การฟังเพลงแบบเป็นอัลบั้มใช้เวลาเยอะ และใช้สมาธิเยอะไม่ต่างกัน แต่ก็เพราะการฟังเพลงแบบเป็นอัลบั้มนี่แหละ ที่มอบความพิเศษของเรื่องราวผ่านบทเพลงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งได้ฟังอัลบั้มที่มีคอนเซปต์เรียงร้อยต่อกันไป แถมเป็นเรื่องราวที่บันทึกประสบการณ์ชีวิตในโลกที่เหมือนละครด้วยแล้ว เราย่อมได้รับพลังงานจากเรื่องเล่าเหล่านั้นเสมอ
อัลบั้ม ‘ธาตุทองซาวด์’ คือความรู้สึกพิเศษแบบนั้น เพราะเป็นดั่งบันทึกเรื่องราวชีวิตของผู้คนในมุมหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร คอนเซปต์อัลบั้มที่ฟังต่อกันแล้วได้อรรถรสแบบหนังม้วนยาว พาทุกคนเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้เห็นว่า กว่า ‘YOUNGOHM’ (โอม-รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์) ที่ถูกรู้จักในฐานะแรปเปอร์แห่งยุคเช่นทุกวันนี้ ในวันวัยแห่งการเริ่มต้นจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
ยังโอมเลือกเป็นนักแรปมาตั้งแต่ช่วงวัยเรียน และเดินทางไปแข่งขันในหลากหลายสนามแรป บวกกับทำเพลงมาเรื่อยๆ จนหลายเพลงทำให้เขามีชื่อเสียง และเกิดอัลบั้มแรกของชีวิตเมื่อปี 2020 ชื่อว่า ‘Bangkok Legacy’ ในอัลบั้มแรกเราจะได้ยินความสบถ ความเกรี้ยวกราด และความคับแค้นต่างๆ ที่ผสมปนเปเล่าออกมาผ่านเพลง
ทว่าอัลบั้มที่สองนี้เสมือนการตกผลึกของความนึกคิด ที่มันย้ำให้เห็นว่า ความสำเร็จหรือความสมหวังตั้งใจของคนคนหนึ่งนั้นย่อมมีความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ ยังโอมได้เล่าประสบการณ์ต่างๆ ของชีวิตผ่าน 19 บทเพลงที่ตั้งใจสร้างขึ้นมา เป็นการเปิดเปลือยตัวตนบางอย่างในอดีตเพื่อทบทวนให้เห็นว่าเขาในปัจจุบันนั้นเป็นใคร รายละเอียดชีวิตที่นำมาบอกเล่าด้วยความสุนทรีย์ผ่านบทเพลงก็ช่วยทำให้ได้รู้จักเขามากยิ่งขึ้นด้วย
โดยแกนหลักอัลบั้มสองเป็นเรื่องราวของเด็กวัดธาตุทอง ช่วงเวลาชีวิตวัยรุ่น วัยเรียน ซึ่งฉายภาพการอาศัยอยู่ในโซนเอกมัยใจกลางเมือง ย่านที่มีตึกสูงเสียดฟ้าและมีผู้คนมากมายที่ต่างพยายามเคลื่อนต่อไปเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
คอลัมน์ แกะเพลง ชวนมาสำรวจอัลบั้มธาตุทองซาวด์ของยังโอม ที่บรรจุอัดแน่นด้วยบทเพลงทั้ง 19 เพลง ซึ่งล้วนเป็นบันทึกช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วของเด็กวัดธาตุทองแห่งย่านเอกมัยที่กลายเป็นแรปสตาร์ได้ตามที่ตั้งใจ วันนี้เราจึงขอเลือกหยิบบางเพลงมาพูดคุยกัน
‘เอกมัย’ ไม่ใช่สถานที่แต่เป็นผู้คน
เริ่มต้นด้วยแทร็กเปิดหัว ‘Intro’ ที่ขึ้นมาด้วยเสียงของเปียโนตัวเดียว แล้วเพิ่มเสียงแบ็กกราวนด์ของเมืองชีวิตดีๆ ที่ลงตัวซึ่งเป็นเสียงเคลื่อนไหวของการเดินทาง เสียงเตือนปิดประตูของรถไฟฟ้าบีทีเอส และมีเสียงประชาสัมพันธ์บนรถไฟฟ้าบีทีเอสอันคุ้นหู (เสียงของรัดเกล้า อามระดิษ) ให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมเข้าไปรับฟังเรื่องราวบทเพลงจากเมืองที่ยังโอมอาศัยและมีชีวิตอยู่
ผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้ผู้โดยสารกำลังฟังอัลบั้ม ธาตุทองซาวด์ จากยังโอม
