เตรียมบอกลา Zombie Books ร้านหนังสือหนึ่งเดียวใน RCA สู่ทำเลใหม่แถวราชวัตร มี.ค. 66

เรายังจำได้ดีถึงช่วงแรกๆ ที่มีร้านหนังสืออิสระชื่อเท่ ‘Zombie Books’ กำเนิดเกิดขึ้นในย่าน RCA ที่เป็นแหล่งรวมออฟฟิศคนทำงานสร้างสรรค์และสถานบันเทิง เพราะมันไม่ใช่แค่ร้านหนังสืออิสระเท่านั้น แต่ยังมีโซนคล้ายๆ โคเวิร์กกิงสเปซให้คนไปอ่านหนังสือและทำงาน รวมถึงบาร์ลับที่อยู่ชั้น 3 Zombie Books เปิดให้บริการนักอ่านย่านผีเสื้อราตรีมานานเกือบสิบปี โดยมีช่วงบ้าคลั่งที่เปิดร้าน 24 ชั่วโมงก่อนปรับลดเวลาลง (แต่ก็ยังเปิดถึงดึกดื่นเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองอยู่ดี) ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ ‘โต้ง-ประวิทย์ พันธุ์สว่าง’ ผู้ก่อตั้งร้านก็ออกมาประกาศเป็นนัยๆ ว่าที่นี่อาจไปไม่รอด เพราะขาดทุนหนักทุกเดือน บวกกับสถานการณ์โรคระบาดที่กินเวลายาวนานกว่า 2 ปี จนในที่สุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Zombie Books ก็ออกมารายงานสถานการณ์ร้านหนังสือ พร้อมกับประกาศเตรียมตัวย้ายร้านในเร็ววันนี้ โต้งบอกว่าที่ผ่านมาเขาทำร้านหนังสือขาดทุนเดือนละเป็นแสนๆ มาแปดปี จนได้ธุรกิจร้านอาหาร ‘เห็นอกเห็นใจ โภชนา’ ที่เพิ่งมาเปิดช่วงหลังช่วยกอบกู้สร้างรายได้ให้เขา “ที่จริงเราตั้งใจจะปิดร้านนี้ แล้วไปทำร้านอาหารเต็มตัว แต่สุดท้ายใจเราไม่อยากเลิกทำร้านหนังสือ ตัดไม่ขาด ก็เลยยังทำต่อ เพียงแต่ครั้งนี้คงเอาร้านอาหารนำก่อน แล้วตัวตนของร้านหนังสืออาจเบาบางลงไป” เขาบอกกับเราอีกว่า Zombie Books สาขา RCA อาจเปิดให้บริการถึงแค่ต้นเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น ก่อนจะย้ายไปยังร้านอาหารที่ทำเลแถวนาคนิวาส ลาดพร้าว […]

จิบกาแฟ อ่านหนังสือเที่ยงวันยันเที่ยงคืน ‘dot.b’ ร้านหนังสือใหม่บนถนนนครใน จังหวัดสงขลา เปิดวันแรก 25 ม.ค. 66

