เวลาคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่มักจะได้ยินคำสอนปนบ่นว่า ‘คนสมัยนี้อดทนน้อยลง’ ทั้งในเรื่องการงาน การเงิน หรือแม้กระทั่งความรัก ที่เราไม่อาจอดทนกับคนเคยรัก กล้ำกลืนฝืนทนให้อยู่คู่กันไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรดังคุณปู่คุณย่าสมัยก่อน
ด้วยปัญหามากมายหลากหลายของชีวิตหลังแต่งงาน ความไม่ลงรอยกันเรื่องการเงิน เรื่องที่ให้ความสำคัญ หรือเป้าหมายในชีวิต ทำให้คู่ที่เคยรักมักไม่หวานดังเก่า
สวนทางกับอัตราการสมรสที่น้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งคงมาจากหลากหลายปัจจัยเช่นเดียวกันที่ทำให้คนไม่อยากแต่งงาน ทั้งเรื่องรายได้ที่อยู่คนเดียวน่าจะสบายกว่า ค่านิยมที่สามารถอยู่ก่อนแต่งโดยไม่จำเป็นต้องเห็นการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป หรือแม้กระทั่งปัจจัยทั่วๆ ไปอย่างการหาแฟนได้ยากเพราะแทบไม่ได้ออกไปพบเจอใครที่ถูกใจเลยด้วยซ้ำ

สถิติการสมรสและหย่าร้างในประเทศไทย
ปี 2563 สมรส 271,352 หย่าร้าง 121,011
ปี 2564 สมรส 240,979 หย่าร้าง 110,942
ปี 2565 สมรส 305,487 หย่าร้าง 146,159
ปี 2566 สมรส 279,748 หย่าร้าง 147,337
ปี 2567 สมรส 263,087 หย่าร้าง 147,621
*ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปี 2567
ตัวเลขด้านบนชี้ชัดว่า ในแต่ละปีที่ผ่านไปคนแต่งงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คู่หย่าร้างกำลังวิ่งพุ่งขึ้นจนอาจแซงหน้าในไม่ช้า แต่นอกจากประเด็นการหย่าร้างที่คนเคยรักต้องแยกทางกันไป สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ คู่หย่าร้างจำนวนไม่น้อยแยกทางกันไปหลังมีลูกแล้ว ทำให้ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งกลายเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยปริยาย

เมืองที่เหมาะกับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
การหาเมืองที่เหมาะสมสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น งบประมาณ ไลฟ์สไตล์ ความต้องการด้านการศึกษาของลูก และการสนับสนุนทางสังคม
เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘การเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน’ โดยเฉพาะพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องแบ่งเวลาในการทำมาหากินกับการเลี้ยงลูกคนหนึ่งให้เติบโตตั้งแต่แรกเกิดไปจนโตพอที่เขาจะดูแลตัวเองได้
เมืองที่เหมาะกับพวกเขาจึงเริ่มต้นง่ายๆ จากค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล ทั้งค่าที่อยู่อาศัยที่ไม่แพงจนเกินไป มีตัวเลือกหลากหลายทั้งบ้านเช่าและบ้านที่จะซื้อในราคาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้และเหมาะสมกับการอยู่อาศัย รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งอาหาร การเดินทาง หรือสาธารณูปโภคต่างๆ ที่อยู่ในระดับที่จัดการได้
ร่วมกันกับเมืองที่มีสถานรับเลี้ยงเด็กราคาสมเหตุสมผล เพื่อให้พ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวไปทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงสวัสดิภาพของลูกน้อยในตอนกลางวัน
ขณะเดียวกัน การมีพื้นที่สาธารณะสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวก็เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งนอกเหนือจากสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ทั่วๆ ไปที่ทำให้เด็กได้ใช้เวลานอกบ้านแล้ว พื้นที่เพื่อพ่อหรือแม่ก็สำคัญเช่นกัน ทั้งกลุ่มหรือชุมชนที่พร้อมสนับสนุน ช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรืออาจเป็นคลับเล็กๆ ที่แม่หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวสามารถมาจัดกิจกรรม แชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้ โดยอาจจะมีเวิร์กช็อปการเลี้ยงดูลูกต่างๆ

