การให้เมืองและพื้นที่สีเขียวอยู่รวมกันอาจฟังดูเป็นเรื่องยากที่จะให้ทั้ง 2 อย่างเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน แต่คงไม่เกินความสามารถของประเทศเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างสิงคโปร์แน่นอน
‘Singapore Green Plan 2030’ คือแผนพัฒนาเมืองสิงคโปร์ให้อยู่ร่วมกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างยั่งยืน โดยการปลูกต้นไม้เพิ่มกว่า 1 ล้านต้น ขยายพื้นที่ปั่นจักรยานให้มากขึ้น แบนรถที่ใช้น้ำมันดีเซลให้ได้ภายในปี 2025 ลดปริมาณขยะฝังกลบต่อครัวเรือนลง 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วหันมาพัฒนาโครงสร้างการรีไซเคิลขยะแทน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ มีความรับผิดชอบต่อขยะที่พวกเขาสร้าง รวมไปถึงเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ขึ้น 5 เท่า นอกจากนี้ ตึกที่สร้างภายในปี 2030 จะต้องใช้พลังงานต่ำสุดตามมาตรฐานที่รัฐบาลกำหนด
ด้วยแผนนี้เอง สิงคโปร์จะกลายเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก พื้นที่ 1 ใน 3 ของเมืองจะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ นอกจากจะเป็นการช่วยลดมลพิษแล้ว ยังนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
RELATED POSTS
OneMap แผนที่ระดับชาติของสิงคโปร์ ครอบคลุมทั้งเรื่องบ้าน พื้นที่สาธารณะ และการนำทาง
เรื่อง
Urban Creature
‘OneMap’ สร้างขึ้นโดย Singapore Land Authority (SLA) ที่เป็นมากกว่าแค่แผนที่บอกเส้นทาง แต่ยังรวบรวมข้อมูลสำคัญๆ ไว้อย่างครบถ้วน แพลตฟอร์มนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2553 ให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ละเอียดและทันสมัยที่สุดของสิงคโปร์ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงพื้นที่ในระดับถนน (Street-level Geospatial Information) และรองรับการค้นหาข้อมูลสำคัญ เช่น กรรมสิทธิ์ที่ดิน โรงพยาบาล สวนสาธารณะใกล้ๆ โรงเรียนที่อยู่ใกล้ที่สุด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ข้อมูลที่มีการอ้างอิงถึงตำแหน่งที่ตั้งบนพื้นผิวโลก หรือข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน มากไปกว่านั้น เรายังหาข้อมูลเรื่องอสังหาริมทรัพย์และที่ดินผ่านระบบ Property Query เพื่อตรวจสอบราคาซื้อขายซ้ำของ Housing & Development Board หรือการเคหะแห่งชาติของประเทศสิงคโปร์ และที่พักอาศัยส่วนตัวของ URA ที่มีการจดทะเบียนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลค่าเช่าในตลาด HDB sublet และที่พักอาศัยส่วนตัว เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อ ผู้เช่า และเจ้าของบ้านมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจ รวมถึงบริการ Land Query เพื่อตรวจสอบว่าที่ดินแปลงใดเป็นของรัฐบาล (State Land) […]
เตรียมพบ Marina Bay Sands ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม กับโรงแรมหรู อารีนา และพื้นที่ประชุมนานาชาติ ดันสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกในปี 2029
เรื่อง
Urban Creature
เชื่อว่าใครที่เคยไปสิงคโปร์คงมีโอกาสแวะไปถ่ายภาพกับแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ‘Marina Bay Sands’ มาแล้วแน่นอน โดยตึกนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2010 และมีผู้เข้าชมกว่า 470 ล้านคน ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าโรงแรมธรรมดา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางทั้งในเชิงการท่องเที่ยวและธุรกิจ ตอนนี้ Marina Bay Sands กำลังขยายโครงการเพิ่มเติมเพื่อให้แลนด์มาร์กนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยโรงแรมใหม่สูง 55 ชั้น ที่มีห้องสวีตกว่า 570 ห้อง กับการออกแบบที่เน้นการไหลเวียนของลม และฟาซาดที่ออกแบบมาเพื่อลดการรับพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแนวตั้งอีกด้วย จุดเด่นที่สุดของโครงการคือ ‘Skyloop’ บนชั้นดาดฟ้าขนาด 76,000 ตารางฟุต ที่มีเสาวงรีซ้อนทับกันเป็นเกลียว มอบทั้งความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหาร พักผ่อน และชมวิวที่แตกต่างจากเดิม โดย Skyloop จะตั้งอยู่สูงกว่า Sands SkyPark ที่อยู่ติดกัน เพื่อสร้างเลเยอร์ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสมุมมองของเมืองสิงคโปร์ในระดับและองศาที่แตกต่างกัน นอกจากตัวโรงแรม ที่นี่ยังมีอารีนาความจุ 15,000 ที่นั่งเพื่อเตรียมให้สิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพการแสดง กีฬา และกิจกรรมระดับนานาชาติขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่ MICE (การประชุม สัมมนา การจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ) เพิ่มมากขึ้นอีก […]
ทางเท้า สิงคโปร์ ทางเท้าที่ทำให้ใครๆ ก็อยากเดิน เมื่อเส้นทางเดินมีหลังคาคลุมและเชื่อมได้ไร้รอยต่อ
เรื่อง
Urban Creature
นอกจากการเป็นเมืองคอนเสิร์ต สถาปัตยกรรม เมอร์ไลออน และต้นแบบคาสิโนแล้ว สิงคโปร์ ประเทศเล็กๆ แห่งเกาะเซนโตซา ยังมีจุดเด่นสำคัญอย่างทางเท้าออกแบบดีที่ทำให้ชาวเมืองเดินได้สะดวกอีกด้วย 🚶ทางเท้ากว้างที่มีหลังคา ช่วยให้คนอยากเดิน การออกแบบทางเท้าของสิงคโปร์เน้นไปที่ทางเดินที่มีหลังคา ทางเดินเชื่อม และทางเชื่อมระหว่างอาคาร ที่รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อบนดินและชั้นใต้ดิน ด้วยองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบอย่างการมีกันสาดและทางเดินที่มีหลังคา จากลักษณะของสภาพอากาศสิงคโปร์ที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน กันสาดและหลังคานี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องผู้เดินเท้าจากแสงแดดจัดและความถี่ของฝน อีกทั้งยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับทางเดินที่มีหลังคาตามแนวอาคารพาณิชย์และอาคารอเนกประสงค์ที่หันหน้าไปทางถนนและทางเท้าว่า ต้องมีหลังคาสูงอย่างน้อย 3.6 เมตร และอาจอนุญาตให้มีเพดานที่สูงขึ้นได้หากมีการใช้วัสดุกรุผนังที่เหมาะสมและเพิ่มความกว้างของทางเดิน ส่วนข้อกำหนดความกว้างขั้นต่ำของทางเดินที่มีหลังคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับที่ตั้งและความใกล้กับสถานีขนส่ง – ทางเดินบริเวณพื้นที่ใจกลางเมืองหรือภายในรัศมี 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า MRT/สถานีขนส่งหลัก : ความกว้างโดยรวมขั้นต่ำ 3.6 เมตร และความกว้างสุทธิขั้นต่ำ 3 เมตร – ทางเดินระหว่าง 200 – 400 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า MRT/สถานีขนส่งหลัก : ความกว้างโดยรวมขั้นต่ำ 3 เมตร และความกว้างสุทธิขั้นต่ำ 2.4 เมตร – ทางเดินอื่นๆ ทั้งหมด : ความกว้างโดยรวมขั้นต่ำ […]
ทำอย่างไรให้ ‘บ้าน’ ไม่ใช่ ‘ฝัน’ ที่ไกลเกินเอื้อม คุยเรื่องนโยบาย Public Housing กับ ‘รศ. ดร.บุษรา โพวาทอง’
เรื่อง
โยษิตา สินบัว
ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อ ‘บ้าน’ ได้หนึ่งหลัง เมื่อพูดถึงคำว่า ‘บ้าน’ นิยามของแต่ละคนอาจต่างกันออกไป บ้างมองเป็นเพียงพื้นที่หลับนอน โครงสร้างหนึ่งที่มีหลังคาคลุม ขณะที่บางคนยกให้บ้านเป็นมากกว่านั้น เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นเครื่องหมายของความสำเร็จ หรือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนต่อยอดได้ในอนาคต คำว่าบ้านจึงไม่ใช่เพียงแค่สิ่งปลูกสร้าง แต่ยังสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของใครหลายคน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยไต่ระดับสูงขึ้นจนเกินกว่ารายได้เฉลี่ยของประชากรส่วนใหญ่ การมีบ้านอาจกลายเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนไทยยุคนี้ เพราะต่อให้ทำงานเก็บเงินทั้งชีวิตก็ยากที่จะคว้าบ้านในฝันมาได้ และมีไม่น้อยที่จำเป็นต้องอาศัยในบ้านที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือบางคนอาจไม่มีบ้านให้กลับในวันที่เหนื่อยล้าด้วยซ้ำไป วันนี้คอลัมน์ Think Thought Thought จะพาทุกคนไปร่วมหาคำตอบว่า ‘เราจะทำอย่างไรให้ ‘บ้าน’ ไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม’ กับ ‘รศ. ดร.บุษรา โพวาทอง’ อาจารย์ประจำภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านการทำความเข้าใจนโยบายที่อยู่อาศัยผ่านแนวคิด ‘ที่อยู่อาศัยที่รัฐอุดหนุน’ (Public Housing) หรือการที่ภาครัฐออกแบบนโยบายให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เหมาะสม พร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัย : ปัจจัยพื้นฐานที่สะท้อนคุณภาพชีวิต “ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในพื้นฐานปัจจัยสี่ของการดำรงชีวิตมนุษย์ที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง เพราะหลายคนเกิดมามีบ้านอยู่แล้ว ทว่าอย่าลืมว่ายังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง หรือมีแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย” บุษราอธิบายถึงความสำคัญของที่อยู่อาศัย สิ่งที่บุษราทำคือการชวนให้เราหันกลับมาทบทวนบทบาทของ ‘บ้าน’ ในฐานะหนึ่งในปัจจัย 4 ซึ่งเป็นความจำเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ เพราะบ้านไม่ได้เป็นเพียงที่พักพิงทางกาย […]