ปันปัน แดร็กไทยคนแรกใน RuPaul’s Drag Race - Urban Creature

ปันปัน นาคประเสริฐ สักคำว่า Strive ไว้บนอกข้างซ้าย        

ความหมายในพจนานุกรม Strive แปลว่า ‘พยายามอย่างหนักเพื่อสร้างสรรค์บางสิ่งให้เกิดขึ้น เป็นความพยายามที่ยาวนาน หรือความพยายามต่อสู้อย่างยากลำบาก’

พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า ปันปันสักคำนี้ไว้เหนืออกซ้ายทำไม แต่ตลอดชั่วโมงแสนสั้นที่มีโอกาสได้นั่งคุยกัน เรื่องราวจากปากเขาทำให้คำว่า Strive ผุดขึ้นมาในใจเราหลายครั้ง เช่นเดียวกับคำว่า Brave (กล้าหาญ) และ Unapologetic (ไม่อับอายในสิ่งที่ทำ)

Pangina Heals แต่งหน้าแดร็กควีน

ก่อนเป็น Pangina Heals แดร็กควีนที่ประสบความสำเร็จเบอร์ต้นๆ ของไทยในวันนี้ ปันปันต่อสู้กับความยากลำบากมาหลายครั้ง ในวัยเด็ก ปันปันนิยามตัวเองว่า เป็นเด็กที่ ‘อ้วนและสาว’ โดนบุลลี่ที่โรงเรียนทุกวัน ครอบครัวไม่ยอมรับ ประสบการณ์เลวร้ายทำให้ปันปันปฏิเสธความเป็นตัวเอง ไม่กล้ากระทั่งจะมีความสุข จนป่วยเป็นโรคการกินผิดปกติ กินเข้าไปก็สำรอกทุกครั้ง นั่นคือจุดเปลี่ยนให้เขาหันกลับมาฟังเสียงข้างในตัวเอง

ช่วงวัยรุ่น เขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์ อาจเป็นโชคดีที่ครอบครัวรับได้ หลังจากนั้นชีวิตเสมือนได้หายใจอย่างเต็มปอดเป็นครั้งแรก ปันปันบินไปเรียนต่อปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกา ที่นั่นทำให้เขารู้จัก RuPaul แดร็กควีนในตำนานและ RuPaul’s Drag Race รายการแข่งขันแดร็กควีนที่ดังที่สุดในโลก จุดประกายให้ลองแต่งแดร็กเล่นๆ แต่ท้ายที่สุด ทำให้เขามั่นใจว่า อยากแต่งไปเรื่อยๆ

รู้ตัวอีกที ปันปันก็ใช้ชีวิตอยู่กับ Pangina Heals มา 11 ปี เธอเป็นทั้งเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ทัวร์ในหลายประเทศทั่วโลก เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของ House of Heals บาร์ที่เปรียบเสมือนบ้านของเธอ เป็นกระบอกเสียงให้เยาวรุ่นชาว LGBTQ+ และเป็น Co-Host ของรายการ Drag Race Thailand แฟรนไชส์ของ RuPaul’s Drag Race ที่สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแดร็กในเมืองไทยให้คนหมู่มาก

 ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา RuPaul เจ้าของรายการออริจินัลได้ประกาศฉาย RuPaul’s Drag Race UK vs The World โดยเชิญควีนจากหลายประเทศในแฟรนไชส์ Drag Race มาแข่งขันกันอีกครั้ง ทั้งอังกฤษ อเมริกา ฮอลแลนด์ แคนาดา และประเทศไทย

เดาออกใช่ไหมว่าใครคือตัวแทนจากบ้านเรา

Pangina Heals แดร็กควีน

เรานัดเจอปันปันที่ House of Heals บนชั้น 33 ของโรงแรม The Renaissance ก่อนเจอกันเราคาดหวังว่าจะได้เห็นปันปันในลุคบอยที่เห็นบ่อยๆ ในหน้าสื่อ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าร้าน Pangina Heals ก็นั่งรออยู่ เธอส่งยิ้มกว้าง หน้าผมจัดเต็ม มาพร้อมกับเอเนอร์จีเกินร้อยที่หลายคนคุ้นเคย 

ในชั่วโมงแสนสั้น เราคุยกันเรื่องการแข่งขัน ชีวิตภายใต้การแต่งแดร็ก และแดร็กที่มีความหมายต่อลมหายใจ 

ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือบนเวทีการแข่งขัน บางทีสิ่งที่สำคัญมากกว่าชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ อาจเป็นความหมายของคำว่า Strive ที่เป็นมากกว่ารอยสักบนหน้าอก แต่ปรากฏเด่นชัดในถ้อยคำของ Pangina Heals 

ตั้งแต่เปิดตัวว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันใน RuPaul’s Drag Race UK vs The World ชีวิตคุณเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ยุ่งมาก แฮปปี้มากๆ (เน้นเสียง) ดีใจที่คนต่างชาติสนใจ แฟนคลับเมืองไทยก็เชียร์สุดฤทธิ์ เหมือนกับเชียร์นางงามเลยค่ะ เอาจริงๆ RuPaul’s Drag Race มันก็อารมณ์ MU (Miss Universe) สำหรับกะเทย พอเราได้เป็นคนไทยคนแรกในรายการก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ และรู้สึกว่า เราต้องไปเป็นตัวแทนที่ดี ต้องเอาเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ไทยไป เพอร์ฟอร์แมนซ์เราต้องสุด อยากจะไปทำให้ประเทศภูมิใจค่ะ

ปันปัน แดร็กควีน คนไทย

การนำความเป็นไทยไปโชว์ในรายการสำคัญกับคุณยังไง 

สำคัญมากกก (เน้นเสียง) เพราะเราภูมิใจที่เป็นคนไทยไง โลกยังไม่เคยเห็นแดร็กควีนจากประเทศไทยไปแข่ง Drag Race เลย เราเหมือนกับเป็นทูตการท่องเที่ยวเบาๆ 

ในเอพิโสดแรก ชุดตอนเดินเข้าบ้าน เราก็แต่งเป็นแม่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ในวันที่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส เพราะปี 1988 ที่แม่ปุ๋ยชนะเป็นปีที่ปันเกิดพอดี เราอยากประกาศว่า วันนี้เรามาเพื่อมงที่สาม ในรอบรันเวย์ ชุดแรกของปันก็จะใส่ชฎา มีสไบไทยที่ปักอักษร ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก เพื่อสื่อว่าเราภูมิใจในภาษา เครื่องแต่งกาย และวัฒนธรรมไทย ให้เห็นว่าคนไทยมาเวทีนี้แล้วนะคะ 

คนไทย RuPaul’s Drag Race UK vs The World

วินาทีที่รายการติดต่อให้ไปแข่ง ตอนนั้นคุณคิดอะไรอยู่

ตอนนั้นปันอยู่ที่ปากช่อง แล้วอยู่ๆ ก็มีทีมงานรายการโทรมาถามว่า อยากไปแข่งไหม ปันร้องไห้เลย ร้องแบบปล่อยสุด เพราะเราฝันมานานแล้วว่าอยากจะไปแข่ง Drag Race อยากเป็น RuGirls (คำเรียกผู้เข้าแข่งขันในรายการ) แต่มันเป็นฝันที่เราคิดว่า ไม่มีวันเกิดขึ้นได้แน่นอน ยิ่งเป็นผู้เข้าแข่งขันคนเดียวจาก South East Asia ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไป มันเป็นโอกาสที่ใหญ่มาก

RuPaul’s Drag Race ปันปัน

หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตปัน ปันฝันมาตลอด ปันเป็นคนกล้าฝันมาแต่ไหนแต่ไร เราเคยฝันว่า อยากเป็นแดร็กที่มีชื่อเสียง อย่างที่สอง อยากเปิดบาร์ในชื่อตัวเอง เราก็ทำได้ อย่างที่สาม อยากให้ Drag Race Thailand มีซีซัน 2 ก็ทำได้ ตอนนี้เราอยากไปแข่ง Drag Race ก็ได้อีก รู้สึกว่า นี่แหละ ถ้าเกิดเราตั้งใจ ไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อ และมีวินัยในการทำงาน และรักในสิ่งที่ตัวเองทำ จุดไหนก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

การเป็นโฮสต์มาก่อน ทำให้คุณรู้สึกถือไพ่เหนือกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ไหม

มองดีๆ นะ ทุกคนที่เข้ามาแข่งเขาเป็น All Stars (ดาวเด่น) เขามีประสบการณ์ เคยผ่านชาเลนจ์ทุกอย่างแล้ว เขารู้ว่า กล้องตั้งอยู่ไหน ต้องนอนหลับมากขนาดไหนถึงจะมีแรงแข่งขัน แต่เราไม่รู้เลย นี่เป็นข้อเสียเปรียบของเรานะ เขามีประสบการณ์กันหมดแล้วแต่ปันไม่มี เพราะฉะนั้นมองได้สองแบบ ปันเป็นกรรมการมาก่อน ใช่ แต่บรรทัดฐานของกรรมการรายการ Drag Race แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นปันว่า ในการแข่งขันนี้ ไม่ได้เป็นข้อดีหรือข้อเสียอะไรเลย 

ปันปัน Co-Host ของรายการ Drag Race Thailand

ก่อนไปแข่งขันในระดับโลก คุณเตรียมตัวยังไงบ้าง

เตรียมพร้อมหนักมากค่ะ เพราะปันไม่ได้เป็นเด็กฉลาดตั้งแต่เด็ก แต่ปันเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก ความหมายคือ คนอื่นเขาเข้าใจในรอบเดียว เราพร้อมที่จะฟังยี่สิบรอบ แต่ว่าจำแล้วไม่ลืม ก็เลยอยากเอาจุดนี้มาใช้ในการเตรียมตัว

ปันเรียนไปทั้งหมดสิบเอ็ดคลาส ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน เรียนเดินแบบกับพี่ลูกเกด (เมทินี กิ่งโพยม), เรียนการตัดเย็บ, ร้องเพลง, Rapping, Acting, สมาธิ, ทำผม, แต่งหน้า คือเรียนทุกอย่างเกี่ยวกับแดร็กใหม่หมดเลย

เป็นตัวแทนคนเดียวของประเทศไทย รู้สึกกดดันหรือเปล่า

เรากดดันตลอด คืนวันก่อนที่จะเข้าไปก็นั่งร้องไห้กับตัวเอง เพราะเรากลัวจะทำให้ประเทศตัวเองผิดหวัง พอเคยเป็นกรรมการมาก่อน หลายๆ คนก็บอกว่า ไปแข่งเนี่ย ถ้าทำได้ไม่ดี อนาคตเธอจะไม่มีเลยนะ เพราะเราเป็นตัวแทนประเทศไทยคนเดียวด้วย ฉะนั้นสำหรับปันมันเครียดมาก (เน้นเสียง) มันเครียดเพราะว่าถ้าเรากลับบ้านปุ๊บ เมืองไทยก็หายไปจากรายการเลยนะ 

ใครจะไปคิดว่าอาทิตย์แรกเข้าไปปุ๊บ ชนะเลย เยี่ยวใส่ให้รู้เลยว่าฉันคือใคร ตอนแรกพอแม่ Ru เรียกชื่อเราก็คิดว่า อุ๊ยตายห่า กูออกแล้วปะวะ เอพิโสดแรกกูจะออกแล้วเหรอ ถ้าเห็นหน้าปันตอนนั้นก็จะรู้ว่า ปันกลัวมาก เหมือนโดนฟ้าผ่า แต่พอนางบอกว่า You are the top two of this week. (คุณคือ 1 ใน 2 ตัวท็อปของสัปดาห์นี้) เราก็ห๊า (ลากเสียงยาว) อีดอกกกกก 

Pangina Heals แดร็กควีน

แล้วพอรู้ว่าต้องลิปซิงก์หาคนชนะในอีพีแรกกับ Jimbo (ตัวแทนจากประเทศแคนาดา) เป็นเพลง Say you’ll be there ของ Spice Girls ต่อหน้า Melanie C เราก็วิ่งไปข้างหลัง ยีผมใหม่ เปลี่ยนชุด แล้วออกมาลิปซิงก์สู้ อยากชนะให้ได้ในอาทิตย์แรก เพราะคนไทยก็รอเชียร์อยู่เยอะ และวันนั้นเราก็ทำเพื่อคนที่สบประมาทเราด้วย

กับการแข่งขันครั้งนี้ คุณคาดหวังอะไร

คาดหวังว่าจะได้มงที่สามมา ตั้งเป้าหมายว่าทำให้ดีที่สุด สิ่งที่ปันชอบที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตคือการทำอะไรที่กลัว เพราะมันทำให้รู้สึกว่าฉันได้ใช้ชีวิตคุ้มค่า และถ้าย้อนเวลาได้ก็ไม่รู้สึกว่าเราจะต้องแก้ไขอะไร 

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

เล่าประสบการณ์ของการไปอยู่ท่ามกลางแดร็กควีนหลายเชื้อชาติให้ฟังหน่อย คุณสนิทกับใครเป็นพิเศษบ้างไหม

ปันสนิทกับ Blu Hydrangea (ตัวแทนจากประเทศอังกฤษ) ค่อนข้างมาก JujuBee (ตัวแทนจากประเทศสหรัฐอเมริกา) นี่เหมือนเป็นพี่สาวน้องสาวกันเลย Janey (ตัวแทนจากฮอลแลนด์) ก็สนิท จริงๆ มันสนิทกับทุกคน แต่จะมีแค่บางคนที่เราสนิทจนกัดกันได้

ปันปัน นาคประเสริฐ สมรสเท่าเทียม

การไปอยู่ตรงนั้นมันแปลกเหมือนกันนะ เราได้แลกเปลี่ยนหลายๆ อย่าง ซึ่งปันเป็นคนพูดภาษาอังกฤษได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เข้าใจสแลงหลายๆ คำที่คนอังกฤษหรือคนอเมริกันพูด เรารู้สึกว่ามันดีที่ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภาษา และวัฒนธรรม สิ่งหนึ่งที่เก๋ก็คือจูจู้เขาพูดภาษาลาวได้ เพราะฉะนั้นปันกับนางก็จะคุยกันแล้วเข้าใจ มันมากบอกเลย บางทีด่าคนนู้นคนนี้ คนอื่นก็จะฟังไม่รู้เรื่อง มึงพูดไรกัน เราก็อ๋อ ไม่ มึงสวย อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ)

ก่อนหน้านี้คุณก็ไปโชว์ในหลายประเทศทั่วโลก ความแตกต่างของวงการแดร็กในไทยกับต่างประเทศที่คุณเห็นคืออะไร

ต่างประเทศการไปดูโชว์แดร็กได้รับความนิยมมาก เพราะ RuPaul’s Drag Race ดังมาก โดยเฉพาะใน L.A. หรือ New York ที่สหรัฐอเมริกา มันทำให้คนที่ไปเสพเข้าใจว่าคืออะไร วัฒนธรรมการเสพแดร็กของเมืองนอกจะมีสิ่งที่เรียกว่า Drag Brunch เหมือนไปนั่งกินข้าวตอนสายๆ แล้วมีนางโชว์มาเอนเตอร์เทน ซึ่งเป็นอะไรที่ดังมากกกกก (เน้นเสียง) แต่ในเมืองไทยยังไม่มีอะไรแบบนี้ 

สิ่งที่ต่างคือเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อแดร็กในแต่ละพื้นที่ สมมติใน Texas เขาชอบควีนที่เล่นเพลง Ballad ควีนที่ออกมาเล่นบัลลาดก็จะได้รับความนิยม หรือบางทีชอบควีนที่ทำ Dip หรือที่หลายๆ คนเรียกผิดว่า Death Drop (การกระโดดฉีกขาลงบนพื้น) ควีนก็จะออกมากระโดดตีลังกาฉีกขากันเยอะ ฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าผู้บริโภคที่นั้นชอบแบบไหน

ปันปัน นาคประเสริฐ กะเทย

ในเมืองไทย ปันรู้สึกว่ารายการ RuPaul’s Drag Race ยัง Niche อยู่มากๆ เอาดีๆ อย่าตอแหลกันนะคะ มันยัง Niche อยู่ หลายคนยังไม่รู้ว่าเป็นรายการเกี่ยวกับอะไร นั่นคือสาเหตุที่หลายๆ คนเปิดบาร์ เพราะอยากให้คนมาเสพแดร็ก อยากให้แดร็กควีนมีงานมีการมากขึ้น ให้มันเป็นอุตสาหกรรม รวมถึงปันที่เปิด House of Heals ด้วย 

สิ่งที่ปันอยากเห็นมากๆ คืออยากเห็นแดร็กควีนบนบิลบอร์ด อยากเห็นแดร็กควีนเป็นพรีเซนเตอร์ เป็นพิธีกร เป็นนักแสดง ซึ่ง Dearis Doll (ผู้เข้าแข่งขันจาก Drag Race Thailand Season 1) เป็นแดร็กควีนที่ได้เป็นนักแสดงแล้ว โคตรภูมิใจเลย (เน้นเสียง) ปันอยากให้แดร็กบ้านเราไปทำสิ่งที่เกินความคาดหวังของคน มันทำให้แดร็กอีกหลายคนที่เพิ่งเข้ามาทำรู้ว่ามีคนปูทางไว้ และมันจะง่ายขึ้น จริงๆ มีอีกหลายคนมากแต่ปันเมนชันไม่หมด

แดร็กทุกคนมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pangina Heals เป็นแบบไหน

ปันโดนถามหลายครั้งเหมือนกันว่ายูเป็นคาแรกเตอร์อะไร ทำไมปันไจน่าไม่มี Signature Look เลย ขอโทษนะคะ ทุกลุคที่ฉันทำควรที่จะเป็นลุคที่น่าจดจำ แก่นหลักของปันคือปันเป็นควีนที่ชอบเปลี่ยนทุกอย่างและเอามันให้อยู่ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ตีโป่งผมฟูทุกรอบ ไม่มีชุดที่ใช้โครงเดิมทุกรอบ ไม่ได้บอกว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะ แต่มันไม่ใช่ปัน เราไม่อยากอยู่ในกรอบที่ใครกำหนดไว้ให้ ฉันต้องการทำให้คนตกใจและคาดไม่ถึงว่าจะทำอะไร นั่นสนุกกว่าเยอะ

Pangina Heals แดร็กควีน

ในหลายๆ ซีซันที่ผ่านมาของ RuPaul’s Drag Race ควีนหลายคนแต่งแดร็กเพื่อสื่อสารหรือแสดงจุดยืนบางอย่างให้ตัวเอง บ้างเป็นเรื่องส่วนตัว บ้างพูดถึงประเด็นสังคม การแต่งแดร็กของ Pangina Heals มีสเตทเมนต์ซ่อนอยู่เบื้องหลังไหม

ตลอด (ตอบทันที) แดร็กเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นเครื่องมือที่สื่อสารว่าเราคิดอะไรอยู่ บางคนอาจมองว่าการแต่งแดร็กตลกโปกฮา นั่นเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับปัน พอมีแพลตฟอร์มนี้ เราก็อยากส่งเสียงเพื่อให้รอบๆ ตัวเราเปลี่ยน ไม่ว่าปันจะแต่งหญิงแล้วออกมาพูดเรื่อง Trans Rights (สิทธิของคนข้ามเพศ) หรือแต่งหญิงไปประท้วงเรื่องสมรสเท่าเทียม ซึ่งโดนหมายศาลเรียบร้อยแล้ว

ทำไมต้องออกมาส่งเสียง ทั้งๆ ที่เราก็สามารถอยู่เฉยๆ ก็ได้

ถ้าเรามีเสียงตรงนี้ เราไม่ควรเงียบ เพราะนั่นไม่ต่างอะไรจากคนตาย ใครจะไม่พูดก็เรื่องของเขา แต่ปันรู้สึกว่าเรามีความรับผิดชอบไง เหมือนสไปเดอร์แมนน่ะ คือฉันไม่โอเค เวลามีบางอย่างที่ไม่ยุติธรรมแล้วนั่งอยู่นิ่งๆ เพราะการอยู่นิ่งๆ แล้วเห็นคนอื่นกำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เธอคือส่วนหนึ่งของปัญหานั้น ปันจะวีนตลอดเวลาเห็นคนแทรกคิวใน BTS คือจะตะโกนดังที่สุดเลย ‘มีคิวอยู่ค่า ไป-ต่อ-ใหม่!’             

Co-Host ของรายการ Drag Race Thailand

หรืออย่างล่าสุดที่ปันได้เป็น The Face of PULSE Clinic ได้เป็นตัวแทนของคลินิกที่สื่อสารเกี่ยวกับ Safe Sex เพราะเรารู้สึกว่า ความรู้เรื่องเพศเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะใน LGBTQ+ Community แต่เรากลับไม่พูดถึงมัน นั่นทำให้หลายคนไม่รู้จะจัดการชีวิตตัวเองยังไง เราเลือกที่จะมาทำงานจุดนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่เชื่อด้วย

เพราะฉะนั้นถ้าเรามีแพลตฟอร์ม ใช้มันเถอะ อย่านั่งเงียบ เพราะไม่งั้นเธอจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกไม่เปลี่ยนค่ะ พ่อแม่ปันก็สอนปันมาตลอดชีวิต แต่มันก็มีบางช่วงที่ปันยังสอนเขาเลย ปันคิดว่าเราเรียนรู้จากกันได้ อย่างเมื่อหลายปีที่แล้วปันเคยจับพ่อมาแต่งหญิงเพื่อสื่อสารว่าแดร็กไม่เกี่ยวกับเพศ สิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือรักลูกตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข ก็ทำให้ครอบครัวอื่นๆ ที่มีลูกเป็น LGBTQ+ เข้าใจลูกมากขึ้น 

ซึ่งจริงๆ คนที่แต่งแดร็กก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของชุมชน LGBTQ+ เลย อย่างใน Rupaul’s Drag Race ซีซัน 14 ก็มีชายสเตรทมาแข่งด้วย

ไม่จำเป็นเลยค่ะ แดร็กคือศิลปะ คำเดียว ใครอยากทำก็ได้ ไม่ได้สำคัญเลยว่าเธอมีหรือไม่มีอะไรอยู่ระหว่างขาเธอ มันเป็นการบ่งบอกตัวเองว่าคุณเป็นคนยังไง ชอบอะไร หรืออยากได้อะไรในชีวิต การแต่งหญิงคือการสร้างคาแรกเตอร์ที่ปันว่าทุกคนสามารถทำได้ค่ะ

บาร์ของปันปัน นาคประเสริฐ

แล้วสำหรับคุณ การแต่งแดร็กบ่งบอกอะไร

ฉันชอบการแสดง ชอบการเปลี่ยนแปลงจากผู้ชายข้ามไปเป็นคาแรกเตอร์อื่นๆ บ่งบอกว่า ฉันเป็นเกย์ ฉันออกสาว และฉันก็ภูมิใจได้ บ่งบอกว่าการที่ฉันมี Feminine Quality (ความเป็นผู้หญิง) อยู่ในตัวไม่ใช่สิ่งที่ผิด ไม่อ่อนแออย่างที่คนในสังคมอาจจะคิด และการเป็นผู้หญิงมันมีความแข็งแกร่งอยู่เยอะ เพราะว่าการแต่งหญิงนี่เป็น Tribute to the feminine quality (การสรรเสริญให้กับความเป็นเพศหญิง) และบ่งบอกว่า ฉันชอบแฟชั่น หรือบางครั้งฉันชอบอะไรที่มันจัญไร อย่างตอนที่ปันแต่งเป็นตัวตลกสยองขวัญจากหนังเรื่อง IT มันมัน มันดาร์ก เพราะฉะนั้นแดร็กเป็นได้ทุกอย่างเลย Express ทุกๆ สิ่งในตัวไม่ว่าจะเป็นพาร์ตไหน 

แต่งแดร็กมา 11 ปี เคยมีโมเมนต์ที่อยากเลิกแต่งไหม

บ่อยมากค่ะ (ตอบทันที) แต่เราให้เวลาเยียวยาตัวเอง แล้วบางครั้งเราบังคับตัวเองให้แต่งหญิง เพราะว่ามันทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ในท้ายที่สุด หลายๆ ครั้งที่เลิกกับแฟน หรือว่าอารมณ์ไม่ดี แต่งหญิง! กูสวย วันนี้กูมีความสุข ออกไปแดกเหล้า กลับมารู้สึกดีขึ้นค่ะ

ปันปัน นาคประเสริฐ แดร็กควีน

การแต่งหญิงทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ยังไง

มันเยียวยาเรา มันทำให้เราออกไปแล้วลืมสิ่งร้ายๆ เพราะในช่วงเวลานั้น เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นตัวเองแล้ว เราเป็นคาแรกเตอร์อื่น แล้วในช่วงเวลาระหว่างที่เป็นคนอื่นนั้น ความคิดของเราก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป แล้วพอกลับมาเป็นตัวเองปุ๊บ เออ เรื่องนั้นมันไม่ได้แย่สักเท่าไหร่นี่หว่า 

ถ้าชีวิตนี้ไม่ได้รู้จักแดร็ก คิดว่าตัวตนของคุณจะเปลี่ยนไปไหม

แน่นอน ถ้าเกิดปันไม่ได้รู้จักแดร็ก ปันว่า ปันไม่สามารถ ‘รับ’ ความเป็นผู้หญิงในตัวเองได้มากขนาดนี้ หรือ ‘รัก’ ความเป็นผู้หญิงในตัวเองได้มากเท่านี้ มันทำให้ปันรู้จักตัวเองมากขึ้นว่า เราต้องการอะไรในชีวิต ต้องการคนแบบไหนที่จะมาอยู่ด้วยกันในชีวิต

RuPaul’s Drag Race

นี่คือ Part of Me ซึ่งสอนให้เรารู้สึกว่าการที่จะเข้าไปในชีวิตใคร หรือรักใครจริงๆ ต้องรับทุกส่วนของชีวิตเขาได้ คุณจะมาบอกไม่ได้ว่า ฉันชอบเอาเธอตอนที่เธอเป็นผู้ชาย แต่พอเราแต่งเป็นผู้หญิงปุ๊บรับไม่ได้ กลับบ้านไปค่ะ กูก็ไม่ได้ต้องการมึงเหมือนกันค่ะอีสัตว์ (ยิ้ม) ฉันประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่มีคุณค่ะ ถ้ายูไม่แมนพอที่จะรับความเป็นผู้หญิงในตัวฉันได้ Thank you, next!

หลายๆ คนยกให้ปันปันเป็นแดร็กควีนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย คิดยังไงกับคำคำนี้

ถ้าคนมองอย่างนั้น เป็นเกียรติและขอบคุณมากๆ แต่ว่าปันก็ไม่ได้คิดว่า ฉันจะหยุดแค่ตรงนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันรัก ฉันอยากจะทำต่อไป 

เกิดมาเพื่อแต่งหญิงค่ะ!


Pangina’s Favorite Seasons of Drag Race 

ในเมื่อปันปันบอกว่ารายการ RuPaul’s Drag Race ยัง Niche มากในเมืองไทย และที่ทำออกมา ก็มีเยอะแบบดูไม่ไหว เราจึงขอให้เธอแนะนำ 3 ซีซันของ Drag Race ในดวงใจที่ปันปันคิดว่าปังสุด เยี่ยวแตกสุด สนุกที่สุด เผื่อใครอยากตามไปดูกัน

1. RuPaul’s Drag Race Season 6

“ซีซัน 6 แน่นอน เป็นหนึ่งในซีซันที่ปันชอบที่สุดเลย ตลก สนุก มีเส้นเรื่อง และแน่นอนว่ามี Bianca Del Rio ไปแข่ง”

2. RuPaul’s Drag Race UK Season 1

“ชอบมาก ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนตลกมาก คาแรกเตอร์น่ารัก น่าสนใจ คาริสม่าของทุกคนคือล้นมาก”

3. RuPaul’s Drag Race UK vs The World

“Of course, UK vs The World! ต้องโปรโมตรายการตัวเองก่อน (หัวเราะ)”

(ข้อความด้านล่างมีสปอยล์รายการ RuPaul’s Drag Race UK vs The World)


หลังจากชนะ 2 จาก 4 ชาเลนจ์ Pangina Heals ถูกคัดออกในตอนที่ 4 โดย Blu Hydrangea แดร็กควีนจากประเทศอังกฤษ สร้างความตกใจให้กรรมการ ผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงคนดูทั่วโลกไปตามๆ กัน

แฟนๆ รายการยกให้การถูกคัดออกของปันปันเป็นหนึ่งในการคัดออกที่น่าเศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Drag Race เพราะจากผลงานที่เธอทำทั้ง 4 ตอน เห็นได้ชัดว่า Pangina Heals คือตัวเต็งที่มีโอกาสจะคว้ามงกุฎผู้ชนะมากที่สุด

แต่ถึงไม่ได้ตำแหน่ง Pangina Heals ก็เป็นตำนานที่เปิดประตูให้ชาวโลกได้รู้จักแดร็กควีนจากเมืองไทยว่าเฟียซไม่แพ้ชาติไหน และ กลายเป็นหนึ่งใน RuGirls ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่าออกคอลเลกชันเสื้อของตัวเองกับ Late Night Dance Club มากี่แบบก็ขายหมด เร็วๆ นี้เธอยังมีแผนทัวร์ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอีกหลายประเทศทั่วโลกกับสาวๆ จาก UK vs The World ด้วย

Writer

Photographer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.