‘SiraWigs’ อาณาจักรวิกทอมือของ ‘ไจ๋ ซีร่า’ - Urban Creature

เมื่อพูดถึง ‘วิกผม’ หลายคนอาจมองว่าเป็นสิ่งของฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต

แต่สำหรับคนจำนวนไม่น้อย วิกผมอันเดียวกันนี้คือหนึ่งในเครื่องมือประกอบอาชีพที่ เสริมสร้างความมั่นใจ หรือแสดงออกถึงตัวตนที่ซ่อนลึกอยู่ภายในให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนภายนอก

เพื่อทำความเข้าใจถึงการมีอยู่ของลักษณะและประเภทของวิกผมในท้องตลาด วันนี้คอลัมน์ The Professional จึงขอชวน ‘ไจ๋-ศิรวิชญ์ กมลวรวุฒิ’ หรือ ‘ไจ๋ ซีร่า’ Drag Queen เบอร์ต้นๆ ของวงการที่ตัดสินใจเปิดธุรกิจ ‘SiraWigs’ แบรนด์วิกทอมือที่ถูกเรียกกันจนติดปากว่า ‘วิกพี่ไจ๋’ มาพูดคุยแบบลงลึกถึงจักรวาลวิกทอมือตั้งแต่วันแรกมาจนถึงวันนี้

เหตุผลอะไรที่ทำให้บรรดาลูกๆ Drag Queen ทั้งหลาย รวมไปถึงเซเลบ ดารา อินฟลูเอนเซอร์ และบุคคลทั่วไปที่มีความต้องการใช้วิกต่างมองหาวิกจาก SiraWigs เป็นอันดับแรกๆ เราขอชวนทุกคนไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

Drag Queen กับวิกผมเป็นของคู่กัน

การถือกำเนิดของแบรนด์ ‘SiraWigs’ นั้นมีสารตั้งต้นมาจากอาชีพ Drag Queen ของไจ๋ ที่ทำให้ต้องคลุกคลีอยู่กับวงการวิกผมมาโดยตลอด ซึ่งจุดเริ่มต้นในครั้งนี้เกิดจากการเจอกันของไจ๋และเพื่อน Drag ชาวเยอรมนีเมื่อครั้งที่ไจ๋อยู่ประเทศออสเตรเลีย

“เราเป็นนางโชว์มาก่อน พอขยับจากนางโชว์มาเป็น Drag Queen เรื่องของวิกก็กลายเป็นเรื่องคู่กันที่ขาดไม่ได้ พอใส่วิกแล้วมีคนให้ความสนใจมากเข้า เลยคิดว่างั้นเราเอาวิกมาขายเองดีกว่า ถือเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับวงการนี้ด้วย”

สิ่งที่คนทั่วไปอาจไม่ทราบมาก่อนคือ SiraWigs คือบริษัทลูกที่แยกออกมาจากบริษัทแม่ในเยอรมนี โดยใช้ชื่อแยกออกมาด้วยเหตุผลที่ทำให้แบรนด์สามารถขายวิกในราคาที่ต่ำลงได้ ในขณะที่ทางเยอรมนีจะคอยควบคุมคุณภาพและดีไซน์ต่างๆ ของแบรนด์ให้

แม้ว่าวิกของ SiraWigs จะปรับราคาลงให้สอดคล้องไปกับค่าครองชีพในประเทศไทย แต่ไจ๋ยังยอมรับกับเราอย่างตรงไปตรงมาว่า ถึงจะพยายามลดราคาลงเท่าที่จะทำได้ แต่หากนำ SiraWigs ไปเปรียบเทียบกับตลาดวิกในไทย วิกผมของไจ๋ก็ยังอยู่ในเรตราคาที่แพงกว่าท้องตลาดอยู่ดี เนื่องจากใช้วัสดุอุปกรณ์เกรดดีที่สุดเท่าที่มีในตลาด ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าวิกที่ได้ไปจะคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน

ศึกษาตลาดกว่า 2 ปี ไม่ดีเราไม่ขาย

“เราพูดกับตัวเองเสมอว่า เราเกิดมาเป็นอาร์ติสท์คนหนึ่งที่ใส่ใจกับทุกผลงาน ไม่ใช่แม่ค้า และวิกผมคือหนึ่งในผลงานของเรา ดังนั้นวิกที่ส่งถึงมือลูกค้าจึงต้องเป็นสิ่งที่เราเห็นว่าดีที่สุด”

เพราะความตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้กว่าจะออกมาเป็น SiraWigs อย่างที่ตั้งใจไว้ก็กินเวลาไปกว่า 2 ปี เพราะการเปลี่ยนบทบาทจากผู้ใช้งานมาเป็นผู้ผลิตอย่างเต็มตัว ทำให้ไจ๋จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

