
LATEST
รู้จัก ‘Recou’ แกลบรีไซเคิล ทำหน้าที่แทนโฟมกันกระแทก แต่ไม่ทำให้สินค้าและโลกเสียหาย
ปกติเวลาที่เราสั่งเฟอร์นิเจอร์หรือสินค้าต่างๆ มาส่งที่บ้าน นอกจากตัวสินค้าแล้ว ภายในกล่องก็มักมาพร้อมกับโฟมกันกระแทก เพื่อป้องกันความเสียหายในระหว่างขนส่งพัสดุ ข้อดีคือช่วยป้องกันของให้อยู่ในสภาพดีจนถึงมือผู้สั่ง แต่ข้อเสียคือวัสดุเหล่านี้อาจไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไรนัก เพราะมักถูกทิ้งไปเนื่องจากไม่ได้นำไปใช้งานในลักษณะอื่นๆ อีก บริษัท Proservation ในเยอรมนี ได้หาวิธีในการใช้วัสดุอื่นๆ แทนการใช้โฟม เพื่อลดขยะและไม่สร้างมลพิษต่อโลก ซึ่งวัสดุที่บริษัทเลือกใช้นั้นคือแกลบจากพืช โดยปกติแล้ว เมื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพืช แกลบเหล่านี้มักถูกคัดออกเพื่อนำไปทำเป็นที่นอนสัตว์ หรือไม่ก็นำไปเผาทิ้ง Proservation จึงนำเอาแกลบเหล่านี้ไปรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ด้วยการเปลี่ยนให้เป็น ‘Recou’ วัสดุที่มีความอ่อนนุ่มและทนทานต่อแรงกระแทกเช่นเดียวกับโฟม แต่สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักหรือทิ้งได้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเมื่อไม่ได้ใช้งานแล้ว Proservation ตั้งใจทำให้ Recou ใช้งานทดแทนโฟมจำนวนมากในปัจจุบันได้ แต่อย่างไรก็ตาม Recou ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งระยะการผลิตที่ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่า 6 – 8 ชั่วโมงต่อชิ้น น้ำหนักที่มากกว่าโฟม และถึงแม้ว่า Recou จะมีการออกแบบให้ทนทานต่อความชื้น แต่หากโดนความชื้นสูงในระยะเวลานานก็อาจทำให้เกิดกระบวนการย่อยสลาย มีเชื้อรา และไม่สามารถใช้งานต่อได้ Sources :Proservation | proservation.eu/enYanko Design | tinyurl.com/mpwct2jt
เมื่อการซื้อดอกไม้หรือของเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง มีความสำคัญในความสัมพันธ์กว่าที่คิด
ในเดือนแห่งความรัก ผู้เขียนขอชวนคุยเรื่องความรัก ที่บางครั้งก็ดูเหมือนน้อยนิดแต่กลับยิ่งใหญ่ นั่นคือการให้ของขวัญแทนการบอกรัก ที่บางคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอ อยากได้เหลือเกิน โดยเฉพาะในทุกเทศกาลพิเศษ แต่บางคนกลับมองว่านี่เป็นสิ่งไร้สาระและไม่จำเป็น บ้างยังบอกว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลือง ท้าทายอำนาจทุนนิยม ถ้ามองแบบคนไม่โรแมนติกเลยก็เข้าใจได้ว่า การรู้สึกโดนกระตุ้นจากสังคมกลุ่มหนึ่งที่กดดันให้เราต้องเชื่อว่า ‘สิ่งของนอกกาย’ นั้นมีคุณค่ามากกว่าสิ่งอื่น อาจทำให้เรารู้สึกต่อต้านได้ โดยเฉพาะหากของสิ่งนั้นโดนบวกราคาขึ้นหลายเท่าเมื่ออยู่ในบางเทศกาล เช่น ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์ การต้องจ่ายเงินที่เยอะเกินปกติเพื่อทะนุถนอมความสัมพันธ์ที่มันควรเป็นแค่เรื่องของเรา ก็คงทำให้รู้สึกหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละ แต่ความรู้สึกของอีกคนล่ะ เราอาจต้องมองทะลุไปให้เห็นถึงจิตใจของเขาหรือเปล่า ความน้อยใจจากสังคมในโซเชียลมีเดีย เราอยู่ในยุคที่โลกจริงถูกกลืนเข้าไปอยู่ในโลกโซเชียลมากขึ้นทุกที