Holding The Door Open โดย BICT Fest เวิร์กช็อปที่จะช่วยเปิดประตูความเป็นไปได้ ในการสร้างพื้นที่การแสดงสำหรับคนทุกกลุ่ม

เรามักได้ยินว่า ‘ศิลปะไม่มีพรมแดน’ แต่บ่อยครั้งศิลปะในไทยก็ดูมีเขตแดนบางอย่างที่กางกั้นคนบางกลุ่มอยู่ หลายคนรู้สึกว่า ‘ละครเวที’ เป็นสื่อบันเทิงที่ไกลตัว ทั้งบัตรราคาสูง เนื้อหาเข้าถึงยาก จนกลายเป็นศิลปะที่เหมือนสงวนไว้ให้คนเฉพาะกลุ่ม แต่ความจริงแล้วงานศิลปะการแสดงนั้นไม่ได้จำกัดเอาไว้สำหรับใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หลายคนที่อยู่ในวงการนี้อยากช่วยกันพลิกภาพจำใหม่ ให้ละครเวทีเป็นพื้นที่ที่ทุกคนตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หรือกระทั่งคนที่มีข้อจำกัดทางร่างกายสามารถก้าวเข้ามามีส่วนร่วมได้ หนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญคือ ‘อัจจิมา ณ พัทลุง’ ผู้อำนวยการ Bangkok International Children’s Theatre Festival (BICT Fest) ผู้ที่ไม่เพียงแค่อยากให้คนทั่วไปเข้าถึงละครเวทีได้เท่านั้น แต่ยังอยากสร้างพื้นที่ส่วนรวมที่เอื้อต่อคนทุกกลุ่ม รวมไปถึงการปลูกฝังความคิดของเด็กๆ ถึงเรื่องของความเท่าเทียมด้านร่างกาย ผ่านงานศิลปะที่จะแทรกซึมผ่านจินตนาการของเด็ก แทนที่จะใช้วิธีการสอนเพื่อให้เกิดการจดจำแทนการสร้างความเข้าใจ จากความตั้งใจนี้เอง ทำให้ BICT Fest ได้รับทุน ‘Connections Through Culture’ จาก British Council ในการสร้างสรรค์โปรเจกต์ ‘Holding the Door Open’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Inclusive Horizon’ เพื่อเปิดประตูสู่โลกละครที่เท่าเทียมและหลากหลาย ทั้งในฐานะผู้สร้างและผู้ชม ‘BICT […]

หนึ่งวันใน ‘ท่าพิพิธภัณฑ์’ ท่าเรือแห่งเรื่องเล่าใจกลางพระนคร เปลี่ยนของสะสมสู่นิทรรศการหมุนเวียน

ท่ามกลางเขตพระนครที่อุดมไปด้วย ‘ท่า’ ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะท่าพระจันทร์ ท่ามหาราช หรือท่าช้าง ใครจะรู้ว่ามีอีกหนึ่งท่าที่ซ่อนตัวอยู่อย่าง ‘ท่าพิพิธภัณฑ์’  เดิมทีแล้วคำว่า ท่า ใช้กับสถานที่อย่าง ‘ท่าเรือ’ หรือจุดขึ้นลงริมแม่น้ำเพื่อสัญจรทางเรือ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อของคนไทยสมัยก่อน เช่นเดียวกัน ท่าพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณโครงการท่าช้าง วังหลวง ก็เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องราวหลากหลายที่น่าสนใจ เปรียบเสมือนบทบาทของท่าเรือที่เชื่อมต่อการเดินทางของผู้คน คอลัมน์ One Day With… ในซีรีส์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ ขอชวนล่องเรือมาลงที่ท่าพิพิธภัณฑ์ พร้อมกับสำรวจมิวเซียมใจกลางพระนครผ่านถ้อยคำนายท่า ‘คุณพิ-พิริยะ วัชจิตพันธ์’ และ ‘คุณออน-กรกมล วัชจิตพันธ์’ ผู้ก่อตั้งและเป็นต้นตอความคิดของทุกนิทรรศการที่เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ใจกลาง ‘พระนคร’ แม้จะมีโอกาสได้แวะเวียนมาแถวนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักเป็นการสัญจรผ่านไปมาระหว่างบริเวณรถไฟฟ้า MRT สถานีสนามไชยกับแถวสนามหลวงเสียมากกว่า ทำให้นี่เป็นครั้งแรกของเราในการมาเยือนท่าพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บริเวณ ‘โครงการท่าช้าง วังหลวง’ และอยู่ติดกับ ‘ท่าช้าง’ ท่าเรือที่มีผู้คนมากมายแวะเวียนมาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา ความตั้งใจของท่าพิพิธภัณฑ์คือ อยากให้เมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง พร้อมกับการมีสถานที่เชิงประวัติศาสตร์หรือพิพิธภัณฑ์อื่นล้อมรอบ ซึ่งพระนครคือย่านที่มีทั้งวัดพระแก้ว โบราณสถานต่างๆ หรือกระทั่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ […]

