เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สาหัสสำหรับพิพิธภัณฑ์ทั่วทุกมุมโลก เพราะตั้งแต่ COVID-19 เริ่มแพร่ระบาด วงการพิพิธภัณฑ์ก็ซบเซาไปมาก
เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างมากในปีที่ผ่านมา นอกจากนิทรรศการที่วางแผนไว้จะถูกเลื่อนไปแล้ว จำนวนผู้คนที่แวะเวียนมาชื่นชมศิลปะยังลดลงเหลือเพียงแค่ 1 ใน 4 ของปีก่อนหรือประมาณ 675,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดตั้งแต่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี้เปิดทำการมา
แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากรัฐบาลและภาคประชาชนที่โหยหาประสบการณ์การรับชมงานศิลปะนี้เอง ทำให้พิพิธภัณฑ์เยียวยาประชาชนและวงการศิลปะด้วยการอัปโหลดผลงานในครอบครองกว่า 700,000 ชิ้น ให้ประชาชนเข้าชมออนไลน์ฟรี แบบ HD ผ่านแคมเปญ #Rijksmuseumfromhome
นอกจากนั้น ทางพิพิธภัณฑ์ยังให้บริการ Virtual Tour หรือระบบนำทัวร์พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง ให้ทุกคนได้รับชมผลงานระดับโลกได้อย่างใกล้ชิดทั้งภาพและเสียงราวกับเดินอยู่แต่ละห้องของพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง
เข้าไปเยี่ยมชมคลังผลงานศิลปะดีๆ ได้ที่ www.rijksmuseum.nl/en/
RELATED POSTS
รู้จักกับ ‘The Offline Club’ คอมมูนิตี้ที่พาทุกคนห่างไกลจากมือถือ และกลับไปใกล้ชิดกับตัวเองและคนใกล้ตัว
เรื่อง
Urban Creature
มนุษย์ปัจจุบันนี้ใช้เครื่องมือสื่อสารท่องโลกออนไลน์เป็นความเคยชิน จนบางทีเราติดกับการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานโดยไม่ได้คำนึงถึงโลกภายนอก ‘The Offline Club’ คือคอมมูนิตี้สุดเจ๋งที่ ‘Ilya Kneppelhout’ และสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง ‘Valentijn Klok’ และ ‘Jordy van Bennekom’ ริเริ่มขึ้นในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ พวกเขานิยามไอเดียของคอมมูนิตี้นี้ว่า ‘Swap screen time for real time.’ ที่หมายถึง เปลี่ยนเวลาที่อยู่หน้าจอให้เป็นเวลาในชีวิตจริง โดย The Offline Club จะนัดรวมตัวกันที่คาเฟ่ต่างๆ แล้วเบรกตัวเองจากการใช้โทรศัพท์มาลองทำกิจกรรมออฟไลน์อื่นๆ เช่น อ่านหนังสือ พูดคุยกับคนใหม่ๆ วาดภาพ เป็นต้น โดยกิจกรรมในแต่ละครั้งของ The Offline Club จะเริ่มจากการให้ผู้คนได้พูดคุยกันในตอนแรก ต่อด้วยการอยู่กับตัวเองภายใน 45 นาที และใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงให้เราเชื่อมต่อกับบรรยากาศของผู้คน รวมถึงใช้เวลาอยู่เงียบๆ กับตัวเองในช่วง 30 นาทีสุดท้าย เหล่าผู้ก่อตั้งคอมมูนิตี้นี้เชื่อว่า The Offline […]
‘Floating Glass Museum’ สร้างความตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนผ่านงานศิลปะที่หลอมรวมวัฒนธรรมเข้ากับสิ่งแวดล้อม
เรื่อง
Urban Creature
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงที่สุดในประวัติการณ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของสภาพภูมิอากาศ และส่งผลกระทบในหลายภาคส่วนทุกทวีปทั่วโลก ทั้งอากาศที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรง รวมไปถึงระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต Luca Curci สถาปนิกชาวอิตาลี เห็นว่าปัญหานี้ไม่สามารถมองข้ามต่อไปได้ จึงร่วมกับ Giulia Tassi Design และทีมสถาปนิกและนักออกแบบระดับนานาชาติ ทำโปรเจกต์ออกแบบ ‘Floating Glass Museum’ หรือ ‘พิพิธภัณฑ์แก้วลอยน้ำ’ ด้วยการเปลี่ยนผืนน้ำเป็นผืนผ้าใบในการแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ในพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตร เพื่อสร้างความตระหนักถึงความรุนแรงของสภาพอากาศที่อาจจะย่ำแย่กว่าเดิม หากมนุษย์เรายังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมที่มั่งคั่งของเวนิส และงานฝีมือการทำแก้ว พวกเขาจึงนำทั้งสองสิ่งมาผสมผสานเข้ากับการออกแบบและการวิจัยเกี่ยวกับวัสดุและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้เป็นตัวแทนของความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ศิลปะ ธรรมชาติ และประเพณีที่มาบรรจบกัน โครงการนี้มีแผนการนำไปจัดแสดงในหลายๆ เมืองที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นดูไบ นิวยอร์ก ฮ่องกง สิงคโปร์ และปูซาน Sources :Designboom | tinyurl.com/4u8uz7rsLuca Curci | tinyurl.com/4f8hxz8a
สำรวจ ‘บางอ้อ’ ถึง ‘บางพลัด’ ชิมลางย่านสร้างสรรค์ ชุมชนแขกแพและสวนผลไม้
เรื่อง
พณิช ตั้งวิชิตฤกษ์
บางพลัด-บางอ้อ กำลังจะเป็นย่านสร้างสรรค์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ คนเก่าคนแก่รู้จักย่านนี้ในฐานะสวนขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนความเจริญต่างๆ เริ่มเข้ามาทีละน้อย ทั้งถนน สะพาน อาคารพาณิชย์ โรงไฟฟ้า และรถไฟฟ้า นานวันเข้าพื้นที่สีเขียวค่อยๆ หายไป และเปลี่ยนโฉมเป็นโซนที่อยู่อาศัยและการค้า บางพลัดเป็นเส้นทางผ่านที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น และเป็นเหมือนม้านอกสายตาจากบรรดาย่านน่าสนใจอื่นๆ ของเมืองกรุง ทั้งที่ความจริงแล้วที่นี่ยังซ่อนสิ่งต่างๆ ไว้อีกมาก ไม่เพียงแต่พหุวัฒนธรรมพุทธและอิสลามที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ความรุ่มรวยทั้งสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตก็น่าสนใจ อีกทั้งยังมีภูมิปัญญาที่สืบทอดมาในชุมชนต่างๆ รวมถึงเรือกสวนแบบโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ แม้ไม่มากแต่ก็เป็นมรดกที่หาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน ยิ่งกว่านั้น ในเขตบางพลัดเริ่มมีสเปซของคนรุ่นใหม่ๆ ทยอยมาเติมแต่งให้อดีตย่านสวนฝั่งธนฯ นี้กลายเป็นพื้นที่ที่โอบรับสำหรับคนทุกวัย น่ามาเยือนและใช้ชีวิตด้วย คอลัมน์ Neighboroot ขอชวนไปเยี่ยมอีกย่านสร้างสรรค์ที่กำลังจะจัดกิจกรรมตลอดปีนี้ ย้อนดูอัตลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นย่านบางพลัด-บางอ้อ ไม่ว่าจะเป็นสวนดั้งเดิมอายุกว่า 100 ปี สวนใหม่เจียนเก่าจากความทรงจำของครอบครัว พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของคนในย่าน และมัสยิดศูนย์รวมจิตใจของชาวแขกแพ เหมือนกับหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ อดีตของบางพลัด-บางอ้อ คือพื้นที่สวนผลไม้ไกลสุดตา หากเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘สวนในบางกอก สวนนอกบางช้าง’ สวนในย่านนี้ก็คือสวนหนึ่งของสวนในบางกอกที่มีอายุย้อนไปได้เป็นร้อยปี สวนผลไม้สัมพันธ์กับอีกอัตลักษณ์ของย่านคือ ความเป็น ‘บาง’ ที่มีลำคลองสายเล็กๆ จากแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมเข้ามายังพื้นที่สวนกว่าสิบสาย และกระจายเป็นโครงข่ายท้องร่องขนาดมหึมา หล่อเลี้ยงสวนป่าในพื้นที่ตอนในที่อยู่ถัดเข้าไป หากมองในระดับสายตาบนถนน ไม่มีทางรู้เลยว่าย่านนี้ยังมีสวนหลงเหลืออยู่ เพราะเต็มไปด้วยตึกรามห้องแถว […]
Langezijds อาคารคณะ ITC จาก University of Twente สถานที่พบปะนักวิทย์ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบยั่งยืน
เรื่อง
Urban Creature
คนในสายวิทยาศาสตร์อาจคุ้นเคยอยู่บ้างกับคณะ International Institute for Geo-Information Science and Earth Observation (ITC) ที่ตั้งอยู่ใน University of Twente (UT) มหาวิทยาลัยด้านเทคนิคที่ดีที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ประจำปี 2021 แต่นอกจากความน่าสนใจเรื่ององค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ในส่วนของสถาปัตยกรรมของคณะก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางคณะได้ปรับปรุงอาคารประจำคณะซึ่งเป็นอาคารเดิมที่สร้างขึ้นในปี 1972 อย่าง ‘Langezijds’ อาคารที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ที่เป็นแหล่งรวมนักศึกษาระดับปริญญาโท ปริญญาเอก และนักวิจัยทั่วโลก ให้กลายเป็นสถานที่พบปะที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้แบบยั่งยืน ด้วยผลงานการออกแบบร่วมกันของ 4 สตูดิโอออกแบบ ได้แก่ Civic Architects, VDNDP, Studio Groen+Schild และ DS Landscape Architects เพื่อทำให้อาคาร ยาว 220 เมตร ขนาด 13,605 ตารางเมตรแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว อากาศบริสุทธิ์ และแสงธรรมชาติ มีการคงไว้ซึ่งโครงสร้างคอนกรีตและเหล็กเดิมที่มีร่องรอยการใช้งาน ส่วนเสาเดิมที่ตั้งราวกับซากปรักหักพังบริเวณห้องโถงกลางก็มีการใช้ไม้โอ๊กและพื้นไม้ไผ่ในการซ่อมแซม ให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ตัวอาคารและแสดงถึงจุดยืนเรื่องความยั่งยืน ในขณะที่ภายใต้โครงสร้างอาคารยังมีการออกแบบโถงกลางขนาดใหญ่ที่ทุกคนสามารถพบปะแลกเปลี่ยนความรู้และรับประทานอาหารเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ […]