ความสัมพันธ์แม่ลูก การเมือง และอำนาจปิตาธิปไตย ที่ยังคอยย้ำเตือนอยู่ในช่วงเวลาของ ‘อย่ากลับบ้าน’

*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์* เพื่อไม่ให้เป็นการเสียอรรถรสสำหรับคนที่อยากรับชม ‘อย่ากลับบ้าน’ ซีรีส์ออริจินัลสัญชาติไทยเรื่องล่าสุดของ Netflix คงต้องเรียนให้ผู้ที่เข้ามาอ่านบทความไปชมซีรีส์เรื่องนี้ก่อนโดยไม่ต้องรับรู้ข้อมูลใดๆ ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีที่สุด เพราะว่ากันตามตรง อย่ากลับบ้าน เป็นซีรีส์ที่เล่นกับความสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับเรื่องราวลึกลับที่เก็บงำซ่อนเอาไว้เป็นไม้เด็ด ซึ่งหากรับรู้เรื่องราวมากเกินไป ความตั้งใจที่ตัวซีรีส์พยายามจะสร้างความรู้สึกคาดไม่ถึงแก่ผู้ชมก็อาจหายไปโดยพลัน แต่หากต้องเล่าเรื่องย่อให้คนที่อยากรู้จริงๆ เนื้อเรื่องคร่าวๆ ของ อย่ากลับบ้าน นั้นเล่าถึง ‘วารี’ (นุ่น วรนุช) หญิงสาวผู้มีใบหน้าฟกช้ำและคราบน้ำตากำลังเดินทางหอบลูกสาววัย 5 ขวบชื่อ ‘มิน’ (เจแปน พลอยปภัส) เดินทางกลับสู่บ้านเก่าของครอบครัว ณ อำเภอตะกั่วป่าที่เธอเติบโตในวัยเด็ก บ้านหลังนี้มีชื่อว่า ‘บ้านจารึกอนันต์ 2475’ เป็นบ้านเก่าทรงยุโรปกลางป่าที่เก็บซ่อนความลึกลับพิศวงของอดีตเอาไว้ และยังเชื่อมโยงไปถึงเหตุผลที่แม่ลูกทั้งสองเดินทางหนีบางสิ่งบางอย่างมาสู่สถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งนำไปสู่เหตุผลและความหมายของคำว่า ‘อย่ากลับบ้าน’ หลังจากนี้จะเป็นการพูดถึงเนื้อหาที่จะเปิดเผยเรื่องราวสำคัญในซีรีส์ อย่ากลับบ้าน แล้ว ด้วยวิธีการเล่าท่าทีล่อหลอกผู้ชมให้เชื่อไปในทางหนึ่ง ในที่นี้คือหลอกให้หลงเชื่อว่านี่คือซีรีส์แนว ‘สยองขวัญ’ ว่าด้วยผีวิญญาณร้ายที่สิงสถิตอยู่ในบ้านร้างและหลอกหลอนตัวละครสองแม่ลูก หลังจากหลอกตีหัวคนดูเข้าบ้านได้ด้วยแนวทางที่เหมาะสมแก่การเป็นซีรีส์ฉายในคืนวันฮาโลวีน จากนั้นเรื่องราวจะพาคนดูหัวหมุนตีลังกาด้วยความสงสัย ก่อนพลิกผันเฉลยตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นแนว ‘ไซไฟ’ ในภายหลัง เป็นการเล่นกับความคาดหวังสงสัยใคร่รู้ของคนดูอย่างน่าตื่นเต้น หากแต่สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงลูกเล่นที่เล่นกับการคาดเดาของคนดูเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความหมายซุกซ่อนอยู่ในเอเลเมนต์ต่างๆ ที่สะท้อนประเด็นสังคมได้อย่างน่าค้นหา ค่านิยมของสังคมที่วนลูปและไม่เคยหายไป การผันตัวเองจากความคาดหวังว่าจะได้ชมซีรีส์สยองขวัญแนวผีๆ ไปสู่การเป็นซีรีส์แนวไซไฟย้อนเวลาของ […]

เปิดข้อมูลสำรวจลานกีฬาทั่วกรุงเทพฯ อยากให้คนเมืองแข็งแรง แต่กลับไม่มีพื้นที่ให้ออกกำลังกาย

‘กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ’ หลายคนคงเผลอร้อง ‘ฮ้าไฮ้ ฮ้าไฮ้’ ตามหลังเสมือนกำลังอยู่ในช่วงกีฬาสีวัยเด็ก โดยเพลง ‘กราวกีฬา’ ได้แต่งขึ้นมากว่า 100 ปี เป็นหลักฐานที่ว่าประเทศไทยมีการส่งเสริมชาวสยามให้เล่นกีฬาออกกำลังกายมาอย่างยาวนาน สอดคล้องกับสำนวนโบราณแสนเชยที่เราฟังจนเอียนหู ‘การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ’ ฟังดูแล้วเหมือนจุดเริ่มของการลดโรคคือ ‘การออกกำลังกาย’ แต่การตามหาพื้นที่เล่นกีฬาในเมืองหลวงที่มีขอบเขตแสนจำกัดย่อมเป็นเรื่องที่ต้องพยายาม อย่างไรก็ตาม เรายังมี ‘ลานกีฬา’ พื้นที่สำหรับออกกำลังกายเพื่อสนับสนุนชาวเมืองให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยกระจัดกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ กว่า 1,126 แห่ง จุดประสงค์ของลานกีฬาคือ การอำนวยพื้นที่ในการออกกำลังกายให้ผู้รักสุขภาพ แต่ชาวกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งกลับส่ายหัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพื้นที่เหล่านี้อยู่ตรงไหน และเลือกที่จะยอมเสียเงินรายชั่วโมงเช่าสนามหรือคอร์ตแทน อีกทั้งในบางลานกีฬาคนทั่วไปกลับไม่สามารถเข้าถึงได้หรือมีเงื่อนไขเฉพาะตัว โดยใน ‘เมืองชีวิตดีๆ ที่ลงตัว’ กลับมีลานกีฬาสาธารณะเพียง 107 แห่งเท่านั้น สถานที่ตั้งลานกีฬาที่บางคนหาไม่เจอ เริ่มจากเรามาดูกันว่าลานกีฬาในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในสถานที่ไหนบ้าง สิริรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,126 แห่ง แบ่งเป็น 1) สถานศึกษา 419 แห่ง (37.21%)2) ลานกีฬาชุมชน 324 แห่ง […]

พาไปล่าท้า 6 สถานที่ที่มี ‘ผี’ เป็นมาสคอต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดึงคนมาเที่ยวด้วยสตอรีหลอนๆ

เรื่องผีมักผูกติดกับสถานที่ ยิ่งเรื่องผีแมสเท่าไหร่ สถานที่ที่เกิดเหตุก็มีคนไปตามรอยเยอะเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นหลายสถานที่ที่โด่งดังจากเรื่องขนหัวลุก และหยิบจับเอาสตอรีเหล่านั้นมาเป็นจุดขาย ดึงดูดคนให้เข้ามาท่องเที่ยวจนเกิดเป็นธุรกิจแบบใหม่ที่มี ‘ผี’ เป็นมาสคอตการท่องเที่ยว วันฮาโลวีนแบบนี้ Urban Creature ขอเอาใจคนชอบล่าท้าผีด้วยการพาไปรู้จัก 6 สถานที่ที่ใช้ผีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดึงคนมาเที่ยวด้วยสตอรีหลอนๆ ก่อนต่อยอดเป็นแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาด สัมผัสวิญญาณเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงหอคอยแห่งลอนดอน อังกฤษ หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London) สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี 1078 ถือเป็นสถานที่ผีดุติดอันดับต้นๆ ของทุกโพล เนื่องจากประวัติของตัวสถานที่ที่ในอดีตถูกใช้เป็นป้อม พระราชวัง และคุกหลวงสำหรับขังนักโทษยศสูง ที่ภายในมีการทรมานและประหารชีวิตด้วยการตัดหัวหรือแขวนคออยู่บ่อยครั้ง วิญญาณที่คนว่ากันว่ามักเห็นอยู่บ่อยๆ คือ ‘พระนางแอนน์ โบลีน’ มเหสีองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ที่มักมาปรากฏตัวแบบไม่มีหัว ‘Princes in the Tower’ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และเจ้าชายริชาร์ด ดยุกแห่งยอร์ก สองพี่น้องใส่ชุดนอนสีขาว ยืนจับมือกันนิ่งๆ ก่อนจะเลือนหายเข้าไปในผนัง รวมไปถึงวิญญาณชนชั้นสูงอีกมากมายที่มักมาปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ่อยๆ […]

พาไปดูชีวิตคนเมืองที่ต้องรออะไรสักอย่าง นาน น้าน นาน จนตายไปเป็นผีแล้วก็ยังต้องรออยู่

เวลาดูหนังผี นอกจากความน่ากลัวก็มักมีความเศร้าแฝงมาด้วยตลอด เพราะผีแต่ละตัวมักมีห่วงให้ยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ ตั้งแต่การตายโดยไม่รู้ตัวแล้วยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ตัดใจจากใครสักคนไม่ได้ ต้องคอยไปเฝ้ามอง หรือกระทั่งยังรออะไรบางอย่างอยู่อย่างนั้น รอรถติด รอรถเมล์ รอต่อคิวบีทีเอส รอถนนซ่อมเสร็จ นี่คือตัวอย่างการรอที่คนเมืองต้องประสบพบเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งถ้าลองเอาเวลาเหล่านั้นมาต่อกันคงน่าทึ่งไม่ใช่น้อย ที่เราต้องเสียเวลาไปกับการรอมากขนาดนี้ และแน่นอนว่า เวลาที่เรารออะไรนานๆ ก็มักนึกถึงการเปรียบเทียบทำนองว่า รอนานขนาดนี้ ตายแล้วเกิดใหม่ไปหลายรอบก็ยังไม่เสร็จหรือไม่ได้ไปเลยมั้ง แล้วจะเป็นไปได้ไหมที่ผีๆ ในเมืองจะยังคงวนเวียนไม่ไปไหน เพราะรอนั่นโน่นนี่จนตายแต่ไม่รู้ตัว คอลัมน์ One Day With… เลยขอใช้โอกาสช่วงฮาโลวีนหยิบเอาสาเหตุการรอจนตายของเหล่าผีในเมืองมาตีแผ่ให้ทุกคนดู ใครเคยมีประสบการณ์ร่วมกับผีตัวไหนก็ไปปลอบใจพี่ผีเขากันได้ เป็นอะไรตายมาล่ะ? ฉันรอ รถเมล์ จนตาย 15 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง คุณเคยรอรถเมล์นานสุดเท่าหร่ายยย (ทำเสียงยานให้สมกับเป็นผี) รู้ไหม ฉันรอรถเมล์นานมากที่สุดเป็นเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ เพราะบางคันก็ไม่ยอมจอดที่ป้าย หรือบางคันก็แน่นจนเบียดตัวขึ้นไปไม่ได้แล้ว รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผีรอที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งจากที่สังเกตการณ์มา คนก็ยังรอรถเมล์นานเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืองุนงงสับสนกับสีและสายรถเมล์ที่ปรับใหม่ ทำเอาคนที่ใช้รถเมล์บ่อยๆ มึนไปตามๆ กัน ยังไม่นับประเด็นรถเมล์ร้อนที่นี่ก็ปาไปปี 2024 ภาวะโลกร้อนข้ามขั้นไปยังภาวะโลกเดือด คนไทยก็ยังต้องใช้รถเมล์ร้อนที่ใช้น้ำมันดีเซลซึ่งเป็นสาเหตุของ PM […]

สิงคโปร์ พลิกฟื้นสลัมสู่เมืองแนวตั้งและชุมชนทันสมัย สร้างความมั่นคงทางที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัด

จากชุมชนชาวประมงเล็กๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าเกาะภูเก็ตเพียงเล็กน้อย ปัจจุบัน ‘สิงคโปร์’ กลายเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยโอกาสและเม็ดเงินมหาศาลจากทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้น ทุกเมืองทุกพื้นที่ย่อมมีข้อจำกัดของตัวเอง ด้วยความที่เป็นเกาะขนาดเล็กและมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติ ทำให้ดินแดนแห่งเมอร์ไลออนกลายเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่ติดอันดับหนึ่งในสามของโลกอยู่เสมอ แต่ด้วยความสามารถในการจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้สิงคโปร์ยังรองรับผู้คนจากทั่วโลกได้โดยไร้ข้อบกพร่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายการสร้างความมั่นคงทางที่อยู่อาศัยด้วย ‘HDB Flat’ หรือแฟลตรัฐบาลที่เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในราคาที่จับต้องได้ และนอกจากโมเดลที่อยู่อาศัยแนวตั้งสำหรับชาวสิงคโปร์ อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน รวมถึงความท้าทายใน ‘แฟลตของประชาชน’ ที่ยังมีข้อจำกัดในกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นงานของรัฐบาลที่ต้องหาทางแก้ไขต่อไป จากชุมชนแออัดสู่ตึกอาคารชุดโดยรัฐ หลังจากหลุดพ้นการเป็นหนึ่งในอาณานิคมของประเทศอังกฤษในปี 1959 เกาะสิงคโปร์ต้องเผชิญกับคลื่นผู้อพยพจากผู้คนหลากหลายเชื้อชาติทั้งชาวจีน อินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งทั้งหมดได้กลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในเวลาต่อมา ด้วยเหตุดังกล่าว ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ในปี 1960 รัฐบาลสิงคโปร์นำโดยนายกรัฐมนตรี ‘ลี กวน ยู’ ได้เริ่มต้นวางโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยจัดตั้ง Housing & Development Board (HDB) หรือหน่วยการเคหะแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย โดยรัฐบาลได้กว้านซื้อที่ดินสลัมทั่วประเทศและเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาเมือง  ปัจจุบันประชากรในสิงคโปร์กว่า 80 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ใน HDB แฟลต ซึ่งเป็นตึกที่อยู่อาศัยแนวตั้งเพื่อป้องกันปัญหาความแออัด โดยที่รัฐเป็นผู้วางแผนทั้งหมด ผู้เช่าอาศัยจะได้รับสิทธิ์อยู่อาศัยเป็นเวลา […]

ไม่ใช่ทุกคนที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะภาระที่ล้นตัว ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากเติบโต

“เป็นผู้ใหญ่ ทำไมยากจัง” นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้เขียนในฐานะนักจิตบำบัดได้ยินคนไข้บ่นให้ฟังบ่อยๆ ในชั่วโมงบำบัด ไม่ว่าจะด้วยความซับซ้อนที่มากขึ้นของความสัมพันธ์ การบริหารการเงิน กระทั่งการผ่านพ้นดราม่าในครอบครัว และในวันนี้ เรื่องที่ผู้เขียนอยากชวนคุยเป็นพิเศษคือ ความยากในการเติบโตด้านอาชีพการงาน ถ้ามาพิจารณาดูมุมมองที่คนแต่ละรุ่นให้ความหมายและคุณค่าแก่การทำงาน ก็ต้องบอกว่า จากบทความของ PubMed Central ได้พูดถึงชาว Gen Z หรือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงกลางยุค 90 ไปจนถึงต้นยุค 2010 ไว้อย่างน่าสนใจ คุณลักษณะเด่นของคนกลุ่มนี้คือ มีความมั่นใจในตัวเองและมุ่งมั่นกับงานที่ทำสูง ต้องการจะพุ่งไปถึงงานในฝันให้ได้ และโหยหาโอกาสที่จะเพิ่มทักษะในสายงานที่ตัวเองรัก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีความยืดหยุ่น ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป สุขภาพจิตพวกเขาต้องไหว เพราะชีวิตนอกเหนือจากสถานที่ทำงานก็สำคัญมากสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน ถ้าคนกลุ่มนี้รู้ตัวว่าไม่ชอบสิ่งที่ทำอยู่เมื่อไหร่ พวกเขาจะเปลี่ยนงานทันที สรุปโดยรวมคือ เป็นกลุ่มคนที่ทุ่มเทให้อาชีพในฝันสุดๆ แต่ก็ชัดเจนในจุดยืนมากเหมือนกันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่ทางหรือไม่ใช่ที่ของตนแล้ว ก็พร้อมจะเดินจากไปเพื่อตามหาเส้นทางใหม่ที่คู่ควร แต่ในยุคก่อนหน้าชาว Gen Z ที่เป็นคนวัยผู้เขียน หลายคนมักรู้สึกว่า พวกเราคือรุ่นคาบเกี่ยว คือใจหนึ่งก็อยากวิ่งตามฝัน สร้างคุณค่าในงานที่อยากแสดงออกมาให้ทุกคนเห็น แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นเดอะแบกซะเหลือเกิน บางคนแบกภาระของครอบครัวในฐานะคนดูแลหลัก ส่วนบางคนแบก ‘ความหวังหรือความกดดัน’ ที่ครอบครัวโยนมาให้เราโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว หรือกระทั่งเรานั่นแหละที่โยนให้ตัวเอง จะเห็นว่าผู้คนรุ่นพวกเรามากมายที่ตั้งใจทำงานจนในที่สุดก็เหมือนจะเดินมาสู่ทางแยก ระหว่างเดินต่อไปให้สุด […]

Animal on Street ส่องสัตว์ในเมือง

ทุกๆ เช้าที่เราตื่นขึ้นมาดำรงชีวิตในเมืองใหญ่ ท่ามกลางความวุ่นวาย ภาพของท้องถนนที่การจราจรติดขัด หรือแม้กระทั่งมลภาวะทางอากาศ ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความห่อเหี่ยวใจไม่ใช่น้อย  บ่อยครั้งที่มีโอกาสเดินสำรวจเมืองในพื้นที่ต่างๆ เราสังเกตว่า นอกจากผู้คนแล้ว ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในพื้นที่อยู่อาศัยของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว หรือนก การมองดูพฤติกรรมและความน่ารักของสัตว์เหล่านั้น ช่วยทำให้ความเครียดของเราลดลง และเติมพลังให้มีแรงทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ประหนึ่งเป็นกำลังใจของคนที่รักสัตว์ หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]

BKK in pieces ธีสิสซีนของคนทำงานออกแบบผู้สนใจเมือง นำเสนอของดีไซน์ไทยๆ ผสมผสานกับความสนุกของกราฟิก

ความชอบในสิ่งพิมพ์ การสังเกตและอธิบายสิ่งธรรมดารอบตัว และการตั้งคำถามเรื่องอะไรคือสุนทรียภาพแบบไทยๆ นำมาสู่การทำ BKK in pieces ธีสิสจบการศึกษาคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สาขานิเทศศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ของ ‘ชิตวัน เพชรรัตน์’ ในช่วงเวลาระหว่างนั้น หนังสือที่เธอกำลังอ่านชื่อ ‘The Beauty of Everyday Things’ โดย Soetsu Yanagi ก็ทำให้เห็นว่าการพิจารณาสิ่งของพาเราสืบสาวไปหารากวัฒนธรรมที่สร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร “ในหนังสือมีส่วนที่กล่าวถึง Fundamental Principle ของการชงชา (Chabi) ไว้ว่า ‘As fortune would have it, it was not an intellectual concept, but rather consisted of concrete objects that acted as intermediaries…’ “กล่าวคือ ด้วยการมีอยู่ของสิ่งที่จับต้องได้อย่างสำนักชา ทางเดินในสวน […]

