Bangkok World Expo 2032 ธีสิสพลิกโฉมมักกะสัน - Urban Creature

‘Osaka World Expo 2025’ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในปีนี้ที่คนพูดถึงกันทั่วโลก และน่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส 

เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับโลกที่แต่ละประเทศได้ร่วมเวทีประกาศความสำเร็จในแบบของตัวเองแล้ว ยังเป็นสปอตไลต์ที่ฉายความพร้อมในหลากหลายมิติของประเทศเจ้าภาพอีกด้วย

แต่ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ จริงๆ แล้วไทยเองก็เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ถึงสองครั้งสองคราในปี 2020 และ 2028 แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนสนับสนุนหรือด้านโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ทว่าความหวังนี้ยังคงไม่หายไป

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

แม้จะมีคำถามว่า แล้วตอนนี้ไทยเราพร้อมหรือยังที่จะขึ้นสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก แต่อีกคำถามที่น่าสนใจและชวนจินตนาการต่อไม่แพ้กันคือ แล้ว ‘Bangkok World Expo’ จะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ 

คอลัมน์ Debut พาไปพูดคุยกับ ‘ธีร์-ธนกฤต กาญจนารมย์’ นิสิตจากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เราเห็นภาพอนาคตและศักยภาพของไทยมากขึ้น ผ่าน ‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสจบการศึกษาของเขา

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

วาระพิเศษพลิกโฉมประเทศไทย

การทำธีสิสเกี่ยวกับงานมหกรรมระดับโลกของธนกฤตเริ่มต้นจากความชอบในการดูบอล และเห็นว่าการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่อย่างบอลโลกหรือบอลพรีเมียร์ลีกมักตามมาด้วยอีเวนต์ที่ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันได้

ในขณะเดียวกัน ธนกฤตเองก็อยากทำงาน Redevelopment หรืองานพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่หยิบเอาพื้นที่ว่างมาฟื้นฟูพัฒนากลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เขาจึงเล็งเป้าไปที่ ‘World Expo’ ซึ่งเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก

สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า World Expo คืองานมหกรรมแบบใด โดยปกติแล้ว World Expo คืองานมหกรรมระดับโลกที่จัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยี อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมของแต่ละประเทศทั่วโลก ซึ่งโดยปกติแล้วแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ‘World Expo หลัก’ และ ‘World Expo วาระพิเศษ’

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

ความแตกต่างของทั้งสองแบบอยู่ที่ World Expo หลัก ไม่จํากัดพื้นที่จัดงาน และใช้ระยะเวลาจัดงานรวมทั้งสิ้น 6 เดือน ในขณะที่ World Expo วาระพิเศษ มีการจํากัดพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 156.25 ไร่ และใช้ระยะเวลาจัดงานเพียง 3 เดือนเท่านั้น

เมื่อเทียบกับการที่ไทยยื่นเป็นประเทศเจ้าภาพ World Expo หลักก่อนหน้า พื้นที่และศักยภาพของไทยจึงอาจยังไปไม่ถึงเงื่อนไขที่กำหนด เพราะมีข้อจำกัดและความไม่พร้อมบางอย่าง สุดท้ายธนกฤตเลือกทำธีสิส ‘World Expo วาระพิเศษ’ แทน เนื่องจากมองว่าน่าจะตอบโจทย์และมีความเป็นไปได้มากกว่า

เพราะแม้งานจะเล็กกว่า ใช้ทุนไม่สูงเท่า มีระยะเวลาจัดงานน้อย อีกทั้งไม่มีการแสดงศาลานวัตกรรมอย่างที่เห็นกันในงานหลัก แต่สิ่งที่ได้คือ การได้ชุดแบรนดิ้งชุดเดียวกับงานหลัก และสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้ไม่ต่างกัน ซึ่งในช่วงที่เขาส่งธีสิสจบการศึกษาเป็นช่วงที่งาน Osaka World Expo 2025 กำลังจัดอยู่พอดี น่าจะทำให้คนเข้าใจเกี่ยวกับงานนี้ได้ง่ายขึ้น

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

ผลักดันมักกะสันสู่พื้นที่ยุทธศาสตร์นำร่อง

แล้วถ้าจัด World Expo ที่ประเทศไทยจะจัดที่ไหนดีล่ะ

ธนกฤตบอกกับเราว่า ตอนที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้สองครั้ง ประเทศเราเลือกเสนอไปสองพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดอยุธยาในปี 2020 และจังหวัดภูเก็ตในการจัดงานปี 2028 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลด้านทุนสนับสนุน โครงสร้างพื้นฐาน และอ่อนประสบการณ์ด้านการเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลก

จากเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ธนกฤตย้อนกลับมามองเมืองใหม่ที่มีความเหมาะสมในการจัดงาน ก่อนจะพบว่าจังหวัดที่มีความเป็นไปได้ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นหัวเมืองหลักของแต่ละภาค ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ขอนแก่น และพื้นที่ EEC

แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมทั้งหมดแล้ว ธนกฤตมองว่า ‘กรุงเทพมหานคร’ เป็นสถานที่จัดงานที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีความพร้อมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคม และในแง่ของ Global Branding ในการเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โปครั้งแรกของไทย

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

เมื่อได้จังหวัดแล้ว ถึงคราวที่จะก้าวสู่สเต็ปต่อไป กับการมองหาพื้นที่ที่มีศักยภาพภายใต้กรรมสิทธิ์ภาครัฐที่จะมาเป็นพื้นที่จัดงาน โดย 4 พื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ ได้แก่ ท่าเรือคลองเตย สถานีแม่น้ำ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีมักกะสัน

เมื่อนำมาพิจารณาเข้ากับการคัดเลือกธีมของ World Expo วาระพิเศษ ซึ่งเป็นการชูประเด็นใดประเด็นหนึ่งอย่างชัดเจนและมีเนื้อหาเฉพาะทาง แตกต่างจาก World Expo หลักที่เน้นประเด็นร่วมกลางๆ ทำให้มาจบที่ ‘สถานีมักกะสัน’ เนื่องจากมีขนาดพื้นที่ 156.25 ไร่ สอดคล้องกับการจัด World Expo วาระพิเศษ และนำเสนอสิ่งที่ธนกฤตต้องการได้

“เหตุผลที่เลือกมักกะสันเพราะเราสนใจเรื่องความสะดวกของการเดินทาง และมักกะสันก็เป็นพื้นที่ที่มีคีย์หลักเรื่องของการเดินทางมาตั้งแต่อดีตแล้ว จากนั้นค่อยขยายขอบเขตมาเป็นเรื่องนวัตกรรม ประวัติศาสตร์ และชีวิตของผู้คนที่เชื่อมโยงกับการสัญจร” เขาแสดงทรรศนะ

จากหัวข้อและประเด็นแยกย่อยที่เขาสนใจ สุดท้ายกรุ๊ปได้ออกมาเป็นธีม ‘Century of movement : Connecting the future, living in motion ทศวรรษแห่งการเดินทาง : เชื่อมต่ออนาคต, อยู่ร่วมกับการเดินทาง’

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

หัวเรือที่ดีต้องรู้วิธีบังคับหางเสือ

แม้ธีสิสของธนกฤตจะใช้ชื่อว่า ‘Bangkok World Expo 2032’ แต่ความจริงแล้วการเตรียมงานในเนื้อหาที่เขาจัดทำจะเริ่มตั้งแต่ปีนี้ หรือปี 2025 ไปจนถึงปี 2027 และมีแผนพัฒนาระยะยาวมากถึง 30 ปี

“เราเลือกปี 2032 เป็นปีจัดงาน ส่วนหนึ่งเพราะตรงกับวาระที่กรุงเทพฯ ครบรอบสองร้อยห้าสิบปีพอดี ซึ่งถ้าเราเฉลิมฉลองกรุงเทพฯ สองร้อยห้าสิบปีไปพร้อมๆ กับการจัด Bangkok World Expo 2032 วาระพิเศษได้ น่าจะเป็นอีเวนต์และโอกาสที่สำคัญมากของไทย” นิสิตสถาปัตย์ เจ้าของโปรเจกต์เล่าถึงสาเหตุที่เลือกปี 2032 เป็นปีที่ใช้ในการจัดงาน

