อยากออกไปดื่มเบียร์บนดาดฟ้าแต่เหมือนศีล 5 ไม่เข้าใจ งั้นลองดื่มเบียร์จากพระอย่าง “Westvleteren” กันไปเลยดีกว่า ไม่บาปแน่นอน เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายถูกนำไปทำนุบำรุงศาสนาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไปดูเรื่องราวของมึนเมาที่ช่วยค้ำจุนศาสนาอย่างเบียร์ที่ไม่แสวงหากำไรจากเบลเยี่ยม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเบียร์ที่ดีที่สุดในโลกกัน
ในค่ำคื่นวันศุกร์ที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ อะไรจะดีไปกว่าการได้เบียร์เย็นเฉียบชื่นใจกลั้วปาก เรียกความสดชื่นและส่งคืนความเมามายกลับมาในตอนท้าย
ใครจะไปคิดว่าต้นเหตุแห่งความมึนเมาอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเหลืองทอง จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำนุบำรุงศาสนา แม้จะดูขัดกันในมโนสำนึกของชาวพุทธ (เพราะผิดตั้งแต่ศีล 5 แล้ว) แต่สำหรับศาสนาคริสต์กลับไม่ใช่แบบเดียวกัน โบสถ์และเบียร์มีการพึ่งพาอาศัยกัน เราจะพามาทำความรู้จักกับ เบียร์ Trappist ที่ได้ชื่อว่าเป็นเบียร์ที่ดีที่สุดในโลกมาแล้ว อย่าง Westvleteren ไม่ใช่แค่ในแง่ของเบียร์แต่เป็นงานคราฟต์ที่ไม่ได้ทำในเชิงพาณิชย์
We are not brewers. We are monks.
ทำความเข้าใจกันก่อนว่า Trappist beer คือ เบียร์ที่ผลิตโดยพระนิกายคาทอลิก ที่อยู่ในเครือของสำนัก La Grande Trappe แห่งฝรั่งเศส โดยการผลิต Trappist Beer นั้น แม้จะถูกผลิตออกมาเพื่อจำหน่าย แต่รายได้นั้นจะนำมาทำนุบำรุงศาสนาในระดับพอกินพอใช้ ไม่ใช่ทำขายเอารวย ต่างจาก Abbey Beer ที่ผลิตโดยพระเช่นกัน แต่จะนำไปขายให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีนึง พูดง่ายๆ ก็คือผลิตเชิงพาณิชย์นั่นแหละ
เพื่อความแตกต่างอย่างชัดเจนของ Trappist Beer และ Abbey Beer ทาง The International TRAPPIST Association หรือเรียกสั้นๆ ว่า ITA ได้กำหนดกฎเหล็กสำหรับ Trappist Beer ไว้ 3 ข้อง่ายๆ แต่ค่อนข้างเฉพาะตัวไว้ว่า ต้องผลิตภายใต้การดูแลของพระและในบริเวณศาสนสถานที่กำหนดเท่านั้น และไม่แสวงหากำไรจากเบียร์เหล่านี้ รายได้นั้นจะนำไปใช้ทำนุบำรุงศาสนาและการกุศลเท่านั้น
Westvleteren เป็นหนึ่งใน Trappist Beer เริ่มผลิตในค.ศ.1838 เพื่อจุนเจือศาสนาและประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในช่วงสงคราม หลังจากนั้นก็มีผลิตออกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน แต่สิ่งที่ยังคงยืนหยัดเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้คือการไม่ค้าขายเพื่อกำไร
“We are not brewers. We are monks. We brew beer to be able to afford being monks.”
Made to order
หากถามคอเบียร์ว่ายี่ห้อไหนหาดื่มยากที่สุด ชื่อของ Westvleteren แห่งเบลเยี่ยม ต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าจะกำเงินเดินเข้าไปซื้อในวัดกันได้ง่ายๆ ทางวัดจะเปิดให้จองคิวทางโทรศัพท์ทุกๆ 60 วัน ด้วยกำลังผลิตที่ไม่ได้มากมายอะไร ทำให้มีสินค้าจำนวนจำกัดอย่างมาก เบอร์นึงจึงจองได้แค่ 1-2 ลังเท่านั้น เพื่อป้องกันการกว้านซื้อเพื่อไป Resell ในราคามหาโหดนั่นเอง โดยราคาปกติอยู่ที่ 30-40 ยูโรต่อลัง
ลองนึกภาพดูว่าพระหลายรูปต้องรวมตัวกันคัดสรรฮอปส์คุณภาพเยี่ยมจากแหล่งวัตถุดิบชั้นดี มาเข้าสู่กระบวนการหมัก และบรรจุลงขวดด้วยตัวเอง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทุกอย่างถูกปรุงแต่งด้วยความพิถีพิถัน ขวดต่อขวด ยิ่งชวนให้ดื่มด่ำในความคราฟต์ของมันมากเข้าไปอีก จึงไม่แปลกใจที่คอเบียร์ต่างเสาะแสวงหาเบียร์ Westvleteren แม้จะต้องรอคิวกันข้ามปีหรือซื้อในราคา Resell ก็ตาม
The best beer in the world ?, Westvleteren.
แม้จะผลิตออกมาในจำนวนจำกัด แต่เบียร์ภายใต้แบรนด์ Westvleteren ก็มีทางเลือกสำหรับนักดื่ม ทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน สูตรแรก Blond แอลกอฮอล์ 5.8% ฝาจีบสีเขียว ต่อมาสูตร Westvleteren8 แอลกอฮอล์ 8% ฝาจีบสีฟ้า และสูตรเด็ดในตำนาน Westvleteren12 แอลกอฮอล์ 10.2% ฝาจีบสีเหลือง ซึ่งเจ้าสูตร Westvleteren12 นี้นี่แหละ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก
หากอยากลองเบียร์รสพระทำอย่าง Trappist Beer แต่รักในความสะดวก ซื้อง่ายขายคล่อง ลองเปลี่ยนตัวเลือกไปเป็น Abbey Beer ที่มีอยู่หลากหลายยี่ห้อในท้องตลาด
ของมึนเมาอย่างเบียร์ เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและผูกพันกับวิถีชีวิตของกลุ่มประเทศ Benelux อย่างแยกกันไม่ได้ แม้แต่กับศาสนาก็ยังคงมีการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างชุมชนและศาสนาในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่การที่พระผลิตเบียร์ออกมาขาย เพื่อใช้จ่ายในวัดและบริจาคสู่สารธารณะก็เป็นหนึ่งในการพึ่งพาอาศัยกันเช่นกัน
Writer
