Urban Creature x UN Women
นึกถึงพัทยา คุณนึกถึงอะไร
ต้นมะพร้าว ตลาดน้ำ หาดจอมเทียน หรือชีวิตกลางคืน
พัทยาในความคิดของทุกคนอาจแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามฉัน ในฐานะคนที่นับตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQ+ และได้ยินชื่อสถานที่แห่งนี้มานาน-ฉันนึกถึง Tiffany’s Show
นับตั้งแต่เปิดการแสดงครั้งแรกในปี พ.ศ.2517 Tiffany’s Show กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่คนมาเยือนพัทยาต้องนึกถึง แต่มากกว่าสาวสวย รวยความสามารถ และการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจซึ่งเป็นภาพจำของใครหลายคน ที่นี่ยังถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง มากกว่านั้นคือสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน รวมถึงชาว LGBTQ+ ที่เดินทางจากทั่วประเทศหลายร้อยชีวิต
สิ่งที่บางคนอาจไม่รู้คือโรงละคร Tiffany’s Show, เวทีประกวด Miss Tiffany’s Universe และ Miss International Queen นั้นควบคุมงานโดย จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์ ทายาทรุ่นสอง และผู้บริหารหญิงที่ยกระดับให้โชว์แห่งนี้โด่งดังไกล ผลักดันให้ LGBTQ+ ไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
คอลัมน์ประจำจังหวัดคราวนี้ ฉันจึงอาสาพาทุกคนมาหาลมทะเลพัทยา ก้าวเข้าไปในโถงโอ่อ่าของ Tiffany’s Show เพื่อพูดคุยกับอลิสาถึงประวัติศาสตร์ของโรงละครตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง มุมมองของเธอต่อชาว LGBTQ+ ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจด้านความบันเทิง ไปจนถึงแนวคิดเบื้องหลังการทำโชว์ที่นักแสดงกับคนดูรักมาตลอด 40 ปี
(หมายเหตุ : มุมมองของอลิสาที่มีต่อชาว LGBTQ+ ในบทสัมภาษณ์นี้เป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคล ไม่ได้เป็นภาพแทนของทุกคนในชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany09-1-1024x768.jpg)
ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น Tiffany’s Show ตั้งอยู่ที่แหลมบาลีฮาย ในบ้านหลังเล็กซึ่งเซตขึ้นเป็นโรงละครเฉพาะกิจ รับคนได้ราว 200 คน โดยชื่อของโรงละครมาจากดาราฮอลลีวูดชื่อดังคนหนึ่งในสมัยนั้น
ถึงจะเป็นแค่โชว์ขนาดย่อม ทว่า Tiffany’s Show ก็ประสบความสำเร็จในวงกว้าง ได้ยินไปถึงหูคุณสุธรรม พันธุศักดิ์ พ่อของอลิสาผู้กำลังสนใจลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว ประจวบเหมาะกับเวลานั้น แหลมบาลีฮายจำกัดไม่ให้รถบัสเข้า ทำให้ Tiffany’s Show เสียรายได้จากนักท่องเที่ยวไปมากโข คุณสุธรรมจึงเสนอต่อผู้ก่อตั้งอย่าง คุณวิชัย เลิศฤทธิ์เรืองสิน ว่าจะสร้างอาคารโชว์หลังใหม่ให้เช่า
ในยุคแรกของ Tiffany’s Show มีหลายหนที่ต้องพวกเขาพบกับอุปสรรคจนเกือบจะล้มเลิก ทั้งไม่สามารถจูงใจคนให้มาซื้อตั๋วดูได้เพราะโชว์ของหญิงข้ามเพศยังเป็นเรื่องใหม่ หรือการที่คุณสุธรรม ผู้เป็นหัวเรือใหญ่โดนเหยียดหยามจากคนในวงการท่องเที่ยวเมื่อไปเสนอขายแพ็กเกจ