‘ทุก 4 ชั่วโมง มีคน 1 คนกำลังหายออกจากบ้าน’ สถิติคนหายกำลังบอกอะไรกับเรา

“ทุกสี่ชั่วโมง มีคนหนึ่งคนกำลังหายออกจากบ้าน” คำพูดสั้นๆ นี้คือสิ่งที่ ‘เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข’ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา หนึ่งในสปีกเกอร์ของงาน dataCon 2024 บอกกับเราระหว่างช่วง Talk ในหัวข้อ ‘ข้อมูลคนหาย อะไรอีกที่หายนอกจากคน’ เป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ที่มูลนิธิกระจกเงามีบทบาทสำคัญในการตามหาคนหาย ที่นอกจากจะพบคนหาย ยังทำให้พบ ‘ความจริง’ บางอย่างที่สะท้อนเบื้องหลังสังคมไทย เมื่อพูดถึงคนหาย สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงเป็นกระบวนการค้ามนุษย์หรือการลักพาตัว แต่หลังจากเอกลักษณ์ก่อตั้งโครงการนี้และย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำให้พบว่าการหายตัวของบุคคลไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัย โดยระยะเวลา 5 ปี ในระหว่างปี 2563 – 2567 พบว่า 5 อันดับสาเหตุการหายของคนไทยนั้น อันดับหนึ่งคือ การสมัครใจหนีออกจากบ้านด้วยตนเอง จำนวน 2,458 ราย และอันดับสองคือ จิตเวช จำนวน 1,933 ราย ตามมาด้วยสาเหตุ ขาดการติดต่อ 1,802 ราย, โรคสมองเสื่อม 634 […]

ชำแหละความงามในอุดมคติที่กำหนดโดยทุนนิยม บิวตี้สแตนดาร์ด และชายเป็นใหญ่ผ่าน THE SUBSTANCE

เทศกาลหนังเมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เรียกความสนใจจากคอหนังมาต่อเนื่องทุกปี บรรดาภาพยนตร์ที่ปรากฏชื่อในเทศกาลนี้ล้วนแล้วแต่ได้รับการพูดถึงไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ยิ่งภาพยนตร์เรื่องไหนได้รับรางวัลจากเทศกาลนี้ จะกลายเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของหนังระดับแปะ A must ว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งคานส์ขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นศิลปะเป็นอย่างมาก พูดง่ายๆ ว่าหลายคนอาจบอกว่าหนังคานส์เป็น ‘หนังอาร์ต ดูยาก ดูไม่รู้เรื่อง’ ยกตัวอย่าง ภาพยนตร์ฝีมือคนไทยอย่าง Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives (2010) หรือ ลุงบุญมีระลึกชาติ ของ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล แต่หลายครั้งก็เป็นหนังที่ทุกคนชื่นชมไปในทางเดียวกันอย่าง Parasite (2019) ของ บงจุนโฮ ซึ่งในปีนี้แม้ผู้ชนะรางวัลใหญ่ของงาน Palme d’Or จะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Anora (2024) (ซึ่งชาวไทยจะได้ชมกันในเร็วๆ นี้) ของ Sean Baker เจ้าของผลงาน The Florida Project (2017) แต่หนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงลือลั่นฮือฮาบอกต่อกันมาถึงความแปลก […]

‘Qualy’ แบรนด์ไทยที่เพิ่มมูลค่าให้ขยะพลาสติก ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์สื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์แบรนด์หนึ่งจะสื่อสารประเด็นสิ่งแวดล้อมผ่านชิ้นงานได้แบบที่คนเห็นแล้วร้อง ‘อ๋อ!’ แต่สำหรับแบรนด์ ‘Qualy’ ไม่ว่าจะจิ้มผลงานชิ้นไหนขึ้นมาก็ต้องคุ้นหูหรือคุ้นตาทั้งนั้น ตั้งแต่ พระสติ, บอร์ดเกม Waste War, รูบิก Tactile Cube หรือปากกาวาดรูปจากไหมพรมในชื่อ เล่นเส้น เพราะไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานสุดว้าว หรือวัสดุรีไซเคิลรักษ์โลก จะส่วนไหน Qualy ก็ไปสุดทุกทาง จนกวาดรางวัลจากเวทีดีไซน์กลับบ้านแบบไม่หวาดไม่ไหว คอลัมน์ Sgreen ชวนไปคุยกับ ‘ใจ๋-ธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์’ Design Director และ Founder ถึงแนวคิดและความตั้งใจของแบรนด์ที่ทำให้ Qualy ยืนหยัดครองตลาด พร้อมสื่อสารประเด็นสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่านผลงานได้ยาวนานกว่า 20 ปี เล่าเรื่องผ่านดีไซน์จนค่อยๆ เติบโตในตลาดไทย “ในช่วงแรกๆ ของการทำ Qualy เราเน้นไปที่การใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับตอนนั้นมีปัญหาโลกร้อน เลยเล่าเรื่องพวกนี้ผ่านดีไซน์ของเรา ก่อนจะต่อยอดมาใช้วัสดุรีไซเคิล เพื่อให้สื่อสารเรื่องนี้ออกไปดียิ่งขึ้น” ธีรชัยเล่าถึงความตั้งใจช่วงแรกของแบรนด์ อีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการทำแบรนด์โปรดักต์ดีไซน์นี้คือ Qualy เป็นธุรกิจที่เขาต่อยอดออกมาจากธุรกิจครอบครัวที่ก่อนหน้านี้เปิดเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกแบบ Original Equipment Manufacturer (OEM) […]

เดินเท้าย่ำสวน นั่งเรือดูงานศิลป์ เรื่องราวในพื้นที่สีเขียวและครีเอทีฟริม ‘คลองบางมด’

แยกเข้าซอยจากถนนพระราม 2 อันจอแจมาไม่ไกล บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปจากสีเทาของทางด่วนที่กำลังก่อสร้าง เป็นสีเขียวครึ้มของต้นไม้ตัดกับสีฟ้าที่ทาเป็นฉากหลัง บนถนนขนาดสองเลนที่คดโค้งไปมาคล้ายกับต่างจังหวัด มีเพียงป้ายบอกทางของกรุงเทพมหานครเตือนอยู่เป็นระยะๆ ว่ารถกำลังวิ่งอยู่ในเมืองหลวง ปลายทางของเราวันนี้คือ ‘บางมด’ บางมด เป็นส่วนหนึ่งของเขตทุ่งครุ ชายแดนทางใต้ของกรุงเทพฯ และเกือบปลายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนออกสู่อ่าวไทย อาจเพราะระยะทางไกลจากเมือง ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในย่านนี้มีสัดส่วนของพื้นที่สีเขียวเหลืออยู่มาก ภาพจำของบางมดจึงเป็นจุดหมายสำหรับคนกรุงในการมาท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติ หรือกิจกรรมเพื่อสุขภาพอย่างการปั่นจักรยาน เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์โดยไม่ต้องเดินทางไกล วันนี้ระหว่างสวนในย่านบางมดมีสถานที่และกิจกรรมต่างๆ มากมายแฝงตัวอยู่เป็นจุดๆ โดยเฉพาะตลอดริมคลองบางมด เส้นทางน้ำสำคัญของชาวย่าน ที่เป็นหนึ่งในย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านตลอดสองฝั่งคลอง เป็นอีกย่านในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจและมาทำความรู้จักให้มากกว่าเดิม แยกเข้าซอยจากถนนพระราม 2 อันจอแจมาไม่ไกล บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปจากสีเทาของทางด่วนที่กำลังก่อสร้าง เป็นสีเขียวครึ้มของต้นไม้ตัดกับสีฟ้าที่ทาเป็นฉากหลัง บนถนนขนาดสองเลนที่คดโค้งไปมาคล้ายกับต่างจังหวัด มีเพียงป้ายบอกทางของกรุงเทพมหานครเตือนอยู่เป็นระยะๆ ว่ารถกำลังวิ่งอยู่ในเมืองหลวง ปลายทางของเราวันนี้คือ ‘บางมด’ บางมด เป็นส่วนหนึ่งของเขตทุ่งครุ ชายแดนทางใต้ของกรุงเทพฯ และเกือบปลายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนออกสู่อ่าวไทย อาจเพราะระยะทางไกลจากเมือง ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในย่านนี้มีสัดส่วนของพื้นที่สีเขียวเหลืออยู่มาก ภาพจำของบางมดจึงเป็นจุดหมายสำหรับคนกรุงในการมาท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติ หรือกิจกรรมเพื่อสุขภาพอย่างการปั่นจักรยาน เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์โดยไม่ต้องเดินทางไกล วันนี้ระหว่างสวนในย่านบางมดมีสถานที่และกิจกรรมต่างๆ มากมายแฝงตัวอยู่เป็นจุดๆ โดยเฉพาะตลอดริมคลองบางมด เส้นทางน้ำสำคัญของชาวย่าน ที่เป็นหนึ่งในย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านตลอดสองฝั่งคลอง เป็นอีกย่านในกรุงเทพฯ […]

1 2

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.