ในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดภาวะเงินเฟ้อ ไม่เพียงแค่เรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสูง แต่เรื่องที่อยู่อาศัยในเมืองไทยอย่างอสังหาริมทรัพย์ก็มีมูลค่าเติบโตไม่แพ้กัน โดยเฉพาะราคาที่ดินในเมืองหลวงที่นับวันมีแต่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ด้วยปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ ส่งผลให้ 5 ย่านในกรุงเทพฯ มีราคาที่ดินสูงขึ้นในอนาคต
สำหรับย่านที่ได้รับรางวัลที่ 1 นั้น เป็นพื้นที่สุดฮอตมีแต่คนอยากลงทุน ได้แก่ โซนถนนสีลม ถนนเพลินจิต ถนนวิทยุ และถนนพระรามที่ 1 ตรงบริเวณหน้าสยามสแควร์ไปจนถนนเพลินจิต มีราคาสูงสุด 1,000,000 บาท/ตารางวา นับว่าเป็นราคาที่ดินแพงที่สุดในกรุงเทพฯ
รองลงมาคือ ถนนสุขุมวิท ราคา 750,000 บาท/ตารางวา ถนนรัชดาภิเษก ราคา 450,000 บาท/ตารางวา ถนนเพชรบุรี ราคา 300,000 บาท/ตารางวา และถนนพหลโยธิน ราคา 250,000 บาท/ตารางวา ข้อมูลจากกองประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เผยข้อมูลราคาที่ดินกรุงเทพฯ ในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเติบโตในปี 2566
มากไปกว่านั้น กรมธนารักษ์ยังรายงานอีกว่า ราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566 – 2569 ในภาพรวมทั่วประเทศปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8 เปอร์เซ็นต์ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ปรับเพิ่มประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ และในต่างจังหวัดปรับเพิ่มประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์
จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ น่าจับตามอง
สิ่งที่น่าจับตามองในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในโซนพื้นที่ EEC โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กรมธนารักษ์เผยว่า จะปรับราคาประเมินที่ดินใหม่สูงสุด 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ปรับเพิ่มขึ้น 43 เปอร์เซ็นต์ บริเวณถนนเลียบหาดพัทยา อำเภอบางละมุง ราคา 220,000 บาท/ตารางวา
จังหวัดระยอง ปรับเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ บริเวณถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองระยอง ราคา 100,000 บาท/ตารางวา และสุดท้ายจังหวัดฉะเชิงเทรา ปรับเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ บริเวณถนนมหาจักรพรรดิ์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา 50,000 บาท/ตารางวา มากไปกว่านั้น กรมธนารักษ์ยังคาดว่าหลังปีใหม่ ราคาตลาดพื้นที่เหล่านี้อาจสูงกว่าที่ประเมินถึง 15 เปอร์เซ็นต์
ราคาอัปเลเวล ด้วยโครงการพัฒนา
สาเหตุที่พื้นที่ดังกล่าวราคาสูงลิ่ว เนื่องด้วยการประเมินที่ดินอ้างอิงจากสภาพแวดล้อมและโครงการพัฒนาที่เกิดขึ้น เช่น การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แนวทำเลรถไฟฟ้า ทางด่วน โครงการพัฒนาทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงถนนหรือสะพานตัดใหม่ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ที่ดินดังกล่าวได้ผลประโยชน์ในเรื่องการเข้าถึงและสิ่งอำนวยความสะดวกตามมา
จากข้อมูลพื้นที่สุดฮอตในกรุงเทพฯ อย่างถนนสีลม ถนนเพลินจิต ถนนวิทยุ หรือถนนพระรามที่ 1 ล้วนเป็นเส้นที่ครองแชมป์ราคาที่ดินแพงในเมืองมาทุกสมัย จากสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เช่น ทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง เป็นศูนย์กลางออฟฟิศสำคัญที่เรียกว่า Central Business District (CBD) ล้อมรอบด้วยโรงแรม สถานที่ราชการ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง และโครงการพัฒนาเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ไม่เพียงแค่ดึงดูดคนวัยทำงาน วัยรุ่น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวอยากเข้ามาแวะเวียนอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกใจที่ย่านดังกล่าวจะรักษาตำแหน่งราคาที่ดินสุดฮอตในกรุงเทพฯ ตลอดทุกปี
การพัฒนารวมศูนย์ ความเจริญกระจุกตัว
เมื่อมองภาพรวมของราคาที่ดินในประเทศไทยจะสังเกตว่า เมื่อมีโครงการพัฒนาหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้น ก็มักจะส่งผลให้ราคาที่ดินดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่าแต่ก่อน หากมองอีกมุมหนึ่ง ส่วนใหญ่พื้นที่ที่มีราคาสูงมักจะเป็นย่านที่มีราคาแพงอยู่แล้วในอดีต และกำลังแพงขึ้นอีกทวีคูณ เนื่องด้วยโครงการพัฒนาเกิดขึ้นแต่ในย่านดังกล่าว
ยกตัวอย่าง การพัฒนาสวนสาธารณะขนาดใหญ่ การฟื้นฟูทางเท้า หรือการจัดกิจกรรมในใจกลางเมืองเป็นประจำ ตัดภาพมาที่ย่านรอบข้างไปจนถึงชานเมืองซึ่งมีราคาที่ดินหลักหมื่นต่อตารางวา บางแห่งอาจไม่มีพื้นที่สาธารณะที่เข้าถึงได้ ขาดสิ่งอำนวยความสะดวก หรือไม่มีโครงการพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขเกิดขึ้นมากนัก เหล่านี้สะท้อนถึงการพัฒนาเมืองแบบกระจุกตัว และส่งผลให้ราคาที่ดินก็สูงเกาะกลุ่มแค่พื้นที่หนึ่งตามไปด้วย
สุดท้ายนี้ มันคงจะดีกว่าถ้าการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ถูกกระจายออกไปหลากหลายย่านอย่างเท่าเทียม ทั้งโครงสร้างพื้นฐานการสัญจร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เพียงพอต่อประชากรในพื้นที่ เช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุด หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์หรือจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ จนเกิดเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ของเมือง ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ไม่แน่ว่าวันหนึ่งพวกเราอาจจะได้เห็นย่านอื่นๆ ติดอันดับพื้นที่น่าจับตามองในกรุงเทพฯ บ้างเหมือนกัน
Sources :
Short Recap | shorturl.asia/sTQLz
Smartfinn | shorturl.asia/owKY7
The Standard | shorturl.asia/AfwCD