เกาะเหอผิง (Heping Island) คือเกาะเล็กๆ ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดจีหลง (Keelung) ที่เชื่อมต่อกับตัวเมืองจีหลงและแผ่นดินไต้หวันด้วยสะพานเหอผิง ในอดีตเมื่อปี ค.ศ. 1626 กองทัพสเปนเคยใช้เกาะนี้เป็นฐานทัพเจรจาธุรกิจระหว่างจีนกับญี่ปุ่นและได้สร้างป้อมปราการ Fort San Salvador ไว้ด้วย แต่ก็ถูกโจมตีโดยกองทัพชาวดัตช์ในช่วงปี ค.ศ. 1668
เกาะนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่กักขังและลงโทษนักโทษในเหตุการณ์ White Terror Movement (การเคลื่อนไหวปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมืองของพรรคก๊กมินตั๋ง) เมื่อปี ค.ศ. 1947 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 คนบนเกาะจึงเปลี่ยนชื่อเกาะเป็นเกาะเหอผิง ซึ่งแปลว่าสันติภาพและความสงบสุข และในวันที่เราเดินทางมาที่นี่ บรรยากาศของบ้านเรือนบนตัวเกาะก็ยังสงบเงียบและยังมีกลิ่นอายของความพื้นถิ่นอย่างแท้จริง
ไฮไลท์ของเกาะนี้ที่เราจะพาไปรู้จักอยู่ที่ Heping Island Park (和平島公園) พื้นที่สาธารณะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่ผสมผสานทั้งความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรสร้าง และสิ่งที่มนุษย์ดัดแปลงตามความต้องการของผู้มาใช้งานอย่างลงตัว
ที่ว่าธรรมชาติสร้างสรรค์ นั่นเพราะที่นี่เป็นอุทยานทางธรณีวิทยา (Geopark) ที่มีเหล่าหินรูปร่างหน้าตาประหลาด ทั้งรูปทรงเต้าหู้ หัวเห็ด หรือศีรษะมนุษย์ (ฟังดูสยองนิดหน่อย) เกิดจากการกัดเซาะของลมและคลื่นทะเลตามธรรมชาติ กลายสภาพเป็นหินและพื้นที่โล่งริมชายฝั่งทะเลให้ได้มาศึกษาทางธรณีวิทยากัน
วันที่เราไปก็มีกลุ่มนักศึกษามาสำรวจพื้นที่นี้กันด้วย โดยพื้นที่ริมชายฝั่งตรงนี้จะถูกกั้นไว้และเปิดให้เข้าชมเฉพาะรอบ พร้อมมีไกด์คอยแนะนำ นอกจากนี้สำหรับสายลุย ที่นี่มีเนินเขาสูงๆ ให้เดินขึ้นไปพอหายใจหอบนิดหน่อย แต่ก็แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และวิวน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม 360 องศาให้ชมอย่างสบายใจ และมองออกไปไกลๆ จะเห็นเกาะจีหลงอีกด้วย
แต่ที่เราบอกว่า Heping Island Park เขาตอบโจทย์คนไต้หวันที่โหยหาธรรมชาติ เพราะที่นี่มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง (Salt Water Swimming Pool) ที่เขากั้นมาจากส่วนหนึ่งของทะเล ให้กลายเป็นสระและปรับปรุงพื้นที่โล่งริมฝั่งให้เป็นหาดทรายจำลองขนาดย่อม เพื่อให้ใครก็ตามที่คิดถึงทะเลมาลงเล่นน้ำกันได้ทุกวัน
โดยสระว่ายน้ำนี้เป็นน้ำทะเลที่อุณหภูมิเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ (ถ้าช่วงฤดูหนาว น้ำจะเย็นมากๆ จนไม่เหมาะกับการมาว่ายสักเท่าไหร่) และลึกพอจะให้คนมาดำผุดดำว่ายให้สดชื่นสมใจ แถมยังได้ชมวิวภูเขาใกล้ๆ กลับไปเต็มๆ เป็นสถานที่ที่พอเรามาถึง ก็นึกชื่นชมในความช่างคิด และรู้สึกผ่อนคลายไปกับความมีชีวิตชีวาที่เราสัมผัสได้จากทุกคนที่ลงมาว่ายน้ำกัน
ส่วนเด็กๆ หรือใครที่ไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมาเปลี่ยน ก็ยังมีโซนเล็กๆ ที่เขาผันน้ำทะเลเข้ามาให้ตื้นแค่ระดับข้อเท้า สำหรับเดิน แช่ขา หรือนอนแช่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น ใกล้ๆ กันยังมีชายหาดที่เราเห็นหลายคนเปลี่ยนชุดมานอนอาบวิตามินดีกันอย่างสบายใจ พื้นที่นี่ยังมีลมทะเลพัดเข้ามา ทำให้ถึงจะแดดจ้าแต่ก็ไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป
สำหรับสายอยากมาชิลเท่านั้น แนะนำให้เดินขึ้นเขาไปจนสุดจะเจอคาเฟ่เล็กๆ ให้จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดชมวิว ทั้งยังมีอาคาร Visitor Center ที่มีห้องอาบน้ำและเห้องปลี่ยนชุดให้บริการ พร้อมของที่ระลึกน่ารักๆ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับที่นี่เท่านั้น หรือถ้าหิวมากๆ บนชั้นสองยังมีร้านอาหารสไตล์ยุโรปคอยให้บริการอีกด้วย
มีคำเตือนนิดหน่อยว่า หากใครที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการมาที่นี่ในวันหยุดยาวหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงฤดูร้อน เพราะ Heping Island Park คือจุดหมายหลักของชาวไทเปที่มักจะพาลูกๆ มาว่ายน้ำเล่นกันที่นี่ การันตีได้ว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตของคนไต้หวันแห่งหนึ่ง เพราะใกล้กรุงไทเป แค่ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เพื่อให้คนทั้งครอบครัวได้มีกิจกรรมร่วมกันครบ ถ้ามีเวลา ที่นี่ก็ยังให้บริการพื้นที่ตั้งแคมป์อีกด้วย
Heping Island Park ทำให้เรานึกถึงคำคำหนึ่งขึ้นมา คือ ‘Public Life’ หรือชีวิตสาธารณะ จากการสังเกต เราพบว่าคนไต้หวันมีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตนอกบ้านที่มีคุณภาพมากๆ ทั้งยังมีพื้นที่นอกบ้านให้ออกมาใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัว และเพื่อนฝูงให้เลือกหลากหลาย ซึ่งความเจ๋งคือ ทุกพื้นที่ถูกออกแบบมาด้วยความเข้าใจว่า ต้องให้คนทุกเพศทุกวัยได้ใช้ (Universal Design) ชาวไต้หวันจึงถูกปลูกฝังวัฒนธรรมการใช้พื้นที่สาธารณะมาตั้งแต่วัยเด็ก จนติดตัวไปจนโต และด้วยความเป็นประเทศแห่งเกาะและภูเขา พวกเขาจึงมีเซนส์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติและหวงแหนไปโดยไม่รู้ตัว
อย่างที่ Heping Island Park เราเองก็สังเกตเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทางลาด และห้องน้ำที่ถูกออกแบบอย่างคิดถึงคนพิการ ทางเดินที่จะไปยังสระว่ายน้ำก็เป็นทางลาดที่เดินสบาย วันที่เราไปยังเห็นผู้สูงอายุจับมือกันเดินขึ้นเขา นั่งพักบนศาลาที่มองออกไปเห็นวิว พ่อแม่จูงลูกมาเล่นน้ำและหาดทราย ทุกคนได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
หากพิจารณาเรื่องการเข้าถึง ถ้าเป็นชาวเมืองจีหลงก็เข้าได้เลยฟรีๆ เพราะเขาสนับสนุนให้คนเมืองได้ออกมาใช้บริการกันเต็มที่ ส่วนคนเมืองอื่นๆ ถึงแม้จะเก็บค่าบริการ แต่ก็ถูกมากแค่คนละ 80 เหรียญไต้หวัน มีราคาพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษา เราเองที่เป็นนักศึกษาต่างชาติก็ได้ส่วนลดเหลือแค่ 40 เหรียญไต้หวันเท่านั้น ถ้าไม่สะดวกขับรถมา ก็มีรสบัสนั่งตรงมาจากสถานีรถไฟจีหลงในราคาแค่ 15 เหรียญ ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ใครๆ ก็มาได้จริงๆ
Heping Island Park เป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งที่ขยายนิยามของคำว่าพื้นที่สาธารณะในประเทศไต้หวันให้กว้างไปกว่าแค่พื้นที่ใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้า หรือพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังคือพื้นที่ที่ดึงเอาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติมาใช้โดยไม่ต้องลงทุนอะไร แค่บวกความคิดสร้างสรรค์และมองออกว่า วิถีชิวิตที่คนท้องถิ่นต้องการคืออะไร แค่นี้คนไต้หวันก็มีสถานที่พิเศษที่ถ้าวันไหนนึกไม่ออก แค่มานั่งมองทะเลและท้องฟ้าสดใสก็พอใจแล้ว
Sources :