หลังจากที่ ‘ร้านหนังสือเล็กๆ’ บนถนนยะหริ่ง ได้บอกลาจังหวัดสงขลาไปสู่เมืองสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เมืองสงขลาขาดร้านหนังสืออิสระไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในวันที่ 25 มกราคม 2566 สงขลาจะกลับมามีร้านหนังสืออิสระอีกครั้ง กับ ‘dot.b’ ร้านหนังสือแห่งใหม่บนถนนนครใน ย่านเมืองเก่าสงขลา เพราะชอบอ่านหนังสือและยังอยากเห็นเมืองที่ตนอยู่อาศัยมีร้านหนังสืออิสระ ‘ธีระพล วานิชชัง’ เจ้าของ ‘dot’ ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีหนังสือไม่น้อยให้ลูกค้าอ่านฆ่าเวลาในตึกเก่าที่หันหน้าเข้าสู่ถนนนครนอก จึงตัดสินใจต่อเติมอาคารให้กลายเป็นร้านหนังสืออิสระแห่งใหม่ที่หันหน้าเข้าหาถนนนครใน เชื่อมสองฝั่งถนนในเมืองเก่าสงขลาไว้ด้วยสองพื้นที่ในอาคารเดียวกัน นอกจากนี้ ธีระพลยังมีความตั้งใจที่จะนำหนังสือหลากหลายประเภทกลับมาสู่เมืองสงขลา รวมถึงอยากสร้างพื้นที่ให้ชาวเมืองได้มีสถานที่หลบภัยสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานท่ามกลางความสงบในบริเวณชั้นสองของร้าน ขณะที่อีกด้านมีบริการกาแฟและเครื่องดื่มจากร้านเดิมร่วมด้วย  ร้าน dot.b ตั้งอยู่ที่ 115 ถนนนครใน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา goo.gl/maps/t46TK5zHD9KpRAaV6 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ที่จะถึงนี้ และเปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00 – 24.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด เวลา 10.00 – 24.00 น.

16 ปีบนถนนพระสุเมรุ หนังสือภาพจากร้านหนังสือเดินทาง บันทึกสุดท้ายก่อนการย้ายครั้งใหม่

เนื่องจากอาคารที่ใช้เปิดร้านหนังสือมาหลายปีถูกเวนคืนเพื่อทำสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงถึงเวลาที่ต้องโยกย้ายอีกครั้งสำหรับสถานที่ในความทรงจำของใครหลายคนอย่าง ‘ร้านหนังสือเดินทาง – Passport Bookshop’ ซึ่งได้ปิดฉากความทรงจำของร้านหนังสือขนาดกะทัดรัด บรรยากาศอบอุ่น ที่ตั้งอยู่บนถนนพระสุเมรุมานานกว่า 16 ปีไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา “สิ่งหนึ่งที่น่าดีใจในการต้องย้ายคือการมีเพื่อน พี่ น้อง ที่รักร้านหนังสือมากมาย ทั้งที่เจอกันบ่อยและที่แทบไม่เจอกันเลย แวะเวียนมาถามไถ่และหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เท่าที่เงื่อนไขอำนวย โดยหนึ่งในเขาเหล่านั้นมีเจ้าของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง บ.ก.หนังสือคนหนึ่ง คนจัดอาร์ตเวิร์กคนหนึ่ง “วันหนึ่ง พวกเขามารวมกันที่ร้าน จากนั้นใครคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้น ‘พี่! พวกผมคิดกันแล้ว พวกผมจะช่วยกันทำหนังสือเล็กๆ สวยงามเล่มหนึ่ง ที่เป็นทั้งหนังสือบันทึกความทรงจำ ต่อไปเมื่อเล่าให้ใครฟังว่าก่อนจะเป็นสถานีรถไฟใต้ดินผ่านฟ้า เคยมีตึกเก่า และในตึกเก่านั้นเคยมีร้านหนังสือตั้งอยู่’” บางตอนจากโพสต์ที่เจ้าของร้าน ‘หนุ่ม-อำนาจ รัตนมณี’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘หนุ่ม หนังสือเดินทาง’ เขียนบันทึกไว้ในแฟนเพจของร้านก่อนปิดหน้าร้านไป จากบทสนทนานี้เอง นำไปสู่โปรเจกต์หนังสือภาพ 2 ภาษา (ภาษาไทยและอังกฤษ) ‘Don’t cry because it’s over. Smile because it happened.’ ที่ด้านในมีภาพถ่ายและข้อเขียนสั้นๆ […]

Flobookstore ร้านหนังสือเปิดใหม่ ที่ช้อปเฟอร์ฯ จิบกาแฟ ชมงานศิลปะ ได้ในแห่งเดียว ที่ซอยสุขุมวิท 36