จนหลายคนยังหลงคิดเลยว่า ถ้าฉันไม่โพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย คนอื่นจะรู้ไหม แล้วถ้าคนอื่นไม่รู้ เรื่องของเรามันจะเป็นเรื่องจริงไหม ด้วยแพลตฟอร์มที่สร้างมาให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบกัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกโซเชียลมีอิทธิพลอย่างมากในการวัดค่าความรักของตัวเองผ่านเรื่องราวของคนอื่น เช่น การรู้สึกไม่ไว้ใจหากแฟนตัวเองไม่ลงรูปคู่ หรือความรู้สึกน้อยใจที่เห็นแฟนไม่ซื้อดอกไม้มาให้ ทั้งๆ ที่คู่อื่นเขาโชว์ดอกไม้ช่อใหญ่กันเกลื่อนอินสตาแกรมไปหมด ผลกระทบจากโซเชียลมีเดียอาจทำให้ฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่เป็นที่รักมากพอ และอีกฝ่ายหนึ่งก็รู้สึกกดดันที่ต้องแสดงออกซึ่งความรักมากขึ้น ซึ่งปกติเขาอาจไม่ใช่คนที่ทำแบบนั้น อะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้อาจกำลังบั่นทอนความสัมพันธ์อยู่ โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันฉุกคิดก็ได้ สิ่งที่อยู่ในใจมีมากกว่าแค่ของที่ซื้อให้กัน ผู้หญิงคนหนึ่งอาจโกรธมากที่แฟนลืมซื้อน้ำผลไม้ปั่นที่เธอชอบมาให้ ทั้งๆ ที่เขาขับรถผ่านร้านนั้น ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องดูงี่เง่า แต่ลึกๆ แล้วมันไม่ใช่แค่การเจ็บใจที่ไม่ได้ทานของโปรด แต่คือความโดดเดี่ยวในความรู้สึกที่ไม่ได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษจากคนรักของตัวเอง ไม่ต่างกัน อีกคนหนึ่งอาจงอนมากที่คนรักไม่เคยซื้อของขวัญอะไรให้เลย […]
คืนความร่าเริงให้สัตว์เลี้ยงสูงวัย ‘Steady’ อุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับสัตว์ ด้วยการใช้เข็มขัดพยุงขณะเคลื่อนไหว
ในการเลี้ยงสัตว์สักตัว เราคงคาดหวังให้พวกเขาอยู่กับเราได้นานที่สุด แต่เมื่อสัตว์เหล่านั้นแก่ตัวไป จากที่ต้องพาไปเดินเล่นทุกเย็น น้องๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวได้น้อยลงเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจากอายุที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือน้องหมาให้ใช้ชีวิตในบั้นปลายได้อย่างมีความสุข สามนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮงอิก กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้ร่วมมือกันออกแบบอุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับสัตว์สูงวัยในชื่อ ‘Steady’ Steady ทำงานโดยใช้กลไกคล้ายกับเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ที่ปรับขนาดให้พอดีกับตัวสุนัขได้ และมีความยืดหยุ่น ทำให้น้องหมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มาเป็นตัวช่วยในการพยุงใต้ตัวน้องหมาสูงวัยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวจากหมอนรองกระดูก ข้อต่ออักเสบ หรือกระดูกเคลื่อน ในขณะเดียวกัน สายรัดยังทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุต้องหยุดแบบกะทันหัน กลไกการล็อกในสายรัดจะเป็นตัวกระชับและยึดตัวสุนัขไว้อย่างแน่นหนา อีกทั้งส่วนของล้อยังมีการติดตั้งเบรกเท้าสำหรับหยุดการเคลื่อนไหวแบบกะทันหันในกรณีฉุกเฉิน และมีการติดตั้งเซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาต่อสัตว์เลี้ยงสูงวัยในอนาคต Sources :Designboom | t.ly/xZ9Z0Dezeen | t.ly/6diaOTrend Hunter | t.ly/W_prB
สะพาน Golden Gate ติดตั้งตาข่ายป้องกันการกระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่มีสถิติเฉลี่ยกว่า 30 รายต่อปี
สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge) ในซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างแสนสวยงามและยิ่งใหญ่ที่ใครไปก็ต้องถ่ายรูปคู่กลับมาด้วย ทว่านับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1937 สะพานแห่งนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากกว่า 1,800 ชีวิตเลือกปลิดชีวิตตัวเอง จนมีสถิติยืนยันว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีการพยายามฆ่าตัวตายที่สะพานโกลเดนเกตเฉลี่ยกว่า 30 รายในทุกปี ด้วยเหตุนี้ แขวงทางหลวงสะพานโกลเดนเกต ‘Golden Gate Bridge, Highway and Transportation District’ (GGBHT) พยายามป้องกันการสูญเสียด้วยการร่วมมือกับสตูดิโอออกแบบท้องถิ่น ‘MacDonald Architects’ ริเริ่มโครงการติดตั้งตาข่ายบริเวณด้านข้างสะพาน เพื่อป้องกันการกระโดดจากบนสะพานมาตั้งแต่ต้นปี 2017 แต่เนื่องจากมีเหตุล่าช้าทางงบประมาณ ทำให้โครงการต้องขยายเวลามาเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สะพานโกลเดนเกตได้ติดตั้งตาข่ายป้องกันเสร็จสิ้นกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสองฝั่งของสะพานเต็มความยาวสะพานกว่า 2.7 กิโลเมตร ด้วยการใช้สเตนเลสในเกรดที่ใช้สำหรับงานทางทะเล (Marine-grade Stainless Steel) สร้างตาข่าย เนื่องจากเป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน และติดตั้งตาข่ายในลักษณะที่ยื่นออกจากสะพานเหนือน่านน้ำขนาด 6 เมตร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าครอบคลุมระยะการกระโดดของผู้ที่ต้องการจบชีวิตตนเอง ในปี 2023 […]
Waiting for a Snake รถไฟฟ้ามาหานคร
พ.ศ. 2542 เป็นปีที่คนไทยได้สัมผัสกับระบบขนส่งมวลชนแบบใหม่ในนาม ‘รถไฟฟ้า’ เป็นครั้งแรก ก่อนที่เวลาต่อมา มันจะซอกซอนและยืดเหยียดไปตามพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหมือนงูยักษ์ที่เลื้อยไปตามถนน ย่าน และสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง นอกจากจะทำหน้าที่ขนส่งมวลชนแล้ว ทุกที่ที่งูเหล่านี้เลื้อยผ่าน ยังทำให้ภูมิทัศน์ของเมืองเปลี่ยนแปลงไปทุกมิติทั้งเชิงบวกและลบ อาคารที่อยู่อาศัยแนวตั้งและอาคารพาณิชย์มากมายผุดขึ้นตามเส้นทางของมัน ที่ดินราคาสูงขึ้น และโอกาสในการทำงานของคนในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเช่าที่พักอาศัยในบริเวณนั้นก็มักจะสูงตาม อีกทั้งการก่อสร้างมันขึ้นมายังทำให้เกิดมลพิษทั้งทางน้ำและอากาศ โดยเฉพาะที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอาการขัดข้องและอุบัติเหตุจากระบบต่างๆ รวมถึงอัตราราคาที่ต้องจ่ายเพื่อใช้บริการมัน รถไฟฟ้าจึงเปรียบเสมือนงูใหญ่ที่มอบโอกาสในการเดินทาง และอสรพิษที่สามารถทำร้ายผู้คนได้ แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร ชาวเมืองก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาเจ้างูตัวนี้ เพื่อการเดินทางที่มีความแน่นอนทางเวลา (หากระบบไม่รวน) รวมไปถึงความปลอดภัยเมื่อเทียบกับการเดินทางบนท้องถนน หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]
