เดี๋ยวนี้จะไปที่ไหนก็ต้อง “กด กด ล้าง” เพื่อความปลอดภัยของเราและคนรอบข้าง
และเมื่อไปที่ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนา เราก็จะเห็นมีการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือแบบออร์แกนิกจากแบรนด์ Patom Organic Living ผู้ริเริ่มโครงการสามพรานโมเดล และเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มนำร่องแล้ววันนี้ ที่ เซ็นทรัล ศรีราชา และ เซ็นทรัล อยุธยา และ เตรียมขยายต่อยอดให้ได้ 13 สาขาทั่วประเทศ
ไม่รอช้า เราจึงหาโอกาสเข้าพูดคุยกับ ‘คุณเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริการทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)’ “เมื่อเราคิดถึงลูกค้า คิดถึงชุมชน คิดถึงสิ่งแวดล้อม เราจึงเลือกสิ่งนี้ออกมา” ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ช่วยให้ดิน น้ำ อากาศปลอดภัย ชุมชนเกษตรก็มีรายได้ เมื่อเห็นว่ามีรายได้ เขาก็จะผลิตแต่สิ่งดีๆ ออกมามากขึ้น และลูกค้าที่มาใช้บริการศูนย์การค้าก็ยังได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ ให้กับตัวเอง
ความคิดถึงชุมชน สิ่งแวดล้อม และตัวเราที่ว่าของเซ็นทรัลพัฒนาเป็นอย่างไร ติดตามต่อในคลิปนี้เลย!
#CPN #Patom #UrbanCreature #ReinventTheWayWeLive #FYI
RELATED POSTS
ผ่าแผนเดินเกมของปารีส โอลิมปิก 2024 เพื่อพิชิตเส้นชัยโอลิมปิกที่รักษ์โลกที่สุด
เรื่อง
ปรัชญพล เลิศวิชา
การจัดงานโอลิมปิกให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟังแล้วช่างเหนือจริง เพราะงานโอลิมปิกคือมหกรรมกีฬาระดับโลกที่มีการแข่งขันเกิดขึ้นกว่าหลายร้อยรายการ มีนักกีฬาเข้าร่วมหลักหมื่น มีผู้ชมมาเกาะติดขอบสนามกันหลักล้าน การจัดงานระดับยักษ์แบบนี้ หลีกหนีไม่พ้นต้องเผาผลาญทรัพยากรมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับมวลมหาประชาชนที่หลั่งไหลมา แต่เพราะวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลกทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน การหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเลยเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เมื่อปารีสได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน 2024 เมืองน้ำหอมจึงตั้งปณิธานว่า โอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกที่เป็นมิตรกับโลกที่สุด มีการประเมินไว้ว่า งานโอลิมปิกในกรุงรีโอเดจาเนโร ปี 2016 และกรุงลอนดอน ปี 2012 ปล่อยคาร์บอนออกมากว่า 3.5 ล้านตัน สำหรับโอลิมปิกครั้งนี้ ปารีสตั้งเป้าสุดทะเยอทะยานไว้ว่าจะหั่นตัวเลขเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง คือ 1.75 ล้านตัน น้อยกว่างานโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวซึ่งจัดในช่วงล็อกดาวน์ และปล่อยก๊าซออกมา 1.9 ล้านตันเสียด้วยซ้ำ งานนี้ปารีสพร้อมเดินเกมทุกวิถีทาง ตั้งแต่เรื่องใหญ่อย่างการก่อสร้าง การเดินทาง ไปจนถึงเรื่องเล็กอย่างอาหารการกิน มาเรียนรู้ไปด้วยกันว่าปารีสวางแผนไว้อย่างไร เพื่อพิชิตเส้นชัยการเป็นโอลิมปิกที่รักษ์โลกที่สุด ไม่เน้นสร้างใหม่ เน้นใช้สถานที่เดิม 95 เปอร์เซ็นต์ของการแข่งขันโอลิมปิกทั้งหมดจะจัดขึ้นในสนามกีฬาที่มีอยู่เดิม หรือในแลนด์มาร์กของเมืองที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่ เช่น กีฬาฟันดาบและเทควันโด ที่จะประชันกันในอาคาร Grand Palais ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 1897 หรือกีฬาขี่ม้า ปัญจกีฬา […]