“แต่พ่อก็ไม่เคยคิดล้มเลิก เพราะเขาเห็นความสำเร็จอยู่ข้างหน้า เขาเชื่อในโปรดักต์ของเขา จึงคิดว่าไม่มีอะไรที่น่าอาย เมื่อก่อนแรงผลักดันที่ทำให้เขาทำธุรกิจคือเงิน แต่หลังๆ เขารู้สึกเฉยๆ กับเงินแล้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้สู้กับอคติคน”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany01-1-1024x768.jpg)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany06-1-1024x768.jpg)
คงไม่เกินจริงนักถ้าจะบอกว่าอลิสาเติบโตขึ้นพร้อมกับโรงละครทิฟฟานี่ เพราะเธอได้ติดห้อยสอยตามคุณพ่อมาดูโชว์ทุกครั้งตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แม้เป็นเวลากลางคืนที่ปกติพ่อจะไม่อนุญาตให้ออกจากบ้านก็ตาม
“เพราะเขาเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องไม่ดี ทุกครั้งที่ไปโรงละคร จ๋าจะไปอยู่ตรงจุดฉายไฟให้เวที พ่อบอกให้ไปยืนตรงนั้นเพราะข้างล่างคนกินเหล้า ตอนที่จ๋าอยู่บนนั้น เรารู้สึกเอนเตอร์เทน ตื่นเต้นกับคนสวย สำหรับเราคนที่อยู่บนเวทีคือซูเปอร์สตาร์ เพราะท่วงท่า จังหวะหมุนเขาเป๊ะมาก จ๋าชอบมาก กลับบ้านมาก็เต้นตาม ร้องเพลงได้หมดทุกเพลงกับพี่สาว”
ดอนนา ซัมเมอร์, ไลซา มินเนลลี, ฟรานซิส ยิป คือรายชื่อของไอคอนดังที่อลิสารู้จักเพราะ Tiffany’s Show “เขาเข้าใจการเลือกเพลงมาใช้ให้น่าติดตาม มันทำให้เราดูซ้ำๆ แล้วยังมีความสุขอยู่ตลอด”
ถึงอย่างนั้น อลิสาในวัยเด็กก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มารันธุรกิจของ Tiffany’s Show เลย แต่หลังจากเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ที่อเมริกา เธอค้นพบว่าตัวเองชอบงานที่ต้องเข้าสังคมและครีเอทีฟ อลิสาจึงบินกลับมาคุมงานโรงแรมในเครือวู้ดแลนด์ของพ่อ ต่อจากนั้นก็ได้มาช่วยดูแล Tiffany’s Show ในที่สุด
สิ่งแรกที่อลิสาลงมือทำกับ Tiffany’s Show คือการวางกลยุทธ์เพื่อโปรโมตการประกวด Miss Tiffany’s Universe ในปี 2542 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการประกวดในวงแคบๆ แต่เธอผลักดันให้ได้ถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง ITV ได้สำเร็จ ซึ่ง ณ ตอนนั้นยังไม่เคยมีเวทีของผู้หญิงข้ามเพศเวทีไหนทำได้
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany12-1-1024x768.jpg)
Tiffany’s Show จึงสลัดภาพโชว์เฉพาะกลุ่มเข้าสู่ความแมสเต็มกำลัง สเต็ปต่อไปอลิสาถึงบูรณะเวที ที่นั่ง รูปแบบการโชว์ ไปจนถึงระบบออกตั๋ว
เรื่องที่ฉันได้ยินแล้วแทบไม่เชื่อหู คืออลิสาใช้เวลารื้อโรงละครเก่าแล้วสร้างใหม่ภายในไม่กี่วัน
“จ๋าไม่ได้นอนเลยสามวันสามคืน มันโกลาหลมาก เพราะเราหยุดการแสดงไม่ได้เลยสักวัน ตอนก่อสร้างก็ทำให้ฝุ่นมันฟุ้งไปอยู่ทุกที่ ถ้าวันนั้นมีโซเชียลนะ ทำไม่ได้ เพราะทุกคนจะต้องถ่ายแล้วด่าเราทุกวัน” เธอเล่าย้อนกลับไปด้วยความขำปนขื่น
แต่สุดท้าย เมื่อแลกมากับโรงละครสองชั้นที่ถูกขยายเป็นพันที่นั่ง มีเวทีกว้างที่สามารถเก็บฉาก และมีการแบ่งส่วนของแบ็กสเตจให้นักแสดงอยู่ได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ก็ทำให้เธอกับทีมงานชื่นใจ
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany04-1-1024x768.jpg)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany17-1-1024x768.jpg)
ตั้งแต่ยุคที่ความเท่าเทียมทางเพศยังไม่เป็นที่สนใจ Tiffany’s Show คือสถานที่ที่มองเห็นคุณค่าของทุกคนเท่ากัน
นับจากยุคแรกจนถึงปัจจุบัน ที่นี่ให้โอกาสในการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับคนข้ามเพศ และชาว LGBTQ+ มาหลายสิบรุ่น หลายร้อยคน
“จ๋ามองว่าผู้หญิงข้ามเพศคือผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเขาไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่มีกาลเทศะ เขาก็สามารถทำได้ทุกอย่างที่เขาอยากทำ จ๋าดูโชว์มาตลอดชีวิต และก็เข้าใจว่าคนที่รักการแสดง เขาจะมีชีวิตจิตใจตอนที่ได้อยู่บนเวที
“ตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่นี่มีคนให้โอกาสและคนได้รับโอกาสอยู่เสมอ อย่างช่วงที่เจ้าของเก่าจะเลิกทำ พ่อก็ไปเสนอตัวว่าจะทำต่อ การให้โอกาสคนคือคุณค่าที่ทำให้เรายึดถือมาตลอด เพราะเราเชื่อว่าพอเราให้โอกาสเขา เขาจะแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มศักยภาพ”
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า Tiffany’s Show เป็นโชว์ที่จำกัดให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศมาทำงานเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ทีมงานของที่นี่มีทุกเพศทุกวัย ช่วงก่อนโควิดก็มีนักร้องที่เป็นเพศหญิงโดยกำเนิดมาร่วมโชว์ด้วยเช่นกัน
ถึงอย่างนั้น การได้อยู่ท่ามกลางคนที่มีความหลากหลายทางเพศก็มีข้อดีไม่น้อย
“มันสอนจ๋าว่าคนไม่เหมือนกันเลย แม้กระทั่งชาว LGBTQ+ เองก็ไม่เหมือนกันเลยทุกคน เขาไม่ได้มีนิสัยที่เป็น stereotype ที่เราจะกำหนดได้ว่าเพราะเขาเป็นกะเทย เขาถึงเป็นแบบนี้”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany27-1-768x1024.jpg)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany23-1-768x1024.jpg)
ในสายตาของอลิสา Tiffany’s Show ยุคก่อนกับตอนนี้แตกต่างกันตรงที่ในอดีต โชว์ของพวกเขาถูกมองว่าเป็นความสวยงามหาดูยาก ลูกค้าเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ปัจจุบัน Tiffany’s Show คือความครีเอทีฟ คนดูเดินเข้ามาในโรงละครเพราะพวกเขาต้องการดูโชว์ของนักแสดงที่มีความสามารถ เป็นมือโปร
“สิ่งที่ทำให้จ๋าอยากอยู่กับทิฟฟานี่ต่อไปเรื่อยๆ คือมันมีอะไรที่ทำให้เราไม่ได้หยุดคิดเลย ที่นี่เป็นที่ทำงานที่ทำให้เราอยากผลักดันให้มันยิ่งใหญ่ ให้มีศักดิ์ศรี เพราะตอนแรกๆ ที่เข้ามา จ๋าก็พยายามไปขายแพ็กเกจของทิฟฟานี่ให้กับเอเจนต์การท่องเที่ยว บางคนเขาก็จะมองเราเหมือนคนทำงานกลางคืน หรือคนรู้จักเราบางคนถึงกับพูดว่า ‘เนี่ย เป็นบ้าอะไร อยู่ดีๆ ไปทำงานกับกะเทย’ เราก็รู้สึกว่าเฮ้ย พูดไม่ดีเลย แต่ในทางกลับกัน จ๋าก็มองเห็นเสียงสะท้อนว่าคนภายนอกมองทิฟฟานี่ว่าเป็นยังไง
“หลังจากนั้นจ๋าก็เปลี่ยนวิธีคิดมาทำการตลาดแบบใหม่เลย ตั้งใจว่าจะไม่ง้อคน ไม่ง้อเงิน และจะเน้นแบรนด์ดิ้ง ทุกคนที่เข้ามาดู Tiffany’s Show ต้อง willing to pay สมัครใจที่จะจ่ายตามเรตราคาที่เราตั้งไว้ แต่ก่อนจะทำให้ลูกค้าคิดแบบนั้นได้ เราต้องมั่นใจว่าของเราดีก่อน จ๋ายึดแนวคิดนี้มาตลอดคือถ้าของคุณดี คุณลงทุนกับมัน คุณจะขายได้” อลิสาย้ำ
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany08-1-1024x768.jpg)