Finding Dating Places in Bangkok รวมสถานที่เดตในเมืองใหญ่จากชาว Urban Creature
เนื่องในเดือนแห่งความรัก ที่เหล่าคนมีคู่ฮาๆ คนโสดฮือๆ สิ่งหนึ่งที่ชาวโซเชียลเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ต คงหนีไม่พ้นสถานที่เดตสุดโรแมนติก แต่ไม่ว่าจะหาเท่าไหร่สุดท้ายก็ไปจบที่เดินห้างฯ กินอาหารที่ร้านอาหารสักแห่ง หรือนั่งจับมือดูหนังกันสักเรื่อง เชื่อเถอะว่าต้องมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากหาสถานที่ดีๆ สำหรับทำกิจกรรมร่วมกับหวานใจ แบบที่ถ้าหวนกลับไปนึกถึงเมื่อไหร่ก็ต้องรู้สึกประทับใจทุกครั้ง แต่ถ้าไม่ใช่สถานที่อย่างห้างฯ ใจกลางกรุง แล้วกรุงเทพฯ จะมีที่ไหนให้ไปกับเขาบ้าง เราเลยขอรวบรวมสถานที่เดตในฝันของชาว Urban Creature ที่จะมาทำให้เห็นว่า จริงๆ แล้วในเมืองของเราก็มีสถานที่ดีๆ เหมาะกับการออกเดตอยู่เหมือนกัน สถานที่เดต : สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)โลเคชัน : จตุจักร (maps.app.goo.gl/Tth6TLpnTZSe9hMy7)ชื่อผู้เลือก : เดือนเพ็ญ จุ้ยประชาตำแหน่ง : Managing Editor นอกจากร้านหนังสืออิสระที่มักชวนคนไปเดต สวนสาธารณะก็เป็นหนึ่งในสถานที่เดตที่เราชวนคนไปด้วยบ่อยๆ เพราะด้วยความที่เป็นคนชอบเดินอยู่แล้ว และคิดว่าการได้มีบทสนทนากันเยอะๆ จะช่วยให้เรารู้จักกันและกันมากขึ้น แต่ถ้าเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดพื้นที่ไม่กว้างขวาง ก็อาจเดินครบจบไวไปหน่อย เราเลยขอเลือก ‘สวนรถไฟ’ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่เป็นร้อยๆ ไร่ มีหลากหลายส่วนให้ไปสำรวจ รวมถึงมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ ตั้งแต่เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ แถมบางทีก็มีดนตรีในสวนให้ฟังด้วย มากไปกว่านั้น การเดินเล่นพูดคุยในสวนที่มีสีเขียวล้อมรอบก็ทำให้เรารู้สึกสดชื่น หายใจได้เต็มปอด […]
จำลองสถานการณ์แบบไทยๆ จะเป็นอย่างไรถ้า ‘Gate’ จากเรื่อง Solo Leveling เปิดขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ
เอาล่ะ เหล่า ‘ฮันเตอร์’ ผู้ถูกปลุกพลังทั้งหลาย ในช่วงที่ฮันเตอร์จินอูและสมุนเงาในเรื่อง Solo Leveling กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังจากมันฮวาสุดฮิตของ KAKAO WEBTOON กลายเป็นแอนิเมชันฉายทาง Netflix และ TrueID งานนี้ Urban Creature เลยขออิเซไกไปในโลกสุดแฟนตาซี ลองคิด Scenario ขึ้นเล่นๆ ว่า ถ้าอยู่ดีๆ เกิดเหตุประตู ‘เกต’ (Gate) เปิดขึ้นใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เชื่อมระหว่างโลกของเรากับ ‘ดันเจี้ยน’ อีกฝั่งที่เต็มไปด้วยเหล่า ‘มอนสเตอร์’ เหมือนในเรื่อง ‘Solo Leveling’ ขึ้นมาจริงๆ จะเป็นยังไงกันนะ Step 1 ปรากฏการณ์ไทยมุง แม้ไม่มีเกาหลีมุงเหมือนในมันฮวา แต่ประเทศไทยเรามี ‘ไทยมุง’ กับเขาแน่นอน อันนี้รับประกัน แถมยิ่งเป็นเกตระดับสูงเท่าไหร่ เชื่อว่าคนจะมามุงเยอะเท่านั้น เพราะสิ่งที่ตามมาคือฮันเตอร์แรงก์สูงสุดเท่น่ะสิ! งานนี้จะได้มีเรื่องไปเมาท์กับเพื่อนต่อยาวๆ Step 2 ทวิตเตอร์ (X) คือแหล่งข่าวชั้นดี ว่าแต่จะไปเมาท์ที่ไหนดี […]