ปักหมุดพิกัดร้านหนังสือแห่งใหม่สำหรับนักอ่านสายอาร์ต ที่ตั้งอยู่ใน FLOHOUSE โชว์รูมใหม่ของ ‘Flo’ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เปิดมานานกว่าแปดปีในซอยสุขุมวิท 36 โดยทางร้านได้ Soft Opening ไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เดิมที ‘Flobookstore’ เป็นเพจบันทึกการอ่านและรีวิวหนังสือ แต่ด้วยความฝันของ ‘นรุตม์ ปิติทรงสวัสดิ์’ นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Flo ผู้มีใจรักหนังสือและอยากมีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง เมื่อมีโอกาสและจังหวะที่พอดีจึงเปลี่ยนที่นำเสนอหนังสือจากบนเพจให้มาอยู่ในร้านใหม่แห่งนี้แทน โดยชั้นวางหนังสือในร้านก็ล้วนเป็นผลงานการออกแบบโดยทีมงาน Flo ทั้งสิ้น ร้าน Flobookstore จะเน้นหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ งานสถาปัตยกรรม ศิลปะ ดีไซน์ ไปจนถึงการออกแบบตัวอักษร โดยไม่ได้มีเพียงแค่หนังสือเท่านั้น ภายในร้านยังมีโปสเตอร์จากมิวเซียมและนิทรรศการในต่างประเทศวางขายอีกด้วย  นอกจากร้านหนังสือและโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังมีร้านกาแฟจาก Livid Coffee Roasters ที่เปิดในพื้นที่ของ FLOHOUSE อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่พบปะแห่งใหม่ใจกลางเมืองก็คงไม่ผิดนัก Flobookstore เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. ที่โครงการ FLOHOUSE สุขุมวิท 36 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ […]

‘Déjà Vu Recycle Store’ ร้านหนังสือและเสื้อผ้ามือสองในเซี่ยงไฮ้ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเลือกซื้อผักผลไม้

เคยสังเกตกันไหมว่าทำไมร้านขายของมือสองถึงมักมีบรรยากาศบางอย่างที่แค่มองจากภายนอกตัวร้านก็รับรู้ได้เลยในทันทีว่า ที่นี่ขายของมือสองชัวร์! เพราะอยากเปลี่ยนภาพจำของร้านประเภทนี้ให้แตกต่างออกไป ‘Offhand Practice’ สตูดิโอออกแบบสัญชาติจีน จึงออกแบบ ‘Déjà Vu Recycle Store’ ร้านขายหนังสือและเสื้อผ้ามือสองบนถนน Anfu เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ด้วยการดีไซน์หน้าร้านและการจัดวางหนังสือภายในร้านให้มีรูปแบบที่ไม่ซ้ำเดิม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ตั้งแต่อยู่นอกร้าน อาคารสามชั้นรูปร่างแปลกตาที่ผนังภายนอกร้านทำจากวัสดุรีไซเคิลอย่างกระเบื้องโมเสกสีครีมและแผ่นไม้สีน้ำตาล ดึงดูดให้คนที่ผ่านไปผ่านมาเกิดความสนใจในตัวสถาปัตยกรรม และอยากเดินลอดผ่านทางเดินเล็กๆ เข้าไปภายในตัวร้านที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีครีมเช่นเดียวกัน แต่น่ามองมากขึ้นด้วยการตัดกับสีเขียวของกระเบื้องโมเสกที่ใช้เป็นกรอบช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรูปแบบการตกแต่งภายในของเซี่ยงไฮ้ในปี 1970 ชั้นหนึ่งของร้าน Déjà Vu Recycle Store เป็นพื้นที่แกลเลอรีจัดแสดงประวัติศาสตร์ของแบรนด์และกระบวนการปรับปรุงร้านกับสินค้ามือสองภายในร้านให้กลับมามีสภาพสวยงามอีกครั้ง เพื่อสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าที่มาเยี่ยมชม ก่อนจะไปพบกับหนังสือมือสองในชั้นถัดไป เมื่อขึ้นไปยังชั้นสอง คุณจะพบกับบรรดาหนังสือมือสองสภาพเหมือนใหม่ ที่เรียงไว้อย่างสวยงามในลังไม้และลังพลาสติกทั่วทั้งชั้น เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกำลังเดินเลือกซื้อของสดอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนเดินขึ้นไปที่ชั้นสาม เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ถูกใจจากทั้งหมดกว่า 2,000 ชิ้น ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปพร้อมกับหนังสือในชั้นก่อนหน้า “พวกเราพยายามที่จะทำลายภาพลักษณ์ของร้านมือสองแบบเดิมๆ และลบล้างความเชื่อที่ว่า ร้านหนังสือจะต้องอัดแน่นไปด้วยชั้นหนังสือเต็มความสูงของร้าน” Offhand Practice บอกเล่าถึงแนวคิดในการทำร้านของตน แอบคิดเล่นๆ ว่า ถ้ามีร้านหนังสือมือสองลักษณะนี้ในไทยบ้างคงดีไม่น้อย นอกจากจะได้ลดค่าหนังสือต่อเดือนลงอีกหน่อย ยังได้พื้นที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ให้ไปหาแรงบันดาลใจอีกด้วย Sources […]