ถึงอย่างนั้น เมื่อได้ลงพื้นที่จริงบวกกับหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์สภาพของพื้นที่ เขาพบว่ามักกะสันมีข้อจำกัดของพื้นที่อยู่ไม่น้อย หลักๆ คือ เป็นพื้นที่ปิดล้อมหน้าแคบและมีทางรถไฟกั้นกลาง ทำให้การออกแบบและการเปิดการเข้าถึงมีความท้าทาย

“แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่มักกะสันก็เป็นพื้นที่ที่สวยมากเช่นกัน เพราะเป็นพื้นที่ปิดล้อมบนทางยกระดับสูง ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางรูปแบบไหนก็สามารถมองเห็นได้จากทุกทิศทาง อีกทั้งยังเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก จากสี่รูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรือ APL BTS หรือ MRT อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์เรื่องการคมนาคมที่ยาวนาน”

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

และนั่นนำมาสู่กลยุทธ์ในช่วงพัฒนาเตรียมเปิดงานในระหว่างปี 2025 – 2027 ที่ประกอบด้วย 3 แนวทาง ได้แก่

1) เปิดพื้นที่หัวใจเชื่อมเมือง 
2) เชื่อมต่อการเดินทางต่างๆ ที่มีให้เข้าถึงกันได้ 
3) เปิดพื้นที่สาธารณะ คืนพื้นที่สีเขียวสู่เมือง

ทิศทางต่อไปคือการปรับพื้นที่จัดสรรการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการคงสิ่งปลูกสร้างเดิมไว้ หรือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่ปี 2027 ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดพื้นที่ใช้งานได้ในปี 2032

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

ส่วนพื้นที่ภายในงานประกอบด้วยโซนต่างๆ ดังนี้

1) Entrance Plaza ประกอบด้วย Exhibition Hall, Convention Hall และ Grand Hall เป็นพื้นที่เพื่อการจัดการประชุมหรือสัมมนาเกี่ยวกับหัวข้อการเดินทาง
2) Theme Exhibition Zone ประกอบด้วย Tech Museum และ Event Space ที่เน้นจัดพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับนวัตกรรมการเดินทาง และพิพิธภัณฑ์รถไฟ อีกส่วนพิเศษที่เพิ่มเข้ามาของเอ็กซ์โปนี้คือ ส่วนการอนุรักษ์อาคารมักกะสันเดิมเอาไว้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดง เนื่องจากพื้นที่เก่าสามารถบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ไม่ต่างจากการจัดนิทรรศการเลย
3) Public Plaza พื้นที่โซนเปิดสาธารณะทางตอนใต้ ที่คงบึงมักกะสันเดิมไว้เป็นส่วนหนึ่งของโซน ประกอบด้วยร้านขายของที่ระลึก และโรงแรมที่เป็นหนึ่งในบริการของงาน โดยเปิดให้คนนอกที่ไม่ได้ซื้อตั๋วเข้ามาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ได้

มากไปกว่านั้น ธนกฤตยังหยิบยกการสัญจรทางน้ำมาผสมผสานกับนวัตกรรมเพื่อใช้ในการออกแบบ ทำให้ระหว่างทางยกระดับในงานเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายที่แสดงออกถึงความเป็นไทยด้วยการใช้ทางน้ำเป็นวิถีสัญจร โดยเขาเลือกถอดฟังก์ชันของวิธีการสัญจรเหล่านั้นเข้ามาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ แล้วใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อโคจรในพื้นที่รอบงาน เช่น เรือขายอาหารคล้ายตลาดน้ำ สตรีทฟู้ด งานศิลปะ Art on Street รถพุ่มพวง เป็นต้น

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

“เป็นการจำลองฟอร์มของแม่น้ำในประเทศไทยขึ้นมา นำกิจกรรมต่างๆ มาผนวกเข้ากับนวัตกรรม ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของงานในครั้งนี้ว่า เรามีความเป็น Sense of Thailand” ธนกฤตเสริม

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำโมเดล ‘District Cooling Systems’ ของสิงคโปร์มาปรับใช้เพื่อลดคลื่นความร้อนในเมือง มีระบบ ‘Command Center’ เป็นศูนย์กลางควบคุมงาน และจัดทำ ‘Rainfall Water Management’ บริหารจัดการเรื่องน้ำในพื้นที่ เพื่อไม่ให้การจัดงานเป็นภาระให้พื้นที่โดยรอบ