นอกจากสถาบันครอบครัวอันเป็นสถาบันหลักและสถาบันแรกในการสั่งสอนให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาได้อย่างดีแล้ว ภาคการศึกษาก็เป็นอีกส่วนที่ต้องเตรียมความพร้อมให้เด็กคนหนึ่งได้รับความรู้ การเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งโรงเรียนที่ดี ค่าเทอมเข้าถึงได้ โดยอาจร่วมกับนโยบายโครงการเรียนฟรีต่างๆ ที่ทำให้เด็กทุกคนไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาง่ายๆ และไม่ทำให้พ่อแม่ต้องใช้เวลาในการสอนเนื้อหาต่างๆ ให้พวกเขามากนัก
เมื่อมีโรงเรียนคุณภาพดีและค่าเทอมเข้าถึงได้แล้ว การเดินทางไปโรงเรียนของเด็กทุกคนก็ควรต้องสะดวกสบายและปลอดภัย โดยอาจเป็นระบบรถโรงเรียนที่มีคุณภาพ หรือโรงเรียนใกล้บ้านในระยะที่เด็กสามารถเดินทางไปเองได้
แต่ถ้าพูดถึงการเดินทางไปโรงเรียนของเด็กไทย ทั้งจากวิจัยในอดีต กลุ่มพ่อแม่ (เช่น กลุ่มห้องนั่งเล่นพ่อแม่) ในเฟซบุ๊กจะพบว่า ส่วนใหญ่เด็กไทยเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก และต้องเป็นพ่อ แม่ หรือญาติสักคนเดินทางไปส่ง หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องนั่งรถตู้ไปโรงเรียน ไม่สามารถเดินทางไปด้วยการเดินเท้าเหมือนประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นหรือนิวซีแลนด์
และถ้าพูดถึงประเด็นนี้ก็ต้องแยกออกเป็นสองประเด็นหลักคือ บางชุมชนในประเทศไทย แม้กระทั่งในกรุงเทพมหานคร ไม่มีโรงเรียนใกล้บ้านในระยะที่เด็กสามารถเดินเท้าไปเรียนด้วยตนเอง หรือในอีกแง่หนึ่งคือ ความนิยมของโรงเรียนใกล้บ้าน เช่น โรงเรียนรัฐบาลหรือโรงเรียนวัดบางแห่ง กลับไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ของผู้ปกครอง
นอกจากนี้ยังต้องพูดถึงความปลอดภัยที่พ่อแม่จะไว้วางใจให้บุตรหลานเดินเท้า ทั้งความปลอดภัยของเมือง ทางเท้า ทางม้าลาย หรืออุปสรรคต่างๆ ที่เอื้อให้เกิดอุบัติเหตุต่อเด็กได้ง่าย
การมีโรงเรียนคุณภาพดีใกล้บ้านที่เหมาะกับการส่งลูกไปเรียนด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ควบคู่ไปกับเส้นทางเดินในเมืองหรือพื้นที่เขตชุมชนที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด
องค์ประกอบอื่นๆ ที่สนับสนุนให้เด็กเติบโตได้ดีในชุมชน
ไม่เพียงแต่ปัจจัยเรื่องพื้นที่ในเมืองที่สำคัญ แต่เมืองนั้นๆ ต้องรองรับผู้อยู่อาศัยให้หางานที่มั่นคงและมีรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว โดยต้องเป็นเมืองที่มีโอกาสในการหางาน รวมถึงมีนโยบายสนับสนุนพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกลำพังสามารถลาหยุดเมื่อลูกป่วย หรือได้รับเงินสนับสนุนมาช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับปัจจัยทั่วๆ ไปอย่างขนส่งสาธารณะในเมืองที่เดินทางได้สะดวกสบาย เข้าถึงง่าย ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว มีโรงพยาบาลและคลินิกที่ได้มาตรฐานในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงเป็นเมืองที่มีความปลอดภัย อัตราอาชญากรรมต่ำ เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ ปล่อยลูกของพวกเขาเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้

ตัวอย่างเมืองที่เหมาะกับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
เมื่อลองพูดถึงเมืองจริงๆ ไม่ใช่เมืองในจินตนาการที่วาดฝันเพื่อให้เป็นเมืองที่ดีสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาก็มีรายงานเกี่ยวกับเมืองที่ดีต่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
ในการจัดอันดับของ LawnStarter เมื่อปี 2565 พบว่า เมืองอันดับ 1 ที่ได้ตำแหน่งเมืองที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวคือ Roseville รัฐ California ด้วยภาคเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีรายได้เฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวถึง 117,354 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 3,800,000 บาท (จากอัตราแลกเปลี่ยนเดือนกรกฎาคม 2568) ซึ่งสูงกว่ารายได้เฉลี่ยของครัวเรือนทั้งประเทศที่ประมาณ 79,466 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,570,000 บาทต่อปี
นอกจากนั้น ในเมืองนี้ยังมีโรงเรียนรัฐบาลที่ได้มาตรฐาน มีความมั่นคงทางอาหาร และอัตราการโจรกรรมที่ต่ำมาก รวมถึงมีพื้นที่ให้เกิดการเรียนรู้สร้างสรรค์มากมาย ทั้งสวนสาธารณะและพื้นที่ทำกิจกรรม เช่น Maidu Regional Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทั้งบริเวณให้เล่นกีฬา เส้นทางเดินเทรล สนามเด็กเล่น ห้องสมุด และสวนดอกกุหลาบ หรือ Royer Park ที่อยู่ในย่านชุมชนที่มีทั้งพื้นที่จัดกิจกรรม เส้นทางเทรล และศูนย์ศิลปะสำหรับเด็ก
เห็นแบบนี้แล้วคงต้องบอกว่า เลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้คนทั้ง ‘เมือง’ เสียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียวเพียงลำพัง เพราะแม้สถานะสมรสจะจบลง แต่ยังมีอีกหนึ่งหรือหลากหลายชีวิตที่ต้องไปต่อ ดังนั้นเมืองที่เอื้อให้พวกเขาเติบโตได้ ควบคู่ไปกับสุขภาพทั้งกายและใจที่ดีของพ่อหรือแม่จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ประเทศไทยในฐานะเมืองที่คนหย่าร้างต่อเนื่องแบบนี้ควรพิจารณา
Sources :
Data USA | bit.ly/44BvNxr
LawnStarter | bit.ly/4lK5bS3
Thairath | bit.ly/40aZ00V