ถ้าวันหนึ่งคุณต้องกลายเป็น ‘ผู้ลี้ภัย’ คุณจะรู้สึกอย่างไร
ปัจจุบันทั่วโลกมีวิกฤตที่สื่อมวลชนให้ความสำคัญและเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างมาก เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามซีเรีย แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในทวีปแอฟริกายังมีหลายประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตมากมาย เช่น เอธิโอเปีย ซูดาน ซูดานใต้ โมซัมบิก สาธารณรัฐแอฟริกากลาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ฯลฯ รวมไปถึงประเทศที่เราอาจไม่คุ้นหู เช่น ชาด เอริเทรีย บูร์กินาฟาโซ แองโกลา มาลาวี ฯลฯ
รายชื่อเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหล่าประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็กำลังถูกลืมเลือน เสมือนว่าถูกทำให้เลือนหายไปจากแผนที่โลก เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะวิกฤตในประเทศแถบแอฟริกาเกิดขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่องและยาวนาน แต่แทบไม่ได้รับการมองเห็นและการสนับสนุนช่วยเหลือจากสังคม ทำให้หลายชีวิตต้องดิ้นรนเอาตัวรอด เพื่อให้ยังมีชีวิตก้าวข้ามวันพรุ่งนี้ไปได้
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ซึ่งตรงกับวันมนุษยธรรมโลก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ประเทศไทย ได้จัดงาน ‘Silent Empathy Emergency Fund มื้อฉุกเฉินเพื่อผู้ลี้ภัย…ที่ถูกลืม’ ที่ Na Café at Bangkok 1899 เพื่อสร้างความตระหนักรู้และระดมทุนช่วยเหลือสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วโลก
ภายในงาน ทาง UNHCR ได้เชิญผู้ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อสังคมทานข้าวกลางวันฝีมือผู้ลี้ภัย พร้อมกับพูดคุยและรับฟังประสบการณ์จริงของ ‘เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์’ และ ‘สิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล’ ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง และเคยทำงานในพื้นที่ร่วมกับ UNHCR
อาหารแต่ละเมนูที่เสิร์ฟในงานมาพร้อมคอนเซปต์และข้อความที่อยากสื่อสารให้ผู้คนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ผู้ลี้ภัยต้องเผชิญมากขึ้น ได้แก่
Lotus Seed : เมล็ดบัวซึ่งเป็นอาหารว่างที่หากินได้จากพื้นที่น้ำท่วมหนักติดต่อกันหลายปีในซูดานใต้ เป็นอาหารชนิดเดียวที่ผู้ลี้ภัยกินเพื่อประคองตัวให้รอดมาถึงค่ายผู้ลี้ภัย
Imagine : เมนูเครื่องดื่มที่แขกทุกคนได้รับจะไม่เหมือนกันเลย จุดประสงค์คือต้องการเปิดโอกาสให้เราได้จินตนาการว่า ถ้าคุณต้องเดินทางลี้ภัย คุณอยากดื่มอะไรระหว่างทาง
Refugee Welcome Drink : น้ำดื่มแบบผู้ลี้ภัยจากแหล่งน้ำธรรมชาติแท้ๆ ท่ามกลางปัญหาความแห้งแล้งและสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน
Diperence : แป้ง Injera ที่มีรสเปรี้ยวจากการหมัก เสิร์ฟคู่กับ Lentil Wat แกงถั่วสัญชาติเอธิโอเปียที่มีหลากหลายรสให้ลองดิป ซึ่งต่างจากผู้ลี้ภัยที่อาหารประจำชาติจานนี้เหลือเพียงแค่แกงถั่วชนิดเดียวไว้กินเป็นอาหารกลางวันเท่านั้น
The Other Side Dish : พาสต้าโซมาเลียที่แบ่งครึ่งสองรสชาติในจานเดียว ให้เลือกกินระหว่างเส้นพาสต้าเปล่าคู่กับกล้วยแบบผู้ลี้ภัยในค่าย หรือจะเลือกกินซอสไก่ที่ชาวโซมาเลียแทบไม่มีทางได้กินเลย
Ethiopian Coffee : กาแฟยามบ่ายของชาวเอธิโอเปีย ของขึ้นชื่อในประเทศที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสงคราม ความยากจน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดภัยแล้ง ฝนไม่ตกมานานกว่า 6 ปี กลับเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกแทบไม่เคยรับรู้
Human Rice : ขนมปังจากข้าวบาร์เลย์ของชาวเอธิโอเปียและเอริเทรีย ของว่างส่งท้ายจากค่ายผู้ลี้ภัยในวันมนุษยธรรมโลก
จากกิจกรรมนี้ทำให้เราทราบว่า โดยเฉลี่ย UNHCR ทำงานตอบสนองต่อวิกฤตใหม่ทุก 8 – 10 วัน เพื่อช่วยชีวิต มอบความคุ้มครอง ให้ความช่วยเหลือ ไปจนถึงสนับสนุนการหาทางออกที่ยั่งยืนให้กับผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่น และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ
ปัจจุบัน UNHCR ประเทศไทย เปิดตัว ‘Empathy Emergency Fund’ หรือ ‘กองทุนภาวะฉุกเฉิน’ เพื่อระดมทุนสนับสนุนการทำงานและให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกอย่างครอบคลุมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้ UNHCR สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเข้าถึงผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวที่สุด
ร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในภาวะฉุกเฉินได้ที่ unhcr.or.th/donate/silent-emergency
Photo Credits :
UNHCR/Potchara Soonthornsaratoon
UNHCR/Varunyu Sahasakmontri
Writer