The Booksmith ร้านหนังสือต่างประเทศที่ทำธุรกิจบนความจริง และพร้อมปรับรับการเปลี่ยนแปลง

ในบรรดาธุรกิจที่พูดแล้วโรแมนติกที่สุด สุนทรีย์ที่สุด ช่างดูมีความหมายต่อชีวิตและสังคม จะไม่มี ‘ธุรกิจร้านหนังสือ’ คงไม่ได้ ทว่าเบื้องหลังภาพโรแมนติกเหล่านั้น หากมองด้วยเลนส์การทำธุรกิจที่ต้องค้าขาย เกิดการซื้อมา-ขายไป คงปฏิเสธไม่ได้ว่าร้านหนังสือก็คืออาชีพหนึ่งที่ดำรงภายใต้กฎที่ดิน แรงงาน และทุน เหมือนธุรกิจอื่นๆ The Booksmith คือร้านหนังสือต่างประเทศที่ก่อตั้งโดย ‘สิโรตม์ จิระประยูร’ ซึ่งกำลังย่างก้าวสู่ขวบปีสิบปีที่สองของธุรกิจในปีนี้ นั่นแปลว่าเขาทำร้านหนังสือมาแล้วกว่าสิบปี และเชื่อหรือไม่ว่าบริษัทเพิ่งมาขาดทุนก็เมื่อปี 2020 ที่เจอโควิด-19 นี่เอง อาจเพราะเคยมีประสบการณ์การทำงานที่บริษัทเอเซียบุ๊คส์มาอย่างยาวนาน บวกกับการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในแวดวงธุรกิจหนังสือและการอ่านอยู่เสมอ ทำให้สิโรตม์บริหาร The Booksmith มาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถขยายอาณาจักรการอ่านจาก The Booksmith ที่เชียงใหม่ไปสู่สาขาที่สอง สาม สี่ ได้แก่ ร้านจำหน่ายนิตยสารต่างประเทศ The Papersmith ที่กรุงเทพฯ ร้าน The Booksmith ที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินเชียงใหม่ ไปจนถึงการคอลแลบกับร้านหนังสือเชนสโตร์และซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจหยุดทำ เหลือแค่ 4 สาขาแรกที่กล่าวไปเท่านั้น โดยขอปิดทำการร้าน The Papersmith […]

