ในขณะที่ผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และเมืองพัทยากำลังหาเสียงด้วยนโยบายที่ถูกใจประชาชนและดีต่อเมือง อีก 75 จังหวัดกลับยังมีผู้ว่าฯ แบบแต่งตั้งจากส่วนกลาง หลายคนไม่ใช่คนในพื้นที่ด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นจังหวัดของตัวเองแท้ๆ แต่ประชาชนในพื้นที่กลับไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง
เพราะเห็นถึงความไม่แฟร์ บวกกับอยากเลือกตั้งผู้ว่าฯ แบบคนกรุงเทพฯ บ้าง จึงมีคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม We’re all voters: เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง โดยมี ‘สันติสุข กาญจนประกร’ เป็นผู้ก่อตั้งแคมเปญเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ
สันติสุขได้ยกตัวอย่างถึงหลายเหตุผลที่ประชาชนควรมีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ ให้เราฟัง ดังนี้
– การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทำให้เกิดการแข่งขันในการเสนอนโยบายที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ เนื่องจากคนที่มีศักยภาพจะมาแข่งกันนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่มากที่สุด
– เกิดการกระจายทรัพยากรที่ทั่วถึง เพราะผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้งจะสามารถกำหนดได้ว่าในวาระ 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งนั้นจะทำอะไรบ้าง และจัดสรรงบได้เอง
– ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่น เพื่อป้องกันการทุจริตได้ตลอดเวลา เพราะเมื่อมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ย่อมเกิดกลไกที่เรียกว่า ‘สภาพลเมือง’ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ความโปร่งใสแก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆ อย่างการที่แต่ละจังหวัดจะได้ผู้ว่าฯ ที่เข้าใจปัญหาท้องถิ่นของตนอย่างแท้จริง คนธรรมดามีสิทธิ์ลงรับเลือกตั้ง ตัดปัญหาผู้ว่าฯ ถูกโยกย้ายแบบตรวจสอบไม่ได้ และยังเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยและความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยรวม
สันติสุขอธิบายต่อว่า แคมเปญนี้เปรียบเสมือนการปักธงผืนแรก เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการเมืองส่วนท้องถิ่น หากในอนาคตประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดได้จริงๆ แต่ยังมีปัญหาอื่นที่ทำให้ท้องถิ่นพัฒนาไม่ได้ ก็ต้องมีการเรียกร้องเพื่อปฏิรูปท้องถิ่นต่อไป
ใครที่อ่านทั้งหมดแล้วเห็นด้วยกับแคมเปญนี้ ลงชื่อสนับสนุนได้ที่ https://tinyurl.com/y4uu675c
นอกจากนี้ คณะก้าวไกลที่ทำงานและขับเคลื่อนการเมืองท้องถิ่น ก็กำลังรณรงค์แคมเปญ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ ที่มีจุดประสงค์ในการกระจายอำนาจจากส่วนกลางให้ท้องถิ่นเช่นเดียวกัน ศึกษาข้อมูลและลงชื่อสนับสนุนได้ที่ progressivemovement.in.th/campaign-decentralization