แม้จะผ่านมาเกือบครึ่งทาง แต่เชื่อว่าหลายคนยังมีอีกหลายย่านใน Bangkok Design Week 2025 ที่ยังไม่ได้ย่างเท้าเข้าไปเยือนกัน เพราะครั้งนี้เทศกาลฯ จัดขึ้นในหลายย่านของกรุงเทพฯ แถมยังมีระยะเวลาจัดงานที่แตกต่างกัน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเร่งรีบเก็บให้ครบทุกย่านเหมือนปีก่อนๆ
วันนี้คอลัมน์ Events ขอพามาโฟกัสกันที่ย่านหัวลำโพงกับ ‘HUA LAMPHONG DESIGN WEEK 2025’ ที่ปีนี้จัดขึ้นเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 8 – 9, 15 – 16, 22 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่ซอยพระยาสิงหเสนี, ชุมชนตรอกสลักหิน, ซอยสุนทรพิมล ไปจนถึงถนนรองเมือง โดยมี Co-Host ย่านเจ้าเดิมคือริทัศน์บางกอก (RTUS-Bangkok)

นอกจากไฮไลต์ที่เราเลือกมาให้ทุกคนจับมือจูงแขนพาเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจไปเดินเที่ยววีกเอนด์นี้ ใครที่อยากรู้ว่าในหัวลำโพงมีกิจกรรมอะไรอีก เข้าไปดูได้ที่ t.ly/oiwM_ เพราะครั้งนี้หัวลำโพงจัดเต็มกับ 12 นิทรรศการ 1 เวิร์กช็อป 4 อีเวนต์ 1 เสวนา และ 2 ทัวร์เลย
In the red light, WE THRIVE
EXHIBITION @ชุมชนตรอกสลักหิน และโรงแรมสเตชั่น

แม้กาลเวลาจะทำให้ความเป็นอยู่ภายใน ‘ชุมชนตรอกสลักหิน’ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ปัญหาต่างๆ เริ่มหมดไป เกิดอาชีพใหม่ที่สุจริตและความสงบสุข แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตรอกสลักหินในภาพจำของใครหลายคนยังถูกตีตราเป็นพื้นที่อันตราย เนื่องจากเคยเป็นแหล่งอโคจรในยุคอันธพาลครองเมือง ภายในเต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘RED ZONE’ ทำให้ผู้คนต่างหลบเลี่ยงที่จะเข้าไปในพื้นที่เพราะกลัวภัยอันตรายจากสภาพแวดล้อมในชุมชนที่อาจมาเยือน
นิทรรศการ ‘In the red light, WE THRIVE’ คือการหยิบเอา ‘พื้นที่สีแดง’ ตัวแทนของความอันตรายมาตีความใหม่จากมุมมองของ 3 ศิลปิน ได้แก่ ‘กำปุ๊ง-ปองณภัค ฟักสีม่วง’, ‘เฟิร์ส-อชิตพล พานทอง’ และ ‘บอส-พิสิษฐ์ ธัญยนพพร’ ที่อยากชักชวนผู้คนมาร่วมกันเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อชุมชนแห่งนี้ ผ่านผลงาน Installation & Olfactory Art เพื่อให้คนภายนอกได้สัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริงของชุมชนตรอกสลักหิน


ไกล ( ้) บ้าน
EXHIBITION @พื้นที่สร้างสรรค์ใต้ทางด่วน ตรอกสลักหิน

นิทรรศการ ‘ไกล ( ้) บ้าน’ บริเวณพื้นที่สร้างสรรค์ใต้ทางด่วนในชุมชนตรอกสลักหิน จากริทัศน์บางกอก x กลุ่มนักสร้างสรรค์ x Hear & Found คือพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่เปรียบเสมือน ‘เส้นเลือดฝอยเมือง’ ซึ่งหล่อเลี้ยงย่านในระดับจุลภาคด้วยอาชีพค้าขายสินค้าและบริการ โดยพวกเขาล้วนทำงานอย่างหนักและอาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดที่ไม่มีความมั่นคงทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ เป็นประชากรแฝงที่ไม่ปรากฏในทะเบียนของรัฐ และยังไม่ปรากฏในความเข้าใจของผู้คนในเมือง
เพราะถ้ามองลึกๆ ลงไปแล้ว หัวลำโพงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของประชากรที่หลั่งไหลเข้ามาจากต่างจังหวัดเพื่อมาหาโอกาสในเมืองหลวง จนเกิดเป็นศูนย์จัดหางานรอบๆ สถานีรถไฟที่คอยกระจายแรงงานจำนวนมากออกไปตามพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

แต่เมื่อสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไม่ใช่ศูนย์รวมของการเข้ามาในกรุงเทพฯ อีกต่อไป สิ่งที่คงอยู่เหลือไว้เพียงคนบางกลุ่มที่เลือกใช้ย่านหัวลำโพงเป็น ‘บ้านหลังใกล้’ ท่ามกลางเมืองใหญ่ แทนที่ ‘บ้านหลังไกล’ ของพวกเขา และคอยทำงานหล่อเลี้ยงให้กับพื้นที่แห่งนี้โดยทิ้งบ้านหลังไกลไว้ในความคิดถึง
นิทรรศการนี้จึงดึงมือพี่ๆ ประชาชนแฝงในพื้นที่ให้ออกมาถ่ายทอดเรื่องราวและอาชีพของตัวเองผ่านเสียง สื่อ สิ่งของ ด้วยองค์ประกอบและโครงสร้างจากกิจการในชุมชน พร้อมกับพาไปดูว่าในหนึ่งวันพวกเขาเดินทางไปไหนบ้างในกรุงเทพฯ เพื่อประกอบกิจกรรมเลี้ยงชีพ
Little More+
EXHIBITION @ชุมชนตรอกสลักหิน

มาย่านหัวลำโพงทั้งทีจะไม่พูดถึงน้องๆ ‘ไกด์เด็กสลักหิน’ ได้ยังไง
‘Little More+’ คือนิทรรศการและสื่อจาก Keep Right และ SOCIEFEE x Chouxstory ที่นำเรื่องราวของธุรกิจเล็กๆ ในชุมชนตรอกสลักหินมาเล่าผ่านเลนส์ของเหล่า ‘ไกด์เด็ก’ ในชุมชน เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเข้าไปอุดหนุนธุรกิจชุมชนมากขึ้น
ที่เป็นแบบนี้เพราะทีม Keep Right พบว่า อุปสรรคหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวอุดหนุนร้านค้าในชุมชนกันน้อยเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักและไม่มั่นใจในร้าน จึงหันไปใช้บริการร้านขนาดใหญ่ที่ดูมีความพร้อมกว่าแทน นำมาสู่การหยิบเอาโครงการ ‘ไกด์เด็กสลักหิน’ ของริทัศน์บางกอก มาต่อยอดและช่วยอุดช่องว่างของปัญหานี้

การต่อยอดที่ว่าคือ การสนับสนุนไกด์เด็กในชุมชนให้เข้ามามีบทบาทในการถ่ายทอดเรื่องราวของร้านในชุมชนให้คนภายนอกได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านน้ำชง หรือร้านขายของที่ระลึก รวมถึงการจัดทำยูนิฟอร์มสำหรับไกด์เด็ก คู่มือ ป้ายแนะนำร้านค้าต่างๆ รวมทั้งจัดนิทรรศการในรูปแบบ Interactive Exhibition ที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ศูนย์ดวงแข เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจอุดหนุนร้านเล็กๆ ในชุมชน
Roots Rewind
EXHIBITION/WORKSHOP/TALK @Play Space Cafe