‘ปารีส’ เมือง 15 นาที ที่อยากให้ผู้คน ‘ใกล้ชิด’ กับ ‘ชีวิตดีๆ’ มากขึ้น
เรื่อง
อนรรฆพร ลายวิเศษกุล
ย้อนไปเมื่อปี 2020 แอนน์ อีดัลโก (Anne Hidalgo) นายกเทศมนตรีแห่งกรุงปารีสได้เสนอแนวคิดที่จะเปลี่ยนเมืองหลวงของฝรั่งเศสที่แสนจะวุ่นวายและเต็มไปด้วยกิจกรรมคึกคัก ให้กลายเป็น ‘เมือง 15 นาที’ (15-minute City) แนวคิดนี้คือการปรับปรุงและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยการสร้างเมืองที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ในระยะเวลา 15 นาทีด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน เพื่อลดการเดินทางจากบ้านไปยังสถานที่ต่างๆ ให้เหลือน้อยที่สุด เช่น สถานที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล สวนสาธารณะ ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นไปโดยหวังว่าปารีสโฉมใหม่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนให้คล่องตัว มีสุขภาพดี และยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงต้องการสร้างสังคมที่โอบรับคนทุกกลุ่มและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมา 4 ปี มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับปารีสบ้าง และมหานครแห่งนี้เข้าใกล้การเป็นเมือง 15 นาทีมากขนาดไหนแล้ว คอลัมน์ City in Focus ขอชวนไปสำรวจและหาคำตอบพร้อมกัน เปลี่ยนจากการขับรถเป็นปั่นจักรยาน เป้าหมายแรกของกรุงปารีสคือการเปลี่ยนให้คนใช้รถยนต์น้อยลง และหันมาปั่นจักรยานมากขึ้น นายกฯ อีดัลโกอธิบายว่า การใช้จักรยานในเมืองจะแสดงให้เห็นว่าชาวปารีสสามารถปรับวิถีชีวิตของตัวเองได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรุงปารีสได้ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ เช่น กำหนดให้เขตเมืองเป็นเขตควบคุมมลพิษต่ำ และกำหนดให้ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเป็นวันปลอดรถยนต์ รวมถึงเพิ่มเลนจักรยานทั่วเมือง […]
ชวนดูเตียงรักษ์โลกในโอลิมปิก 2024 เตียงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนอนหลับสบาย
เรื่อง
Urban Creature
อีกไม่นาน งานโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ในกรุงปารีส ก็จะปะทุตัวขึ้นแล้ว ความพิเศษของโอลิมปิกครั้งนี้คือการมุ่งเป้าเป็นโอลิมปิกที่ยั่งยืนที่สุด ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ลง 50 เปอร์เซ็นต์จากการจัดงานครั้งก่อนๆ เพราะฉะนั้นเราเลยเห็นกลยุทธ์มากมายที่ผู้จัดงานงัดมาเพื่อให้ถึงเส้นชัยอันแสนทะเยอทะยาน และความยั่งยืนก็เริ่มต้นตั้งแต่เตียงนอนของนักกีฬา เตียงนอนนี้เป็นเตียงจากบริษัทเครื่องนอนญี่ปุ่น ‘Airweave’ ซึ่งเคยทำเตียงมาให้ก่อนแล้วในงานโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว เตียงนอนกว่า 16,000 หลัง ประกอบด้วยเฟรมเตียงนอนกระดาษแข็ง พร้อมด้วยผ้าปูเตียงและฟูกที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ฟูกใช้เส้นใยพิเศษชื่อ airfiber® ที่นำไปล้างทำความสะอาดได้โดยไม่เสียสภาพการใช้งาน หลังมหกรรมกีฬาปิดฉากลง