Food Matter ธีสิสแพลตฟอร์มสั่งอาหารส่วนเกิน - Urban Creature

คุณรู้ไหมว่าอาหารที่ร้านผลิตเกินมาในแต่ละวันถูกจัดการอย่างไร? 

สำหรับคนที่ชอบเดินซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงค่ำๆ จะเห็นหลายร้านนำอาหารที่ยังคุณภาพดีเหล่านี้มาติด ‘ป้ายเหลือง’ และลดราคาในช่วงสุดท้ายของวัน แต่ก็ยังมีอีกหลายร้านเช่นกันที่แม้จะมีอาหารเหลือจำนวนมาก แต่พวกเขาเลือกที่จะทิ้งโดยเสียเปล่าเพราะเป็นมาตรการด้านความสะอาดและเพื่อรักษามาตรฐานของร้าน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การทิ้งอาหารที่ยังคุณภาพดีเหล่านี้ทำให้เกิด ‘ขยะอาหาร (Food Waste)’ ปริมาณมากในแต่ละวัน แค่ลองคิดเล่นๆ ว่าแต่ละร้านต้องทิ้งอาหารวันละ 1 กก. ทั้งเดือนก็ไม่ต่ำกว่า 30 กก. และถ้าทุกร้านมีขยะที่ต้องทิ้งทุกวัน กรุงเทพฯ จะมีขยะอาหารเยอะมากแค่ไหน?

จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถนำอาหารส่วนเกินเหล่านี้มาทำเป็น ‘อาหารป้ายเหลือง’ และขายผ่านช่องทางเดลิเวอรีได้ ทำให้ผู้คนในเมืองนี้ได้เข้าถึงอาหารคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง และยังมีส่วนช่วยในการลดขยะอาหารที่เกิดขึ้นในทุกๆ วันได้อีกด้วย

คอลัมน์ Debut สัปดาห์นี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘Food Matter’ แพลตฟอร์มสั่งอาหารส่วนเกินจากร้านอาหารที่ทำให้คนเมืองเข้าถึงอาหารคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง เหมือนได้เข้าไปเดินเลือกซื้ออาหารป้ายเหลืองในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยตัวเอง 

ธีสิสนี้ออกแบบโดย กรีน-เมธพร ทุกูลพาณิชย์ บัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ CommDe (Communication design) กรีนเป็นผู้เห็นถึงปัญหาของอาหารส่วนเกินที่เหลือทิ้งจากร้านอาหารในแต่ละวัน เธออยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะ และอยากทำให้ผู้บริโภคในเมืองนี้มีทางเลือกในการกินมากขึ้นด้วย จึงทำแอปฯ ฉบับทดลองใช้ 11 วันขึ้นมาเพื่อดูว่าจะช่วยลดขยะอาหารในเมืองนี้ได้มากแค่ไหน ทดลองใช้เว็บไซต์ได้ที่นี่ www.foodmatterth.com 

สารคดีสั้นปี 3 ตัวจุดประกายการตระหนักรู้

กรีนเล่าว่าตอนที่ตัดสินใจเลือกทำธีสิสเกี่ยวกับ Surplus Food หรืออาหารส่วนเกินนั้น ไม่ใช่เพราะเพิ่งมาสนใจประเด็นดังกล่าวในช่วงปีที่ 4 แต่มันถูกต่อยอดมาจากหนังสารคดีสั้นที่เธอได้มีโอกาสทำในรายวิชาหนึ่งในช่วงปีที่ 3 มาก่อนหน้านี้

ด้วยความที่พื้นฐานความชอบของกรีนเป็นคนชอบทำและกินอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เมื่อต้องตัดสินใจทำหนังสารคดีขึ้นมาหนึ่งเรื่อง จึงไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับอาหารและร้านอาหารอย่างที่ตัวเองชอบ

Food Matter

“ตอนนั้นมีโอกาสได้ไปเจอกับ เชฟต้อยติ่ง-กานต์ตา สิทธิธรรม ที่เคยทำงานที่ร้าน Noma ร้านอาหารใน Copenhagen ที่เคยได้อันดับหนึ่งของโลกจาก The World’s 50 Best Restaurants พอได้คุยก็เริ่มรู้สึกว่ามุมมองของเขาน่าสนใจ เพราะการเป็นเชฟอาหาร Fine Dining เขาจะคัดส่วนที่ดีที่สุดมาใช้ในการทำอาหาร ทำให้เกิด Food Waste เยอะมาก” กรีนเล่า

ทำให้เธอตัดสินใจพูดถึงปัญหาขยะอาหารที่เหลือทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นจากร้านอาหาร หรือจากการบริโภคของผู้คนทั่วไปผ่านสารคดี และจากหนังสารคดีสั้นเพียง 3 – 4 นาทีที่เล่าเรื่องปัญหา Food Waste ในตอนนั้นนี่เอง ที่ทำให้กรีนตัดสินใจนำประเด็นนี้มาทำอีกครั้ง ในธีสิสที่ชื่อ Food Matter แพลตฟอร์มสั่งอาหารที่ต้องการจะช่วยให้โลกมีขยะอาหารน้อยลง ผสมกับการเล่าเรื่อง Surplus Food และ Food Waste ที่มากขึ้น ด้วยความตั้งมั่นที่อยากให้คนที่ได้รับสารนั้นนอกจากได้ความรู้แล้ว ยังสามารถเป็นส่วนช่วยในการลด Food Waste ในชีวิตประจำวันได้จริงด้วย

8 เดือน จากแนวคิด สู่แพลตฟอร์มที่ใช้ได้จริง

กรีนเล่าคอนเซปต์ของตัวธีสิส Food Matter ให้เราเข้าใจอย่างง่ายๆ ด้วยการให้ทุกคนลองนึกภาพถึง ‘อาหารป้ายเหลือง’ ที่ขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งอาหารเหล่านี้ที่จริงแล้วยังเป็นอาหารทานได้ เว้นแต่ว่าเป็นอาหารปรุงสุกวันต่อวัน ทำให้ไม่สามารถเก็บค้างคืนไว้ขายในวันถัดไปได้ และหากไม่มีการซื้อขาย ก็จะกลายเป็นขยะในที่สุด

“จากเดิมที่คนต้องเดินไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อไปซื้ออาหารป้ายเหลือง ก็สามารถสั่งอาหารป้ายเหลืองหรือที่เรียกว่า Surplus Food ได้ผ่าน Food Matter ของเรา ซึ่งทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมร้านอาหารที่อยากจะช่วยลดขยะจากอาหารที่จะเกิดขึ้น” กรีนกล่าว

กว่าธีสิสนี้จะออกมาเป็นรูปเป็นร่างตามความตั้งใจของกรีน ก็กินเวลาเกือบ 8 เดือน ตั้งแต่ขั้นตอนการรีเสิร์ชทำแบบสอบถามเพื่อตามหา Insight ของผู้บริโภคในไทย ที่พบว่าส่วนใหญ่มักจะเหลือเศษอาหารในแต่ละมื้อ ไปจนถึงเริ่มทำ Business Model Canvas แก้ปัญหาพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย และปล่อยตัวเว็บไซต์ Food Matter ให้ชาวกรุงเทพฯ ได้ทดลองใช้กัน

Food Matter

และในช่วงระหว่างการรีเสิร์ชนี่เอง ที่ทำให้เธอได้พบเข้ากับคำตอบจากแบบสอบถามฉบับหนึ่งที่ทำให้ไอเดียของการทำ Food Matter ชัดเจนยิ่งขึ้น

“หลังจากที่ได้อ่านข้อความหนึ่งในแบบสอบถามที่เป็นข้อความจากเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังว่า เขาทำร้านอาหารมานาน เห็น Food Waste ที่ต้องทิ้งในแต่ละวันตลอดเลย” 

จากประโยคง่ายๆ ทำให้กรีนย้อนกลับมามองที่ต้นทางอย่างร้านอาหารมากขึ้น แทนที่จะเป็นหน่วยครัวเรือนอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก และลงมือสร้างเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางที่จะเชื่อมระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคที่อยากมีส่วนร่วมให้การช่วยลดปริมาณขยะขึ้นมาในที่สุด

โดยในตัวเว็บไซต์ที่ได้มีการปล่อยให้ทดลองใช้สั่งอาหารจริงๆ นั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของตัว Prototype ของแอปพลิเคชันทั้งหมดของ Food Matter เท่านั้น เธอดึงเอาเพียงส่วนที่ใช้สำหรับการสั่งอาหารออกมาสร้างให้เกิดขึ้นได้จริงภายในระยะเวลา 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 – 22 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา และเปิดให้สั่งซื้อได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลา 18.00 – 19.00 น. เป็นระยะเวลา 11 วันเท่านั้น 

Food Matter

“ผลลัพธ์ก็คือ เราสามารถช่วยลดตัว Surplus Food จากร้านอาหารที่เป็นพาร์ตเนอร์กับเราได้มากถึงสองร้อยแปดสิบเอ็ดออเดอร์ คิดเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ก็คือทุกชิ้นที่เราเอามาขาย สามารถขายได้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นจากร้าน Tokyo Land, นายกอล์ฟ ปาท่องโก๋, Pleased Yoghurt Bar หรือ Drop by Dough” กรีนกล่าว

โดย 3 กลุ่มผู้ใช้หลัก ได้แก่ กลุ่มคนสาย Eco-friendly ผู้ที่ชอบอาหารลดราคา และคนทั่วไปที่อยากลองสัมผัส Experience ใหม่ๆ ในการใช้งาน รวมไปถึงเหล่า Influencer และ KOL ที่ช่วยโปรโมต ต่างก็ให้กระแสตอบรับที่ดีมากทั้งต่อตัวโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์

นอกจากนี้ กรีนยังบอกอีกว่าได้รับฟีดแบ็กที่ดีทั้งในเรื่องของการออกแบบ UX UI ว่าใช้งานง่าย รวมไปถึงกิมมิกน่ารักๆ อย่างการบอกปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ผู้ใช้สามารถลดไปได้แตกต่างกันในแต่ละครั้งที่สั่งอาหาร เนื่องจากมีการคำนวณปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์โดยอิงจากอาหารที่สั่งซื้อในแต่ละครั้ง รวมไปถึงระยะทางขนส่งจาก Hub กลาง โดยใช้ SKOOTAR ที่สามารถปักหมุดใกล้ๆ กัน เพื่อให้การส่งแต่ละครั้ง ลดปริมาณมลภาวะได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

และจากการคำนวณปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ที่สามารถลดไปได้ใน 11 วันทำการ ผ่านการคำนวณสูตรโดยอิงจากส่วนผสมอาหารของร้านค้าที่มาพาร์ตเนอร์ด้วย Food Matter มีส่วนช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ไปได้ถึง 130 กิโลกรัม

Food Matter

Food Matter มากกว่าแค่ตัวกลางสั่งอาหารส่วนเกิน

แค่พูดว่า Food Matter ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเราและร้านค้า เพื่อช่วยให้เราได้รับอาหารที่ต้องการในราคาที่ถูกลง แล้วช่วยร้านค้าในการลดปริมาณอาหารส่วนเกินในแต่ละวันได้ ก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากแล้ว แต่ความจริงตัว Prototype ของ Food Matter มีความน่าสนใจมากกว่านั้นมาก 

มากขนาดจนเราที่นั่งฟังกรีนเล่ารายละเอียดทั้งหมดของแอปพลิเคชัน แล้วคิดตามว่าถ้าในอนาคตมันถูกพัฒนาและสร้างออกมาให้ใช้งานได้จริงก็คงจะดีไม่น้อย

แอปพลิเคชัน Food Matter จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เปิดให้สั่งซื้ออาหาร เหมือนที่ปล่อยตัวทดลองมา และส่วนของ Community ที่อยู่ในตัว Prototype สำหรับธีสิส

ส่วนที่ 1 สำหรับสั่งอาหาร

เป็นตัวกลางระหว่างร้านอาหารพาร์ตเนอร์ และผู้บริโภค โดยจะมีการสอบถามปริมาณอาหารส่วนเกินของแต่ละร้านจริงๆ และรวมสต็อกมาไว้ที่ Hub ส่วนกลาง ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้กดสั่งซื้อ เพื่อกระจายสินค้าจากจุดเดียวออกไป ด้วยขนส่งอย่าง SKOOTAR จากนั้นตัวแอปพลิเคชันจะคำนวณปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เราช่วยลดในแต่ละครั้งที่สั่ง และแปลงเป็นคะแนนไว้ใช้แลกส่วนลดค่าอาหารหรือค่าขนส่งในครั้งถัดไป

Food Matter

ส่วนที่ 2 สำหรับ Community

ที่เป็นแหล่งรวมคนที่ใช้แอปพลิเคชัน และมีความสนใจในปัญหา Food Waste ให้เข้ามาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และร่วมสนุกไปด้วยกัน ผ่าน 3 รูปแบบที่แตกต่างออกไป คือ

  • Challenge ที่มีเกมสนุกๆ มิชชันที่ทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น กินข้าวให้หมดจาน หรือแยกขยะ และอัปโหลดรูปเพื่อสะสมคะแนนเก็บไว้
Food Matter
  • Ranking คือการนำคะแนนที่สะสมผ่านการสั่งอาหาร หรือการเล่นเกม มาเรียงลำดับแข่งกันกับผู้ใช้แอปฯ คนอื่นๆ โดยยิ่งคะแนนสูงเท่าไหร่ ยิ่งได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
Food Matter
  • Board เป็นแหล่งรวบรวมบทความน่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และตัวช่วยง่ายๆ ที่จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น รวมไปถึงสามารถแสดงความคิดเห็น หรือแชร์ทริกส่วนตัว เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนอื่นได้ด้วย
Food Matter

เพราะฉะนั้น Food Matter จึงไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสำหรับสั่งอาหารส่วนเกิน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่รวมเอาความรู้ ความสนุก และผู้คนที่มีความสนใจใกล้เคียงกันมาไว้ด้วยกัน

ธีสิสจบ ความตั้งใจยังอยู่

ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงเวลาของการปล่อยตัวเว็บไซต์ Food Matter ให้คนเข้าไปสั่งอาหารมาได้สักพักใหญ่แล้ว กรีนก็ยังไม่ได้ละทิ้งความตั้งใจเดิมของเธอ แต่เพราะการที่จะรวมร้านค้าและทำให้แอปพลิเคชันเป็น Operate มากขึ้น อาจจะต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม รวมไปถึงการทำในส่วนของ Community ให้สามารถใช้งานได้จริง

อีกทั้งในส่วนของการให้ลูกค้าได้เลือกอาหารที่ต้องการในราคาที่ถูกลงได้จริง และช่วยลดปริมาณ Surplus Food ก็ยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความตั้งใจของกรีนตั้งแต่ต้น หากในอนาคตสามารถต่อยอดออกไปได้ เธอก็หวังว่าจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยโลกของเราได้

“ในอนาคตก็อยากให้โซเชียลมีเดียของ Food Matter ได้ดำเนินต่อไป อาจเสนอคอนเทนต์ตามความตั้งใจเดิมของเราตั้งแต่แรกที่อยากจะสร้างการรับรู้ให้คนในสังคมมองว่า Food Waste กำลังเป็นปัญหาอยู่จริง” กรีนกล่าวทิ้งท้าย

Food Matter

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.