นอกจากงานดีไซน์สนุกๆ ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดงในงาน Bangkok Design Week ทุกปีแล้ว งานนี้ยังเป็นพื้นที่ให้เราได้อัปเดตนวัตกรรมล้ำๆ และเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศทุกปีอีกด้วย
ถ้าใครไปงาน Bangkok Design Week 2022 ในช่วงนี้ จะพบกับพาวิลเลียนคอนกรีต 3D ขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่หน้าทางเข้าอาคารที่ว่าการไปรษณีย์กลาง ดูเผินๆ พาวิลเลียนนี้เหมือนโครงสร้างอาคาร แต่จริงๆ แล้วคือ ฟาซาด (Façade) คอนกรีตที่ CPAC Green Solution (ซีแพค กรีน โซลูชัน) ผลิตด้วยเทคนิค 3D Printing ถ้าเดินเข้ามาดูใกล้ๆ และลองสัมผัสจะพบว่าฟาซาดชิ้นนี้พื้นผิวแทบไม่ต่างจากคอนกรีตแบบเดิม แถมยังสร้างลวดลายและออกแบบให้โค้งเว้าได้ไม่จำกัดรูปทรง ที่สำคัญคือทั้งหมดนี้ใช้เวลาพิมพ์แค่ 32 ชั่วโมง และใช้เวลาติดตั้งภายใน 8 ชั่วโมงเท่านั้น
ผลงานชิ้นนี้คือ 3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade เทคโนโลยีการก่อสร้างจาก CPAC Green Solution พาวิลเลียนฟาซาด 3 มิติชิ้นนี้ออกแบบโดยพิพิธ โค้วสุวรรณ Design Director แห่ง Salt and Pepper Studio ที่เคยร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานมาแล้วใน SCG HOME EXPERIENCE นอกจากนี้ยังเป็นผลงานชิ้นแรกและปีแรกที่ CPAC Green Solution ยกมาจัดแสดงที่งาน Bangkok Design Week 2022 ให้เราได้ดูกัน นอกจากจะช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี นวัตกรรมนี้ยังประกอบง่ายมากจนสามารถยกไปติดตั้งที่ไหนก็ได้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เราอยากชวนดีไซเนอร์ วิศวกร และคนที่อยู่ในสายงานการก่อสร้างได้มารู้จักกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้กันมากขึ้น
พิพิธ โค้วสุวรรณ ดีไซเนอร์ของงานนี้เล่าว่า “การก่อสร้างด้วย 3D Printing นิยมใช้ในต่างประเทศค่อนข้างแพร่หลาย ในขณะที่เมืองไทยยังมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หลังจากที่ได้ทำงานกับ SCG HOME EXPERIENCE มาแล้วทำให้มองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ ที่จะนำนวัตกรรม 3D Printing เข้ามาใช้ในการทำงานจริง เพราะสามารถปรับให้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวดีไซเนอร์เองได้มากขึ้น
“การตีโจทย์ของการออกแบบตัวฟาซาดครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดของทางซีแพคเอง ซึ่งเป็นลักษณะของโมดูลาร์ นำมาต่อกันจนเกิดเป็นรูปแบบฟาซาดที่มีแพตเทิร์นหลากหลาย และยังคงมีมิติและมีเสน่ห์ของชั้นคอนกรีตที่เรียงต่อกันเป็นชั้นๆ โดยลักษณะของฟาซาดคอนกรีตที่สร้างด้วย CPAC 3D Printing Solution เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ ขนาด 4.65 x 2.6 เมตร สูง 3.5 เมตร ซึ่งเป็น Scale ที่ถูกลดลงมาเพื่อความปลอดภัยในเรื่องความสูงของโครงสร้าง เนื่องจากเป็นอาคารที่จะจัดแสดงอยู่บนโครงสร้างชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
“ทั้งนี้ตัวผลงานฟาซาดใช้ระยะเวลาในการพิมพ์เพียง 32 ชั่วโมง และใช้เวลาติดตั้งภายใน 8 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นการลดระยะเวลาการทำงาน ลดวัสดุเหลือทิ้งจากการก่อสร้าง ลดการใช้วัสดุและทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า แสดงให้เห็นว่า CPAC 3D Printing Solution มีศักยภาพที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีรูปทรงซับซ้อน และสามารถนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่อีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนได้”
แก้ได้ทุกปัญหาเก่าและตอบโจทย์งานก่อสร้างยุคใหม่
ฝุ่นเยอะ เสียงดัง สร้างมลพิษ มีเศษวัสดุเหลือทิ้ง นี่คือสิ่งที่การก่อสร้างแบบเก่าสร้างปัญหามาถึงปัจจุบัน ในยุคที่การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่ผู้คนมองหาการลงมือทำและโซลูชันที่ปฏิบัติตามได้จริง งานก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างผลกระทบมาอย่างยาวนานและควรหาทางออกเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
CPAC 3D Printing Solution เป็นนวัตกรรมก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการนำมาใช้ในงานก่อสร้างยุคใหม่ และแก้ได้ทุกปัญหาเดิมๆ ที่เราเคยพบจากงานก่อสร้าง โดยเฉพาะฝุ่นที่ฟุ้งกระจายทุกครั้งที่ต้องผสมคอนกรีต แถมช่วยในการลดระยะเวลาก่อสร้าง สามารถพรินต์ขึ้นรูปผนังอาคารพื้นที่มากกว่า 150 ตารางเมตร ในระยะเวลา 7 วัน เป็นการลดระยะเวลาก่อสร้างลง 66% ลดการใช้แรงงานน้อยลง 50% ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย อีกทั้งยังลดวัสดุก่อสร้าง และเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุดจนแทบไม่มีวัสดุเหลือทิ้งจากการก่อสร้างเลย
เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลยังช่วยดีไซเนอร์ในทุกขั้นตอนเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน เริ่มตั้งแต่กระบวนการคำนวณการใช้วัสดุที่ทำได้อย่างแม่นยำมากกว่าการคำนวณเอง ทำให้ไม่มีวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้าง ไม่ต้องสั่งของเผื่อเหลือเผื่อขาด และยังได้ผลลัพธ์ของชิ้นงานที่ตรงกับแบบร่าง 100% ไม่ต้องกังวลว่าผู้รับเหมาจะทำงานไม่ตรงแบบ
CPAC 3D Printing Solution พิมพ์อะไรได้บ้าง?
