คบคนในที่ทำงานเดียวกันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว - Urban Creature

หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ออกจะดูไปในแนวคำขู่ ถึงอันตรายของการคบกับคนที่ทำงานในที่เดียวกัน ต้องเจอหน้ากันทุกวัน และอาจเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมายหากรักไปไม่รอด

เนื่องในเดือนแห่งความรักนี้ ผู้เขียนเลยอยากเล่าเรื่องราวที่หลายคนไม่ค่อยพูดถึง แต่ทำให้ใจฟูกันบ้าง นั่นคือ ‘ความรักที่เกิดในที่ทำงาน แล้วมันเวิร์ก สวยงาม และยาวนานยั่งยืน’

เราได้มีโอกาสพูดคุยกับชายหนุ่มวัย 30 กลางๆ ขอเรียกเขาว่า ‘พี่บี’ แล้วกัน ตั้งแต่รู้จักกับเขาเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็สัมผัสถึงความหอมหวานอบอุ่นของความรักระหว่างเขาและแฟน ซึ่งปัจจุบันคือภรรยาของเขา ที่มีให้กันและกันมาโดยตลอด

จากบทสนทนาในครั้งนี้ บอกเลยว่าเราได้อะไรกลับไปมากกว่าแค่เคล็ดลับการทะนุถนอมความรักในที่ทำงานเยอะเลย

ความสัมพันธ์ของคบคนในที่ทำงานเดียวกัน

ถ้าความรักดี การได้อยู่กับคนรักเพิ่มขึ้นเท่ากับได้เวลาที่ดีเพิ่มขึ้น

“ความรักในที่ทำงาน มันคือตัวคูณ ถ้ามันดี มันจะมีความสุขแบบทวีคูณ แต่ถ้ามันแย่ มันก็พังเป็นเท่าตัวด้วยเหมือนกัน แต่สิ่งที่มาเป็นเส้นแบ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ความรักหลงเดินไปในทางที่แย่คือ วุฒิภาวะของทั้งคู่”

พี่บีเริ่มต้นบทสนทนาไว้อย่างนี้ และอธิบายเพิ่มว่า ในประเทศไทย เวลาที่เราอยู่ในที่ทำงานนับเป็นประมาณ 40 กว่าชั่วโมงต่ออาทิตย์ ถ้ามันดี ก็เท่ากับได้เวลาที่ดีที่ได้อยู่กับคนรักตั้ง 40 กว่าชั่วโมง แต่ถ้ามันแย่ เต็มไปด้วยความไม่เชื่อใจ น้อยใจ วุ่นวายใจ ฯลฯ แปลว่า 40 กว่าชั่วโมงนั้นจะเกิดการฝ่าฟันทรหดอยู่พอตัว

“แต่มันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวเลย ว่าคบคนที่ทำงานต่างที่กันจะดีเสมอไป หรือคบคนที่ทำงานที่เดียวกันแล้วจะแย่เสมอไป”

ตัวเราเองนั้นเห็นด้วยมากๆ เพราะในฐานะนักจิตบำบัดความสัมพันธ์ ที่ได้เป็นประจักษ์พยานหลายต่อหลายความรักที่มีรายละเอียดของความซับซ้อนหากแต่สวยงามในตัวเอง ทำให้เราเห็นเลยว่า ทุกความรักมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ (หากมันต้องจบ) แตกต่างกันทั้งหมด

แต่มีบางสิ่งที่พอจะเป็นตัวทำนายถึงความสุขภาพดีของความสัมพันธ์นั้นได้คือ ‘งานส่วนงาน เมื่อถึงบ้านก็มีแค่ที่บ้านเท่านั้น’ 

สิ่งที่เครียดหรือโดนกดดัน โดนทำให้เจ็บใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน เมื่อถึงบ้าน คนในบ้านนั้นคือ Safe Zone ที่พร้อมมอบความรักความอบอุ่นให้เรา ส่วนเราเองก็ต้องปฏิบัติต่อเขาโดยคำนึงถึงความห่วงใยที่เขามอบให้เช่นกัน

สำหรับพี่บี เขามองว่านอกจากการแยกส่วนงานและบ้านออกจากกันโดยสิ้นเชิงแล้ว ทุกครั้งที่อยู่ออฟฟิศ เขาจะปัดความน้อยใจออกไป โดยแทนที่ด้วยความเข้าใจ ทั้งคู่ไม่เคยงอนกัน ต่อให้เป็นช่วงที่ใครคนหนึ่งพัก แต่อีกคนไม่สามารถมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันได้ เช่น คนหนึ่งต้องไปทานข้าวกับทีม หรืออีกคนยังประชุมไม่เสร็จ เป็นต้น

“แค่ช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ที่ได้เจอหน้าเขาในออฟฟิศ ก็พอให้หายเหนื่อยจากความเครียดของงานได้แล้ว”

ความสัมพันธ์ของคบคนในที่ทำงานเดียวกัน

แก่นหรือรากของความรักต่างหากที่ทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยืน

เขาและผู้หญิงคนนี้ ที่เราขอเรียกว่าพี่ดา จริงๆ ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนเมื่อนานมากแล้ว เพราะอยู่คณะเดียวกันช่วงปริญญาตรี แต่เขาไม่ค่อยได้เข้าคณะ และมักไปสิงตัวอยู่กับเพื่อนต่างคณะแทน

จนช่วงหนึ่งระหว่างเรียน ทั้งเขาและพี่ดามีโอกาสได้ไปทำงานเพื่อหาประสบการณ์เพิ่มเติมในเมืองเดียวกันที่เมืองนอก

