
LATEST
‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ จากตลาดเครื่องดนตรีและของเก่าสู่โครงการรองรับการท่องเที่ยวย่านไทย-จีน
ย่านแห่งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวผัดปู ร้านขายเครื่องดนตรี และเหล่าสินค้าต่างประเทศในความทรงจำของใครหลายคน กำลังจะถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ด้วยโครงการจาก AWC หรือบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ที่ปรับปรุงพื้นที่ ‘เวิ้งนาครเขษม’ ให้กลายเป็น เวิ้งนครเกษม เยาวราช เดิมทีช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง คนไทยเริ่มสนใจดนตรีตะวันตก บนพื้นที่ 14 ไร่ของเวิ้งนาครเขษมจึงเป็นแหล่งนำเข้าเครื่องดนตรีจากตะวันตกมาขาย จนกลายเป็นที่ขายของเก่า เครื่องดนตรี เครื่องทองเหลือง รวมถึงร้านอาหาร ด้วยจุดเด่นการเป็นตึกแถวแบบอาคารไม้ ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน พ.ศ. 2508 ชาวเวิ้งฯ ได้ปรับปรุงอาคารเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมสร้างตลาดใหม่ชื่อว่า ‘ตลาดปีระกา’ เพราะสร้างเสร็จในปีระกา และเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของร้านอาหารชื่อดัง วัตถุโบราณ และหนังสือเก่าแก่มากมาย และล่าสุดกับเวิ้งฯ ฉบับใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและบริการหรูในโครงการ River Journey Project เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง ทรงวาด, ล้ง 1919 และเอเชียทีค ตามแพลนแล้วในพื้นที่นี้จะมีศาลาจีน (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น เสริมความศักดิ์สิทธิ์ […]
โฆษณาข้างรถเมล์ มีความชอบธรรมขนาดไหนในการบังทิวทัศน์
ในโลกทุนนิยมนั้นคงเป็นปกติที่เราจะเห็นโฆษณาสินค้ารายล้อมอยู่ตามที่ต่างๆ ตามความสร้างสรรค์ ตั้งแต่บนป้ายบิลบอร์ด ในโซเชียลมีเดีย จนไปถึงข้าง ‘รถเมล์’ รถเมล์ไม่ได้เป็นแค่รถสาธารณะที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารไปยังปลายทาง แต่ยังเป็นพื้นที่โฆษณารูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยนับว่าเป็น ‘สื่อเคลื่อนที่’ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่กับที่เหมือนป้ายโฆษณาอื่นทั่วไป แต่จะวิ่งไปตามที่ต่างๆ รอบเมืองตลอดทั้งวัน โอกาสที่ผู้คนจะได้เห็นโฆษณาบนรถเมล์จึงมีมากกว่าด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะช่วยให้ผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของโฆษณานี้มากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาโฆษณาบนรถเมล์จะไม่ใช่สิ่งน่าอภิรมย์สำหรับผู้โดยสารเท่าไร เพราะหลายครั้งก็ติดทับกระจกจนคนข้างนอกรถมองไม่เห็นข้างใน ส่วนคนข้างในรถก็มองเห็นแต่ร่องจุดเล็กๆ ชวนเวียนหัว ยิ่งถ้าฝนตกเมื่อไร ร่องเล็กๆ ที่เจาะไว้ก็มักมีน้ำซึมเข้ามาจนผู้โดยสารในรถแทบจะถูกตัดขาดการมองเห็นโลกภายนอกไปเลย ไม่ใช่แค่บดบังทัศนียภาพ แต่ยังชวนสงสัยไปถึงความปลอดภัยอื่นๆ เพราะรถเมล์บางคันติดโฆษณาทับประตูฉุกเฉินไปทั้งบาน ในขณะที่รถบางคันก็เว้นไว้ จนไม่รู้ว่าสรุปแล้วสามารถติดทับได้ไหม จากคำถามมากมายเหล่านี้ทำให้เกิดความสงสัยว่า แล้วโฆษณาบนรถเมล์ที่ผ่านหน้าเราทุกวันนี้อยู่อย่างถูกต้องแค่ไหน แล้วจะมีทางติดโฆษณาแต่ไม่บังวิวบ้างหรือเปล่า คอลัมน์ Curiocity ครั้งนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน โฆษณาข้างรถเมล์มีรูปแบบไหนบ้าง ปัจจุบันรถเมล์ในกรุงเทพฯ มีรูปแบบการติดโฆษณาข้างรถอยู่ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือ ‘Full Wrap’ ซึ่งเป็นการติดโฆษณาทับตัวถังรถทั้งคัน และ ‘Half Wrap’ ซึ่งเป็นการติดทับเพียงแค่ช่วงครึ่งคันหน้าหรือตรงกลางของรถเท่านั้น ความแตกต่างระหว่างการติดโฆษณาแบบ Full Wrap และ Half Wrap อยู่ตรงที่ Full […]
ชมหนังกลางแปลงฟรี 9 เรื่อง 9 คืน กับ ‘สหมงคลฟิล์มกลางแปลง ครั้งที่ 3’ วันที่ 31 ม.ค. – 8 ก.พ. ที่งานเกษตรแฟร์ 68
กลับมาอีกครั้งกับ ‘สหมงคลฟิล์มกลางแปลง ครั้งที่ 3’ ในงาน ‘เกษตรแฟร์ ประจำปี 2568’ ที่เรียกว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนตั้งตารอ เพราะจะได้ชมหนังกลางแปลงทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศครบรสตั้งแต่หนังรัก ชวนซึ้ง ฮา หลอน และแอ็กชันร่วมกับคนทั้งงานแบบฟรีๆ ในปีนี้ก็ยังคงคอนเซปต์การนำภาพยนตร์เรื่องดังมาฉายบนจอยักษ์ ชวนให้คนที่มาเดินงานเกษตรแฟร์ได้แวะมาร่วมชมภาพยนตร์ และสนุกไปด้วยกันในบรรยากาศชิลๆ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พบกับภาพยนตร์ดัง 9 เรื่อง ตลอด 9 คืน ดังนี้ 1. รักแห่งสยาม (31 มกราคม)2. Now You See Me 2 (1 กุมภาพันธ์)3. เฮี้ยน (2 กุมภาพันธ์)4. The Childe (3 กุมภาพันธ์)5. สุขสันต์วันโสด (4 กุมภาพันธ์)6. แหยม […]
ให้ ‘หลับ’ เยียวยาใจ ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาอะไรมา การนอนช่วยรักษาและฟื้นฟูอารมณ์ให้ดีขึ้นได้
แต่ละคนมีวิธีการจัดการความเครียดแตกต่างกันออกไป บางคนอาจกินเพื่อคลายเครียด บางคนอาจเลือกเล่นเกมให้ลืมความกดดันที่ต้องเจอ และบางคนอาจเลือกให้การนอนช่วยหยุดความวิตกกังวลนี้ แม้ปกติแล้วเวลาเครียดมากจะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น และอาจส่งผลให้ฝันร้ายจนนอนไม่เต็มอิ่ม แต่หากเราปล่อยให้ตัวเองเครียดแถมยังไม่ยอมนอน ก็จะทำให้ร่างกายเครียดทับถมมากขึ้นไปอีก แล้วตกลงว่าถ้ากำลังเครียดควรนอนหรือไม่ ‘Matthew Walker’ ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาและจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนอนเอาไว้ว่า การนอนหลับลึกจะช่วยลดความวิตกกังวลผ่านการจัดระเบียบในสมองใหม่ เรียกได้ว่าเป็นยาลดความวิตกกังวลตามธรรมชาติที่เราจะได้รับตลอดตราบใดที่นอนหลับทุกๆ คืน เพราะร่างกายของเราใช้เวลาตอนที่นอนหลับปรับสมดุลทางเคมีและชีวภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งในการลดฮอร์โมนความเครียดและลดระดับฮอร์โมนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรืออะดรีนาลิน ตามที่ ‘Laura DeCesaris’ แพทย์ด้านเวชศาสตร์สมรรถภาพและผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีได้พูดถึงการนอนหลับเอาไว้ เช่นเดียวกับที่ ‘Bill Fish’ ผู้ให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์การนอนหลับที่มองว่า ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริงคือการนอนหลับ เพราะในขณะที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายและสมองจะได้รับการฟื้นฟูจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการเติมพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกายซ่อมแซมร่างกายจากอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ผ่านการปล่อยฮอร์โมนให้เนื้อเยื่อใหม่เติบโต สร้างเม็ดเลือดขาวในเซลล์ ช่วยลดอาการเจ็บป่วยของเรา จัดการของเสียในสมอง และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สมองแทบจะไม่มีเรื่องเครียดที่กระทบจิตใจให้นึกถึงอีกด้วย การนอนจึงถือเป็นหนทางฟื้นฟูร่างกายที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของสุขภาพกายหรือสุขภาพใจ แต่อย่างไรก็ตาม การนอนหลับที่ว่านั้นไม่ควรเป็นการบังคับให้ตัวเองหลับ เพราะจะยิ่งเป็นการกระตุ้นความเครียด แต่ควรจะหากิจกรรมเบาๆ ทำ เช่น การอ่านหนังสือ ฟังเพลงบรรเลง และที่สำคัญคือการงดอยู่กับหน้าจอก่อนนอน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการนอนที่มีคุณภาพ สภาพจิตใจที่บอบช้ำจะได้กลับมาสดใสเหมือนเดิม Sources : Baylor […]
เช็ก 47 จังหวัดทั่วไทย ที่ถ้ามีทะเบียนบ้านอย่าลืมกลับบ้านไป ‘เลือกตั้ง อบจ.’ เสาร์ที่ 1 ก.พ. 68 เวลา 08.00 – 17.00 น.
1 กุมภาฯ อย่าลืมกาปฏิทิน จองตั๋วกลับบ้าน เพราะในวันนั้นจะมีการเลือกตั้ง ‘สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด’ และ ‘นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด’ ที่ต้องย้ำว่างานนี้ไม่มีทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งนอกเขต เท่ากับผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่จะมีการเลือกตั้ง อบจ. จะต้องกลับบ้านไปเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี โดยการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศไทย ดังนี้ 1. กระบี่2. จันทบุรี3. ฉะเชิงเทรา4. ชลบุรี5. ตรัง6. ตราด7. นครนายก8. นครปฐม9. นครพนม10. นครราชสีมา11. นนทบุรี12. นราธิวาส13. น่าน14. บึงกาฬ15. บุรีรัมย์16. ประจวบคีรีขันธ์17. ปราจีนบุรี18. ปัตตานี19. พังงา20. พัทลุง21. พิจิตร22. ภูเก็ต23. มหาสารคาม24. มุกดาหาร25. ยะลา26. […]
Angkor Grace Residence & Wellness Resort จากโครงการบ้านพักอาศัยทิ้งร้าง สู่รีสอร์ตความยั่งยืนเพื่อสุขภาพ
อย่างที่ใครหลายคนรู้กันว่า ในช่วงวิกฤตทางการเงินมักทำให้หลายอย่างหยุดชะงัก ไม่เว้นแม้แต่สิ่งปลูกสร้างหรือโครงการต่างๆ จนบางไซต์ก่อสร้างกลายเป็นพื้นที่ทิ้งร้าง ไม่ถูกใช้งาน และกัมพูชาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤตนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอดีต ‘Angkor Grace Residence & Wellness Resort’ คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่โครงการที่อยู่อาศัยที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘Boreys’ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 จนส่งผลให้สร้างเสร็จเพียงครึ่งเดียว และต้องทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่จากโครงการที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นรีสอร์ต ก่อนที่การระบาดใหญ่ของโควิดจะเปลี่ยนทิศทางรีสอร์ตอีกครั้ง ด้วยแนวคิดและรูปแบบธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ทำให้ Bloom Architecture บริษัทสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเรื่องความยั่งยืนซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงพนมเปญและปารีส มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนอาคารด้านหน้าจากที่พักอาศัยเดิมให้กลายเป็นสถานพยาบาลระดับพรีเมียมที่เต็มไปด้วยความยั่งยืนและเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ความท้าทายอีกอย่างที่ Bloom Architecture ต้องเผชิญคือ การสร้างอาคารต่อจากโครงสร้างและงานก่ออิฐเดิมที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ให้กลายเป็นห้องพักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการบริการแบบบูรณาการ ไปพร้อมๆ กับการชุบชีวิตพื้นที่ร้างให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งผ่านพื้นที่ด้านหน้าอาคารและบริเวณส่วนกลาง เริ่มจากการหยิบเอาแนวคิดที่เน้นธรรมชาติเข้ามาใช้ โดยเริ่มจากการสร้างทางเดินสีเขียวภายในโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่น้ำเสียมเรียบที่ไหลผ่านเมือง และเมื่อตัดกับคอนกรีตเคลือบสีเลียนแบบดินแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของเสียมเรียบที่ถูกใช้เป็นวัสดุหลักของโครงการ ก็ยิ่งเชื่อมโยงตัวตึกเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีความพยายามที่จะเลือกใช้วัสดุอิฐดินเผาที่ผลิตในท้องถิ่นและบล็อกลมที่มีลวดลายแบบเขมรดั้งเดิม เพื่อให้วัสดุเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมเดิมของคนในพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำสองสระ ร้านอาหาร ห้องจัดงาน และร้านกาแฟเปิดให้บริการ ทีมนักออกแบบหวังว่า Angkor Grace Residence & Wellness Resort จะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ทำให้การมาท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาถือเป็นการพักผ่อนทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแท้จริง Sources :ArchDaily | […]
สวน Grønningen-Bispeparken ที่ปรับปรุงจากพื้นที่รกร้างในโคเปนเฮเกนให้เป็นสวนที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ
ด้วยสภาพอากาศโคเปนเฮเกนที่มีความแปรปรวนสูง จึงได้มีการปรับปรุงพื้นที่ Grønningen-Bispeparken ให้เป็นสวนสาธารณะที่สอดคล้องกับสภาพอากาศซึ่งทั้งล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน โดยแปลงพื้นที่หญ้าโล่งขนาด 20,000 ตารางเมตรที่รกร้างให้กลายเป็นสวนธรรมชาติในเมืองที่มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมสำหรับการใช้งานของทุกคน เดิมทีพื้นที่นี้เป็นโครงการบ้านพักอาศัยตั้งแต่ปี 1950 ก่อนกลายเป็นสนามหญ้ารกร้างที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาจนทรุดโทรม เต็มไปด้วยวัชพืช ดูไม่ปลอดภัย ไม่มีกิจกรรมการใช้งานหรือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ และผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น และสำคัญที่สุดคือ สนามหญ้าที่มีอยู่เดิมไม่สามารถจัดการหรือรองรับน้ำฝนได้ ปี 2020 เทศบาลเมืองโคเปนเฮเกนจึงเฟ้นหาบริษัทออกแบบให้มาเสนอราคากัน จนได้ SLA สตูดิโอออกแบบแนวธรรมชาติของเดนมาร์กมาปรับปรุงพื้นที่กลางแจ้งกว่า 20,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นสวนภูมิอากาศแห่งใหม่ที่จะช่วยป้องกันพื้นที่จากพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วม รวมทั้งยังเพิ่มคุณค่าทางสังคม ธรรมชาติ และวัฒนธรรมให้กับชุมชนและผู้อยู่อาศัยด้วย ด้วยแนวคิดที่ไม่ได้มองว่าฝนเป็นศัตรูแต่เป็นทรัพยากรสำคัญของเมือง SLA จึงพยายามออกแบบวิธีเก็บกักน้ำฝนด้วย ‘ทางน้ำฝน’ และ ‘หลุมต้นไม้’ (BioSwales) จำนวน 18 แห่งเชื่อมต่อกันทั่วทั้งพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ลาดเอียง ที่สามารถเก็บน้ำฝนมากกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรตลอดทั้งปี รวมถึงมีการปลูกต้นไม้ 149 ต้น จาก 23 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่แห่งนี้ยังออกแบบให้ใช้งานเชิงสังคมได้อีกด้วย โดยมี Common […]