CPAC 3D Printing Solution ทำได้ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ อย่างของแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน การพิมพ์สามมิติในไซต์งาน ไปจนงานก่อสร้างชิ้นใหญ่อย่างเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ ไปจนถึงฟาซาดที่นอกจากจะทำดีเทลได้ตามที่ต้องการแล้ว ยังนำไปประกอบกับวัสดุอื่นได้ง่ายอีกด้วย ทำได้ทั้งแบบการผลิตสำเร็จจากโรงงานสำหรับงานชิ้นเล็กๆ การพิมพ์สามมิติในไซต์งาน ไปจนถึงกรณีอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องผลิตก่อนนำมาติดตั้งหน้างานเหมือนฟาซาดชิ้นนี้
ข้อดีอีกอย่างของการใช้ 3D Printing คือดีไซเนอร์สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอย่างไม่สิ้นสุดและไม่มีข้อจำกัดเรื่องรูปทรง ต่างจากการใช้คอนกรีตโดยทั่วไปที่ทั้งหนักและไร้ความยืดหยุ่น หากมองดีเทลใกล้ๆ จะเห็นลวดลายของเส้นโค้งหลากหลายรูปแบบ ทั้งเส้นเล็กและเส้นใหญ่ ทำให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าผลงานที่ผ่านการผลิตจาก 3D Printing ดูอ่อนช้อยและยืดหยุ่นกว่าคอนกรีตทั่วไป แต่เมื่อสัมผัสแล้วก็ยังได้ความรู้สึกของการเป็นวัสดุคอนกรีตอยู่เหมือนเดิม
พิพิธกล่าวว่า “ในฐานะดีไซเนอร์ มองว่า CPAC 3D Printing Solution นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่เป็นไปได้สำหรับการก่อสร้างและการตกแต่ง ทั้งศักยภาพในการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีรูปทรงซับซ้อน และเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ในการออกแบบทุกๆ มิติ โดยตอบสนองความต้องการของนักออกแบบ ที่จะสามารถสร้าง Material หรือชิ้นงานที่เป็น Customize ของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องขึ้นอยู่กับระบบอุตสาหกรรมที่มีในท้องตลาด
“ทั้งนี้ การยกนวัตกรรม ‘CPAC 3D Printing Solution’ มาร่วมจัดแสดงในงานนิทรรศการออกแบบงาน Bangkok Design Week 2022 ในปีนี้ ซึ่งมาในธีม Co With Creation คิด สร้าง ทางรอด เป็นการตอบโจทย์ทั้งในแง่ของ Co With Eco นวัตกรรมการออกแบบแห่งอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Co With Culture สะท้อนแนวคิดการออกแบบงานสถาปัตยกรรม เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วในกรุงเทพฯ แนวคิดในการใช้อาคาร การรื้อฟื้นอาคาร และสุดท้ายคือ Co With Future ความรู้สึกว่าเราอยู่ในจุด Future is Now! เพราะโลกอนาคตก็คือปัจจุบัน การสร้างสรรค์งานออกแบบเพื่อต่อยอดวิถีชีวิตยิ่งต้องคิดให้ล้ำ”
CPAC 3D Printing Solution เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการก่อสร้างที่ทำให้เห็นว่ากระบวนการก่อสร้างแบบ ‘Turn Waste to Value’ ซึ่งเป็นการผลิตก่อนนำมาติดตั้งโดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างผลประโยชน์คืนกลับสู่สังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Go Green) ตามแนวทาง ESG 4 Plus ของ SCG คือ มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ – Plus เป็นธรรม โปร่งใส และตอกย้ำแนวคิด CPAC Green Solution ได้เป็นอย่างดี
ตามไปดูงานนี้กันได้ที่งาน
Bangkok Design Week 2022
ชื่อผลงาน : 3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade
สถานที่ : หน้าอาคารไปรษณีย์กลาง
ระยะเวลาจัดแสดง : 5 – 13 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00 – 21.00 น.