คนต่างจังหวัดก็อ่านหนังสือ แต่ทำไมงานหนังสือถึงจัดไม่บ่อยเท่าในกรุงเทพฯ

สำหรับชาวนักอ่านตัวยง คงจำได้ว่าเมื่อก่อนนี้เราแทบต้องนับวันรองานหนังสือแห่งชาติที่ในหนึ่งปีจะวนกลับมาให้เราออกกำลังกายขาและแขนในการเดินเลือกซื้อหนังสือและแบกกลับบ้านกัน 2 ครั้งต่อปี นั่นคืองานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ (จัดเดือนมีนาคม-เมษายน) และงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ (จัดเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันชาวกรุงเทพฯ ไม่ต้องรอนานเหมือนเดิมแล้ว เพราะช่วงหลังนี้มีงานหนังสือให้เราไปเดินกันบ่อยขึ้นกว่าเดิมทั้งงานขนาดเล็กและขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็นงานจากสำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ หรือทีมผู้จัดงานหนังสือที่รวมตัวกันโดยเฉพาะเลยก็ตาม อย่างเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็มีงานหนังสือเกิดขึ้นถึง 5 งาน รวมถึงอีเวนต์อย่างงานหนังสือในสวน ที่แม้ไม่ได้ขายหนังสือเป็นหลัก แต่ก็เป็นอีเวนต์ที่เชิญชวนเหล่าคนรักการอ่านมาพบปะและทำกิจกรรมด้วยกัน กระทั่งเดือนสิงหาคมนี้ก็ยังมีงานหนังสือที่จัดอย่างต่อเนื่อง เช่น Bangkok Erotica Book Fest 2022 และงานหนังสือในสวน ครั้งที่ 2 เป็นต้น เมื่อมีงานหนังสือในกรุงเทพฯ เกิดบ่อยขึ้น ชาวต่างจังหวัดจำนวนไม่น้อยเลยเริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอยากให้จังหวัดอื่นๆ มีงานหนังสือบ่อยๆ เหมือนที่เมืองหลวงบ้าง เราจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมงานหนังสือถึงไม่แวะเวียนไปจัดที่จังหวัดอื่นๆ ให้บ่อยขึ้น หรือมันเป็นไปได้ไหมที่คนในพื้นที่จะลุกขึ้นมาจัดงานหนังสือในจังหวัดตัวเอง คิดหาคำตอบเองคงไม่ได้อะไร เราขอต่อสายถามความคิดเห็นเรื่องนี้จากเหล่าเจ้าของร้านหนังสือที่กระจายตัวเปิดร้านอยู่ตามต่างจังหวัดดีกว่า สาเหตุที่ต่างจังหวัด (แทบ) ไม่มีงานหนังสือ การจัดงานหนังสือแต่ละครั้งย่อมมีค่าใช้จ่ายหลายส่วนที่สำนักพิมพ์หรือร้านที่เข้าร่วมงานต้องลงทุนเป็นจำนวนไม่น้อย ไหนจะค่าเช่าบูท ค่าเดินทาง ค่าแรงพนักงาน และค่าใช้จ่ายจิปาถะอีก ทว่าทั้งหมดนี้จะยิ่งทวีราคามากขึ้น หากเป็นงานหนังสือที่จัดในต่างจังหวัด นี่จึงอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นงานหนังสือในจังหวัดอื่นๆ สักเท่าไหร่ กำลังซื้อส่วนใหญ่อยู่ในเมือง ‘ภาณุ […]