“ย้อนกลับไปหลังจากเราได้คุยกับพาร์ตเนอร์ชาวเยอรมัน เราก็เริ่มทำการบ้านในส่วนต่างๆ ตั้งแต่เรื่องของโครงสร้างวิก เส้นใยไหม ทำการศึกษาเพิ่มเติมว่าจักรวาลของวิกผมมีแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะสมกับใคร ความตั้งใจนี้เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวว่าเราต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าของเรา ไม่ใช่ทำออกมาเพื่อขายอย่างเดียว แต่เมื่อลูกค้าถาม เราก็ต้องตอบให้ได้ด้วย”

หลังจากศึกษาเกี่ยวกับวิกอย่างจริงจัง ไจ๋พบว่าจักรวาลวิกผมในตลาดมีความหลากหลายอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นประเภทวิกหรือรูปแบบการใช้งาน ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบถึงสามสิบปีก่อน วิกในตลาดส่วนใหญ่เป็น ‘วิกครอบ’ ใช้สวมเปลี่ยนลุคได้ง่ายๆ ไม่ค่อยมีความสมจริง แตกต่างจากในปัจจุบันที่นิยม ‘วิกทอมือ’ ที่มีการทอไหมบนตาข่ายเส้นต่อเส้นด้วยมือ ให้ความรู้สึกสมจริงมากกว่า

“ส่วนตัวเราได้รับประสบการณ์การใช้วิกมาจากการโชว์ Drag Queen ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นวิกที่ทำจากไหมประเภท Kanekalon ที่ต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ใช้สำหรับคอสเพลย์เพราะเซตทรงให้ใหญ่ได้ง่ายกว่าไหมทั่วไป

“แต่เรามีความรู้สึกว่าคนไทยต้องการความสมจริงมากกว่านั้น เลยพูดคุยกับเพื่อนให้เขาส่งวิกแบบที่ดีที่สุดมาให้ ซึ่งความพิเศษที่เด่นชัดคือเส้นใยที่มีความอิ่มตัวสูง เหมือนผมจริงที่สุขภาพดี แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถโดนความร้อน โดนสเปรย์ และเซตทรงได้ง่าย”

ความพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน

“คำว่า ‘วิกทอมือ’ เราเป็นคนแรกในประเทศไทยที่ใช้คำนี้ เมื่อก่อนเขาจะเรียกกันว่า ‘วิกลูกไม้’ เพราะแปลตรงตัวจากคำว่า ‘Lace Wigs’ พอเราประกาศเปิดตัวแบรนด์ SiraWigs ขึ้นมา ความตั้งใจของเราคืออยากให้ทุกคนจำได้ว่านี่คือวิกทอมือ เพราะมันคือการทอด้วยมือจนออกมาเป็นวิกผม”

ไจ๋เล่าว่า นอกจากที่ตัวแบรนด์ SiraWigs จะเป็นแบรนด์แรกที่เรียกชื่อวิกทอมือแล้ว ความพิเศษของสินค้ายังมีอีกหลายประการ เพราะไจ๋ศึกษาลงรายละเอียดตั้งแต่โครงสร้างของวิก ไปจนถึงกาวสำหรับติดวิกผม

“หลายๆ คนซื้อวิกเราไป สิ่งหนึ่งที่เขาจะสัมผัสได้ก็คือใส่แล้วสบายหัว นั่นเป็นเพราะเราลงลึกไปถึงโครงสร้างของวิกที่มีการดีไซน์โครงกะโหลกให้เหมาะกับคนไทย”

ด้วยความที่คนไทยเป็นคนเอเชีย ทำให้รูปร่างของโครงกะโหลกของเรามีความแตกต่างจากวิกในท้องตลาดทั่วไปที่สร้างขึ้นจากรูปโครงกะโหลกของชาวตะวันตก ทำให้เมื่อสวมใส่จึงรู้สึกไม่สบาย แตกต่างจาก SiraWigs ที่ออกแบบวิกโดยอิงจากโครงกะโหลกของคนเอเชีย ทำให้คนไทยใส่ได้สบาย ไม่เจ็บหัว

อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเปิดร้านขายวิกก็คือ ‘กาวติดวิก’ ยิ่งเป็นกาวสุดพิเศษที่ไจ๋สั่งผลิตด้วยสูตรของทางร้านด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการในตลาด แม้จะไม่ได้เป็นลูกค้าของ SiraWigs เองก็ตาม

“กาวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ร้านของเราภาคภูมิใจ เพราะว่าเป็นสูตรเฉพาะของร้าน ความพิเศษคือกลิ่นไม่ฉุน มีความเหนียว ทนเหงื่อ และทนการติดทับบนเมกอัป ขนาดที่ใส่ลงว่ายน้ำแล้วโผล่หน้าขึ้นมาก็ยังติดทนอยู่เหมือนเดิม”

แม้ว่าจะมีคนพยายามขอซื้อกาวแยกต่างหากมากแค่ไหน แต่ไจ๋ก็ไม่ขาย เพราะกาวสูตรพิเศษจากทางร้านคืออุปกรณ์ที่ลูกค้าต้องได้รับไปพร้อมกับคำสั่งซื้อวิกผมของแบรนด์

“ที่เป็นแบบนี้มันมีเหตุผลของมัน บริษัทแม่เขาส่งกาวมาพอดีกับจำนวนวิก สมมติว่าเราสั่งมาสต็อกหนึ่งร้อยหัว เขาก็จะส่งกาวมาให้หนึ่งร้อยขวด เวลาลูกค้ามาขอซื้อกาวแยกต่างหาก เราก็ต้องไปเช็กดูก่อนว่ามีลูกค้าคนไหนเขาซื้อวิกไปแล้วไม่ต้องการกาวไหม ถ้ามีเราก็จะเก็บเอาไว้ให้กับลูกค้าเก่าเราก่อน”

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ใส่วิกได้

เดิมทีหลายคนอาจเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าของร้าน SiraWigs คือกลุ่มคนที่แต่ง Drag โดยเฉพาะ แต่โลกออนไลน์ก็ทำให้เราเห็นว่าลูกค้าของตลาดวิกผมเองมีความหลากหลายกว่าในอดีตมาก

“เรามีลูกค้าตั้งแต่กลุ่มแต่งหญิงที่ใช้วิกเพื่อการแปลงโฉม ไม่ว่าจะเป็น Drag Queen นางแบบ อินฟลูเอนเซอร์สายความงาม ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่ใช้วิกในชีวิตประจำวัน ทั้งการใส่เพื่อความสนุกและมีเหตุจำเป็นให้ใส่อย่างผู้ป่วยโรคมะเร็ง”

ไจ๋เชื่อว่าวิกมีความพิเศษและประโยชน์หลากหลายอย่าง เป็นประหนึ่งเสื้อผ้าที่ใช้เสริมสร้างความมั่นใจที่แต่ละคนเลือกใช้ในวาระที่แตกต่างกัน ทำให้หลายครั้งที่ได้ยินกระแสตอบรับจากทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ว่าลูกค้าชื่นชอบ คนทั่วไปให้ความสนใจ เขาจะรู้สึกประทับใจทุกครั้ง

“เคสน่าประทับใจมีหลายเคสมาก แต่ที่จำได้ขึ้นใจเลยคือมีคุณพ่อคนหนึ่งติดต่อขอซื้อวิกให้ลูกชายที่เป็น LGBTQ+ เป็นของขวัญวันเกิด ตอนนั้นเราประทับใจมากที่มีคุณพ่อที่เข้าใจลูก แล้วก็ยังซื้อของขวัญที่เป็นไอเทมที่ LGBTQ+ ทุกคนอยากได้ให้อีก”

ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย แต่เสริมสร้างความมั่นใจ

ตั้งแต่วันแรกที่ไจ๋เริ่มจับวิกผม จนถึงปัจจุบันที่เขาขึ้นแท่นเป็นเจ้าของแบรนด์ SiraWigs เต็มตัวกว่า 10 ปี ทำให้ไจ๋เห็นถึงความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในสังคมที่มีต่อวิกผมในทางที่ดีขึ้น

“เรามองว่าการใส่วิกปัจจุบันเป็นมากกว่าการใส่เพื่อแก้ปัญหาหรือผูกติดกับคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่เป็นการใส่เพื่อความสนุกส่วนตัว ก็วันนี้ฉันอยากเปลี่ยนสีผม แต่ไม่อยากโดนสารเคมี ก็แค่หยิบวิกมาใส่ เป็นเหมือนการเปลี่ยนลุคตัวเองไปตามวาระต่างๆ ในชีวิตแค่นั้นเอง”

นอกจากนี้ ไจ๋ยังมองไปถึงอุตสาหกรรมวิกผมที่ผู้ขายเองก็ควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสินค้าในมือด้วย เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตไปได้พร้อมๆ กัน

“ผู้ขายต้องซื่อสัตย์กับสินค้ากับอาชีพของตัวเองก่อน เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมโดยตรง มันจะสร้างภาพจำที่ผิดๆ ให้กับลูกค้า เมื่อเขาไปซื้อวิกจากร้านที่ขาดความใส่ใจ เขาจะมองคนอื่นในธุรกิจไปในรูปแบบเดียวกัน”

ใครสนใจวิกทอมือทรงสวยคุณภาพดี เข้าไปติดตามรายละเอียดของ SiraWigs ได้ที่ วิกทอมือ SiraWigs โดย ไจ๋ ซีร่า

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.