กรุณาตั้งใจฟังตั้งแต่เพลงแรก เรียงลำดับไปจนถึงเพลงสุดท้าย ขอบคุณค่ะ
ภาพเอกมัยเป็นภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตั้งแต่เส้นทางรถไฟฟ้าเข้ามา การขยายเมือง การขายที่ การย้ายที่อยู่ ก่อเกิดเป็นเมืองชั้นในที่มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอาศัย ใช้ชีวิต และทำงาน ทั้งยังเป็นแหล่งธุรกิจ มีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ที่ตกแต่งอย่างสวยงามในปัจจุบัน แต่มองลึกเข้าไปในย่านเอกมัยยังมีตรอกซอกซอยที่อาจไม่มีใครเคยได้มองเห็น และในอัลบั้มนี้เราจึงได้เห็นภาพความสำเร็จของเด็กในย่านที่บอกเล่าอยู่ในเพลง
Yeah we smokin on the rooftop
คนแถวนี้เขาคงไม่รู้หรอก
ก็ที่นี่มันใจกลางเอกมัย
กูก็แค่ไปตามเสียงหัวใจ Yeah
Yeah we drinkin on the rooftop
The universe is on the rooftop
See everybody from the rooftop
I see my city my gang, I see my goal
จากเพลง ‘SMOKING ON THE ROOFTOP’
อัลบั้มที่สองนี้ต้องบอกว่า ‘ไร้รอยต่อทอเต็มผืน’ อย่างที่ยังโอมนิยามไว้จริงๆ คือ เนื้อร้อง ทำนอง จังหวะ อารมณ์ หรือภาพบรรยากาศ ถูกออกแบบและวางตำแหน่งมาอย่างเหมาะควร การฟังตั้งแต่วินาทีแรกไปจนถึงวินาทีที่หนึ่งร้อยสิบสอง จึงให้ความรู้สึกเหมือนได้เห็นชีวิตผู้คนที่ยังโอมได้ผันผ่านไปพบเจอ ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้อยู่เป็นแรงหนุนและเป็นลมใต้ปีกให้โอมในวันนั้นได้บินขึ้นไปยังระดับที่สูงกว่า สิ่งสำคัญประการแรกที่อัลบั้มบันทึกไว้คือเรื่องของ ‘มิตรภาพ’
เราได้เห็นการก่อเกิดมิตรภาพจากช่วงวัยที่ได้ค้นพบสิ่งพิเศษที่ชีวิตไม่เคยเจอ ในอัลบั้มนี้อยู่หลายเพลง เช่นเพลง ‘ไอจ๊อด’ ยังโอมบรรยายถึงเพื่อนคลองเตยที่ชักชวนไปลองปุ๊นได้อย่างสนุกสนาน นึกถึงฟีลชาวแก๊งที่รอเวลาเลิกเรียนไปจับของและนั่งล้อมวงสรวลเสสนุกสนานมีความสุขกันแบบไม่ต้องคิดอะไร และยังมีเพลงที่เล่าถึงคู่หูคู่ซ่าที่เติบโตมาด้วยกันในเพลง ‘เห้ยไอ้เจ’ ทำให้เราได้เห็นส่วนผสมชีวิตเปรี้ยวซ่าของชาวแก๊งที่มีส่วนร่วมกันสร้างบางส่วนที่หลอมรวมตัวตนยังโอมขึ้นมา ยังมีความยียวนของกลุ่มเพื่อนที่มีเจตนาสอนรุ่นน้องมือใหม่หัดสูบปุ๊นในเพลง ‘สกัดดาวรุ่ง’ และมีเพลงที่เขาบันทึกช่วงวังวนที่หลุดพ้นจากยาเสพติดมาได้ในเพลง ‘โรเช่’ ส่งต่อการเรียนรู้จากประสบการณ์ให้คนที่กำลังหลงจมเข้าไปในสิ่งที่อาจนำมาซึ่งการทำลายชีวิตให้ได้ฟังและเผื่อได้ฉุกคิด
เจอธาตุแท้ที่ ‘ธาตุทอง’
‘ธาตุทอง’ คือแกนหลักของอัลบั้มนี้ เพราะเพลงส่วนใหญ่ของอัลบั้มจะเล่าถึงช่วงที่ยังโอมมีชีวิตวัยเรียนที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง เขาบันทึกเรื่องราวความเชื่อมั่นในการทำเพลงแรปที่แน่วแน่มั่นคงและแน่นอนว่า แพสชันอันแรงกล้าของเขาย่อมไม่สนคำใดๆ ของใครที่มาฉุดให้ต้องหยุด
เพราะอาจารย์ทำตัวเป็น Rulers
จารย์บอกถ้าไม่เรียนแล้วจะทำอะไรกิน
ผมบอกคอยดูละกันอาจารย์กับผมอะใคร Win
ถ้าเอามีดกรีดอกจะเห็นข้างในเลยว่ามีไฟจริง
ความเชื่อโบราณไม่มีอะไรจริง Fuck it, now I’m risin’
ห้าปีผ่านไปจารย์ดูดิผมยังคง Grindin’
