‘ซาอุดีอาระเบีย’ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จนกระทั่งเผชิญปัญหารุมเร้ารอบด้าน ทั้งการเมืองระหว่างประเทศและสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากการปิดเมืองในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงตามไปด้วย
เมื่อธุรกิจน้ำมันไม่สามารถสร้างรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกต่อไป ซาอุดีอาระเบีย ที่นำโดย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล-ซาอูด (Mohammed bin Salman Al-Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้ประกาศนโยบายใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Vision 2030’ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ปัญหาการว่างงาน พัฒนาบริการสาธารณะ และสร้างความหลากหลายของแหล่งรายได้ของรัฐบาล นอกเหนือจากการค้าน้ำมันเพียงอย่างเดียว
เพื่อพัฒนาซาอุดีอาระเบียให้ก้าวไปสู่ยุคใหม่ที่ล้ำสมัย เมื่อเดือนมกราคม เจ้าชายโมฮัมเหม็ด จึงเปิดตัวแผนสร้างเมืองแห่งอนาคตในพื้นที่ NEOM หรือโซนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ติดกับอียิปต์และจอร์แดน ชื่อว่า ‘The Line’ ซึ่งมาในคอนเซปต์ “Live where people come first” หมายถึงการคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยมาเป็นอันดับแรก
ดังนั้น เมืองที่จะสร้างขึ้นจึงต้องปลอดภัย ไม่มีถนน ไร้รถยนต์ และประชาชนเข้าถึงบริการและสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น ห้องสมุด ร้านกาแฟ ร้านค้า ออฟฟิศ โรงเรียน ร้านขายยา รวมถึงพื้นที่สีเขียว ด้วยการเดินเพียง 5 นาที
The Line คือเมืองที่มีลักษณะเป็นพื้นที่เชิงเส้น มีความยาวต่อกันกว่า 170 กม. ประกอบไปด้วย 4 เมืองที่เชื่อมต่อกันหมด เริ่มตั้งแต่ชายฝั่งทะเลแดงไปจนถึงเขตทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียที่สำคัญ เมืองแห่งนี้รองรับผู้อยู่อาศัยได้นับล้านคน
ความโดดเด่นของ The Line อีกอย่างหนึ่งคือการเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งล้ำสมัย ทั้งรถไฟใต้ดินและรถไฟขนส่งสินค้าจะถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเวลาเดินทาง ซึ่งการเดินทางทั้งสองรูปแบบนี้จะอยู่ใต้ดิน และพื้นที่ด้านบนมีไว้สำหรับคนเดินเท้าเท่านั้น
นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยังวางแผนที่ให้ The Line ก้าวขึ้นเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของโลก ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงตึกรามบ้านช่องและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ จะต้องไม่สร้างมลภาวะหรือปล่อยคาร์บอนฯ ทั้งยังประกาศตัวว่าจะเป็นเมืองที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
โครงการนี้มีกำหนดก่อสร้างในไตรมาสแรกของปี 2021 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งถ้า The Line ประสบความสำเร็จ คาดว่าพื้นที่แห่งนี้จะสร้างงานเพิ่มขึ้นถึง 400,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้แก่ซาอุดีอาระเบียสูงถึง 48,000 ล้านดอลลาร์ฯ เลยทีเดียว
Sources :
Dezeen | https://bit.ly/3bedtPf
NEOM | https://bit.ly/3qwqees
Wikipedia | https://bit.ly/3jTfa8W
Wikipedia | https://bit.ly/3qouRY2