เฟรมกระดาษแข็งจะถูกนำไปรีไซเคิลต่อ ส่วนผ้าปูและฟูกจะถูกส่งต่อไปยังองค์กรต่างๆ ทั่วฝรั่งเศส ไม่ได้มีดีแค่ความรักษ์โลก Airweave ยังคิดดีเทลของฟูกมาเป็นอย่างดีเพื่อให้นักกีฬาหลับเต็มตื่น แต่ละเตียงจะมีฟูกสามบล็อก และแต่ละด้านของบล็อกฟูกจะมีความนุ่มแข็งต่างกัน นักกีฬาสามารถสลับสับเปลี่ยนฟูก พลิกด้าน เพื่อให้ได้ที่นอนอุดมคติของตัวเอง ทาง Airweave ยังมีนวัตกรรมให้นักกีฬาป้อนข้อมูลน้ำหนัก เพศ อายุ และข้อมูลร่างกาย เพื่อให้ได้ฟูกที่เข้ากับตัวเองอีกด้วย ส่วนเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเตียงออกแบบมาไม่ให้นักกีฬามีเซ็กซ์ เพราะรับน้ำหนักคนได้เพียงคนเดียว ต้องขอบอกว่าเป็นเฟกนิวส์ เพราะ ‘Motokuni Takaoka’ ผู้ก่อตั้ง Airweave ออกมาโต้ในตอนเปิดตัวเตียงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ว่าเตียงนี้แข็งแรงพอที่จะรองรับ ‘คนหลายคนบนเตียงได้’ […]
อัปสกิลวิสาหกิจชุมชนไทย ปลดล็อกความรู้ มุ่งสู่ความยั่งยืน โครงการ ‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ สร้างคุณค่าร่วมแบบ Ecosystem
เรื่อง
Urban Creature
‘ผลิตภัณฑ์และบริการจากวิสาหกิจชุมชน’ คือแรร์ไอเทมประจำท้องถิ่นที่รอการส่งเสริมและพัฒนา เพราะนอกจากจะทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง ช่วยยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ยังทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีตามไปด้วย แต่ถ้าถามว่า แล้วการยกระดับที่ว่าเป็นแบบไหน เราขอแนะนำให้รู้จักกับ 2 ผู้ประกอบการจาก 2 วิสาหกิจชุมชนที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ และนำความรู้ไปพัฒนาธุรกิจต่อจนประสบความสำเร็จ คนแรกคือ ‘หนิง-ธนพร วงค์เขื่อน’ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรุ่นที่ 1 ในเขตภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย จากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรท่าสุด (ท่าสุดเฮิร์บ) จ.เชียงราย ธนพรทำให้เราเห็นภาพความสำเร็จของโครงการนี้ชัดขึ้น ด้วยแนวทางการสร้างความร่วมสมัยให้ผลิตภัณฑ์ บริการแปรรูปสมุนไพร และบริการด้านสุขภาพ ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น เพื่อส่งให้ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิมไปถึงผู้คนในวงกว้าง โดยวิธีการที่ว่าคือ การมุ่งเน้นที่การเพิ่มทักษะด้านการขาย และการสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ใหม่ๆ มีการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแบรนด์ผ่านสื่อโซเชียล สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ตามสโลแกน ‘ผ่อนที่กาย คลายที่ใจ By Tasud Herb’ อีกทั้งยังมีการจับมือกับเครือข่ายสายสัมพันธ์มาช่วยเสริมธุรกิจในหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มพูนความรู้ ปรับปรุงรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้โมเดิร์นน่าใช้ เพิ่มช่องทางตลาดและจุดจำหน่าย ไปถึงยกระดับมาตรฐานแหล่งวัตถุดิบและสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ Tasud Herb (ท่าสุดเฮิร์บ) ของวิสาหกิจชุมชนเติบโตฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก จนมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว […]