ส่องนโยบาย ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ไขข้อสงสัย ที่มาที่ไป และรายละเอียดของโครงการ

รู้หรือไม่ว่า หากนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวจากต้นทางจนสุดสายแบบไป – กลับในแต่ละวัน เราจะเสียเงินถึง 124 บาท คิดเป็นอัตราค่าเฉลี่ยสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ต่อค่าแรงขั้นต่ำของคนไทย นี่ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการนั่งขนส่งสาธารณะต่อเพื่อถึงจุดหมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่รถไฟฟ้าจะไม่ใช่ทางเลือกการเดินทางที่ทุกคนเข้าถึงได้ จากเหตุการณ์ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีมาตรการเปิดให้ใช้บริการรถไฟฟ้าฟรีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 แม้ความตั้งใจของโครงการคือการช่วยลดมลภาวะทางอากาศ แต่จำนวนผู้ใช้งานที่สูงขึ้นถึง 39.62 เปอร์เซ็นต์ อีกนัยหนึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รถไฟฟ้าเป็นขนส่งที่กีดกันคนบางกลุ่มด้วยราคาที่สูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของคนไทย Urban Creature จึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ นโยบายจากรัฐบาลที่มีเป้าหมายช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางแบบเคลียร์ๆ ทีเดียวจบ ตั้งแต่เงื่อนไข ขั้นตอนการลงทะเบียน ไปจนถึงงบประมาณสนับสนุนโครงการนี้ ‘20 บาทตลอดสาย’ ความตั้งใจที่อยากให้รถไฟฟ้าเป็นของทุกคน ‘20 บาทตลอดสาย’ คือนโยบายของภาครัฐที่ต้องการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน โดยรัฐบาลจะเข้ามาช่วยจ่ายในส่วนต่างของค่าโดยสารที่เกินจากอัตรา 20 บาท เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงขนส่งสาธารณะประเภทรางได้ ปัจจุบันได้มีการดำเนินการไปแล้ว 2 สายคือ รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สายฉลองรัชธรรม (กรุงเทพฯ-นนทบุรี) และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) […]

เพ่งพิศ Bangkok Art and Culture Centre หนึ่งวันในศูนย์ศิลปะสะท้อนภาพสังคม พื้นที่สาธารณะที่รอให้ทุกคนออกมาใช้งาน

ภาพบันไดวนสีขาวใหญ่โตตรงหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น 7 ถึงชั้น 9 คือภาพที่คุ้นเคยกันดีของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre) หรือที่เรารู้จักในนาม ‘BACC’ สถานที่ที่ใครๆ ต่างเคยมีความทรงจำร่วม ไม่ว่าจะมาเยือนในฐานะผู้ชมงานศิลปะ หรือแวะเวียนมาใช้พื้นที่เป็นจุดนัดพบเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่ง BACC อยู่มานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทวีความครึกครื้นมากขึ้นไปเท่านั้น สังเกตได้จากจำนวนผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาเยือนพื้นที่แห่งนี้ ทั้งที่มาชมงานศิลปะและเดินเข้าเดินออกร้านรวงต่างๆ ภายในบริเวณ สอดคล้องไปกับปริมาณของร้านค้าและพื้นที่สร้างสรรค์ที่เหมือนจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อ 4 – 5 ปีก่อนอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่การมา BACC ของคอลัมน์ One Day With… ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากครั้งอื่นๆ อย่างแน่นอน เพราะเราจะมาล้วงลึกเบื้องหลังการทำงานของหอศิลปกรุงเทพฯ ผ่านคนวงใน เพื่อทำความรู้จักตึกใหญ่โตสีขาวใจกลางเมืองแห่งนี้ในมุมอินไซต์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ผ่านซีรีส์ MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์ ไปพร้อมกัน เป็นที่รู้กันว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่นึกถึงเสมอเมื่อใครหลายคนมองหาพื้นที่สงบใจกลางเมือง ทำให้ทุกครั้งที่เรามา BACC มักจะมีเป้าหมายในใจอย่างการตรงดิ่งเข้าชมนิทรรศการบริเวณชั้น 7, 8 และ 9 ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแวะอัปเดตสินค้างานคราฟต์บริเวณชั้นร้านค้า ​​artHUB เป็นต้น […]

ออกแบบ ‘Hawker Center’ แบบไทยๆ แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย คืนพื้นที่ทางเท้าที่หายไป

‘ไทยแลนด์ดินแดนสตรีทฟู้ด’ หนึ่งในอัตลักษณ์ของไทยที่เลื่องลือกันไปทั่วโลก ทว่าเบื้องหลังก็มีปัญหาคลาสสิกมากมายที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข อย่างที่รู้กันว่า กรุงเทพฯ กับหาบเร่แผงลอยเป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งการล้ำเส้นทางเท้า กีดขวางทางสัญจร ความสกปรกจากน้ำทิ้งและเศษซากจากการประกอบอาหารหรือตั้งร้าน รวมถึงสุขอนามัยของผู้บริโภค  ปัจจุบันกรุงเทพฯ นำ ‘Hawker Center’ โมเดลศูนย์อาหารจัดระเบียบร้านของสิงคโปร์มาปรับใช้บ้างแล้ว แต่ก็เจอทางตันและข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ไม่เอื้อต่อการจัดสรร การควบคุมมาตรฐาน ทุนสนับสนุน ไปจนถึงการคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของสตรีทฟู้ดแบบไทยๆ ส่งผลให้ประเด็นหาบเร่แผงลอยเป็น Love-Hate Relationship ที่อยู่คู่คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน ถึงอย่างนั้น การแก้ไขปัญหาก็ไม่ควรเป็นการขับไล่ร้านเหล่านั้นออกไปเพื่อเป็นการตัดจบ แต่ควรเป็นประเด็นขบคิดว่า เราจะทำอย่างไรให้ทางเท้ากลับมาเป็นทางเท้าเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันก็ไม่กระทบการทำมาหากินของเหล่าผู้ประกอบการ คอลัมน์ Urban Sketch ขอเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ ‘Hawker Center แบบไทยๆ’ สีสันจัดจ้านตามแบบฉบับสตรีทฟู้ดไทยที่ขมวดจบทุกปัญหา เสนอทางออกที่หลายฝ่ายจะแฮปปี้ คืนทางเท้าที่ดีให้นักสัญจรทางเท้าทุกท่าน อีกทั้งยังคงความเป็นสตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของไทย ขอให้ทางเท้ามีทางให้เท้าเดิน อย่างแรกร้านค้าต้องรู้ก่อนว่า ตรงไหนบ้างที่ห้ามตั้งร้านหาบเร่แผงลอย ปัจจุบันเทศกิจกำหนดว่า บริเวณที่ห้ามจำหน่ายสินค้าเด็ดขาดคือทางเท้าแคบที่กว้างไม่ถึง 2 เมตร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทางเท้าที่ดีควรมีความกว้างมากกว่าหรือเท่ากับ 2 เมตร แต่ประเทศไทยเองยังมีหลายพื้นที่ที่ทางเท้าแคบและไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีหาบเร่แผงลอยมาตั้งร้านอีกจึงเกิดปัญหาซ้ำซ้อนตามมา ถ้าไปดูกรณีของไต้หวันจะพบว่า […]

นกพิราบในเมือง อารยธรรมความเป็นเมืองที่เอื้อต่อพัฒนาการและปัญหานกพิราบล้นกรุง

ขึงตาข่าย งูปลอม หรือโมไบล์กระดิ่งลม ดูจะเป็นสิ่งของที่ชาวเมืองคุ้นเคยกันดีในฐานะเครื่องมือต่อกรกับ ‘นกพิราบ’ ที่มักมาทำรังบริเวณระเบียงตึกสูงและที่อยู่อาศัย ปัญหานกพิราบในกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งในสเกลของที่อยู่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ จนถึงขนาดมีการออกกฎหมายและข้อระเบียบมาใช้ ภาพจำของนกกับธรรมชาติดูเป็นของคู่กัน แต่พวกมันกลับเจริญเติบโตได้ดีในเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่คอนกรีต และดูเหมือนว่าอัตราการเพิ่มจำนวนของเจ้าสัตว์ชนิดนี้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมของโลก ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้นกพิราบเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมความเป็นเมือง ตามไปดูกันในบทความนี้ โครงสร้างของตึกสูงคล้ายกับถิ่นกำเนิดของนกพิราบ ในอดีตนกพิราบมักอาศัยอยู่บริเวณปากถ้ำหรือหน้าผาหิน พัฒนาการของนกพิราบบนตึกจึงเหมือนเป็นการอยู่อาศัยบนหน้าผาจำลอง โดยเฉพาะตึกสูงที่มีระเบียงให้พวกมันเกาะหรือมีช่องให้ทำรัง อีกทั้งนกพิราบยังมีความสามารถในการจดจำเส้นทางได้ดีมาก ส่งผลให้การจดจำที่อยู่อาศัย หรือมองหาพื้นที่ทำรังในเมืองที่มีผังเมืองซับซ้อนแบบที่มนุษย์อย่างเราแค่มองยังปวดหัว ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกมัน และเมื่อจดจำเส้นทางได้ดี นกพิราบจึงควบตำแหน่งสัตว์ที่มีชื่อเสียงในการหาทางกลับบ้าน จนเคยถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในฐานะเครื่องส่งข้อความหรือที่เรารู้จักในนาม ‘นกพิราบสื่อสาร’ ตั้งแต่ประมาณ 3,000 ปีก่อน ไม่แปลกเลยที่ฉายาเจ้าแห่งเส้นทางจะเป็นที่มาให้พวกมันสามารถเอาชีวิตรอดและเติบโตในเมืองใหญ่ได้ แหล่งอาหารนกพิราบ เศษซากของเหลือและความใจบุญสุนทาน โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตจะมาคู่กับห่วงโซ่อาหาร มีผู้ล่าและผู้ถูกล่า เพื่อให้เกิดระบบนิเวศที่สมดุล แต่สถานการณ์ของวงจรนกพิราบตอนนี้คือ ระบบนิเวศในเมืองกำลังขาดความหลากหลายของผู้ล่าอย่างเหยี่ยวหรืองู อีกทั้งนกพิราบยังเป็นสัตว์ที่ผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ปริมาณจึงเพิ่มอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสิ่งใดมาควบคุม ไม่มีผู้ล่าคอยควบคุมจำนวนก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นกพิราบใช้ชีวิตในเมืองรุ่นสู่รุ่นได้คือ แหล่งอาหารของพวกมัน คนเมืองจำนวนมากน่าจะคุ้นเคยกับภาพการจิกหาอาหารตามลานโล่งของนกพิราบ โดยเฉพาะบริเวณสวนสาธารณะ ลานโล่ง หรือท่าเรือ พวกมันล้วนแล้วแต่มองหาอาหารที่ชอบ เช่น เมล็ดธัญพืช หนอน และแมลง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นบริบทของเมืองใหญ่ อาหารลักษณะนี้คงไม่ได้หาได้ง่ายนัก […]

ยกระดับชีวิตมังกรจากแอนิเมชัน How to Train Your Dragon จะคนหรือสัตว์ (วิเศษ) ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

“มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับมังกรได้” ประโยคนี้คงเป็นสมมติฐานที่ชาวไวกิงและเหล่ามังกรจากเรื่อง อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (How to Train Your Dragon) ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ระหว่างคนและมังกร พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้ หากใครเคยรับชมแอนิเมชันเรื่องนี้ นอกจากเรื่องราวการต่อสู้ของมังกรและคน เราจะเห็นความสัมพันธ์และรูปแบบวิถีชีวิตร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์วิเศษ โดยอยู่ภายใต้การอยู่อาศัยบนเกาะเบิร์ก เกาะต้นกำเนิดของชนเผ่าไวกิง อีกทั้งยังเป็นเหมือนบ้านเฉพาะกิจของเหล่ามังกร  แม้ในท้ายที่สุดชาวไวกิงจำเป็นต้องบอกลากับเพื่อนซี้เหล่ามังกร เพื่อให้พวกมันได้กลับไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ของพวกมันจริงๆ แต่ในช่วงที่เหล่ามังกรยังอาศัยอยู่บนเกาะเบิร์ก เรื่องราวในแต่ละวันก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและสวยงามสักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเมืองแออัด หรือผลกระทบข้างเคียงในพลังงานมหาศาลของเจ้ามังกรที่ต่างส่งผลกระทบต่อทั้งคนและมังกร จนถึงกับทำให้พวกเขามีแผนการตามหาที่อยู่อาศัยใหม่ดังที่ปรากฏในภาค 3  เนื่องในโอกาสการกลับมาของ How to Train Your Dragon ฉบับ Live Action คอลัมน์ Urban Isekai อยากชวนทุกคนนั่งไทม์แมชชีนย้อนคิดไปกับพวกเรา ถ้าหากเหล่ามังกรยังคงอยู่อาศัยร่วมกับชาวไวกิงบนเกาะเบิร์ก เราจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์มีปีกเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง 1) จัดสรรพื้นที่ใหม่ แบ่งสัดส่วนระหว่างคนและมังกร ปัญหาเมืองแออัดดูจะเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในเกาะเบิร์ก หลังจากการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างชาวเมืองและมังกร จนทำให้ชาวไวกิงบางส่วนตั้งคำถามต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนมังกร  หากเมืองมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม กำหนดเขตที่พักอาศัยระหว่างมังกรและมนุษย์ จะเป็นทางแก้ที่ช่วยให้มังกรได้ใช้พื้นที่ตามธรรมชาติของร่างกาย และไม่สร้างความเสียหายแก่ชาวเมือง 2) บริการตรวจสุขภาพมังกรประจำปี  สุขภาพของคนและสัตว์เป็นสิ่งสำคัญ สัตว์วิเศษก็เช่นกัน เราจึงควรมีโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปีเต็มรูปแบบ […]

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.