ครั้งหนึ่งไทยเคยครองแชมป์อันดับ 1 จากทั้งหมด 38 ประเทศที่มีสภาพการจราจรติดขัดที่สุดในโลกถึง 2 ปีซ้อน ในปี ค.ศ. 2016 – 2017 จากรายงานการประเมินสภาพจราจรทั่วโลก หรือ Global Traffic Scorecard ของ IRIX บริษัทที่วิเคราะห์ เกี่ยวกับการจราจรและรถยนต์ทั่วโลก และในปัจจุบันจากผลสำรวจ Tomtom แอปพลิเคชันสำรวจเกี่ยวกับเดินทางเผยว่าในปี ค.ศ. 2019 กรุงเทพฯ ติดอันดับ 11 ของโลก มีปริมาณความหนาแน่นบนท้องถนน 53% รวมทั้งคนเมืองต้องเสียเวลาในช่วงรถติดมากถึง 207 ชั่วโมง หรือมากกว่า 1 อาทิตย์เลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่เวลารถติดคือช่วงเช้า 6.00 – 8.00 น. และ ช่วงเย็น 16.00 -19.00 น.
โดยสาเหตุจราจรสุดแออัดในเมือง มาจากกรุงเทพฯ มีพื้นที่ถนนจำกัด สวนทางกับปริมาณรถยนต์ที่มีเพิ่มมากขึ้น เทียบสัดส่วนของถนนต่อพื้นที่ทั้งหมดมีเพียงแค่ 7% เท่านั้น ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยปกติจะต้องมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20 – 25% และในปี ค.ศ. 2018 กรมการขนส่งทางบกยังบอกอีกว่ากรุงเทพฯ มีจำนวนรถยนต์เกือบ 10 ล้านคัน ซึ่งหากดูจากพื้นที่ถนนแล้วมีสัดส่วนเกินจากที่รองรับได้ถึง 4.4 เท่า
เรียกได้ว่ายุคนี้ใครมีรถยนต์เป็นของตัวเองอาจจะต้องปาดเหงื่อหนัก เพราะต้องกังวลถึงการเดินทางที่ต้องวางแผนรับมือกับกับจราจรที่แสนติดขัด จึงไม่แปลกใจที่ทุกคนจะหนีขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาได้รวดเร็ว และเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเลี่ยงเส้นจราจรแสนแน่นเอี๊ยดให้พ้นไป โดยวันนี้เราจึงคัด 5 อันดับถนนรถติดสุดเดือดในกรุงเทพฯ ที่ชาวเมืองสามารถเลี่ยงไปนั่งรถไฟฟ้าเพื่อเซฟเวลาอันมีค่า จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปเช็กกัน !
ถนนลาดพร้าว | แยกพหลโยธิน – แยกประดิษฐ์มนูธรรม
รางวัลรถติดแน่นเอี๊ยดต้องขอมอบให้ ‘ถนนลาดพร้าว’ ที่ติดโพลมาทุกสมัย โดยเฉพาะบริเวณแยกพหลโยธิน จนถึงแยกประดิษฐ์มนูธรรม ในระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ยิ่งตอนเช้า 8.00 น. ต้องเสียเวลารถติดประมาณ 10 – 30 นาที และช่วงเย็น 18.00 น. ต้องรอนานประมาณ 20 นาที – 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ด้วยลาดพร้าวเป็นถนนหลักของย่าน ซึ่งเป็นเส้นที่ผู้อยู่อาศัยรอบข้างใช้สัญจรไปมา ทั้งยังเชื่อมไปยังย่านหมอชิต – จตุจักรได้โดยตรง และลิงก์กับถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่เข้าย่านเอกมัยได้ทันที
หากวิ่งมาเส้นลาดพร้าวเพื่อวิ่งเข้าเมืองควรระวังบริเวณสี่แยกภาวนา ซึ่งอยู่ถัดจากสี่แยกรัชดาภิเษกมาประมาณ 1 กิโลเมตร หรือเลือกนั่งรถไฟฟ้า MRT เริ่มต้นที่สถานี ‘ลาดพร้าว’ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานีพระราม 9 โดยใช้เวลาแค่ 10 นาที และหากอยากไปเส้นสุขุมวิทก็สามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้ที่สถานีห้าแยกลาดพร้าวไปถึงสถานีอารีย์เพียง 10 นาทีเท่านั้น
ถนนพระราม 4 | แยกหัวลำโพง – แยกรัชดาภิเษก
เขยิบมาไม่ไกลก็ต้องเจอรถติด เหมือนสุภาษิตหนีเสือปะจระเข้ที่ ‘ถนนพระราม 4’ ระหว่างช่วงหัวลำโพง – แยกรัชดาภิเษก ในระยะทางทั้งหมดประมาณ 5 กิโลเมตร ที่กว่าจะขยับแต่ละทีช่างยาวนานเสียเหลือเกิน อย่างตอนเช้า 8.00 น. ต้องติดอยู่บนถนนซึ่งใช้เวลา 10 – 30 นาที และตอนเย็นประมาณ 18.00 น. กว่าจะหลุดพ้นจากไฟแดง ต้องเสียเวลาถึง 15 – 50 นาที เพราะพระราม 4 เป็นถนนหลักที่เชื่อมกับเส้นสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ เช่น ถนนบรรทัดทอง ถนนพญาไท ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ และถนนรัชดาภิเษก
ถนนพระราม 4 เป็นเส้นที่ติดตลอดทุกช่วง ยิ่งตอนเย็นจะมีการจราจรแออัดมาก โดยเฉพาะบริเวณสามย่าน และแยกศาลาแดง จึงแนะนำว่าไม่ควรขับเข้ามาในช่วงเย็นประมาณ 18.00 – 20.30 น. หากไม่อยากรอให้เสียอารมณ์ เลือกขึ้นรถไฟฟ้า MRT จะช่วยย่นเวลาได้เร็วกว่า อย่างสถานีหัวลำโพงจนถึงสถานีคลองเตย จะช่วยประหยัดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 7 นาทีเท่านั้น
ถนนสาทร | BTS กรุงธนบุรี – แยกลุมพินี
‘ถนนสาทร’ เป็นหนึ่งในเส้นที่ได้รับแจ้งการจราจรติดขัดไม่แพ้ย่านอื่น อย่างช่วงรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี – แยกลุมพินี เรียกว่าเป็นถนนหลักที่เชื่อมเข้าฝั่งธนบุรีโดยตรง ด้วยระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในช่วงเช้า 8.00 น. รถจะติดอยู่ประมาณ 15 – 40 นาที และตอนเย็นติดหนักสุดเวลา 16.00 น. ประมาณ 10 – 40 นาที ด้วยถนนสาทรเป็นย่านศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพฯ จึงทำให้สาทรมีออฟฟิศตั้งอยู่เรียงราย รวมทั้งใกล้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสวนลุมพินี เลยทำให้มีคนสัญจรผ่านไปผ่านมาบนเส้นนี้มากมาย
วิ่งมาเส้นสาทรต้องระวังบริเวณช่วงแยกลุมพินี เพราะได้รับผลกระทบจากรถแน่นบนถนนพระราม 4 และช่วงขาออกของถนนสาทรที่มุ่งหน้าไปรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี ซึ่งขอแนะนำว่าควรเตรียมตัวออกเนิ่นๆ โดยช่วงเช้าจะเริ่มติดตั้งแต่ 7.00 น. และติดอีกทีตอนกลับบ้านประมาณ 16.00 น. จนกว่าจะเบาบางลงประมาณ 19.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งเวลาจะออกบ้านแต่ละทีหากต้องรีบจนเหนื่อยใจ หันมานั่งรถไฟฟ้าจะช่วยทำให้ชีวิตดีกว่าเดิมมากทีเดียวเพราะจากรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรีไปยังสถานีศาลาแดง ซึ่งเชื่อมต่อกับ MRT สีลม ใช้เวลา 10 นาทีถึงที่หมายทันใจ
ถนนสุขุมวิท | แยกอโศก – ซอยทองหล่อ
ย้ายมาถนนสุขุมวิทขึ้นชื่อเรื่องรถติดไม่แพ้ที่ไหน ช่วงสี่แยกอโศก – ซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นเส้นสำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งย่านธุรกิจ แหล่งแฮงก์เอาท์และท่องเที่ยว ซึ่งมีระยะไม่ไกลมากประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ให้ความรู้สึกยาวนานถึง 10 – 30 นาทีกว่าจะผ่านช่วงนี้ไปได้ แล้วยิ่งเฉพาะเวลา 15.00 – 18.00 น. จะเป็นช่วงอัมพาตของเส้นสุขุมวิท อย่าได้เอาล้อมาหมุนในเส้นนี้โดยเด็ดขาด
ช่วงสี่แยกอโศก – ซอยทองหล่อ เวลา 18.00 น. เป็นช่วงที่เตรียมทำใจนอนรอในรถได้เลย เพราะสุขุมวิทเป็นถนนหลักที่ติดยาวไปทั้งเส้น หรือแก้ปัญหาโดยการนั่งรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกมาลงที่สถานีทองหล่อ ซึ่งใช้เวลาแค่ 3 นาที แถมยังมีเวลาเหลือเฟือไปใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ
ถนนเพชรบุรี | แยกอุรุพงษ์ – แยกประตูน้ำ
เป็นอีกเส้นที่ขนานคู่มากับเส้นสุขุมวิท นั่นคือ ‘ถนนเพชรบุรี’ ที่ลิงก์กับย่านสำคัญต่างๆ ทั้งพญาไท สยาม และอโศก แต่แน่นอนว่าต้องแลกกับปัญหารถติดเกือบทั้งเส้น ยิ่งช่วงแยกอุรุพงษ์ – แยกประตูน้ำ เส้นที่เชื่อมกับถนนหลักและทางด่วน เช่น ทางพิเศษศรีรัช ถนนพระราม 6 ถนนพญาไท และถนนราชปรารภ ซึ่งมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ใช้เวลามากถึง 5 – 20 นาทีกว่าจะขับผ่านออกไปได้ โดยเฉพาะช่วงเวลา 12.00 – 18.00 น. ที่ต้องฝึกสกิลความอดทน
หากจะขับรถเข้าสยามหรือไปอโศก ไม่ควรผ่านเส้นนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งมักจะเป็นช่วงหัวมุมแยกอุรุพงษ์ และช่วงถนนระหว่างแยกราชเทวีกับแยกประตูน้ำ แต่ถ้าไม่อยากมาคิดเรื่องเวลาให้ปวดหัวก็เดินขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวีถึงสถานีอโศก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที เดินลงสวยๆ ไม่ต้องหาที่จอดรถอีกด้วย
อย่าเสียเวลากับรถติด เลือกคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า 24 โครงการพร้อมอยู่จากอนันดา
ลงทะเบียนได้คลิก : anan.ly/2UjNFdL
___________________________________________________________________________________
Source :
https://is.gd/Xnc9WX
https://is.gd/yXHLr8
https://is.gd/omgtzW
Writer
จารุจรรย์ ลาภพานิช
Graphic Designer
