เวลาที่ใครถาม “ทำไมไม่ชอบซักผ้า ?”
จงตอบกลับไปว่า “มันสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ !”
ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องจ้อจี้ แต่ที่ไหนได้มันคือเรื่องจริง !! เมื่อวารสารวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการของ Jay S. Golden ระบุว่า กระบวนการซักผ้าเฉพาะสหรัฐอเมริกาสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากกว่า 225 ล้านเมตริกตันต่อปี มีการใช้ไฟฟ้า 191,000 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง (GWh) และใช้น้ำมากกว่า 847 ล้านแกลลอน ยิ่งถ้าบ้านไหนใช้น้ำร้อนซักผ้าด้วยละก็จะยิ่งผลิตคาร์บอนเพิ่มขึ้นจากการซักผ้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติอีก 1.59% เลยทีเดียว
แม้ตัวเลขเหล่านี้จะมาจากอเมริกันชน แต่คนไทยอย่างเราก็ไม่ควรมองข้าม เพราะขั้นตอนการซักผ้าแทบจะคล้ายกันทั้งหมด เผลอๆ เหมือนกันทั้งโลกเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการแยกผ้า โยนเสื้อผ้าลงถัง ไปจนถึงการใช้เครื่องอบผ้าก็ตาม ซึ่งขั้นตอนที่สร้างคาร์บอนมากสุด คือ ‘การอบ’ เพราะต้องอาศัยไฟฟ้าอย่างหนักเพื่อทำให้ผ้าแห้ง โดยคิดเป็น 5.8% ต่อการปล่อยคาร์บอนฯ ในการซักผ้าหนึ่งครั้ง
เห็นว่าหลายบ้านเลือกใช้ ‘เครื่องอบผ้า’ แทนการแขวนบนราวตากผ้า โดยเฉพาะคนอเมริกันที่เรามักจะเห็นภาพห้องซักรีดใต้ดินแบบ 3 in 1 คือ ซัก อบ และรีดเบ็ดเสร็จในห้องเดียว นั่นเกิดมาจากสภาพอากาศชื้น และไม่มีแดด ซึ่งต่างจากบ้านเราที่ร้อนเปรี้ยงจนเสื้อซีด ยังไม่รวมถึงการตากกางเกงลิงไว้นอกบ้านคงเป็นภาพไม่ค่อยน่าดู จึงไม่แปลกที่เครื่องอบผ้าจะเป็นทางออก
หรือแม้แต่ประเภทเครื่องซักผ้าก็ส่งผลต่อการปล่อยคาร์บอนฯ ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐ (United States Department of Energy) บอกว่าถ้าเราใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าจะใช้ปริมาณน้ำและพลังงานน้อยกว่า ซึ่งลดการใช้ไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนฯ โดยเฉลี่ย 5% รวมถึง The Sustainability Consortium (TSC) วิเคราะห์เอาไว้ว่าการใช้น้ำเย็นซักผ้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลด 23 กิโลกรัมคาร์บอนฯ (kg CO2-equivalent) ต่อปี
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่การซักผ้าเท่านั้น แต่ยังมีไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่สร้างก๊าซคาร์บอนฯ ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำอุ่น หรือการล้างมือด้วยน้ำอุ่น ซึ่งทำให้เครื่องทำความร้อนต้องผลิตพลังงานเยอะขึ้น หรือการล้างจานแบบเปิดก๊อกล้างจะปล่อยคาร์บอนฯ มากถึง 666 kg. CO2-eq
ดังนั้นเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในชีวิตประจำวันได้ แต่ควรเลือกช่องทางที่ลดการเกิดให้น้อยสุด และที่แน่ๆ การไม่ซักผ้าเป็นเดือนๆ ก็อาจไม่ใช่คำตอบ
Sources :
BBC News
Carole Mars
Gabriela Yvonne Porrs
Jay S. Golden