ช่วงเวลานับถอยหลังสู่วันคริสต์มาสและวันปีใหม่แบบนี้ ภาพบรรยากาศฤดูหนาวในต่างประเทศก็เริ่มวนกลับมาให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง ภาพผู้คนสวมชุดกันหนาวท่ามกลางสภาพอากาศเย็นจัด และพื้นที่ของเมืองต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ชวนให้เราจินตนาการไปไกลว่า ถ้าได้สัมผัสอากาศหนาวพร้อมกับหิมะแบบนั้นบ้างจะเป็นอย่างไร
อากาศเย็นกำลังพัดผ่านมาให้ชาวไทยได้สัมผัสถึงฤดูหนาวในระยะสั้นกันพอดิบพอดี คอลัมน์ Urban Sketch ขอชวนทุกคนมาห่มผ้าหนาๆ หรือคว้าเสื้อกันหนาวมาใส่ แล้วจินตนาการไปพร้อมกันว่า ถ้าหากหิมะตกในประเทศไทยขึ้นมาจริงๆ จะมีเรื่องราวอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง และบรรยากาศจะแตกต่างจากการเป็นประเทศเมืองร้อนขนาดไหนกันนะ
เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว
สายเลือดนักกีฬาของคนไทยไม่เคยหายไปไหน หากประเทศของเราหนาวจนมีหิมะตก ก็อาจจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่จัดขึ้นในภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งหรือหิมะ เมื่อบ้านเราอากาศหนาว นักกีฬาของเราก็จะคุ้นชินกับสภาพอากาศ และมีพื้นที่ฝึกซ้อมกีฬาสำหรับการแข่งขันได้ เพราะขนาดการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งเรายังครองแชมป์โลกมาหลายสมัย แม้จะอยู่ในประเทศร้อนก็ตาม ถ้าประเทศหนาวจนมีหิมะจนได้เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว ไม่แน่ว่าก็อาจจะคว้าแชมป์มาหลายรายการก็ได้
งานวัดในรูปแบบ Winter Festival
ชาวไทยอย่างเราผูกพันกับงานรื่นเริงในรูปแบบต่างๆ แต่ถ้าพูดถึงงานที่ทุกคนเข้าถึงได้คงหนีไม่พ้นงานวัด ที่มักจัดขึ้นตามวันสำคัญทางศาสนาหรือโอกาสพิเศษ ซึ่งงานวัดที่เราต่างคุ้นเคยมักจะมาพร้อมกับความเหนียวเหนอะหนะจากสภาพอากาศที่ทั้งร้อนอบอ้าว รวมถึงยังต้องเบียดเสียดผู้คนในงานจำนวนมากอีกด้วย หากเปลี่ยนงานวัดที่คุ้นเคยให้กลายเป็น Winter Festival ในอากาศหนาวๆ เราก็จะใช้เวลากับงานวัดรูปแบบนี้ได้นานขึ้น สนุกกับเครื่องเล่นได้มากกว่าเดิม แถมพ่อค้าแม่ค้าในงานยังจะมีรายได้มากกว่าเดิมจากการใช้เวลาที่เพิ่มขึ้นด้วย
กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
ฤดูหนาวถือเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศ นักท่องเที่ยวจากประเทศร้อนที่อยากสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นก็มักจะรอช่วงนี้เพื่อไปเที่ยวและทำกิจกรรมที่ไม่เคยสัมผัสในประเทศตัวเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นค่อนข้างต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเมืองหนาวในประเทศอื่นๆ อย่างเกาหลีหรือญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นถ้าเราหนาวจนมีหิมะ ก็สามารถดึงมาเป็นจุดเด่นในการจูงใจชาวต่างชาติเข้ามาพักผ่อนและท่องเที่ยวในประเทศได้ด้วย
แฟชั่นฤดูหนาว
สิ่งที่ทุกคนรอคอยเมื่อมีลมหนาวพัดผ่านมาคือ การหยิบเสื้อผ้ากันหนาวที่ซุกซ่อนอยู่ในตู้ออกมาแต่งตัวกันอย่างสนุกสนาน ปกติแล้วอากาศหนาวมักจะอยู่กับเราเพียงไม่กี่วัน บางช่วงอาจจะเย็นแค่ครึ่งวันเท่านั้น แต่ถ้าประเทศไทยมีฤดูหนาวที่ยาวนาน เราคงจะได้เห็นชาวไทยแต่งตัวในธีมฤดูหนาวกันแบบสับๆ และจัดเต็ม จนอาจเปลี่ยนภาพประเทศไทยให้กลายเป็นเมืองแห่งแฟชั่นเลยก็ได้
ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน
หิมะตกมักทำให้การออกไปข้างนอกลำบากมากขึ้น เนื่องจากอุปสรรคในการเดินทางและสภาพอากาศที่เย็นเกินกว่าจะทนไหว เมื่อคนต้องอยู่บ้านมากขึ้นเพื่อทำให้ตัวอบอุ่น ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว ด้วยการซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนา ดื่มโกโก้ร้อนคนละแก้ว พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันหน้าเตาผิง
ส่งเสริมให้เด็กเล่นนอกบ้าน
หากพ่อแม่บ้านไหนประสบปัญหาลูกไม่ออกไปเล่นนอกบ้านเพราะเอาแต่อยู่กับหน้าจอ อาจใช้โอกาสนี้ชักชวนเด็กๆ ออกไปเล่นสนุกกับหิมะกันก็ได้ จะเป็นกิจกรรมเล็กๆ หน้าบ้านอย่างการปั้นมนุษย์หิมะ หรือออกไปเล่นกีฬาอย่างสกีที่จะมีโอกาสได้เล่นเพียงปีละครั้ง แต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้อยู่กับหิมะนานเกินไปเพราะอาจทำให้ป่วยได้เหมือนกัน
เพาะปลูกผักผลไม้เมืองหนาว
ข้อเสียเปรียบของผู้บริโภคในประเทศเมืองร้อนอย่างเราๆ ก็คือการเสียค่าใช้จ่ายไปกับผักผลไม้เมืองหนาวที่มีราคาแพง เพราะต้นทุนการขนส่งและนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ถ้าไทยมีสภาพอากาศหนาว เกษตรกรในพื้นที่ก็จะเพาะปลูกพืชผลเมืองหนาวได้เอง นอกจากจะไม่ต้องซื้อแพงหรือรอพรีออเดอร์แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลฤดูร้อนได้อีกด้วย
ถนอมอาหารให้อยู่ได้นาน
โดยปกติแล้ว หากเราลืมเอาวัตถุดิบหรืออาหารเข้าตู้เย็น ก็มีโอกาสเน่าเสียได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่อุณหภูมิต่ำจะช่วยยืดอายุวัตถุดิบต่างๆ ในการทำอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น เพราะฉะนั้นอากาศเย็นจัดจากหิมะตกก็จะเป็นตัวช่วยให้อาหารยังมีคุณภาพที่ดีแม้ลืมเอาเข้าตู้เย็น แต่ต้องใส่บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมั่นใจว่าจะไม่สัมผัสกับอากาศเย็นโดยตรง เพราะอาจทำให้ขึ้นราหรือก่อเชื้อแบคทีเรียได้
เดินทางด้วยลากเลื่อน
จำลองการเป็นซานตาคลอสด้วยนวัตกรรมอย่างลากเลื่อนพลังน้ำแทนการขับรถฝ่าหิมะในฤดูหนาว เพราะเราสามารถนำเอาหิมะที่มีใช้ไม่หมดตลอดฤดูหนาวให้กลายมาเป็นพลังงานที่พาเราเดินทางในระยะทางสั้นๆ ได้ นอกจากจะประหยัดค่าน้ำมันและประหยัดพลังงานแล้ว การใช้ลากเลื่อนพลังน้ำยังไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังไม่ต้องใช้แรงงานสัตว์ในการขับเคลื่อนลากเลื่อนอีกด้วย