ถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านเก๋ๆ สักชิ้นคุณจะเริ่มหาจากที่ไหน?
เราเชื่อว่า Journey ในการหาของทุกคนคงไม่ต่างกันมากนัก เริ่มจากค้นหาในเว็บไซต์ของแต่งบ้าน ตามหาร้านขายของแต่งบ้านวินเทจใน Instagram ไปเดินตามหาที่จตุจักร โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์นำเข้า โกดังญี่ปุ่นมือสอง หรือร้านเฟอร์นิเจอร์วินเทจ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นต้องใช้เงินทั้งสิ้น
แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก โอกาสที่คุณจะได้เฟอร์นิเจอร์สวยๆ หรือของใช้คุณภาพดีไปใช้ฟรีๆ มีอยู่จริง ถ้าคุณรู้จักคำว่า ‘Stooping’
‘Stooping’ คือการอุปการะ (Adopt) สิ่งของที่คนแปลกหน้าวางทิ้งไว้ไปใช้ต่อ โดยของเหล่านี้มักจะวางไว้หน้าบ้าน บนทางเท้า ข้างถังขยะ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะติดป้ายบอกไว้เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมารู้ว่าสิ่งนี้สามารถหยิบไปใช้ต่อฟรีๆ ได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต และไม่ต้องบอกใคร ในบางรัฐจะทิ้งไว้ตรงจุดที่ทิ้งขยะ อยากได้ชิ้นไหนก็ไปช้อปปิงกันได้เลย ส่วนคนที่ไปตามหาของเหล่านี้ไปใช้จะเรียกว่า ‘Stooper’ ซึ่งต้องเป็นคนที่มีหูตาไว หาของเก่ง และเลือกของเป็น จึงจะได้ของดีๆ มาใช้ บางคนตาดีมากจนได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ติดมือกลับไป โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง ในอะพาร์ตเมนต์แทบจะไม่ต้องซื้อเลยสักชิ้น
วัฒนธรรมการวางเฟอร์นิเจอร์ หรือของเหลือใช้ที่ยังสภาพดีๆ ไว้บนทางเท้าเกิดขึ้นในนิวยอร์กมาหลายสิบปีแล้ว (มองเผินๆ เหมือนกำลังเตรียมขนของย้ายบ้าน เพราะของที่ถูกทิ้งอยู่ในสภาพดีมาก) แต่จริงๆ แล้วคือของเหลือทิ้งสภาพดีทั้งนั้น การ Stooping ของชาวนิวยอร์กสนุกขึ้นกว่าเดิม เมื่อคู่รักที่เป็น Stooper คู่หนึ่งเกิดไอเดียอยากชี้พิกัดของดีๆ เหล่านี้ให้คนไปตามเก็บด้วยกัน จึงสร้างแอ็กเคานต์อินสตาแกรมชื่อ @stoopingnyc ขึ้นมา เพื่อลงภาพไอเทมเด็ดเหล่านี้ที่มีอยู่ทั่วเมือง และเป็นคอมมูนิตี้ให้เหล่า Stooper ได้แบ่งปันพิกัดกัน
“One person’s trash is another person’s treasure!” นี่คือคำอธิบายที่อยู่ในหน้าบัญชีของ @stoopingnyc ประโยคแสนธรรมดาที่เราได้ยินกันจนฟังดูเชยไปแล้ว แต่มันคือเรื่องจริงที่พวกเขาค้นพบขณะทำโปรเจกต์นี้ด้วยกัน ในขณะที่เรากำลังหาที่ทิ้งตู้ใบหนึ่ง อาจจะมีบางคนต้องการตู้ใหม่ในสไตล์ของเราอยู่ก็เป็นได้ ซึ่ง Stooping NYC ทำให้เราเห็นว่าแทนที่เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะต้องถูกทิ้งให้ลงหลุมฝังกลบ ซึ่งในแต่ละปีมีปริมาณหลายสิบล้านตัน แต่เราสามารถต่อชีวิตให้เฟอร์นิเจอร์สภาพดีได้อยู่ในบ้านคนอื่นต่อไปได้อีกหลายปี
เหตุผลหนึ่งที่ชาวนิวยอร์กนิยมรียูสของใช้และเฟอร์ฯ กันเยอะ เป็นเพราะคนที่นี่ย้ายที่อยู่กันบ่อยมาก พอจะย้ายแต่ละทีของที่มีอยู่ก็ไม่เหมาะกับห้องใหม่ บางชิ้นก็เบื่อแล้ว บางชิ้นใหญ่ไป จะขนย้ายก็ลำบากซะเหลือเกิน การหาคนมารับไปดูแลต่อน่าจะง่ายกว่าการเอาไปขาย เพราะบางอย่างกว่าจะหาคนซื้อได้ก็ยากเหลือเกิน ไหนๆ ก็ต้องทิ้งแล้ว ก็ทิ้งให้คนเห็นเยอะๆ เลยละกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะวางไว้ริมถนนหน้าอะพาร์ตเมนต์นี่เอง ถ้าไม่มีใครมาเก็บไปเดี๋ยวรถขยะจะตามมาเก็บเอง
แต่ถ้าให้ทั้งคู่ไปตามพลิกแผ่นดินหาเฟอร์นิเจอร์ทั่วนิวยอร์กด้วยตัวเองก็คงจะไม่ไหว Stooping NYC จึงให้เจ้าของ หรือเหล่า Stoopers ด้วยกันส่งภาพมาที่อินสตาแกรม @stoopingnyc ของพวกเขา พร้อมบอกพิกัดให้ชัดเจน หลังจากนั้นถ้ามีคนต้องการชาว Stooper จะรีบตามไปเก็บเอง
ของที่ชาวเมืองนิวยอร์กทิ้งมีตั้งแต่ของชิ้นเล็กอย่างหนังสือ กระถางต้นไม้ ของเล่นเด็ก ไปจนถึงโซฟา โต๊ะ ตู้ เตียง กระจกบานใหญ่ ต้นไม้ ถังขยะ ตู้เย็น ตู้ปลา โคมไฟ เตาอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า โต๊ะเขียนแบบ จักรเย็บผ้า หุ่นลองเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งของแปลกๆ อย่างของที่แฟนเก่าเคยให้ สารพัดของที่ยังสภาพดี แต่หมดความหมายสำหรับคุณแล้วและยังใช้งานได้ สามารถวางไว้และแจ้งพิกัดให้ Stooping NYC ประกาศให้คนในเมืองมาช้อปต่อไปได้เลย ซึ่งของที่คนในเมืองนี้ทิ้งก็สะท้อนคาแรกเตอร์ของคนเมืองได้ดีมากๆ เพราะบางอย่างแปลกประหลาดมากจนไม่แน่ใจว่าตอนซื้อเขาคิดอะไรกันอยู่ หรือเอามาใช้ตกแต่งกันแบบไหน
ผู้ก่อตั้ง Stooping NYC บอกว่าพวกเขาไม่คิดว่าแอ็กเคานต์ที่ทำสนุกๆ จะกลายมาเป็นคอมมูนิตี้ที่รวมคนไว้ได้เยอะขนาดนี้ หลังจากเปิดแอ็กเคานต์ไปได้ 5 เดือนในปี 2019 มีคนเข้ามาติดตามกว่าแสนคน (ปัจจุบันกำลังจะ 2 แสนแล้ว) เขาลงภาพสิ่งของมาแล้วกว่า 10,000 ชิ้น และช่วยให้ชาวนิวยอร์กกู้ชีพเฟอร์นิเจอร์มาได้อีกหลายพันชิ้น บอกตามตรงว่าถึงเราจะไม่ได้อยู่นิวยอร์ก แต่แค่ได้ดูรูปเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สนุกๆ และเห็นคนเอาไปใช้ต่อได้จริงแค่นี้ก็สนุกกับการติดตามแล้ว
Stooping NYC ได้เปลี่ยนทัศนคติของคนเมืองที่มีต่อการ Reuse เฟอร์นิเจอร์และของใช้ให้สนุกขึ้น พวกเขาพยายามจะทำให้มันเหมือนเกมล่าสมบัติ ตอนนี้เทรนด์การ Stooping จึงเป็นที่นิยมมากๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะ 75% ของคนที่ติดตามแอ็กเคานต์นี้อายุ 18 – 35 ปี ถึงแม้ Stooping Culture จะมีมานานแล้ว แต่มันสนุกมากกว่าเดิมเมื่อคุณได้ของที่เจ๋งมากๆ แล้วเอามาอวดกันบนออนไลน์ แถมยังได้มาแบบฟรีๆ ด้วย ใครล่ะจะไม่ภูมิใจในความสามารถตัวเอง
ผู้ก่อตั้งเล่าว่าตั้งแต่ทำแอ็กเคานต์นี้มาทำให้พวกเขาตกใจกับจำนวนข้อความที่ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม ในวันธรรมดาจะมีคนส่งข้อความแจ้งพิกัดทางอินสตาแกรมเป็นหลายร้อยข้อความ ถ้าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันเก็บบ้านและทิ้งขยะ (โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือน) พวกเขาเคยได้รับข้อความสูงสุดเป็นพันข้อความต่อวัน ซึ่งของที่กำลังจะถูกทิ้งหรือทิ้งแล้วส่วนใหญ่เป็นของที่ยังดูดีอยู่ทั้งนั้น และพวกเขาโพสต์กันแทบไม่ไหวเลยทีเดียว
หลังจากทำไปสักพักพวกเขาเริ่มสนุกกับการทำโปรเจกต์นี้ และสังเกตเห็นว่าอะไรบ้างที่ดึงดูดใจเหล่า Stooper ชาวนิวยอร์กได้ดี ถ้าลงไปแล้วต้องมีคนรีบตามไปเก็บแน่ๆ เช่น ของที่มีราคาสูง ของที่มีสีสันสดใส หรือหน้าตาประหลาดๆ ไม่รู้จะไปหาซื้อได้ที่ไหน ของพวกนี้ยั่วน้ำลาย Stooper ได้ดีมาก ก่อนที่จะลงจึงมีการคัดเลือกและจัดธีมไว้ด้วยเพื่อให้เหล่า Stooper สนุกกับการล่าสมบัติมากขึ้น
พวกเขาบอกว่า Stooping NYC เป็นมากกว่าโปรเจกต์ที่ทำด้วยแพสชัน เพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในตัวพวกเขาเอง พวกเขาชอบความสนุกของการเป็น Stooper เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกๆ วันเขาจะทำ ‘Stoop Review’ เพื่อให้ผู้ติดตามเห็นว่าในแต่ละวันมีใครได้ไอเทมเจ๋งๆ อะไรไปบ้าง จนเกิดเป็น แฮชแท็ก #stoopingsuccess ที่มีเหล่า Stooper อวดของที่ได้มา ไม่ว่าจะเป็นโซฟาวินเทจ (ที่บางครั้งพวกเขาก็อยากได้เอง แต่ที่ไม่พอ) ตู้เย็น SMEG สีชมพู (ที่พวกเขาก็อยากได้เองเหมือนกัน แต่คงไปไม่ทัน ก็เลยปล่อยให้คนอื่นเอาไป) หรือเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์แปลกๆ อีกมากมายที่แม้พวกเขาจะเป็นเจ้าของแอ็กเคานต์ก็ยังอิจฉาปนยินดีที่ Stooper คนอื่นได้ไป แต่เมืองนี้มีของให้คุณเก็บใหม่ทุกวัน และแต่งห้องได้แบบไม่รู้จบ ถึงเสียดายชิ้นนี้ก็มีคนทิ้งชิ้นต่อไปให้รอเก็บแน่นอน
ทั้งคู่รู้สึกโชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้เข้าถึงชีวิตผู้คนจำนวนมาก และคนเหล่านี้ก็เปิดโอกาสให้พวกเขาได้นำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่เข้าไปในชีวิต ได้สร้างความทรงจำใหม่ผ่านของชิ้นเก่าแต่มีคุณค่าในสายตาคนอื่น คนอาจจะคิดว่าแอ็กเคานต์นี้ต้องมีแอดมินหลายคนแน่ๆ แต่จริงๆ พวกเขามีกันแค่ 2 คน นอกจากจะทำงานประจำ เลี้ยงลูก 1 คน พวกเขาแทบจะรับมือกับข้อความที่ส่งเข้ามาแต่ละวันไม่ไหว เพราะเฟอร์นิเจอร์ในเมืองนี้เยอะมากๆ แต่พวกเขาก็ยังอยากทำต่อไปในนามของ Stooping NYC โดยไม่เปิดเผยตัวตน
ในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 ทั้งคู่เป็นห่วงเรื่องการระบาดจึงหยุดโพสต์เพราะไม่อยากให้ทุกคนออกมาเสี่ยงกับโรคระบาดนอกบ้าน แต่ฤดูร้อนปี 2020 ทั้งคู่ได้กลับมาโพสต์ภาพอีกครั้งเพราะรู้ว่ามีคนติดตามรอคอยที่จะ ‘Stooping’ กันอยู่ โดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์ที่หลายคนตั้งให้เป็น ‘Stooping Day’ ออกตามล่าหาของทั่วเมืองเลยทีเดียว กลายเป็นกิจกรรมใหม่ในนิวยอร์กที่เกิดคอมมูนิตี้ใหม่ได้จริง ทั้งคู่ได้แชร์ทริกเอาไว้ว่า ให้ดูวันทิ้งขยะดีๆ โดยเฉพาะในเขต Brooklyn ควรไป Stooping กันในวันอาทิตย์ เพราะรถขยะจะมาเก็บในวันจันทร์ แต่ถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจ ให้ไปต่อที่ Upper West Side, Upper East Side, Soho และ Ridgewood ก่อนออกจากบ้านวางแผนให้ดี รอแถวๆ นั้นก่อน และเปิดแจ้งเตือนอินสตาแกรมไว้ให้ดี สักพักต้องมีคนเอาของดีๆ ออกมาวางแน่นอน
การเก็บของเหลือทิ้งของคนอื่นมารียูสใหม่ไม่ใช่เรื่องแปลก และเป็นเทรนด์ที่เราอิจฉาคนนิวยอร์กมากๆ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบเก็บขยะมารียูสเหมือนกัน ทุกครั้งที่ลงไปทิ้งขยะใต้หอพักตั้งแต่เรียนมหา’ลัย จะคอยมองหาของที่รียูสได้ตลอด โชคดีที่เรียนในมหา’ลัยที่สนับสนุนการแยกขยะมาก จึงได้ที่ตักขยะ ไม้กวาด ถังขยะ กะละมังพลาสติก สารพัดของใช้เด็กหอจากจุดทิ้งขยะทุกครั้งในช่วงเทศกาลย้ายหอ และยังคงติดนิสัยแบบนี้มาจนโต เพราะยังอยู่หอพักเหมือนเดิม และเพิ่งได้ลังไม้ใส่ไวน์ที่ใต้หอมาปลูกต้นไม้ที่ระเบียง
ในอนาคตก็หวังว่าจะมี Stooping Thailand บ้างเหมือนกัน ถ้าเมืองไทยรณรงค์เรื่องการแยกขยะ มีจุดทิ้งขยะที่เหมาะสม และมีคนสนุกกับการรียูสของใช้กันมากขึ้น จะช่วยให้ของใช้เหล่านี้มีอายุขัยต่อไปได้อีกหลายปี