คุยเบื้องหลังหนังธีสิสเด็กฟิล์ม กับ ‘อาจารย์ญาณิน พงศ์สุวรรณ’
การจะทำหนังสักเรื่องให้ออกมามีคุณภาพ ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ นักแสดง คนเขียนบท ไปจนถึงทีมโปรดักชัน กระบวนการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจึงต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง แม้แต่หนังสั้นนักศึกษาของเอกภาพยนตร์ที่มีต้นทุนสูงขึ้นทุกปี Urban Creature ชวนมาสนทนาประเด็นนี้กับ ‘อาจารย์ญาณิน พงศ์สุวรรณ’ อาจารย์เอกภาพยนตร์ คณะไอซีที ของมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยพูดถึงเบื้องหลังการศึกษาหลักสูตรภาพยนตร์ ที่ไม่ใช่แค่สอนทำหนัง แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการกับทุนสร้างให้พอดีและสอดคล้องกับคุณภาพของหนังที่ฉาย โดยที่อาจารย์ไม่ต้องกำหนดขอบเขตความคิดของนักศึกษาเพื่อที่จะลดต้นทุนในการสร้างหนังสั้น ตามไปฟังเบื้องหลังการเรียนของเด็กฟิล์มในบทสัมภาษณ์นี้
นิทรรศการศิลปะ ‘เมืองลับแล’ บอกเล่าเรื่องกรุงเทพฯ ที่มองไม่เห็น วันนี้ – 23 มี.ค. 67 ที่ SAC Gallery
‘กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัดวังงามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย’ คำขวัญกรุงเทพฯ ที่พูดถึงความเจริญของเมืองผ่านแง่มุมที่สวยหรู แต่ด้วยการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทำให้กรุงเทพฯ ในจินตนาการนั้นแตกต่างกับความเป็นจริง ‘เมืองลับแล’ (Invisible Town) คือนิทรรศการที่สะท้อนถึงผู้คนและกรุงเทพฯ เมืองที่กำลังพัฒนาผ่านผลงานศิลปะของ ‘มาเรียม-ธิดารัตน์ จันทเชื้อ’ ศิลปินหญิงชาวมุสลิม ที่มองเห็นถึงปัญหาทั้งการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมือง ความบกพร่องในการวางผังเมือง และการคอร์รัปชัน รวมไปถึงบางพื้นที่ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกันกับแหล่งทิ้งขยะขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรม ที่หลายคนอาจมองข้ามผลกระทบที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไป ผลงานในนิทรรศการนี้มีแนวความคิดการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับสิ่งของเหลือใช้ เช่น กระป๋องบุบ มุ้งลวดกันยุง กระดาษลังใช้แล้ว กล่องนม เหล็กดัด และใช้ผ้ามัดย้อมหรือผ้าพิมพ์ลายภาพสถานที่สื่อถึงการตระหนักรู้เรื่องหมอกควัน แสดงให้เห็นถึงมลพิษทางอากาศที่เป็นปัญหาแก่ผู้คนในประเทศไทยและกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอในลักษณะเหมือนช่องหน้าต่างและฉากกั้นห้อง ที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งภายในบ้านแบบไทยและบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมีการนำเอาผนังรีไซเคิลมาสร้างเป็นงานจิตรกรรมขนาดใหญ่อีกด้วย เปิดประสบการณ์เมืองลับแล (Invisible Town) ที่ SAC Gallery ตั้งแต่วันนี้ – 23 มีนาคม 2567 ทุกวันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 11.00 – 18.00 น.
