สำรวจยอดจดทะเบียนรถยนต์ EV ปี 2565 - Urban Creature

“ภายในปี 2040 รถยนต์ทุกคันที่ขายบนโลกนี้จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า” 

นี่คือคำสัมภาษณ์กับ CNBC ของ ‘Darren Woods’ ซีอีโอบริษัทน้ำมัน ExxonMobil ที่คาดการณ์ว่าในอนาคตโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานเชื้อเพลิงครั้งยิ่งใหญ่

หากเป็นในอดีตที่รถยนต์ทุกคันใช้เชื้อเพลิงน้ำมันในการขับเคลื่อน อนาคตที่เต็มไปด้วยยานพาหนะไฟฟ้าอาจดูเหลือเชื่อไปเสียหน่อย แต่สำหรับปัจจุบันที่หลายค่ายรถยนต์เริ่มออกรถรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน แถมคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากขึ้น คำคาดการณ์ดังกล่าวคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป

คอลัมน์ City by Numbers จึงขอหยิบเอายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมาให้ดูกัน เพื่อทำความเข้าใจทิศทางและความนิยมของรถประเภทนี้ และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของใครหลายคนในอนาคต รวมถึงชี้ให้เห็นว่า แม้ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าช้าไปสักหน่อย แต่ท้ายที่สุดคำกล่าวของ Darren Woods ก็อาจเกิดขึ้นได้

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV

รถยนต์ไฟฟ้ามีหลายประเภท จะมาเป็นเหมือนกันไม่ได้

นั่นก็รถยนต์ไฟฟ้า นี่ก็รถยนต์ไฟฟ้า 

ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มักได้ยินคนพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าเต็มไปหมด แต่ถ้าพูดคุยหรืออธิบายลึกลงไปอีก ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ หรือ ‘รถยนต์ EV (Electric Vehicle)’ ในมุมมองของเขาและคุณ ความหมายอาจจะไม่ตรงกันเสียทีเดียว เพราะความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

  1. ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle | HEV) : เป็นยานยนต์ไฟฟ้าลูกผสม (Hybrid) มีทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ สามารถนำพลังงานกลที่เหลือหรือไม่ใช้ประโยชน์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บในแบตเตอรี่ แต่ไม่มีช่องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้า
  2. ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid Electric Vehicle | PHEV) : เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อจาก HEV มีการทำงานด้วยระบบน้ำมันและไฟฟ้าเหมือน HEV แต่เพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟขึ้นมา (Plug-in) สามารถวิ่งได้ในระยะที่ไกลกว่า HEV
  3. ยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle | FCEV) : เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) โดยการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากภายนอก 
  4. ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle | BEV) : เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากการเสียบปลั๊กชาร์จในการขับเคลื่อนอย่างเดียว ไม่ปล่อยไอเสียออกมาเลย จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV

ถึงแม้ว่าทั้ง 4 ประเภทจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน แต่ก็ล้วนมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งสิ้น แต่บทความนี้จะขอเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV เพื่อทำให้เห็นถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดในไทย

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ปี 2565

สถิติจาก ‘กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก’ พบว่า จำนวนรถจดทะเบียนใหม่ จำแนกตามชนิดเชื้อเพลิง (รายเดือน) ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ปี 2565 จากทั้งหมด 2,550,953 คัน มีรถจดทะเบียนใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์หรือ BEV จำนวน 15,423 คัน แจกแจงเป็นยอดของแต่ละเดือนได้ ดังนี้

  • มกราคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 628 คัน คิดเป็น 0.25% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 251,792 คัน 
  • กุมภาพันธ์ มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 873 คัน คิดเป็น 0.34% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 254,515 คัน 
  • มีนาคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,567 คัน คิดเป็น 0.56% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 281,372 คัน 
  • เมษายน มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,232 คัน คิดเป็น 0.57% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 215,907 คัน
  • พฤษภาคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,567 คัน คิดเป็น 0.57% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 275,938 คัน
  • มิถุนายน มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,623 คัน คิดเป็น 0.57% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 286,669 คัน
  • กรกฎาคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,459 คัน คิดเป็น 0.66% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 220,570 คัน
  • สิงหาคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 2,304 คัน คิดเป็น 0.82% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 279,373 คัน
  • กันยายน มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 2,210 คัน คิดเป็น 0.84% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 263,693 คัน
  • ตุลาคม มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,960 คัน คิดเป็น 0.89% จากรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมด 221,124 คัน

ยอดจดทะเบียนรวมของรถยนต์ไฟฟ้าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีทั้งหมด 15,423 คัน โดยมีตั้งแต่รถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ได้แก่ 

– รย.1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
– รย.3 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
– รย.4 รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
– รย.6 รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน
– รย.8 รถยนต์รับจ้างสามล้อ
– รย.12 รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 
– รย.17 รถจักรยานยนต์สาธารณะ 

นอกจากนี้ยังรวมถึงรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่เริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ย้อนหลัง 10 ปี

หากย้อนดูข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ประเทศไทยมีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกปี 

ปี 2555 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 172 คัน
ปี 2556 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 145 คัน
ปี 2557 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 245 คัน
ปี 2558 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 76 คัน
ปี 2559 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 161 คัน
ปี 2560 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 165 คัน
ปี 2561 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 325 คัน 
ปี 2562 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,572 คัน
ปี 2563 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 2,999 คัน
ปี 2564 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 5,889 คัน

รวมทั้งสิ้น 11,749 คัน ทำให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพียงแค่ 10 เดือนของปี 2565 นี้ ก็สามารถเอาชนะยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าย้อนหลังรวม 10 ปีไปได้แบบง่ายๆ แถมมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เนื่องจากนโยบายลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ยานพาหนะที่ช่วยลดมลพิษในเมือง

น้ำมันแพง ภาษีลด รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตเกิดจากกระแสที่ผู้คนทั่วโลกใส่ใจปัญหา ‘ภาวะโลกรวน (Climate Change)’ และเริ่มมองหาทางเลือกที่ส่งเสริม ‘ความยั่งยืน (Sustainability)’ กันมากขึ้น 

แต่สำหรับประเทศไทย การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันในท้องตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเกือบแตะ 45 บาทต่อลิตร เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้คนหันมาลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะเมื่อคำนวณค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายทั้งหมดในอนาคต อาจมากกว่าการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาอาจสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปหน่อย แต่สามารถประหยัดเงินในระยะยาวได้ หลายคนจึงมองว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นคุ้มค่าแก่การลงทุน

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV

อีกสาเหตุมาจากมติเห็นชอบนโยบายสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประกาศเมื่อ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา อันได้แก่

1) ลดอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ประจำปีลงร้อยละ 80 เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน สำหรับรถยนต์จดทะเบียนระหว่าง 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2568
2) ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 รัฐบาลก็ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยการให้เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000 – 150,000 บาทต่อคัน รถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8 เปอร์เซ็นต์ เป็น 2 เปอร์เซ็นต์ และรถกระบะเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566 รวมถึงยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

ทั้งสองนโยบายของรัฐมีส่วนกระตุ้นให้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่างๆ เข้ามาตีตลาดในไทยจำนวนมาก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งของตลาดตามสัญชาติของรถยนต์ BEV ในปี 2022 ได้แก่ ประเทศจีน 80 เปอร์เซ็นต์ ประเทศฝั่งตะวันตก 14 เปอร์เซ็นต์ ประเทศญี่ปุ่น 5 เปอร์เซ็นต์ และจากประเทศอื่นๆ อีก 1 เปอร์เซ็นต์

ส่งผลให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง ORA ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ภายใต้บริษัทสัญชาติจีน Great Wall Motor มีส่วนแบ่งทางการตลาดในไทยเมื่อเดือนมิถุนายนไปมากกว่า 43.8 เปอร์เซ็นต์ 

จึงเป็นที่น่าจับตามองในอนาคตว่าจะมีแบรนด์ใดโค่นแชมป์ ORA ได้ไหม หลังจากเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ต่อคิวข้ามคืนเพื่อซื้อรถไฟฟ้าแบรนด์ BYD รวมถึงข่าวการจดทะเบียน ‘บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด’ เพื่อเปิด Flagship Store ที่ EMSPHERE ในโครงการ THE EM DISTRICT ของ The Mall Group ใจกลางกรุงเทพฯ ปี 2023 ที่จะถึงนี้

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV

Sources :
AutolifeThailand | t.ly/8rP-
CNBC | t.ly/yzKR
Finnomena | t.ly/u_g6
Marketeer Online | t.ly/fkjF
PeerPower | t.ly/MtwI
กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก | t.ly/4-w3 
สถาบันพลังงาน มช. | t.ly/bNIo

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.