“ตอนนั้นผมไปบ้านเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนี้บังเอิญเป็นเพื่อนของดาเหมือนกัน วันนั้นดากลับมาแล้วไม่มีอะไรทาน ผมเลยอาสาทำกับข้าวให้ หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ แบบเพื่อนสนิท จนผมกลับไทย ผู้หญิงที่ตอนนั้นผมเดตด้วยจริงๆ ก็เกิดอาการหึงว่าทำไมผมถึงมีเพื่อนผู้หญิงที่คุยกันบ่อยขนาดนี้”

หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจเลิกกับผู้หญิงคนนั้น และเริ่มหันมาศึกษาดูใจพี่ดาอย่างจริงจัง

“รู้สึกว่าการมีผู้หญิงคนนี้ในชีวิตแม่งดีว่ะ” พี่บีสรุปความรู้สึกตอนนั้นในประโยคสั้นๆ

แต่แล้วความสัมพันธ์ก็ไปได้ไม่ไกลนัก เพราะตอนปี 3 พี่ดาตัดสินใจไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น 1 ปี เขาที่คิดว่าพี่ดาสมควรจะไปมีความสุขและใช้ชีวิตที่นั่นให้เต็มที่ ไม่อยากให้ต้องห่วง เลยเลิกคุยกันไป

หลังจากนั้น ไม่ว่าพี่บีจะลองดูใจกับใครอีก ในที่สุดแล้วเขาก็มักมีภาพของคนคนหนึ่งขึ้นมาในหัวเสมอ “เวลาเกิดอะไรขึ้นในชีวิตผม แล้วผมอยากหันไปปรึกษาใครคนหนึ่ง ผมจะนึกถึงดาเสมอ คิดเลยว่าเราน่าจะมีคนคนนี้อยู่ที่บ้านเนอะ ที่เราอยากหันหน้าไปแล้วคุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจเราทุกเรื่อง เหมือนเราวิ่งจังหวะเดียวกัน”

ถึงจุดหนึ่ง เขาก็ระลึกขึ้นมาได้ว่า ภาพผู้หญิงที่เขาเห็นในฐานะคู่ชีวิต ในฐานะแม่ของลูก ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นพี่ดา

เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่บีเริ่มเข้าทำงานที่ใหม่ ในบริษัทแฟชั่นที่รวมหลายแบรนด์ไว้ด้วยกัน ตอนนั้นเห็นพี่ดาบ่นว่าอยากย้ายงาน เลยชวนให้มาทำที่บริษัทเดียวกัน และเริ่มจีบพี่ดาทันที สองเดือนหลังจากนั้นก็เริ่มตัดสินใจคบกัน 

“ถ้าพูดเรื่องการคบคนที่ทำงานด้วยกัน ผมเชื่อว่าถ้าเราตัดคำว่าสถานที่ออก ตัดคำว่าเหตุการณ์ออก แล้วกลับมาดูที่แก่นหรือรากของความรักนั้นจริงๆ โอกาสของความรักมันจะยั่งยืนกว่า”

หลังจากนั้นสองปีทั้งคู่ก็แต่งงานกัน และอีกสองปีต่อมาก็มีลูกที่น่ารักมากๆ ด้วยกันหนึ่งคน ชื่อน้อง ‘พอดี’

‘มันคือช่วงเวลาที่ถูกต้อง’ เขาบอกว่าภรรยาเคยพูดกับเขาไว้อย่างนั้น

ความสัมพันธ์ของคบคนในที่ทำงานเดียวกัน

อย่าเริ่มความรัก ถ้าไม่เห็นว่าท้ายที่สุดแล้วจะเดินจับมือไปด้วยกัน 

พี่บีมีความเห็นว่า คนไทยเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ชอบคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน กลัวความพ่ายแพ้และผิดหวัง กลัวสิ่งที่ไม่ถูกใจ และมองข้ามช็อต

“คือยังไม่ได้คิดถึง Happy Period เลยนะ แต่มองไปแล้วว่า แล้วถ้าเกิดจบไม่ดีล่ะ เลิกกันแล้วจะมองหน้ากันในที่ทำงานไม่ได้ แต่คำถามของผมคือ ถ้าคุณมองเห็นใครแล้วคิดไปถึง Ending Period แล้ว งั้นคุณจะเริ่มทำไมล่ะ แสดงว่าคนนั้นไม่ใช่คนที่คุณเห็นว่าจะเป็นอนาคตของคุณ”

พี่บีพูดเลยว่า เขาจะไม่เริ่มความรักครั้งนี้ ถ้าไม่เห็นว่าจุดจบคือเราต้องเดินจับมือกันให้ได้นานที่สุด 

“ผมไม่เชื่อเรื่องผู้ชายต้องเป็นช้างเท้าหน้า เราสองคนคือคู่ที่เดินไปด้วยกัน ไม่ต้องมีใครนำใคร หลายเรื่องผมตามดา และก็มีอีกหลายเรื่องที่ดาตามผม และเกือบทุกเรื่อง เราเดินไปพร้อมๆ กัน ตราบใดที่เรายังจับมือกันอยู่แล้วไม่ปล่อยมือ

นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”

จนถึงวันนี้ พี่บีและพี่ดาก็แต่งงานกันเข้าปีที่ 5 แล้ว “ดีใจทุกวันที่ตื่นมาได้เจอเขา ผมอาจจะตัดสินใจผิดหลายเรื่องในชีวิต แต่เรื่องที่ตัดสินใจถูกที่สุดคือ การมีดา เป็นแม่ของลูก”

ความสัมพันธ์ของคบคนในที่ทำงานเดียวกัน

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.