ส่องนโยบาย ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ไขข้อสงสัย ที่มาที่ไป และรายละเอียดของโครงการ

รู้หรือไม่ว่า หากนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวจากต้นทางจนสุดสายแบบไป-กลับในแต่ละวัน เราจะเสียเงินถึง 124 บาท คิดเป็นอัตราค่าเฉลี่ยสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ต่อค่าแรงขั้นต่ำของคนไทย นี่ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการนั่งขนส่งสาธารณะต่อเพื่อถึงจุดหมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่รถไฟฟ้าจะไม่ใช่ทางเลือกการเดินทางที่ทุกคนเข้าถึงได้ จากเหตุการณ์ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีมาตรการเปิดให้ใช้บริการรถไฟฟ้าฟรีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 แม้ความตั้งใจของโครงการคือการช่วยลดมลภาวะทางอากาศ แต่จำนวนผู้ใช้งานที่สูงขึ้นถึง 39.62 เปอร์เซ็นต์ อีกนัยหนึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รถไฟฟ้าเป็นขนส่งที่กีดกันคนบางกลุ่มด้วยราคาที่สูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของคนไทย Urban Creature จึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ นโยบายจากรัฐบาลที่มีเป้าหมายช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางแบบเคลียร์ๆ ทีเดียวจบ ตั้งแต่เงื่อนไข ขั้นตอนการลงทะเบียน ไปจนถึงงบประมาณสนับสนุนโครงการนี้ ‘20 บาทตลอดสาย’ ความตั้งใจที่อยากให้รถไฟฟ้าเป็นของทุกคน ‘20 บาทตลอดสาย’ คือนโยบายของภาครัฐที่ต้องการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน โดยรัฐบาลจะเข้ามาช่วยจ่ายในส่วนต่างของค่าโดยสารที่เกินจากอัตรา 20 บาท เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงขนส่งสาธารณะประเภทรางได้ ปัจจุบันได้มีการดำเนินการไปแล้ว 2 สายคือ รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สายฉลองรัชธรรม (กรุงเทพฯ-นนทบุรี) และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) สายสีแดงอ่อน (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) […]

หนึ่งวันใน INVESTORY พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุนแห่งแรกของไทย ที่เชื่อว่าทุกคนเป็นฮีโร่ทางการเงินได้

‘เงิน’ เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคิด และเชื่อว่ายิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร หลายคนก็ยิ่งมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเก็บมากขึ้น เช่น เงินที่เราเก็บมาตลอดทั้งชีวิตจะเพียงพอต่อการใช้หลังเกษียณไหม และทำอย่างไรจึงจะมีเงินเพียงพอ ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ในขณะเดียวกัน การเงินและการลงทุนก็ดูเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมีแต่ตัวเลข เข้าใจยาก แถมชวนงงสุดๆ กับกองทุนนั้น หุ้นนี้ หรือการออมเงินหลากหลายรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ Urban Creature อยากชวนทุกคนมาเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ ไปด้วยกันที่ ‘พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)’ หรือ ‘INVESTORY’ ที่ซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มากไปกว่านั้น ด้วยความที่เป็นซีรีส์คอนเทนต์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวที่ซ่อนตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ผ่านคนทำงานผู้อยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่ที่มาที่ไปของที่นี่ ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตลอดจนเรื่องราวอินไซต์ที่ถ้ามาเยี่ยมชมเฉยๆ ก็อาจไม่รู้ว่ามีสิ่งนี้ซ่อนอยู่ แหล่งเรียนรู้ใต้ดินโบยบินสู่อิสรภาพทางการเงิน ถัดไปไม่ไกลจาก MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ นอกจากตึกสูงที่เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ลึกลงไปชั้นใต้ดินยังเป็นที่ตั้งของห้องสมุดมารวย ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือและสื่อสารสนเทศเกี่ยวกับการเงินการลงทุน และ ‘พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)’ หรือ ‘INVESTORY’ แหล่งเรียนรู้เรื่องการเงินและการลงทุนแห่งแรกของประเทศไทย จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ด้วย […]

เมืองสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว การออกแบบและองค์ประกอบของเมืองแบบไหนที่จะช่วยคู่หย่าร้างเลี้ยงลูกได้ดี

เวลาคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่มักจะได้ยินคำสอนปนบ่นว่า ‘คนสมัยนี้อดทนน้อยลง’ ทั้งในเรื่องการงาน การเงิน หรือแม้กระทั่งความรัก ที่เราไม่อาจอดทนกับคนเคยรัก กล้ำกลืนฝืนทนให้อยู่คู่กันไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรดังคุณปู่คุณย่าสมัยก่อน ด้วยปัญหามากมายหลากหลายของชีวิตหลังแต่งงาน ความไม่ลงรอยกันเรื่องการเงิน เรื่องที่ให้ความสำคัญ หรือเป้าหมายในชีวิต ทำให้คู่ที่เคยรักมักไม่หวานดังเก่า สวนทางกับอัตราการสมรสที่น้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งคงมาจากหลากหลายปัจจัยเช่นเดียวกันที่ทำให้คนไม่อยากแต่งงาน ทั้งเรื่องรายได้ที่อยู่คนเดียวน่าจะสบายกว่า ค่านิยมที่สามารถอยู่ก่อนแต่งโดยไม่จำเป็นต้องเห็นการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป หรือแม้กระทั่งปัจจัยทั่วๆ ไปอย่างการหาแฟนได้ยากเพราะแทบไม่ได้ออกไปพบเจอใครที่ถูกใจเลยด้วยซ้ำ สถิติการสมรสและหย่าร้างในประเทศไทย ปี 2563          สมรส   271,352        หย่าร้าง   121,011 ปี 2564          สมรส   240,979        หย่าร้าง   110,942 ปี 2565          […]