บอกลาภาคใต้ไปแดนเหนือ ‘ร้านหนังสือเล็กๆ’ เตรียมย้ายจากสงขลาไปเชียงใหม่ ต้นปี 66

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้เสนอข่าวการโยกย้ายร้านของ ‘ร้านหนังสือเดินทาง’ บนถนนพระสุเมรุ มาเดือนนี้ก็เป็นคราวการโยกย้ายของ ‘ร้านหนังสือเล็กๆ’ ที่เคยอยู่ทำเลเดียวกันเมื่อครั้งประจำการบนถนนพระอาทิตย์ (ตอนนั้นร้านหนังสือเดินทางเช่าที่ร้านหนังสือเล็กๆ ต่อ) เป็นเวลากว่าหกปีที่ ‘เอ๋-อริยา ไพฑูรย์’ พาร้านหนังสือเล็กๆ มาลงหลักปักฐานบนถนนยะหริ่ง จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งนับเป็นร้านหนังสืออิสระแห่งเดียวของเมืองใหญ่สองทะเลก็ว่าได้ ที่ผ่านมา เอ๋เช่าอาคารเก่าแล้วปรับปรุงฟังก์ชันให้เป็นร้านหนังสือและพื้นที่ทำกิจกรรมของเด็กๆ ตามตัวตนของเธอที่เคยทำงานเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์แพรวเยาวชน แต่ด้วยความไม่สะดวกที่ต้องเทียวไปเทียวมา บวกกับต้องทำงานอื่นๆ หารายได้ ทำให้เธอไม่สามารถเปิดร้านเป็นประจำสม่ำเสมอได้ทุกวัน เพราะมีแพลนจะย้ายไปเชียงใหม่มาตลอด บวกกับคิดว่าตนได้ทำร้านหนังสือที่นี่มานานพอจนถึงเวลาสมควรแล้ว เอ๋ก็ตัดสินใจย้ายร้านหนังสือเล็กๆ ไปแถวโรงเรียนสารภีพิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ “ถ้าย้ายไปที่นั่นมันจะเป็นบ้านเรากับเพื่อน คือเป็นบ้านกับร้านหนังสือในที่เดียวกันไปเลย ตื่นมาก็เปิดร้าน มีหนังสือรายล้อม บรรยากาศดี ในสวนมีต้นไม้ดอกไม้ แถมขายได้หรือไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องยอดขายเท่าตอนเช่าร้าน เพราะยังไงก็เป็นบ้านเราเอง “ส่วนแนวหนังสือก็คงเหมือนเดิม เป็นแนวที่เราชอบและถนัด แต่จะเพิ่มโซนหนังสือเด็กขึ้นมา มีสนามหญ้า และห้องที่เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมให้เด็กๆ” เอ๋เล่า ระหว่างนี้ร้านหนังสือเล็กๆ กำลังทยอยเก็บหนังสือ ทำให้ต้องปิดหน้าร้านอยู่บ่อยๆ ใครที่อยากแวะไปเยี่ยมเยือนอาจต้องติดต่อหาเอ๋ก่อน ส่วนการสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์ยังพอทำได้บ้าง ขณะเดียวกัน แม้สงขลาจะไม่มีร้านหนังสือเล็กๆ แล้ว แต่ด้วยความร่วมมือกับคนรักหนังสือ บวกกับแรงผลักดันสนับสนุนจากเอ๋ ก็ทำให้เมืองยังมีร้านหนังสือต่อไป […]

อีกครั้งแล้วสินะที่ฉันต้องโยกย้าย เตรียมบอกลา ‘ร้านหนังสือเดินทาง’ ย้ายร้านจากถนนพระสุเมรุ สิ้นปี 65

หากได้มีโอกาสต้องไปทำธุระหรือมีแพลนเดินเที่ยวเล่นแถวถนนพระสุเมรุ เรามักจะแวะเวียนไปร้านหนังสือที่หน้าร้านตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้น่ารัก จักรยานเก่าๆ หนึ่งคัน และชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยโปสต์การ์ด เพื่อเข้าไปเลือกหาหนังสือถูกใจสักเล่มก่อนนำกลับบ้าน หรือใช้เวลานั่งทอดหุ่ยอ่านหนังสือบนชั้น 2 ที่เป็นส่วนคาเฟ่ ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงร้านหนังสือเดินทาง (Passport Bookshop) ของ ‘หนุ่ม-อำนาจ รัตนมณี’ ที่ตั้งอยู่บนถนนสายพระสุเมรุมานานกว่า 16 ปี ฟังดูเป็นเวลาที่ยาวนาน และนักอ่านหลายคนคงมีโอกาสมาเยี่ยมเยียนที่นี่อยู่หลายครั้ง แต่ขณะเดียวกัน อาจมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าร้านหนังสือเดินทาง เคย ‘ย้าย’ ร้านมาแล้วครั้งหนึ่งจากถนนพระอาทิตย์ หลังจากเปิดจำหน่ายหนังสือเป็นเวลา 4 ปี นั่นแปลว่าหากรวมเวลาที่ร้านหนังสือแห่งนี้เปิดให้บริการก็นับได้ 20 ปีพอดิบพอดี แต่ใครจะไปรู้ว่าเวลาที่พอให้เด็กคนหนึ่งเติบโตเป็นหนุ่มสาวจำต้องสิ้นสุดลง เพราะร้านหนังสือเดินทางได้ประกาศว่าจำเป็นต้องย้ายร้านเป็นคราที่สองในสิ้นปีนี้ เนื่องจากอาคารที่ใช้เป็นตัวร้านถูกเวนคืนเพื่อทำสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน นั่นทำให้ทีมงานในร้านต้องเตรียมตัวเก็บข้าวของ เพื่อความพร้อมและสะดวกในการขนย้าย อย่างที่ทราบกันว่าจุดเด่นของร้านหนังสือแห่งนี้คือ การตกแต่งและบรรยากาศที่น่ารัก อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น แต่มากไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้ร้านคงอยู่ได้เรื่อยมาคือมิตรภาพของเจ้าของร้านหนังสือและนักอ่านทั้งขาประจำและขาจร จนหลายครั้งก่อให้เกิดความผูกพันขนาดที่มีคนยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่แห่งความทรงจำ บ้างก็ส่งของขวัญและหนังสือมาให้เจ้าของร้าน บ้างก็ขอใช้พื้นที่ร้านเป็นสถานที่ในการขอแต่งงานด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับรวมหนังสือหลากหลายประเภทที่อัดแน่นตามชั้นวาง และสิ่งละอันพันละน้อย เช่น โปสต์การ์ด สมุด กระเป๋า งานศิลปะ ฯลฯ ที่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สำคัญของร้าน ทำให้ใครที่หลงเข้าไปล้วนไม่ได้กลับออกมาแบบตัวเปล่า […]

