หลายคนอาจเคยได้ยินสังคมเหงาๆ และการแยกตัวอยู่คนเดียวแบบ ‘ฮนจก’ ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมการแยกตัวอยู่คนเดียวของเกาหลีใต้ หรือ Hitoribotchi ของสังคมญี่ปุ่นที่ Kazuhisa Arakawa ผู้เชี่ยวชาญด้านความโสดกล่าวถึงข้อมูลใน White Paper ของรัฐบาลญี่ปุ่น ปี 2020 ว่า ครัวเรือนญี่ปุ่นมีคนโสดเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 38 เปอร์เซ็นต์จากปี 1980 แถมในโตเกียวยังมีครัวเรือนที่อยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แต่นอกจากเมืองญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว ตอนนี้ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เองก็กลายเป็นเมืองที่มีความเหงาและการแยกตัวออกจากสังคมสูงไม่ต่างกัน Urban Creature เลยอยากแนะนำ ‘Otterlone.BKK’ ซีเนียร์โปรเจกต์ของ ‘ซันซัน-ณิชารีย์ ทรัพย์ประพฤทธิ์’ นิสิตภาควิชาการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาการออกแบบและผลิตสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พูดถึงปรากฏการณ์ความเหงาของคนในเมือง ซึ่งอาจไม่ได้เกิดจากชีวิตส่วนตัวของเราอย่างเดียว แต่เป็นผลจากเมือง การขาดพื้นที่สาธารณะ หรือสภาพกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เอื้อให้เราคลายเหงาได้ง่ายขนาดนั้น

โปรเจกต์นี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1) Lonely Very Mush เว็บไซต์ Interactive หน้าตาน่ารักที่จะชวนทุกคนไปสำรวจตัวเองและชีวิตเหงาๆ จนเห็ดงอก โดยแต่ละคนอาจได้รับเห็ดแห่งความเหงาที่แตกต่างกันไป
2) Otter Detective นากสืบเ(ห)งา รายการเรียลลิตี้รวบรวมเบาะแสเหล่านากนักสืบผ่านเรื่องราวของคนจริงๆ และพิธีกรที่สวมบทบาทเป็นนักสืบ เพื่อลงพื้นที่สืบค้นว่าทำไมโรคเห็ดเหงาถึงแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ โดยทุกคนจะได้เจอกับประโยชน์ของพื้นที่สาธารณะและเมือง 15 นาที เผยแพร่ผ่าน YouTube และฉายรอบแรกที่งาน Nitade Showcase 2025 วันที่ 17 – 18 พฤษภาคมนี้ (2568)

3) The Otter’s Hole รังลับขยับเหงา นิทรรศการบุกรังจำลองของเหล่านากที่กำลังทดลองบางอย่างอยู่เพื่อแก้ปัญหาความเหงาของคนเมือง ด้วยคอนเซปต์ Sensory Urbanism เมืองแห่งผัสสะ หนึ่งในทางออกปัญหาความเหงาและสุขภาพจิตอื่นๆ
ใครกำลังเหงาจนเห็ดงอก หรืออยากรู้ว่าตัวเองเป็นเห็ดเหงาตัวไหน ลองไปเล่นกันได้ที่ lonely-very-mush.netlify.app
ส่วนใครอยากไปเห็นเห็ดเหงาตัวจริง ตามไปดูรายการเรียลลิตี้พร้อมนิทรรศการแก้ปัญหาความเหงาของเมืองได้ที่ Nitade Showcase 2025 วันที่ 17 – 18 พฤษภาคมนี้ (2568) ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Source :
Brand Inside | bit.ly/4jSSfc8