ออกแบบศูนย์ส่งด่วน เตรียมความพร้อม ให้เหล่า Porter ในเกม Death Stranding

ในอนาคตปรากฏการณ์ ‘Death Stranding’ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงกับสังคมมนุษย์ เมื่อวิญญาณของมนุษย์ไม่สามารถผ่านไปสู่ภพแห่งความตายได้ เนื่องจากติดอยู่บริเวณพื้นที่กึ่งกลางระหว่างความตายที่เรียกว่า ‘The Beach’ เหล่าวิญญาณที่ยังติดอยู่และพยายามกลับมาในโลกของคนเป็นจะถูกเรียกว่า ‘BT’ (Beached Thing) ซึ่งถ้า BT สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตจะทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่หรือ ‘Voidout’ ซึ่งปรากฏการณ์นี้ทำให้มนุษย์ต้องกระจายตัวกันอยู่ ไม่สามารถอยู่รวมเป็นชุมชนขนาดใหญ่ได้ ส่งผลให้สังคมมนุษย์ขาดการเชื่อมต่อ ด้วยเหตุนี้ ‘United Cities of America (UCA)’ นำโดยองค์กร ‘Bridges’ ได้มีความพยายามรวบรวมอเมริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง โดยใช้โครงข่าย Chiral Network เชื่อมต่อเมืองต่างๆ ในอเมริกาได้สำเร็จ เป็นเวลา 11 เดือนต่อมาหลังจาก Bridges เชื่อมต่อ UCA ได้แล้ว พวกเขามีแผนเชื่อมต่อพื้นที่ไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างเม็กซิโก และใช้ ‘Plate Gate’ ในการเดินทางข้ามซีกโลกไปยังทวีปออสเตรเลีย ดินแดนรกร้างที่ยังไม่ถูกเชื่อมต่อ นี่จึงกลายเป็นหน้าที่ของเหล่า ‘Porter’ ที่จะออกเดินทางไปยังดินแดนแห่งใหม่นี้ และเชื่อมต่อทุกคนเข้าด้วยกัน ในโลกที่มนุษย์ต้องแยกกันอยู่ Porter หรือคนส่งของกลายเป็นอาชีพที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเดินทางในดินแดนรกร้างเป็นเรื่องอันตราย ทั้งจากสภาพแวดล้อม […]

‘Aa kaan-อาคาร’ เพจของชาวเกมเมอร์ตัวเหลี่ยม ที่เนรมิตสถาปัตยกรรมไทยขึ้นในเกม Minecraft

เอามือทุบต้นไม้ สร้างบ้านดิน ขุดเหมือง สู้กับครีปเปอร์ เดินตกลาวา แย่งบ้าน Villager ทำเรดสโตน เหล่านี้คือตัวอย่างกิจกรรมที่เหล่าผู้เล่นเกม ‘Minecraft’ (ไมน์คราฟต์) ต่างคุ้นเคยกันดี แต่นอกเหนือจากโหมดเอาชีวิตรอด (Survival) ที่เป็นเหมือนสตาร์ทเตอร์แพ็กของชาวเกมเมอร์ ในเกมยังมีโหมด ‘สร้างสรรค์’ (Creative) ที่อนุญาตให้ผู้เล่นสร้างและทำลายสิ่งก่อสร้างและกลไกต่างๆ ได้อย่างอิสระ นี่จึงเป็นเหมือนหลุมหลบภัยให้กับสายครีเอทีฟได้ระเบิดพลังสร้างโลกและสิ่งปลูกสร้างในเกมเป็นของตัวเอง คอลัมน์ Art Attack ขอพามาบุกแมปเทพๆ ของ ‘ณัฐ-ณัฐวุฒิ เอื้อธีรมงคล’ และ ‘น้ำมนต์-ศิวัช สุขเลิศกมล’ 2 ตัวแทนแอดมินจากเพจ ‘Aa kaan-อาคาร’ ที่แม้จะเปลี่ยนชื่อเพจมาแล้วถึง 2 ครั้งจาก ‘Minecraft สถาปัตยกรรม’ และ ‘Minecraft Architecture’ แต่ยังคง DNA ของการลงงานสถาปัตยกรรมไทยในเกมอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อคุยถึงเบื้องหลังการสร้างสถาปัตยกรรมไทยในเกมไมน์คราฟต์ที่ทำเอาลูกเพจอ้าปากค้างทุกครั้งที่เห็น เริ่มตั้งแต่เด็ก ไม่เล็กประสบการณ์ “แต่ละคนเริ่มเล่นเกมไมน์คราฟต์กันตั้งแต่เมื่อไหร่” คำถามแรกที่ไม่ถามคงไม่ได้เมื่อเริ่มบทสนทนากับชาวเกมเมอร์ ณัฐวุฒิและศิวัชบอกกับเราว่า เพจ Minecraft สถาปัตยกรรม […]

‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสว่าด้วยการจัดงานมหกรรมระดับโลกที่จะพลิกโฉมมักกะสันในฐานะหัวใจเชื่อมเมือง

‘Osaka World Expo 2025’ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในปีนี้ที่คนพูดถึงกันทั่วโลก และน่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส  เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับโลกที่แต่ละประเทศได้ร่วมเวทีประกาศความสำเร็จในแบบของตัวเองแล้ว ยังเป็นสปอตไลต์ที่ฉายความพร้อมในหลากหลายมิติของประเทศเจ้าภาพอีกด้วย แต่ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ จริงๆ แล้วไทยเองก็เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ถึงสองครั้งสองคราในปี 2020 และ 2028 แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนสนับสนุนหรือด้านโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ทว่าความหวังนี้ยังคงไม่หายไป แม้จะมีคำถามว่า แล้วตอนนี้ไทยเราพร้อมหรือยังที่จะขึ้นสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก แต่อีกคำถามที่น่าสนใจและชวนจินตนาการต่อไม่แพ้กันคือ แล้ว ‘Bangkok World Expo’ จะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ  คอลัมน์ Debut พาไปพูดคุยกับ ‘ธีร์-ธนกฤต กาญจนารมย์’ นิสิตจากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เราเห็นภาพอนาคตและศักยภาพของไทยมากขึ้น ผ่าน ‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสจบการศึกษาของเขา วาระพิเศษพลิกโฉมประเทศไทย การทำธีสิสเกี่ยวกับงานมหกรรมระดับโลกของธนกฤตเริ่มต้นจากความชอบในการดูบอล และเห็นว่าการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่อย่างบอลโลกหรือบอลพรีเมียร์ลีกมักตามมาด้วยอีเวนต์ที่ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันได้ ในขณะเดียวกัน ธนกฤตเองก็อยากทำงาน Redevelopment หรืองานพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่หยิบเอาพื้นที่ว่างมาฟื้นฟูพัฒนากลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เขาจึงเล็งเป้าไปที่ ‘World Expo’ ซึ่งเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า World […]

กว่าจะเลี้ยงยูนิคอร์นให้โตในไทย บทเรียนสำคัญจาก ‘สงคราม ส่งด่วน’ ที่อยากชวนสำรวจว่าเมืองแบบไหนเหมาะกับสตาร์ทอัพ

*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์* เคยเห็นแมลงวันที่อยากเป็นยูนิคอร์นไหม ทั้งๆ ที่สัตว์สองชนิดนี้ดูเป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้เลย แถมยังห่างกันไกลโขทั้งในด้านลักษณะ ถิ่นที่อยู่ ไปจนถึงนิยามหรือความหมายที่มนุษย์อย่างเราๆ ตีความ และการที่มันห่างและต่างกันไกลขนาดนี้ก็คงเป็นจุดเริ่มต้นหรือความน่าสนใจสำคัญที่ทำให้สัตว์สองชนิดนี้ถูกนำมาเปรียบเทียบกันในตลาด ซึ่งเป็นแก่นหลักในซีรีส์เรื่อง สงคราม ส่งด่วน (Mad Unicorn) ซีรีส์เรื่องนี้มีจำนวน 7 ตอนสั้นๆ โดย ‘ณฐพล บุญประกอบ’ ที่ตั้งใจเล่าเรื่องแต่งจากแรงบันดาลใจของธุรกิจ Flash Express บริษัทขนส่งสีเหลืองเลื่องชื่อที่กลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นตัวแรกของไทยในเวลาเพียง 4 ปี โดยข้อความแรกที่ปรากฏต่อสายตาผู้ชมจากซีรีส์เรื่องนี้คือ ยูนิคอร์น (น.)สัตว์ลึกลับในตำนานปัจจุบันใช้เรียกบริษัทสตาร์ทอัพ จากนั้นจึงค่อยพาเราเดินทาง (ที่เรียกได้ว่ากระชากแขนผู้ชม) ล้มลุกคลุกคลานจากเหมืองทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา ไปสู่ความบ้าระห่ำของผู้ชายคนหนึ่งที่อยากทำธุรกิจขนส่งแต่เป็นเพียงแมลงวันตัวเล็กในตลาดนี้ ก่อนจะใช้ความแค้นเป็นเชื้อเพลิง ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นยูนิคอร์นตัวแรกที่ล้มยักษ์ได้สำเร็จ นอกจากชีวิตลุ้นๆ ลุ่มๆ ดอนๆ ผสมด้วยความกล้า ความบ้า และแรงตั้งใจในการคว้าชัยชนะอย่างไม่มีจังหวะเบรก จนทำให้ผู้ชมต้องจิกมือจิกเท้ากันตลอดทั้งเรื่องแล้ว ช่วงเวลา 7 ตอนนี้ยังเป็นบทเรียนที่ดีต่อสายธุรกิจและผู้ที่สนใจเรื่องเมืองอย่างเราอีกด้วย ประโยคนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ‘สันติ’ ตัวละครหลักกระโดดเข้าสู่วงการขนส่ง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ในประเทศไทยนั้นมีอุปสรรคมากมาย ทั้งในซีรีส์ที่เราเห็นได้ชัดอย่างทุนใหญ่ที่พร้อมเข้ามารวบทุกกิจการที่มีแนวโน้มเติบโต การกลั่นแกล้งในทางเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งเจ้าตลาดที่จ้องมองธุรกิจเล็กดิ้นแทบเป็นแทบตาย ไม่ต่างอะไรจากการมองแมลงวันในขวดแก้วที่บินหนีไม่ได้ รอวันร่วงตกมาตายเท่านั้น […]

ทำไม Walkable City ถึงเป็นแนวทางสำหรับเมืองสมัยใหม่ และเป็นความเหลื่อมล้ำของเมืองเล็กที่ถูกลืม

เป็นเวลากว่าล้านปีที่มนุษย์ค่อยๆ วิวัฒนาการสรีระเพื่อรองรับการเดินตัวตรง เหล่าบรรพบุรุษใช้พรสวรรค์ในการเดินทนเดินไกล ขยับขยายอาณาเขตและเอาตัวรอดในสมัยบรรพกาล หรือเรียกได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์นักเดินตัวยง กระทั่งเมื่อลูกหลานของป้าลูซี (Lucy) คิดค้น ‘ล้อ’ ตัวช่วยการเคลื่อนที่แสนสะดวก บทบาทของการเดินเท้าจึงเริ่มถูกคัดทิ้งและลืมเลือน เมื่อรถยนต์แพร่หลายกลายเป็นพาหนะประจำครัวเรือน การตัดถนนครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นทั่วโลก กรุงรัตนโกสินทร์เองก็เขยื้อนตัวเช่นกัน เริ่มจากการขยายเมือง ถมคลองสร้างถนนรองรับ ‘รถเก๋ง’ แต่ดันลืมนึกถึง ‘คนเดิน’ เวลาผ่านมาเพียงหนึ่งชั่วอายุคน ความนิยมของรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลได้แปรสภาพเมืองหลวงไทยให้กลายเป็น ‘ตัวอย่างของความล้มเหลวทางการจราจร’ ลืมเรื่องการเดินอย่างสบายเท้าบนฟุตพาทไปได้เลย เพราะบางครั้งชาวสยามยังจำเป็นต้องเดินบนถนนขณะรถวิ่ง การเดินเท้าบนฟุตพาทในกรุงเทพฯ กลายเป็นเรื่องท้าทายอย่างน่าละเหี่ยใจ นอกจากขนาดและสภาพของทางเท้าแบบ ‘Old School’ เก่าพังราวของวินเทจ ระยะทางของแต่ละย่านสำคัญก็ห่างไกลระดับน้องๆ มาราธอน แม้แต่ทางเลือกอย่างจักรยานก็อาจต้องเสี่ยงดวงเบียดบี้กับจักรยานยนต์บนถนน และขาดไม่ได้คืออากาศร้อนราวอบเซานาตลอดกลางวัน จึงไม่แปลกที่รถยนต์ส่วนตัวปรับอากาศเย็นสบายจะติดชาร์ตสิ่งของอันดับหนึ่งที่ใครๆ ล้วนปรารถนา อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าเศร้ากว่าปัญหาข้างต้นคือ การหารือบนโต๊ะประชุมมักมีเพียงการแก้ปัญหาในบริบทของกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลับกันใน ‘จังหวัดอื่นๆ’ กลายเป็นผู้ถูกลืม บางพื้นที่ไม่มีแม้แต่ระบบขนส่งสาธารณะ บีบบังคับให้ทุกบ้านต้องมีรถยนต์หรือจักรยานยนต์เป็นอย่างน้อย ทั้งที่แนวคิด Walkable City ไม่ควรถกเถียงอยู่แค่บริเวณเมืองหลวง เพราะประชากรทุกจังหวัดควรได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ทั้งนั้น การสร้างเมืองเดินได้ในทุกบริบทย่อมตั้งต้นด้วยการเปลี่ยนวิถีการคมนาคม เริ่มจากรถยนต์ผู้ครองตำแหน่งแชมป์ที่เป็นก้างชิ้นโต ทำให้ผู้สันทัดกรณีเสนอการแก้ปัญหาอย่างกำปั้นทุบดินคือ ‘กำจัดรถยนต์บนท้องถนน’ […]

จำลองตัวเองเป็นนักปลูกผัก ใช้ชีวิตในเกม Farming Sim ช่วยจัดระเบียบชีวิต ชุบชูใจด้วยการพิชิตชัยชนะเล็กๆ

นึกภาพตอนที่เราตื่นขึ้นมาในฟาร์มของเรา มีแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิสาดส่อง พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆ เริ่มต้นวันด้วยการรดน้ำพืชผักท่ามกลางธรรมชาติ เก็บเกี่ยวผลผลิตเตรียมเอาไปแบ่งปันกับชาวเมือง กิจกรรมนี้น่าจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเหล่ามนุษย์เมืองในสังคมเมืองที่เร่งรีบ เกม Farming Simulator หรือเกมจำลองการใช้ชีวิตในฟาร์มจึงเป็นเหมือนอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากพักจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย Farming Simulator หรือที่ชาวไทยเรียกง่ายๆ ว่า เกมปลูกผัก เช่น Stardew Valley เกมขวัญใจชาวปลูกผัก, Coral Island หรือ Harvest Moon เกมปลูกผักในความทรงจำของใครหลายคน ซึ่งนอกจากความสนุกแล้ว การเล่นเกม Farming Simulator ยังช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้อีกด้วย ชีวิตที่วางแผนได้จากกิจวัตรในฟาร์ม อย่างที่หลายคนรู้กันว่า การเล่นเกมช่วยลดความเครียดได้ แต่สิ่งที่โดดเด่นของเกมแนว Farming Simulator คือ เราสามารถจัดการวางแผนชีวิตได้ ตั้งแต่กิจวัตรประจำวัน To-do List ไปจนถึงการเลือกมีปฏิสัมพันธ์กับชาวเมืองในเกม มากไปกว่านั้น ยังต้องรู้จักเรียนรู้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งการวางแผนจัดแจงที่ดีมักจะตามมาด้วยผลลัพธ์ที่เหมือนเป็นรางวัลเล็กๆ ให้เราเสมอ เช่น การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เราปลูกเอง การช่วยเหลือชาวเมืองเล็กๆ น้อยๆ การปลดล็อกสูตรอาหารใหม่ๆ ฟังดูอาจเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไร เพราะไม่ส่งผลใดต่อชีวิตจริง แต่สำหรับคนที่ตั้งใจเล่นเกม […]

ทางเท้ากรุงเทพฯ ทำไมถึงไม่มีทางเดินดีๆ ให้ดื่มด่ำบรรยากาศเมือง

แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการปรับปรุงทางเท้าใหม่ในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงยังมีการปรับทัศนียภาพทางเท้าบางจุดที่เคยถูกบุกรุกพื้นที่ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังไม่รู้สึกว่ากรุงเทพฯ น่าเดินเล่นชิลๆ อยู่ดี บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากสภาพทางเท้าอย่างเดียว เพราะต่อให้ทางเดินเรียบขนาดไหน แต่ถ้ายังต้องคอยระแวงหลบสิ่งกีดขวางอยู่ประจำก็คงไม่สบอารมณ์นัก ยังไม่นับบรรยากาศรอบข้างที่ไม่เอื้อให้รู้สึกอยากเดินเสพบรรยากาศไปเรื่อยๆ ทั้งที่กรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแท้ๆ ทำไมเราถึงเดินเดตกันแบบเมืองปารีสหรือกรุงโซลไม่ได้ คอลัมน์ Curiocity ขอชวนมาเดินส่องหาสาเหตุกันว่า ทำไมเราถึงไม่สามารถเอนจอยกับการเดินทางเท้ากรุงเทพฯ ได้เสียที ปรับปรุงสภาพแต่ไม่ขยายขนาด ก็ไม่อาจทำให้ทางเท้าน่าเดินได้ ปัจจุบัน กทม.ทยอยปรับปรุงทางเท้าในกรุงเทพฯ หลายจุดทั่วเมืองตามโครงการปรับปรุงทางเท้า 1,000 กิโลเมตร แต่เนื่องจากระยะเวลาที่มีจำกัดและปัญหาอื่นที่ยังรุมเร้า คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในกรุงเทพฯ ยังมีทางเท้าอีกหลายจุดที่สภาพไม่ดีนัก โดยเฉพาะบริเวณชานเมืองและพื้นที่ที่ไกลออกไป ภาพจำของทางเท้าที่ขรุขระและสมบุกสมบันจึงยังไม่ถูกลบหายไปง่ายๆ และต่อให้เป็นทางเท้าที่ปรับปรุงแล้วก็ยังไม่วายมี ‘อุปสรรค’ มากีดขวางให้ผู้คนไม่สามารถเดินตรงๆ สบายๆ ยกตัวอย่าง เสาไฟฟ้า สะพานลอย ต้นไม้ที่ขนาดใหญ่เกินครึ่งของทางเท้า กระทั่งอากาศร้อนจัดเพราะไม่มีร่มเงาใดๆ ช่วยบดบังแสงแดด แม้บางพื้นที่มีตึกแถวเป็นร่มเงา ก็ดันมีน้ำไม่พึงประสงค์ที่หยดลงมาจากตึกแถวจนต้องเดินหลบกันจ้าละหวั่น แต่ที่หนักสุดคงเป็นขนาดทางเท้าที่ไม่สามารถขยับขยายไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เนื่องจากการปรับปรุงทางเท้าที่กล่าวมามักเป็นการ ‘ปรับปรุง’ พื้นผิวทางเท้าอย่างเดียว ไม่ได้ขยายทางเดินให้กว้างขึ้นแต่อย่างใด มากไปกว่านั้น บางพื้นที่ยังปาดทางเท้าให้กลายเป็นถนนเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาทางเท้าแคบจึงไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนพื้นที่ที่เคยมีทางเท้ากว้างก็อาจจะแคบลงไปเรื่อยๆ ซ้ำร้ายถนนบางเส้นไม่มีทางเท้าให้เดินเลยแม้แต่เซนติเมตรเดียว อยากปรับปรุงเหมือนกัน แต่เหมือนหน่วยงานอื่นจะไม่เข้าใจ ข้อจำกัดหลักที่ทำให้ทางเท้ายังมีอุปสรรคจนไม่สามารถเดินผ่านได้สะดวก […]

1 2 3 23

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.