เพราะถึงแม้การจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่จะส่งผลดีกับประเทศหลายด้าน แต่หากไม่มีแผนจัดการหลังจบงานจะทำให้เกิดผลลบกับเมืองได้เช่นกัน ธนกฤตจึงอยากให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาและจัดการหลังงาน Bangkok World Expo 2032 สิ้นสุดลงไม่แพ้ช่วงจัดงาน

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

งานจบ แต่เมืองยังเดินต่อได้

จัดงานระดับโลกทั้งที โฟกัสแค่ตอนเตรียมงานและช่วงที่งานจัดขึ้นคงไม่พอ ด้วยเหตุนี้ ธนกฤตตั้งใจว่าหลังจบงานจะมีการเปลี่ยนการใช้งานของโครงสร้างต่างๆ ให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาใช้งานต่อได้ อย่างการเปลี่ยนให้เป็นศูนย์กลางพื้นที่สร้างสรรค์สาธารณะของคนเมืองที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ โดยไม่ปล่อยให้พื้นที่ทิ้งร้างแม้งานจะจบลงแล้ว

เจ้าของโปรเจกต์เล่าว่า หากทำตามแผนทั้งหมดนี้ได้จริง จะทำให้เกิดแลนด์มาร์กใหม่ของย่าน โดยมักกะสันทำหน้าที่เป็นหัวใจของเมือง เศรษฐกิจเติบโต กลายเป็นศูนย์กลางที่สานต่อความเจริญ เนื่องจากเป็นหนึ่งในหมุดหมายของนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์ว่าประเทศจะได้รับรายได้จากค่าเข้าชมมากถึง 2.6 หมื่นล้านบาท

“เมื่อมักกะสันพร้อมแล้ว จะสามารถกระจายความพร้อมสู่อีกสองพื้นที่ในกรรมสิทธิ์เดียวกันได้ คือ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีแม่น้ำ ถือเป็นผลดีที่ส่งต่อกันเป็นทอดๆ” ธนกฤตเสริม

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

ขณะเดียวกันยังถือเป็นการคืนพื้นที่สาธารณะสีเขียวให้คนในเมืองได้มีสถานที่ทำกิจกรรม มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน และทำหน้าที่เป็นห้องทดลองให้ประยุกต์นวัตกรรมการเดินทางเข้ามาใช้ในพื้นที่ โดยคำนึงถึงผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นหลัก

ส่วนในแง่ของ Soft Power โปรเจกต์นี้ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ ยกระดับความพร้อมของไทย อีกทั้งยังเป็นวิธีการประกาศศักยภาพและวิสัยทัศน์ด้านนวัตกรรมของประเทศ ในฐานะผู้นำด้านการท่องเที่ยวและจัดอีเวนต์อีกด้วย

ทุกภาคส่วนร่วมใจ ไทยพร้อมจัดเอ็กซ์โป 

Bangkok World Expo 2032 ธีสิส การจัดงานมหกรรมระดับโลก มักกะสัน

เป็นที่รู้กันว่าการเป็นประเทศเจ้าภาพนั้นต้องมีความพร้อมสูงมากในหลายด้าน ส่วนคำตอบของคำถามที่ว่า ตอนนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วหรือยังในการเป็นเจ้าภาพงาน World Expo ที่หลายคนเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลง และหวังว่าสักวันเราจะผงาดบนเวทีโลก ก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศของเราจะพัฒนาและปรับปรุงไปในทิศทางไหน

“นอกจากกลยุทธ์และการวางแผนงาน อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ ความร่วมมือของภาคส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาแผนการจัดการนี้ให้มีความพร้อม มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นประเทศที่พร้อมแล้วจริงๆ” ธนกฤตทิ้งท้ายด้วยความหวัง

แม้ธีสิสนี้จะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ตัวเขามองว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากปรับปรุงและพัฒนาบางส่วนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนจัดของไทย และโฟกัสเรื่องความยั่งยืนอย่างพื้นที่สีเขียวและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่ควรตระหนักในปัจจุบันว่า เราจะพัฒนาเมืองอย่างไรให้เป็นประโยชน์กับผู้อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน 

Writer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.