มาหนึ่งได้ถึงสามกับกิจกรรม ‘Roots Rewind กระดาษไหว้เจ้าที่ไม่ต้องเผา’ กับการชวนลูกหลานชาวจีนมาพูดคุยถึงการเผากระดาษเงินกระดาษทองในช่วงตรุษจีนว่า ในยุคปัจจุบันปัญหาด้านมลภาวะทางอากาศและฝุ่น มลพิษ หรือ PM 2.5 เป็นเรื่องใหญ่ของการเผากระดาษไหว้เจ้าที่มีสารตะกั่วหรือสารพิษอื่นๆ เป็นสารประกอบในกระบวนการผลิตแค่ไหน
จากความน่ากังวลนี้เอง ทำให้เกิดแนวความคิดออกแบบกระดาษไหว้เจ้าที่ไม่ต้องเผา เพื่อแก้ปัญหาหรืออย่างน้อยก็ลดปัญหามลพิษที่เกิดจากการเผากระดาษ นอกจากนี้ การใช้กระดาษไหว้เจ้าแบบไม่ต้องเผาจะช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษและการซื้อกระดาษไหว้เจ้าด้วย
เนื่องจากการออกแบบเพื่อการไหว้บูชาเทพและผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วยการไหว้บูชาทิ้งไว้ และเมื่อเก่าก็ค่อยซื้อหรือพันเพื่อเปลี่ยนใหม่ หรือกระทั่งเปลี่ยนตามเทศกาลต่างๆ แทน โดยโปรเจกต์นี้ได้รับความร่วมมือจากนักออกแบบกลุ่ม yellow sponge และ ‘ธัญโต ทันใช้’ และนักพัฒนาสิ่งแวดล้อม มาทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการคำนึงถึงมิติที่หลากหลาย

โดยในอีเวนต์นี้จะมีตั้งแต่ตัวนิทรรศการที่ทำให้เราเห็นภาพของมลพิษอันเกิดจากการเผากระดาษ และภาพจำลองความเชื่อมโยงระหว่างคนบนโลกและเทพบนสวรรค์ อีกทั้งยังมีการจัดเวิร์กช็อป Craft Your Luck ทำเครื่องรางด้วยการพับกระดาษ ออกแบบจากอัตลักษณ์ของชุมชน เช่น ปลาคาร์ป ศาลเจ้า เทพเจ้า สัตว์ต่างๆ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมตกแต่งและสร้างสรรค์เครื่องรางได้ตามใจชอบ
รวมไปถึงการเชิญซินแสและนักวิชาการมาพูดคุยในกิจกรรม Talk ถึงประเด็นการใช้กระดาษไหว้เจ้ารูปแบบใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อให้กับคนรุ่นเก่าว่า การไม่เผากระดาษก็สามารถบูชาเทพและส่งความปรารถนาดีไปถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้เช่นกัน
Quiet Moment : The Sound of Hua Lamphong
EXHIBITION @โรงงานฉั่วฮะเฮง (ตรงข้ามวัดดวงแข)

‘Quiet Moment Exhibition’ คือนิทรรศการที่ Empty Space หยิบเอาความเหงาของเสียงรถไฟที่หายไปของคนภายในชุมชนหัวลำโพง มาเล่าผ่านวิดีโอที่บันทึกความเป็นมาของย่านหัวลำโพงผ่านหน้าต่างรถไฟ
จุดประสงค์คือ ต้องการนำเสนอเรื่องราวในอดีตของหัวลำโพงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนจากหลากหลายถิ่นที่อยู่ที่ต้องการจะเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาล ที่นี่เปรียบเสมือนความหวังของผู้คนในการจะได้กลับบ้านนานอยู่หลายทศวรรษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหัวลำโพงก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟไทยแทน และลดจำนวนการเดินขบวนลง แน่นอนว่าเมื่อเสียงของรถไฟเบาลง เสียงของผู้คนที่เคยมีสีสันก็เบาบางลงด้วยเช่นกัน