Sunlight Dancing in the Sea ยามแสงอาทิตย์กระทบน้ำทะเล
Sunlight Dancing in the Sea เป็นชุดภาพถ่ายที่เล่าเรื่องของทะเลและแสงรวมเข้าด้วยกัน จากผลงานภาพถ่ายส่วนตัวที่บอกเล่าเรื่องราวของแสงในมุมมองต่างๆ ที่พบเจอในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ที่พบเจอด้วยความบังเอิญ ทำให้การบันทึกภาพถ่ายแต่ละครั้งมีมิติที่หลากหลายและน่าหลงใหลซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ หากมองอีกมุมหนึ่งของความเป็นทะเล ผู้คนส่วนใหญ่จะนึกถึงน้ำที่กว้างใหญ่และมีคำบัญญัติไว้ว่า ‘ห้วงน้ำเค็มที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่ามหาสมุทร’ แต่ถึงอย่างนั้น หากไร้แสงสะท้อนส่องลงไป ทะเลก็คงไร้ความหมายและคงไว้เพียงเสียงที่สัมผัสได้ แสงที่ส่องกระทบเข้ากับน้ำ แรงลมในอากาศ และคลื่นที่ซัดผสานรวมเข้าด้วยกันก็คงเหมือนการเต้นระบำของแสงแดดที่มีเวทีเป็นท้องทะเลและฉากหลังที่งดงามตามพื้นที่ ทั้งหมดนั้นเป็นความงามที่เป็นไปเองโดยไม่มีการปรุงแต่ง ธรรมชาติและมนุษย์มักถูกเชื่อมโยงเข้าหาด้วยกันอย่างน่าประหลาด ใช้ร่างกายของเราสัมผัสเข้าไปในทุกอณูที่ธรรมชาติส่งผ่าน จากหนึ่งสิ่งผสานรวมเข้ากับอีกหนึ่งสิ่งก็จะเกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาไหลเวียนไม่รู้จบ ผลงาน Sunlight Dancing in the Sea ไม่ได้เป็นผลงานที่ชวนให้ตั้งคำถาม แต่หากเป็นผลงานที่อยากชวนทุกคนไปหลงใหล ตกหลุมรัก เหมือนนวนิยายโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เล่าเรื่องความรักระหว่างแสงแดดและท้องทะเล ในช่วงเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 (Bangkok Design Week 2025) ผลงานชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งใน Photo Installation ‘1 วัน 1,000 ภาพ ครั้งที่ 3 : Beyond the Sea’ ที่จัดแสดงขึ้นที่ MMAD at […]
‘EcoCrew’ บริการยืม-คืนภาชนะในงานอีเวนต์ ทางเลือกที่ช่วยให้ได้กินดื่มและลดขยะไปพร้อมๆ กัน
งานอีเวนต์นับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขยะจำนวนมาก เพราะตามปกติแล้วภายในงานจะมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มให้บริการผู้เข้าร่วมงาน ภาชนะที่ใช้บรรจุก็มักเป็นแบบใช้แล้วทิ้งเพื่อความสะดวกสบาย จากเพนพอยต์นี้เอง นำมาสู่จุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ EcoCrew ที่ ‘โด-ณัฐพล อินคล้าย’ Co-Founder เล่าให้เราฟังว่า เขาไปเดินงานอีเวนต์กาแฟและพบว่ามีขยะที่เกิดจากแก้วใช้แล้วทิ้งเป็นจำนวนมาก เลยเกิดเป็นไอเดียในการมองหาวิธีจัดการขยะเหล่านี้ จนได้มาเป็น EcoCrew บริการยืม-คืนภาชนะอย่างแก้วและถ้วยรียูสสำหรับใช้ในงานอีเวนต์ ที่เปลี่ยนจากการใช้แล้วทิ้งมาเป็นการยืมไปใช้แล้วคืนเพื่อรับเงินมัดจำคืน โดมองว่า ภาชนะในงานอีเวนต์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เพียงแค่ครั้งเดียว เหมือนกับบริการที่เคยมีมาก่อนในอดีตอย่างน้ำปลาคืนขวด ที่เมื่อใช้ประกอบอาหารหมดแล้วก็นำขวดเปล่ากลับไปคืนที่ร้านได้ ในระยะเวลาหนึ่งปีกว่าๆ ที่เริ่มให้บริการมา EcoCrew ได้เข้าร่วมงานต่างๆ กว่า 30 งาน ซึ่งช่วยลดขยะใช้แล้วทิ้งไปได้กว่า 130,000 ชิ้น และลดจำนวนขยะไปได้ 4 – 5 เท่าเลยทีเดียว ปัจจุบัน EcoCrew เข้าไปให้บริการแทบทุกประเภทงาน ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานแต่งงาน งานวิ่ง งาน Expo งาน Festival หรือแม้แต่งานระดับเมืองอย่าง ‘กรุงเทพกลางแปลง’ และจากงานกรุงเทพกลางแปลงครั้งที่ผ่านมา โดก็สังเกตเห็นว่า แทบจะไม่มีขยะใช้ครั้งเดียวทิ้งให้เห็นเลย ซึ่งนั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีทั้งสำหรับผู้ให้บริการ ผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมงานที่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะไปได้จำนวนมาก รวมถึงยังได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากหลายภาคส่วน […]
พาเหล่านักอ่านเช็กอิน 12 ห้องสมุดในกรุงเทพฯ บรรยากาศดี เดินทางง่าย ฟังก์ชันครบ ตั้งอยู่ในย่านที่ไปเดินเล่นต่อได้
ใครที่กำลังหากิจกรรมสักอย่างทำเพื่อพักผ่อนกายคลายความเครียดในวันที่ยังมีบรรยากาศดีๆ แบบนี้อยู่ การได้อ่านหนังสือในสักมุมหนึ่งของเมืองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะทุกวันนี้ห้องสมุดหลายแห่งในกรุงเทพฯ เป็น ‘ห้องสมุดที่มากกว่าห้องสมุด’ เพราะห้องสมุดในยุคนี้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การใช้งานห้องสมุดง่ายขึ้น มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้ใช้ ตอบโจทย์คนทำงาน Work from Anywhere ในยุคนี้อย่างมาก และในหลายๆ ห้องสมุดก็มีพื้นที่น่าสนใจที่ไม่ใช่แค่มุมหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เล่นบอร์ดเกม พื้นที่ฉายภาพยนตร์ หรือพื้นที่สำหรับเด็ก เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย และพาตัวเองเดินเข้าไปในพื้นที่สงบๆ และอบอุ่นสักแห่งเพื่อเติมพลัง วันนี้คอลัมน์ Urban Guide เลยขอมาปักหมุดพิกัด 12 ห้องสมุด พาทุกคนไปเปิดประตูเช็กอินห้องสมุดในกรุงเทพฯ ฉบับอัปเดตล่าสุด ให้ทุกคนได้เจอมุมอ่านที่ชอบ หนังสือเล่มที่ใช่กัน 01 | ห้องสมุดมารวย ‘ห้องสมุดมารวย’ ถือเป็นห้องสมุดเฉพาะทางด้านการตลาดและการลงทุนแบบครบวงจร และได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดตลาดทุนที่ครบวงจรที่แรกในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีการเพิ่มหนังสือประเภทต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อรองรับนักอ่านทุกเพศทุกวัย ภายใต้คอนเซปต์ ‘ห้องสมุดมีชีวิต’ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่หนังสือเล่มให้อ่านเท่านั้น แต่ยังมีสื่อดิจิทัลต่างๆ สำหรับข้อมูลด้านการลงทุน เพื่อบริการให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฐานข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย พื้นที่ห้องสมุดแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถใช้เสียงได้ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่อ่านหนังสือสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ […]
House of Lucie Samui & Samui Art Center ศูนย์ศิลปะ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในเกาะสมุย ที่จะเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงผู้คนผ่านงานศิลปะ
เกาะสมุยคือปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหมายปองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีทะเลและหาดทรายที่สวยงามแล้ว ยังมี Art Gallery ให้ดื่มด่ำงานศิลป์อีกหลายแห่ง รวมไปถึง ‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ แลนด์มาร์กงานศิลปะแห่งใหม่ในเกาะสมุยที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 25 มกราคมนี้ ที่นี่เป็นทั้งสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ และศูนย์ศิลปะที่ใช้งานอาร์ตเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงผู้คน โดยมีการออกแบบให้พื้นที่เปิดโล่ง มองเห็นบ่อบัวอันเงียบสงบด้านหลัง มากไปกว่านั้นยังมีพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยจุดประกายการสร้างสรรค์งาน และช่วยเหลือ สนับสนุน เชื่อมโยงศิลปินท้องถิ่น ผู้คนในชุมชน เข้ากับศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นล่างเป็นศูนย์ศิลปะสำหรับจัดกิจกรรม ทั้งเวิร์กช็อป การบรรยาย ไปจนถึงการจัดแสดงผลงาน และมีการนำเสนอผลงานของ ‘กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย’ ศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์งานพิมพ์ ภาพเขียน และสื่อผสม ส่วนชั้นที่ 2 คือ House of Lucie แกลเลอรีภาพถ่ายระดับโลกที่มีสาขาอยู่ใน 7 ประเทศรวมถึงประเทศไทย โดยจะเปิดตัวพร้อมกับ ‘ISLAND’ นิทรรศการภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความงดงาม […]
ร่วมลงชื่อทบทวนการผ่านร่างกฎหมาย ม. 69 กับการอนุญาตให้ใช้อวนตาถี่ล้อมจับสัตว์น้ำในเวลากลางคืน
หลังจากสภาฯ ผ่านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ มาตรา 69 ว่าด้วยการห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขต 12 ไมล์ทะเลนับจากทะเลชายฝั่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นกฎหมายห้ามทั่วๆ ไปที่ดีและช่วยรักษาระบบนิเวศสัตว์น้ำ แต่แท้จริงแล้วการแก้ไขร่างกฎหมายนี้กำลังอนุญาตอย่างกลายๆ ให้จับปลาด้วยอวนล้อมขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขตไกลกว่า 12 ไมล์ทะเลได้ ซึ่งจากตัวอย่างอวนแหนั้นมีความเล็กได้ถึง 3 – 5 มิลลิเมตร เป็นขนาดที่ปลายปากกาผ่านไม่ได้ด้วยซ้ำ และยังอนุญาตให้จับสัตว์น้ำในเวลากลางคืนได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องใช้ไฟล่อ ทำให้ปลาตัวเล็กตัวน้อย ลูกปลาหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาติดอวนได้ง่ายขึ้น เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ผลที่ตามมาคือ เหล่าสัตว์น้ำวัยอ่อนจะถูกตัดตอนการเจริญเติบโตโดยอัตโนมัติ และยังทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ เพราะการใช้อวนล้อมสัตว์น้ำในเวลากลางคืนจะมีลูกสัตว์น้ำติดมาราว 50 เปอร์เซ็นต์ และทำลายระบบนิเวศปลาไทย จนอาจกล่าวได้ว่า หลังจากนี้เราอาจไม่มีปลาไทยกินกันอีกเลย สถานการณ์ปัจจุบันของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ หลังจาก สว. ได้รับวาระ 1 เข้าสภาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาแก้ไขร่างเพิ่มเติม และจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา วาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป หากผ่านครบแล้วก็จะบังคับใช้ตามขั้นตอน หลายภาคส่วนจึงออกมาคัดค้านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ […]