ช่วงที่หยุดอยู่บ้านยาวๆ นั้น เราเชื่อว่าบางคนอาจจะมีอาชีพใหม่ให้กับตัวเองบ้าง บางคนก็ไปทำสวนปลูกต้นไม้ เป็นแดนเซอร์จำเป็น หรือแม้แต่เป็นเชฟลุยเข้าครัวโชว์ฝีมือเองอยู่บ่อยครั้ง แต่ใกล้ๆ สิ้นเดือนแบบนี้ บางทีเจอช่วงข้าวยากหมากแพงเครื่องปรุงทำกับข้าวที่เยอะๆ อาจจะไม่เพียงพอ แต่ ! ไม่อยากให้กังวลใจไป เพราะมีแค่น้ำปลา น้ำตาล และน้ำมันหอยก็เอาอยู่ทุกเมนู
ทั้ง 3 เครื่องปรุงนั้นจะช่วยให้อาหารมื้อนั้นๆ กลมกล่อมขึ้นอย่างแน่นอน
1. น้ำปลา : เพิ่มรสชาติเค็มและหอมให้กับอาหาร หากได้น้ำปลาดี แค่เหยาะบนข้าวสวยร้อนๆ ก็อิ่มไปได้ตั้งหนึ่งมื้อ
2. น้ำตาล : เติมความหวานกันนิดหน่อย ช่วยให้มีความอร่อยครบรสมากขึ้น
3. น้ำมันหอย : เพิ่มความนัวของน้ำมันหอยลงไปบ้าง เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าใส่น้ำมันหอยกับอะไรก็อร่อย
ดังนั้นเรามาดูกันว่าเครื่องปรุง 3 อย่างนี้จะเป็นพระเอกช่วยให้ 5 เมนูต่อไปนี้อร่อยได้อย่างไร และขอบอกว่า วิธีการทำเมนูแต่ละอย่างนั้นก็แสนจะง่ายดาย
| ‘กะเพรา’
เมนูเบสิคทั้งทำง่าย และกินง่าย แถมครบรสตามสไตล์คนไทย
1. ตั้งน้ำมันจนร้อนได้ที่ โขลกพริกและกระเทียมใส่ลงไป ผัดซ้ายพลิกขวาจนเครื่องเทศมีกลิ่นหอม
2. หาเนื้อสัตว์ที่มีอยู่ในตู้เย็น นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ หรือสับละเอียด ใส่ลงไปผัดจนสุก
3. จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตามด้วยน้ำมันหอย ผัดให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
4. ชิม และค่อยๆ ปรุงรสชาติตามที่ชอบ เมื่อเข้ากันได้ดีให้ปิดไฟ และใส่ใบกะเพราลงไปคลุกๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย
| ‘ผัดกระเทียม’
เมนูโปรดยกมาเอาใจสำหรับคนไม่กินผัก เพราะมีแค่กระเทียมเท่านั้น ก็ได้รสชาติความนัวแล้ว
1. ผัดกระเทียมที่โขลกแล้วเข้ากับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุก
2. ปรุงรสชาติด้วยน้ำมันหอย น้ำตาล ตามด้วยน้ำปลาอีกนิดหน่อยให้พอมีรสชาติเค็ม
3. ปิดไฟตักใส่จาน พร้อมโรยด้วยกระเทียมเจียว เพื่อเพิ่มความหอมให้ยิ่งขึ้น เสร็จแล้วก็เตรียมตักข้าวสวย และราดเมนูกระเทียมลงบนจาน พร้อมกินได้เลย
| ‘ผัดพริกเผา’
เมนูที่มีความหอมหวาน แทรกด้วยความเผ็ดร้อนนิดหน่อย แต่ช่างเข้ากันเหลือเกิน
1. ผัดกระเทียมกับพริกที่โขลกไว้ให้หอม
2. ใส่เนื้อสัตว์ตามต้องการไปคลุกให้เข้ากันอย่างทั่วถึง
3. ตักพริกเผาใส่ลงไป จากนั้นเริ่มปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมันหอย แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาลทีละน้อย อย่าเยอะเกิน เพราะในพริกเผาบ้านเรานั้นหวานอยู่แล้ว แล้วคนให้เข้ากัน
4. หากในตู้เย็นมีนมข้นจืด ให้ใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความมันได้เลย
5. ปิดท้ายด้วยการโรยใบโหระพา แค่นี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
‘ผัดพริกแกง’
เวลาร้อนๆ ต้องกินกับข้าวที่มีรสชาติเผ็ด และครบเครื่องสักจาน ดังนั้นผัดพริกแกงถือว่าขาดไม่ได้
1. ผัดพริกแกงด้วยไฟเบาๆ จนพริกแกงสุก และหอมไปทั่วบ้าน
2. ใส่เนื้อสัตว์ลงไปได้เลย จากนั้นผัดๆ คลุกๆ ให้สุกได้ที่
3. ตามด้วยใส่สมุนไพร อย่างตะไคร้ และใบมะกรูดซอยลงไป เพื่อเพิ่มความหอมชวนทาน
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมันหอย ตามปริมาณที่ตัวเองชื่นชอบ
5. ปิดท้ายด้วยผัก อย่างมะเขือเปราะ ใบมะกรูดฉีกอีกสัก 2-3 ใบ รอจนสุก และตักใส่จานให้ที่บ้านลองชิมได้เลย
| ‘ผัดน้ำปลา’
เมนูที่ง่ายแสนง่าย ใช้เวลาน้อยนิด และได้ทั้งผักที่กรอบ หอม ครบนิยามของผัดผักแน่นอน
1. หั่นกะหล่ำปลีให้เป็นชิ้นพอดีคำ และทุบกระเทียมจีนเตรียมไว้
2. หาถ้วยสักใบใส่กะหล่ำปลีลงไป และปรุงด้วยน้ำมันหอย น้ำตาล และน้ำเปล่านิดหน่อยโดยไม่ต้องคน
3. ตั้งกระทะให้ร้อนจัด ใส่น้ำมัน แล้วเทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน
4. จากนั้นค่อยหยอดน้ำปลาลงไปที่ขอบกระทะ ปล่อยให้มีกลิ่นหอม ผัดให้เข้ากันอีกนิดหน่อย และรีบตักขึ้นจานก่อนที่ผักจะสุกจนเกินไป
Source : พงศกร ลิขิตพรสวรรค์ – FB : Poyy Likitpornsawan