หลังจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอัตราค่าโดยสารสาธารณะพากันยกขบวนพาเหรดขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดอาหารยังชีพคู่บ้านคนไทยอย่าง ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ก็ทนแบกต้นทุนไม่ไหว จ่อขึ้นราคาตามมาติดๆ
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เช้านี้ วันที่ 16 สิงหาคม 2565 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ยี่ห้อ ได้แก่ ยำยำ ไวไว มาม่า นิสชิน และซื่อสัตย์ ได้จับมือกันเข้าหารือกับกรมการค้าภายใน (คน.) เพื่อชี้แจงถึงต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว และขอปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นซองละ 1 – 2 บาท เป็นการร่วมกันเฉพาะกิจที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในอดีต
หลังจากหลายเดือนก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อต่างมีการยื่นขอปรับราคาขึ้น เพราะภาระต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักในการผลิตอย่าง แป้งสาลีและน้ำมันปาล์มที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว
บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ทางแบรนด์ได้มีการยื่นขออนุมัติต่อกรมการค้าภายในมาสักพักแล้ว เพื่อขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ ‘มาม่า’ และ ‘ซื่อสัตย์’ ขึ้น 2 บาทต่อซอง จาก 6 บาท เป็น 8 บาทต่อซอง เหตุแบกรับต้นทุนการผลิตไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในยังไม่สามารถยืนยันหรือได้ข้อสรุปว่าการปรับขึ้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
แต่หากมีการอนุมัติให้ขึ้นราคาเมื่อไหร่ ทางเครือสหพัฒน์จะทำการปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นจากเดิมโดยไม่ทำการแจ้งผู้จัดจำหน่ายสินค้าล่วงหน้า เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดการกักตุนสินค้าเกิดขึ้น