ค้นหาความพิเศษของวันธรรมดาในหนังเรื่อง Perfect Days
ไม่เกินจริงแต่อย่างใดที่จะกล่าวว่า Perfect Days คือหนังที่มอบการมองหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละวันในการใช้ชีวิต และเป็นความสุขให้การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ดีดั่งฝัน วันที่ผิดหวังเกินทน วันหลังจากนี้ หรือวันนี้ในชั่วขณะที่กำลังเกิดขึ้นก็ตาม ทุกๆ วันคือวันวันหนึ่งที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่าฟังดูคลิเชและไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย แต่หนังญี่ปุ่นที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมเรื่องนี้กลับมอบประสบการณ์ที่ต่างออกไปให้ผู้ชมอย่างเราได้ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครชายผู้ประกอบอาชีพเป็นคนทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเป็นงานหนักหนาที่หลายคนในสังคมแสนรังเกียจ ดูไม่น่ามีความสุขได้เลย แต่เรากลับมองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการออกไปทำงานในแต่ละวันอย่างเปี่ยมล้นจนน่าประหลาดใจ รู้ตัวอีกที การได้เฝ้ามองเขาทำสิ่งต่างๆ ก็กลายเป็นความเพลิดเพลินใจอย่างที่หาไม่ได้ในหนังเรื่องไหนมาก่อน ไม่ว่าแต่ละวันจะเป็นวันที่ดี วันที่ผิดหวัง วันที่ผ่านไปแล้ว หรือวันที่ยังมาไม่ถึง ตัวละครนั้นยังคงมีจิตใจที่อยู่กับปัจจุบันชั่วขณะนั้น แม้ฟังดูเรียบง่ายและไร้ซึ่งแก่นสาร แต่การใช้ชีวิตในแต่ละวันอันธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่อย่างใดนั้นกลับสอนใจเราให้ลองหยุดชื่นชมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้นและละทิ้งทุกสิ่งไว้ก่อน อะไรที่ทำให้ผู้กำกับชาวเยอรมันถ่ายทอดหนังที่สะท้อนชีวิตของชายชาวญี่ปุ่นออกมาแบบนั้น คอลัมน์เนื้อหนังอยากพาไปสำรวจแนวคิดและวิถีการทำงานของคนญี่ปุ่นใน Perfect Days กัน วันธรรมดาที่เปลี่ยนไปเพราะวิธีคิดในการใช้ชีวิต เมื่อมองดูชั้นหนังสือตามร้านหนังสือบ้านเรา บรรดาหนังสือพัฒนาตนเองในชั้นเหล่านั้นมักเป็นหนังสือที่หยิบยกคำญี่ปุ่นมาใช้เป็นชื่อหนังสือปรัชญาชีวิต ไม่ว่าจะ ‘อิคิไก’, ‘อิจิโกะ-อิจิเอะ’ หรือ ‘มตไตไน’ เป็นต้น แต่สำหรับคนญี่ปุ่นคงจะมองเป็นคำทั่วๆ ไป เป็นวิถีชีวิตที่พวกเขาใช้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เพราะมันฝังรากลึกในทุกสิ่งที่คนญี่ปุ่นเป็น ซึ่งคงยากที่จะสอนสิ่งเหล่านี้หรืออธิบายให้เข้าใจได้อย่างที่พวกเขาเข้าใจ แม้แต่จะอธิบายความหมายของคำเหล่านี้ออกมาให้คนญี่ปุ่นฟังเองยังเป็นเรื่องยาก เพราะมันคือเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของพวกเขา น่าสนใจที่คนญี่ปุ่นให้ความหมายกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน […]
‘Gratitude Jar’ แอปฯ บันทึกความรู้สึก ให้กำลังใจตัวเอง เปลี่ยนวันที่แย่ให้ดีขึ้น ผ่านข้อความที่พับดาวไว้ในขวดโหล
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความกดดัน ผสมกับความเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน จนเผลอสร้างมวลลบให้ตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่า บางครั้งข้อความสั้นๆ ที่พูดถึงสิ่งดีๆ เพียงเล็กน้อย ก็สามารถฉุดเราขึ้นมาจากห้วงแห่งความเศร้าได้ไม่ยาก ย้อนกลับไปในอดีต หลายคนคงเคยเขียนบันทึกประจำวันถึงวันดีๆ หรือพับดาวบันทึกความทรงจำดีๆ ไว้ในขวดโหล ที่แค่ได้ย้อนกลับมาอ่านข้อความก็หัวใจพองโตอีกครั้ง สำหรับใครที่คิดถึงวันวานอย่างการพับดาวใส่ขวด เรามี ‘Gratitude Jar’ แอปพลิเคชันไดอารีบันทึกสิ่งดีๆ ประจำวัน เพื่อเปลี่ยนวันที่แย่ให้ดีขึ้นมาฝาก การทำงานของ Gratitude Jar คือ ในแต่ละวันเราสามารถบันทึกความรู้สึกเก็บพับเป็นดาวใส่ขวดโหลได้วันละ 1 ดวง และเมื่อไหร่ที่เศร้า แอปฯ ก็มีฟีเจอร์ ‘Jar Shake’ ที่จะช่วยให้ความเศร้านั้นหายไปด้วยการให้เราเขย่าโทรศัพท์หรือกดที่คำว่า Shake เพื่อสุ่มข้อความดีๆ ในโหลแก้วที่เราเคยบันทึกไว้ขึ้นมาอ่าน นอกจากนี้ สำหรับชาวขี้ลืมที่เพิ่งเริ่มต้นเขียนบันทึกประจำวัน ทางแอปฯ ก็มีฟีเจอร์ตั้งเวลาแจ้งเตือนให้เรากลับมาบันทึกเรื่องราวที่เจอในระหว่างวันได้ แถมถ้าโมเมนต์ดีๆ นั้นเกี่ยวข้องกับคนรอบตัว แอปฯ ยังเปิดโอกาสให้เราส่งต่อความรู้สึกขอบคุณไปยังพวกเขาผ่านฟีเจอร์ ‘Share Your Gratitude’ ได้ด้วย ใครที่อยากพับดาวให้ใจฟู เข้าไปดาวน์โหลดแอปฯ ได้ที่ t.ly/mCEVo
5 Things I Love-Hate about Bangkok รักความสบาย แต่เกลียดจะตายกับชีวิตในเมือง
‘รักนะ แต่ก็เกลียดเหมือนกัน’ อาจเป็นหนึ่งในความรู้สึกของการเผชิญหน้ากับ Toxic Relationship ที่คอยบั่นทอนชีวิตทุกวัน ซึ่งความสัมพันธ์สุด Toxic นี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ระหว่างคนด้วยกันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสัมพันธ์ของเมืองและคนที่อยู่อาศัยในเมืองด้วย วาเลนไทน์ปีนี้ Urban Creature ขอขยับออกจากความสัมพันธ์แบบโรแมนติกมาพูดถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบ ‘Love-Hate Relationship’ ของคนและเมืองกันบ้าง ว่ามีอะไรที่ทำให้เราทั้งรักทั้งเกลียด จนหนีออกจากความสัมพันธ์พังๆ นี้ไม่ได้ วินมอเตอร์ไซค์ อยู่ในเมืองรถติดจะตาย แต่ไม่เป็นไร เพราะไม่ต้องขับรถก็เดินทางในเมืองได้ง่ายๆ ด้วยขนส่งสาธารณะที่มีให้เลือกหลากหลาย (แต่ไม่ดีสักอย่าง) ซึ่งบริการที่ดูจะได้ใช้บ่อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่สามารถพาเราซอกแซกฝ่าการจราจรที่ติดขัดไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะเร็วรี่แค่ไหนก็มีปัญหามากมายให้ต้องระแวดระวัง ทั้งความอันตรายที่เกิดจากการขับขี่เร็วเกินไป บางคนก็รอติดไฟแดงไม่เป็น เห็นช่องว่างก็รีบพุ่งตัวออกไปทันที หรือบางทีก็มีการคิดราคาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งความรักตัวกลัวตายก็ทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยในชีวิต ถึงจะเกลียดที่ต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่ก็รักชีวิตเมืองที่มีวินมอเตอร์ไซค์ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องทรมานเดินฝ่าความร้อน ห้างสรรพสินค้า นัดเจอเพื่อนทีไร สุดท้ายก็หนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าทุกที ถึงจะเปลี่ยนย่านไปเรื่อยๆ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนและฝุ่นควันที่ลอยคว้างตลอดปีตลอดชาติ ก็ไม่มีที่ไหนจะเหมาะกับการเป็นจุดหมายนัดเจอกันในเมืองมากไปกว่านี้อีกแล้ว แม้การเดินเล่นหรือกินข้าวในห้างฯ จะเย็นสบายดี แต่พอไปบ่อยๆ ก็เริ่มจะเบื่อ บางครั้งก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปสนุกที่อื่นบ้าง เช่น ออกไปนั่งปิกนิกกับเพื่อนสาวท่ามกลางสวนดอกไม้ หรือออกไปนอนอ่านหนังสือรับลมเย็นๆ ในสวนแบบเซ็นทรัลพาร์ก ทีนี้พอนึกถึงค่าฝุ่นที่แดงแจ๋แล้วก็คงต้องขอกลับไปอยู่ในห้างฯ เหมือนเดิมแล้วกัน […]