ปัจจุบัน Tiffany’s Show ตั้งใจไว้ว่าจะครีเอตโชว์ใหม่ทุกปี ขณะเดียวกันก็จัดเวทีประกวด Miss Tiffany’s Universe และ Miss International Queen ปีละสองครั้งเพื่อให้คนดูทั่วโลกได้มองเห็นความหลากหลายและสร้างความเข้าใจเรื่องชุมชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศให้สังคม
ในขณะเดียวกัน มุมมองของสังคมที่มีต่อ Tiffany’s Show ก็ดีขึ้นเยอะมาก พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากคนดูและหน่วยงานอื่นๆ แบบเกินความคาดหวัง ตรงนี้อลิสาขอยกเครดิตให้กับลูกทีมที่ตั้งใจทำงานเพื่อลบภาพจำไม่ดีในสังคม “การเข้ามาอยู่ทิฟฟานี่ได้เหมือนเขาถูกเลือกมาแล้วว่าเขาต้องอดทน และต้องอดทนได้ทุกสถานการณ์” แม้กระทั่งโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน อลิสาก็พยายามแจกจ่ายงานเพื่อซัปพอร์ตลูกทีมในช่วงโรงละครปิด ทั้งการเทรนด์ให้ขายของออนไลน์ หรือให้ไปช่วยงานที่โรงแรมและร้านอาหารในเครือ “ความอดทนทำให้เขาไปต่อได้ และทำให้เขาได้รู้ว่าแต่ละงานที่ได้รับมีคุณค่า ไม่ใช่แค่การเต้นเท่านั้น”
มองย้อนกลับไป อลิสาบอกว่าตัวเองรู้สึกโชคดีที่ได้มารับช่วงต่อโรงละครแห่งนี้จากพ่อ มากกว่านั้นคือโชคดีที่เชื่อว่าคนทุกคน งานทุกงานมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่ากันมาตั้งแต่แรก
“ทำให้เราสนุก มันเป็นอาชีพที่ได้ทำงานกับคนหลากหลาย แม้บางครั้งจะทำให้เรากังวลหรือเครียดบ้าง สุขสลับกับทุกข์ แต่มันเป็นอาชีพที่น่าอิจฉามาก
“การทำงานที่นี่ทำให้จ๋ารู้สึกว่าเราได้ทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน เรารู้สึกดีใจมากเลยที่เกิดมาแล้วได้ทำ”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/03/uc-province-tiffany25-1-768x1024.jpg)
UN Women ร่วมกับ Urban Creature นำเสนอธุรกิจประจำจังหวัดที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้หญิง และความเสมอภาคทางเพศในภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ
ทิฟฟานี่โชว์ คือธุรกิจอายุ 40 ปี ที่ทำให้คนได้เห็นศักดิ์ศรีของคนชายขอบที่ถูกสังคมผลักออก ที่นำเสนอกลุ่มที่สังคมเรียกว่า ‘กะเทย’ ให้ทุกคนได้รับรู้ว่า พวกเขามีมิติที่มากกว่าความแตกต่างทางเพศ เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อให้สังคมรับรู้ว่า‘ทิฟฟานี่โชว์’
ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘กะเทยโชว์’ ไม่ได้ขายความเป็นเพศ แต่เป็นความสามารถและเป็นความภาคภูมิใจในอาชีพโดยแท้จริง
WeEmpowerAsia คือโครงการที่องค์การเพื่อความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (European Union) ให้ร่วมหาโอกาสเพื่อให้ผู้หญิงในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำและมีส่วนร่วมในภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น โครงการนี้มุ่งเน้นกระตุ้นให้ภาคธุรกิจตระหนักถึงคนทุกเพศ (gender-responsive) โดยเริ่มจากการปฏิบัติตามหลักการเสริมสร้างศักยภาพสตรี (Women’s Empowerment Principles/WEPs) รวมทั้งกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างตลาดในภูมิภาคเอเชียและยุโรปผ่านการค้า และห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ที่สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ทุกเพศ