขับเคลื่อนเมืองตอนนี้ อาสาพาไปพูดคุยกับกลุ่มนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่–เหล่าคนขับเคลื่อนเมืองเมืองพะเยา และแนวคิดในการสร้างนิยามใหม่ให้บ้านเกิดของพวกเขา นิทานบ้านต้นไม้กับการสร้างนิเวศสร้างสรรค์ใจกลางเมืองแตง-บงกช กาญจนรัตนากร […]

ไปเดินชมงานจิตรกรรมฝาผนัง ที่สะท้อนอดีตและปัจจุบันของคลองโอ่งอ่าง

เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่มิวเซียมสยามขยายการทำงานออกไปนอกเขตพื้นที่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยเฉพาะในย่านพระนครที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ ผ่านการใช้ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์เป็นสื่อกลาง และในปีนี้มิวเซียมสยามร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดงานเทศกาลศิลปะเปิดเกาะรัตนโกสินทร์ หรือ Cultural District 2025 ภายใต้แนวคิด ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ (BKK by the Canal) กับการเลือกพื้นที่ริมคลองโอ่งอ่างมาเป็นต้นแบบของ ‘พิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิต’ (Living Museum) ที่จะสะท้อนความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของเมือง ใช้งานสร้างสรรค์เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย และพร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้เมืองอื่นๆ ในการพัฒนาพื้นที่ประวัติศาสตร์ของตนเองต่อไป ก่อนจะเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เราก็เป็นคนไทยกลุ่มแรกที่ได้รับโอกาสไปเดินชมจิตรกรรมฝาผนังบางส่วนบนพื้นที่ริมคลองโอ่งอ่างก่อนด้วย ซึ่งผลงานทั้งหมดออกแบบโดยศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอบอกเลยว่า นอกจากความสวยงามแล้ว ทุกงานยังบอกเล่าประวัติศาสตร์ย่านนี้ได้อย่างน่ารักและลึกซึ้ง เริ่มด้วยชิ้นงาน ‘โอ่งอ่างเมื่อวันวาน’ ที่อาคาร MSM วังประตูสามยอด ที่บอกเล่าความคึกคักของย่านนี้เมื่อสมัยอดีต จากนั้นก็เดินต่อไปยังตึก ส.อำไพยนต์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของงาน ‘ชั้นชาลา ความทรงจำที่ทับซ้อนตามกาลเวลาของรถรางในกรุงเทพ’ ที่ใช้ความเป็นตึกหัวมุมบอกเล่าเรื่องราวของภาพได้ดีมาก จากนั้นจึงไปชมสองชิ้นงานที่อยู่ใกล้ๆ […]

เพ่งพิศ Bangkok Art and Culture Centre หนึ่งวันในศูนย์ศิลปะสะท้อนภาพสังคม พื้นที่สาธารณะที่รอให้ทุกคนออกมาใช้งาน

ภาพบันไดวนสีขาวใหญ่โตตรงหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น 7 ถึงชั้น 9 คือภาพที่คุ้นเคยกันดีของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre) หรือที่เรารู้จักในนาม ‘BACC’ สถานที่ที่ใครๆ ต่างเคยมีความทรงจำร่วม ไม่ว่าจะมาเยือนในฐานะผู้ชมงานศิลปะ หรือแวะเวียนมาใช้พื้นที่เป็นจุดนัดพบเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่ง BACC อยู่มานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทวีความครึกครื้นมากขึ้นไปเท่านั้น สังเกตได้จากจำนวนผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาเยือนพื้นที่แห่งนี้ ทั้งที่มาชมงานศิลปะและเดินเข้าเดินออกร้านรวงต่างๆ ภายในบริเวณ สอดคล้องไปกับปริมาณของร้านค้าและพื้นที่สร้างสรรค์ที่เหมือนจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อ 4 – 5 ปีก่อนอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่การมา BACC ของคอลัมน์ One Day With… ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากครั้งอื่นๆ อย่างแน่นอน เพราะเราจะมาล้วงลึกเบื้องหลังการทำงานของหอศิลปกรุงเทพฯ ผ่านคนวงใน เพื่อทำความรู้จักตึกใหญ่โตสีขาวใจกลางเมืองแห่งนี้ในมุมอินไซต์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ผ่านซีรีส์ MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์ ไปพร้อมกัน เป็นที่รู้กันว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่นึกถึงเสมอเมื่อใครหลายคนมองหาพื้นที่สงบใจกลางเมือง ทำให้ทุกครั้งที่เรามา BACC มักจะมีเป้าหมายในใจอย่างการตรงดิ่งเข้าชมนิทรรศการบริเวณชั้น 7, 8 และ 9 ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแวะอัปเดตสินค้างานคราฟต์บริเวณชั้นร้านค้า ​​artHUB เป็นต้น […]

‘บ้านบรรทัดทอง’ จุดพักใจกลางเมือง พื้นที่พบปะสำหรับคนรักงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากการชุบชีวิตบ้านเก่าอายุ 60 ปี

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘บรรทัดทอง’ กลายเป็นย่านตัวแทนความสดใหม่และทันกระแสของยุคสมัยปัจจุบัน แต่ท่ามกลางร้านรวงสมัยใหม่ที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีบ้านเก่าอายุ 60 ปี ที่นำเสนอกลิ่นอายบรรยากาศอบอุ่นของอดีตในชุมชนบรรทัดทอง ผ่านคอมมูนิตี้ที่สร้างพื้นที่ให้เหล่าคนรักงานคราฟต์และงานศิลปะได้มารวมตัวกัน ‘บ้านบรรทัดทอง’ คือคอมมูนิตี้เปิดใหม่บริเวณซอยจุฬาฯ 18 ภายใต้คอนเซปต์ชุบชีวิตบ้านเก่าสามชั้น เป็นสถานที่รวบรวมงาน Art & Craft ของศิลปินคนไทย และความต้องการที่อยากทำให้บรรทัดทองมีพื้นที่นั่งชิล เป็นเหมือนจุดพักใจกลางเมืองครบจบในที่เดียว Community Space แห่งนี้ประกอบด้วยตลาดอาหารบริเวณชั้น 1 ที่รวบรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้มากมาย อีกทั้งยังมี ‘ไอศกรีมสโมสร’ ไอศกรีมโฮมเมดเจ้าดังประจำบรรทัดทองไป Pop up อยู่บริเวณบ้านบรรทัดทองอีกด้วย พอขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นไปยังการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินไทยหน้าใหม่ได้มาโชว์ฝีมือ นำเสนองานคราฟต์ของตัวเองผ่านสินค้าและเวิร์กช็อป รวมถึงประติมากรรมและภาพวาดต่างๆ ส่วนชั้น 3 มี Live DJ มาเปิดแผ่นให้ผู้มาเยือนได้เสพสุนทรีย์ไปกับลมช่วงเย็นบริเวณดาดฟ้าท่ามกลางบรรยากาศความคึกคักของย่านบรรทัดทอง ตอนนี้บ้านบรรทัดทองมีกิจกรรม BTT House Market ซึ่งเป็นการกลับมาจัดครั้งที่ 2 ภายใต้คอนเซปต์ Art & Craft Night Market […]

จินตนาการถึงผลงานศิลปะกลางแจ้งบนพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพฯ แรงบันดาลใจจากเหล่าสัตว์ในเมือง

ถ้ากรุงเทพฯ มีประติมากรรมขนาดยักษ์แบบไทยๆ ตั้งบนพื้นที่แลนด์มาร์กบ้าง จะเป็นยังไงกันนะ คิดว่าหลายคนน่าจะได้ไปชม KAWS:HOLIDAY THAILAND งานศิลปะในรูปแบบรูปปั้นขนาด 18 เมตรตรงบริเวณท้องสนามหลวงแล้ว  นอกจาก KAWS:HOLIDAY THAILAND จะเป็นการร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะร่วมสมัยและพื้นที่ที่มีความเป็นมาอันยาวนานทางประวัติศาสตร์ ในเลนส์ของการพัฒนาเมือง โปรเจกต์นี้ยังทำหน้าที่เป็น Public Art หรือศิลปะสาธารณะชั่วคราว ที่สร้างมุมมองใหม่ เติมสีสันให้เมือง กระตุ้นให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ศิลปะในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่วันที่ 25 พฤษภาคม อีเวนต์นี้ก็จะสิ้นสุดแล้ว คอลัมน์ Urban Sketch เลยอยากชวนคิดสนุกๆ ต่อยอดว่า ถ้าในอนาคตกรุงเทพฯ จะมี Public Art เป็นรูปปั้นยักษ์จัดแสดงอีก หน้าตาของชิ้นงานจะออกมาเป็นยังไง และควรตั้งตรงพื้นที่ไหนบ้าง เพื่อสะท้อนความเป็นไทยร่วมสมัยที่ใครๆ ก็รู้สึกร่วมได้ Mr.Pigeon Postmanหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก รูปปั้นแรก เราดีไซน์เป็นคุณลุงนกพิราบผู้ส่งจดหมาย ที่อยากให้เป็นนกที่ดูมีอายุหน่อย ล้อไปกับไปรษณีย์ไทยที่อยู่คู่ประเทศไทยมานาน มีเครื่องประดับเป็นกระเป๋าจากขอบขนมปังที่คนบิโยนให้กิน ขณะเดียวกัน นกพิราบยังเป็นสัตว์คู่เมืองใหญ่ แถมเอาตัวรอดเก่งสุดๆ เดินไปไหนก็เจอแทบทุกที่ ให้มาตั้งประจำการที่ลานหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก ก็ดูสอดคล้องกับคอนเซปต์ดี […]

KAWS:HOLIDAY แลนดิ้งที่ประเทศไทย กับงานศิลปะ COMPANION ขนาดยักษ์ เปิดให้ชมฟรีที่สนามหลวง

หลังจากเดินทางไปโชว์ตัวมาหลายประเทศ ก็ถึงเวลาประเทศไทยเปิดพื้นที่ต้อนรับโปรเจกต์งานศิลปะเคลื่อนที่ระดับโลกอย่าง KAWS:HOLIDAY THAILAND บนพื้นที่ท้องสนามหลวง เราจะได้พบกับคาแรกเตอร์ Companion ซึ่งเป็นผลงานภาพจำของ KAWS หรือ Brian Donnelly ศิลปินร่วมสมัยชื่อดัง กับเจ้าตารูปกากบาทความสูงกว่า 18 เมตร นั่งอยู่บนโลกพร้อมโอบอุ้มดวงจันทร์ และมี Companion ขนาดจิ๋วอยู่บนตัก สะท้อนให้เห็นถึงระเบียบแห่งจักรวาล การเชื่อมโยงสรรพสิ่ง และการส่งต่อภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ณ พื้นที่แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทางศิลปินมองว่าเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการพัฒนาเมือง  สำหรับการจัดแสดงศิลปะในครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของ AllRightsReserved (ARR) ครีเอทีฟสตูดิโอจากฮ่องกง ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ของ KAWS, Central Embassy และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่อยากชวนทุกคนไปพักผ่อนจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ​รวมถึงเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงการเป็นพื้นที่ที่ต้อนรับงานศิลปะ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุก คาเฟ่สำหรับเติมพลังกับเครื่องดื่มและขนมหวาน รวมไปถึงคอลเลกชันพิเศษที่คอลแลบกับแบรนด์ไทย โดยเป็นการนำคาแรกเตอร์มาใส่บนสินค้า ได้แก่ KAWS:HOLIDAY THAILAND Herbal Lozenges​ จากยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว และ KAWS:HOLIDAY […]

Sigmund Fraud’s Fake Bookshop นิทรรศการร้านหนังสือปลอม (?) เสียดสีโลกทุนนิยม ในบ้านเก่าที่เคยเป็นร้านขายน้ำตาลปี๊บ ย่านท่าเตียน

ตอนที่เห็นโปสเตอร์งานนี้ครั้งแรก เรายังไม่ค่อยแน่ใจว่าคืออะไร จะเป็นนิทรรศการศิลปะ? หรือร้านหนังสือจริงๆ? แต่ชื่อก็บอกอยู่นี่นาว่า เป็นร้านหนังสือปลอม ไม่ปล่อยให้สงสัยนาน เราเลือกใช้วันสุดท้ายของวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์เดินทางไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองที่สเปซจัดงานแถวท่าเตียน ก่อนจะพบว่างานนี้คือนิทรรศการของ Sigmund Fraud ศิลปินที่ทวิสต์ชื่อล้อเลียนกับ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาชื่อดังที่หลายๆ คนรู้จักเขาจากศาสตร์จิตวิเคราะห์ แม้จะใช้ชื่อคล้ายกัน แต่ Sigmund Fraud คนนี้เป็นนักจิตวิทยากำมะลอ ที่จะขอบำบัดตัวเองและสังคมแบบปั่นๆ ชวนหัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความตลกร้าย ขำขื่นจนต้องหัวเราะหึๆ กับการเปิดร้านหนังสือปลอมๆ ที่ขายหนังสือปลอมๆ กว่าร้อยเล่ม เพื่อบอกเล่าความแซดและโหดร้ายของโลกทุนนิยม ที่ทำให้ใจเราป่วยไข้ไปกับการแข่งขันในสังคมที่จะต้องโปรดักทีฟ ทำงานที่สองที่สาม มีเงินเก็บหลายล้าน ไปจนถึงการไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เวลาว่างก็ต้องห้ามว่าง ในบรรดาหนังสือปลอม มีหลายเล่มที่แปลงมาจากหนังสือที่มีอยู่จริง แต่พอเป็นคอลเลกชันของตาซิกมุนด์ตัวปลอมก็กลายเป็นหนังสือขายดีเวอร์ชันจ๋อยๆ ชีวิตบัดซบไปเสียอย่างนั้น ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดี ภายในงานก็มีควิซสั้นๆ ให้ทำเพื่อแนะนำหนังสือที่เหมาะกับเราด้วย (เราได้เล่ม How to not become an adult you hated โดย Greta Thunbear) […]

Unexpected Growth โปรเจกต์งานศิลปะ ซีน และกระดาษจากวัชพืชในเมือง จากการเดินสำรวจพื้นที่และเก็บข้อมูล

ปกติแล้วหอศิลปกรุงเทพฯ จะจัดนิทรรศการ โครงการบ่มเพาะและสร้างเครือข่ายศิลปินรุ่นใหม่ (Early Years Project : EYP) เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มาในแนวคิด ‘Be Your Own Island-ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน’ หลังจากที่ไปเดินดูมา งานที่จัดแสดงล้วนมีคอนเซปต์ที่สะท้อนสังคม และนำเสนอผลงานได้สวยงาม ตั้งแต่ประเด็นสิ่งแวดล้อม เพศ ข่าวสารข้อมูล ไปจนถึงเรื่องปมวัยเด็ก แต่หนึ่งงานที่เราในฐานะคนทำงานเมืองสะดุดตาสุดๆ คือ โปรเจกต์ Unexpected Growth ของ ‘อภิสรา ห่อไพศาล’  ตั้งแต่โครงสร้างอิฐที่เรียงราย ดูเป็นสิ่งที่ถ้าเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยของเมืองจะพบเห็นได้เป็นปกติ ก่อนจะสังเกตเห็นต้นหญ้าเล็กๆ แซมอยู่ และถ้าไปสังเกตแผ่นที่มีลวดลายคล้ายเชื้อราแบคทีเรียใกล้ๆ จะพบว่า จริงๆ แล้วมันคือใบหรือชิ้นส่วนของวัชพืช และได้รู้ในเวลาต่อมาว่าแผ่นๆ ที่เห็นคือกระดาษที่ทำจากวัชพืชในเมืองที่ศิลปินเก็บมาทดลองทำกระดาษกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกระดาษ มากไปกว่านั้น ตรงแท่นอิฐที่ก่อตัวสูงยังมีซีนหรือหนังสือทำมือของศิลปินแนบอยู่ พอหยิบมาเปิดอ่านเนื้อหาข้างในก็จะเห็นการนำเสนอภาพในขั้นตอนระหว่างทำงานโปรเจกต์นี้ รวมไปถึงการจัดเรียงข้อมูลเพื่อนำเสนอกระบวนการเก็บรวบรวมแพตเทิร์นของวัชพืชที่ขึ้นในเมือง และสังเคราะห์ข้อมูลออกมาเป็นอินโฟกราฟิก อ่านเข้าใจง่าย “โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากความพยายามทำความเข้าใจและตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งรอบตัวกับความรู้สึกภายในที่ต้องการหลีกหนีหรือก้าวผ่านสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทำให้เธอเริ่มต้นสำรวจเมืองที่อาศัยอยู่ เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกแห้งแล้งและแข็งกระด้าง “ระหว่างการสำรวจ ศิลปินได้พบเจอมุมมองของนักสิ่งแวดล้อมที่มีต่อเมือง ทำให้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อน เช่น พืชขนาดเล็กจนแทบมองไม่เห็นอย่างลิเวอร์เวิร์ต เสียงของสัตว์หลากชนิดที่สามารถจำแนกเสียงได้ไม่ซ้ำเมื่อยืนฟังใต้ร่มไม้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของต้นแม่และต้นลูกที่กระจายพันธุ์ใกล้ๆ […]

1 2 3 8

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.