คิโนะคูนิยะ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดตัวร้านใหม่ ใหญ่โตกว่าเดิม เติมกองดองได้ 26 พ.ค. นี้เป็นต้นไป

หลังจากที่ร้านหนังสือ Kinokuniya (คิโนะคูนิยะ) สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ได้เปิดให้บริการเฟสแรกที่เป็นโซนการ์ตูนอย่างฉูดฉาดไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (อ่านที่ https://tinyurl.com/2xzbgwop) คราวนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดเฟสที่เหลือ ซึ่งเป็น Main Store ของร้านสักที โดยทางคิโนะคูนิยะถึงกับบอกว่าเป็นสาขาเขาวงกตเลยทีเดียว หลังจากปิดร้านที่ชั้น 6 แล้วย้ายมาตั้งร้านชั่วคราวที่ชั้น 5 เพื่อรีโนเวตมานาน คิโนะคูนิยะสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ก็พร้อมเปิดให้บริการร้านใหม่แบบยิ่งใหญ่จัดเต็มอีกครั้งในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ นอกจากพื้นที่กว้างขวางโอ่โถง และการตกแต่งที่สวยงาม ร่วมสมัย มีหน้าต่างที่เปิดโล่งให้แสงธรรมชาติเข้ามา ไม่ทึบแบบร้านเดิมแล้ว ยังมีการเพิ่มโซนร้านกาแฟภายในร้านไว้ให้นักอ่านจิบเบาๆ สร้างบรรยากาศการอ่านหนังสือท่ามกลางกลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่นไปด้วย ทั้งนี้ หนังสือและสิ่งพิมพ์ที่จำหน่ายในสาขานี้มีครบ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น และอังกฤษ ยังไม่นับรวมเครื่องเขียนและโปรดักต์อื่นๆ อีกมากมายให้ได้จับจองเป็นเจ้าของ ส่วนใครที่เป็นแฟนร้านหนังสือแห่งนี้ตัวจริง เปิดร้านใหม่นี้ คิโนะคูนิยะได้เตรียมไอเทมขวัญใจนักอ่านเป็นถุงกระดาษลายใหม่ และของที่ระลึกมากมาย ซึ่งในวันเปิดร้านวันแรกนี้ ก็มีกิจกรรมมากมายให้ทุกคนได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นคุยกับนักเขียนขวัญใจนักอ่าน พบกับนักวาดภาพประกอบชื่อดัง เวิร์กช็อปสนุกๆ งานคอสเพลย์ เป็นต้น ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะโฉมใหม่ ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 โซนอิเซตันเดิม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา […]

ร้านหนังสือเปิดใหม่ที่มีดนตรีและศิลปะ Rhythm and Books Chapter III ของ ภาณุ มณีวัฒนกุล ในปราณบุรี

สมัยนี้ นอกจากร้านอาหารสวยๆ คาเฟ่ และแกลเลอรีที่กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนปักหมุดต้องไปเยือนเวลาไปท่องเที่ยวแล้ว ร้านหนังสืออิสระก็น่าจะนับรวมเข้าไปในสถานที่เหล่านี้ได้แล้วเช่นกัน เพราะเอกลักษณ์ บรรยากาศ และการตกแต่งร้านที่แตกต่างไปตามผู้เป็นเจ้าของ ล้วนทำให้ร้านหนังสืออิสระมีเสน่ห์จนใครๆ ก็อยากไปเยือน หลังจากเคยเปิดร้านหนังสืออิสระที่หัวหินมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนจะยุติกิจการ หยุดยาวมาหลายปี ภาณุ มณีวัฒนกุล นักเขียนผู้ทำร้านหนังสือก็กลับมาทำร้านหนังสือ Rhythm and Books อีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาได้เพิ่มคำว่า Chapter III ต่อท้ายชื่อ เพื่อสื่อถึงการเปิดร้านครั้งที่ 3 ด้วย เพราะยังหลงใหลในบรรยากาศของร้านหนังสือ บวกกับเห็นว่าแถวหัวหิน-ปราณบุรีไม่มีร้านหนังสือ ทำให้ภาณุเสาะหาทำเลที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ตั้งร้านหนังสือได้ จนสุดท้ายมาลงตัวที่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณถนนสายกลาง จากปากน้ำปราณไปเขากะโหลก “สมัยนี้ ใครๆ ก็รู้ว่าทำแค่ธุรกิจร้านหนังสือมันอยู่ยาก เราเลยหาสิ่งอื่นๆ มาเสริมด้วย” ภาณุบอกกับเรา เพราะเหตุนี้จึงทำให้ Rhythm and Books Chapter III ยังคงคอนเซปต์เดิมด้วยการจำหน่ายหนังสือภาษาไทย หนังสือภาษาอังกฤษมือสอง แผ่นเสียง ซีดีเพลง และมีโซนแกลเลอรีเล็กๆ ที่มีงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ […]

Kinokuniya เปิดร้านหนังสือการ์ตูน สุดฉูดฉาดอลังการที่ CentralwOrld

ในยุคที่การ์ตูนญี่ปุ่นกลับมาฮิตในกระแสหลักกันอีกครั้ง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนอ่านมังงะ แย่งชิงกันซื้อการ์ตูนในระดับที่ไม่ต่างจากการกดตั๋วบัตรคอนเสิร์ตศิลปินดัง หรือกระทั่งจับกลุ่มเป็นแฟนด้อมอานิเมะกันอย่างเหนียวแน่นไม่ต่างแฟนด้อมไอดอลเกาหลี จากปรากฏการณ์นี้ทำให้สำนักพิมพ์หนังสือการ์ตูนในไทยกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง พร้อมๆ กับร้านหนังสือการ์ตูนที่เริ่มมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาอุดหนุน ทำให้ Kinokuniya (คิโนะคูนิยะ) ร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาในไทย เปิดโซนการ์ตูนอย่างฉูดฉาดอลังการที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า CentralwOrld ไปเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ภายในร้านมีมังงะและอานิเมะลิขสิทธิ์แท้ให้คอการ์ตูนเลือกสรร โดยมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น ยกตัวอย่างหนังสือยอดฮิต เช่น Spy x Family, Demon Slayer, Slam Dunk, Jujutsu Kaisen, Attack on Titan, Blue Period, Sailor Moon, One Piece, โคนัน ยอดนักสืบ, คอลเลกชันของ Junji Ito, ผลงานของ Ghibli Studio ไปจนถึงผลงานของ DC Comics และ Marvel […]

1 2 3

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.