จากเพลง ‘หมาป่ารอวันหอน’
ในอัลบั้มนี้มีเพลงที่แสดงถึงความเป็นอยู่ เป้าหมาย และทางไปต่อของยังโอมให้ได้ตามลุ้นกัน อย่างในเพลง ‘ธาตุทอง เอกมัย’ ก็ได้ฉายภาพชีวิตในเมืองใหญ่แห่งนี้ที่เราต่างเผชิญบริบทคล้ายๆ กันคือ การทำงานอย่างหนักหาเงินไปทำสิ่งที่อยากทำเพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ยังโอมบอกเล่าการหาทางรอดของเขาว่า ช่วงหนึ่งเขาต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ถือป้ายหน้าคอนโดฯ หรืออะไรก็ได้ที่นำไปสู่การได้เงินไปอัดเพลงและให้ชีวิตยังเดินไปข้างหน้าต่อ
เริ่มได้ยูทูบเดือนไม่กี่พัน แต่ว่าผมมีความสุข
มันอาจจะไม่กี่ตังค์ แต่ผมก็แรปไม่มีการหยุด
ปักเป้าหมายบน Map และผมก็เดินมันไปตามหมุด
ชีวิตขอเลือกเอง แม่รู้ผมเลือกเพลง
ขอโทษที่เลือดเย็น
และมันไม่ง่ายเลย ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
แต่เป็นไปไม่ได้เลย มันไม่เคยมีจริงไม่ว่ายังไงก็ตาม
จากเพลง ‘HOW I LIKE pt.2’
รวมถึงความรักและความคิดถึงในช่วงสมัยมัธยมฯ เราจะได้ยินเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านเพลง ด้วยภาษาและลีลาแบบพ่อหนุ่มคลั่งรักแบบฉบับนักเลงเพลงแรปที่ชื่อยังโอมคนนี้ในหลากหลายเพลง เช่น ‘Very Very Small’ ซิงเกิลโปรโมตอัลบั้มที่เล่าถึงชั่วโมงต้องมนตร์ที่เคยได้ตกหลุมรักเด็กมัธยมวัดธาตุทอง ได้พบเจอความรักหวานๆ ระหว่างเดินทางบนบีทีเอสในเพลง ‘สายน้ำผึ้ง’ และยังมีเพลงที่ให้อารมณ์เด็กวัดกับดอกฟ้าในเพลง ‘เด็กอินเตอร์’
เธอไปเที่ยวอยู่ Paragon
ผมเรียน รด. อยู่วัดบวร
ถ้าได้คู่กันคงเหมือนนาตาลีกับภราดร
เหมือนบัวลอยกับมาการอง
ถ้าเธอไม่เคยควรหามาลอง
แต่ถ้าให้วิ่งตามเธอคงเป็นวิ่งแบบ Marathon
ยังไงก็ตามไม่ทันและฉันก็คงไม่หวัง
แค่ได้ชมแค่ได้เชยพอแล้ว
เธออย่ากังวลน่ะไปเลย ฉันแค่จะมองตรงนี้
จากเพลง ‘เด็กอินเตอร์’
ตัวตนที่มาจากข้างล่าง
ในอัลบั้มนี้ยังมีการพูดถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวและคนข้างๆ ทั้งกัลยาณมิตร ยาย หรือแม่ กลุ่มคนสำคัญซึ่งทำให้ยังโอมยังคงเดินทางไปต่อได้ในแบบที่ตัวเขาเลือก การมีอยู่ของพวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นแรงผลักในทุกช่วงเวลา
กูแค่ต้องเดินไปข้างหน้า
ถึงแม้เจ็บช้ำกันมามาก
กูแค่ทำเพื่อคนที่เหลือและก็ทำไปเพื่อคนที่ยังอยู่ข้างๆ
ก็เพราะชีวิตกูมาจากข้างล่าง
ไม่เคยลืมตอนอยู่ข้างล่าง
กูมาจากข้างล่าง
จากเพลง ‘ข้างล่าง’
ในอัลบั้มนี้มีเพลงอย่าง ‘ธาตุทองซาวด์’ ซึ่งเราคิดว่าหลายคนคงคิดเหมือนกัน เพียงแค่อ่านชื่อก็บอกได้เลยว่า เพลงนี้เราจะได้พบกับจังหวะสามช่าที่เป็นจังหวะที่ใครได้ยินก็คงต้องออกสเต็ปกันแน่นอน และในเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มนี้ทำให้เราได้สนุกไปกับซาวนด์ที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศรถแห่ ดนตรีอีสานที่เซิ้งกันหน่าฮ่าน ทั้งยังมีแนวเมทัลเข้ามาสร้างความดุดัน และความเป็นอิเล็กทรอนิกร่วมสมัยมาผสมให้ดิ้นกันสุดมัน รวมถึงลีลาภาษาที่กวนโอ๊ยสร้างมาเพื่อเป็นเพลงตัวแทนของชาวธาตุทองโดยแท้
.
สิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ ตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มที่สอง ยังโอมยังคงเป็นแรปเปอร์คนหนึ่งที่เชื่อในเรื่องของ Free Speech อยู่เสมอ คิดแบบไหนก็เขียนแบบนั้นและเขามักวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมืองอย่างตรงไปตรงมาแทรกเอาไว้ในทุกเพลง
และสุดท้ายเราขอยกเพลงปิดอัลบั้มมาพูดถึงอีกสักหนึ่งเพลง เพราะเพลงนี้ถูกวางตำแหน่งไว้อย่างดีเพื่อเป็นเพลงที่บันทึกเรื่องราวของยังโอมที่ทบทวนช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้ว เพื่อส่งต่อกำลังใจให้กับการก้าวต่อไปยังสถานีปัจจุบัน
ถึงคนที่ฟังอัลบั้มธาตุทองซาวด์อยู่ทุกคนนะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร โตมายังไง ที่บ้านมีฐานะยังไง แม่งไม่เกี่ยวเว้ย
ผมเชื่อว่าคุณเป็นได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะเป็น
ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องประสบความสำเร็จ
แต่คุณสามารถทำสิ่งที่คุณอยากจะทำได้ให้มันเต็มที่ที่สุด ให้มันดีที่สุด
ให้มันพาคุณไปเองว่ามันจะพาคุณไปที่จุดไหน
สถานีต่อไป ใครจะรู้
แต่ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้ที่จุดจุดนี้
โดยประตูสู่ความสุขจะเปิดด้านหน้า
โปรดเดินตามเสียงหัวใจของท่านไปค่ะ
ผู้โดยสารโปรดทราบ
โปรดเอื้อเฟื้อความสุขแก่เพื่อนมนุษย์ เพื่อนพ้อง ครอบครัว
ผู้ที่จำเป็นต้องใช้กำลังใจขณะเดินทาง และคนที่รักท่านอย่างจริงใจ
โดยอาจสังเกตได้จากความหวังดีที่มีให้ต่อกัน
การกระทำที่ไม่หวังซึ่งผลตอบแทน
จากเพลง ‘เสียงจากเด็กวัด’
สำหรับเราแล้ว อัลบั้มนี้ทำให้ได้เห็นบันทึกความเป็นไปของคนที่ทุ่มทุกอย่างให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างถึงที่สุด เมื่อถึงเวลาที่พร้อมทุกอย่างจะเจิดจ้าและเป็นประกายให้คนได้เห็นสิ่งที่มุ่งมั่นทำด้วยความตั้งใจตลอดมา การมีคนรอบข้างที่คอยช่วยผลักดัน เป็นลมใต้ปีกที่ทำให้นกลอยล่องไปได้ในสายลมก็สำคัญ อัลบั้มธาตุทองซาวด์ทำให้เราได้พบกับตัวละครที่แตกต่างด้วยสไตล์การใช้ชีวิต มีทั้งแบบที่ผ่านเข้ามาและจากไป หรือแบบที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ต่อกัน รวมไปถึงเหล่าคนที่ต้องกลายเป็นบทเรียนที่ทั้งดีและไม่ดีต่อกันไปตามเหตุผลของการเลือกทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้น และไม่ว่าจะใช้ชีวิตด้วยวิถีเด็กวัดหรือวิถีแบบไหน ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่ได้กันมาง่ายๆ ทุกอย่างต้องลงแรงอย่างหนัก นั่นคือเรื่องจริง
โย่ว และนี่เป็นอีกหนึ่งผลงานของแรปเปอร์ไทยที่เมื่อได้ฟังทั้งอัลบั้มแล้วต้องบอกเลยว่า โคตรดีด โคตรเดิน โคตรเพลิน