ในชีวิตเมืองที่ทุกวินาทีมีค่า เพียงถึงสถานีรถไฟฟ้าช้าแค่พริบตาก็ต้องรอรถขบวนใหม่หลายนาที ด้วยเมืองที่เร่งเร้าให้ชีวิตเร่งรีบ จึงไม่แปลกใจที่กาแฟพร้อมดื่ม (Ready-to-Drink) จะกลายเป็นตัวเลือกที่คนเมืองหันมาสนใจ เพราะไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวรอบาริสตาชง แค่หยิบจากชั้นวางเครื่องดื่ม จ่ายเงิน ก็ได้กาแฟมาบูสต์เอเนอร์จีทันที
แน่นอนว่าในฐานะผู้นำด้านโซลูชันแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหาร ‘Tetra Pak’ ก็ไม่พลาดที่จะศึกษาเทรนด์ใหม่มาแรงนี้อย่างลึกซึ้ง พร้อมเจาะลึกทิศทางตลาดในไทย และนำข้อมูลมาเล่า เปิดมุมมองที่สดใหม่ให้ฟังแบบไม่กั๊กว่า ปัจจุบันกาแฟพร้อมดื่ม เป็นมากกว่าเครื่องดื่มรองท้องที่ตอบโจทย์ชีวิตอันเร่งรีบได้อย่างไร
กาแฟพร้อมดื่ม ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในอนาคต
“ตลาดกาแฟพร้อมดื่มทั่วโลกมีขนาดใหญ่ถึงเจ็ดพันหกร้อยล้านลิตร โดยมีเอเชียแปซิฟิกเป็นฐานใหญ่ถึงห้าพันเจ็ดร้อยล้านลิตร” ‘สุภนัฐ รัตนทิพ’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพกว้างให้เราเห็นก่อนว่าเทรนด์กาแฟพร้อมดื่มในโลกเป็นอย่างไร
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด
จากข้อมูลของ Tetra Pak Compass 2024: Global RTD Coffee Volumes ‘ญี่ปุ่น’ เมืองที่มีวิถีชีวิตอันสุดแสนเร่งรีบ คือประเทศที่ครองแชมป์ผู้บริโภคกาแฟพร้อมดื่ม คิดสัดส่วนเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากกาแฟพร้อมดื่มตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนแดนปลาดิบ ยิ่งร้านสะดวกซื้อมีเยอะราวกับดอกเห็ด กาแฟพร้อมดื่มยิ่งเป็นของที่หาซื้อง่าย เพิ่มจำนวนการบริโภคให้พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
ถึงแม้ตอนนี้สัดส่วนการบริโภคกาแฟพร้อมดื่มของไทยจะมีอยู่เพียง 3 เปอร์เซ็นต์จากทั่วโลก แต่ด้วยสภาพเมืองที่ขยายตัวและร้านสะดวกซื้อที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน ก็ชี้ถึงโอกาสในตลาดที่กำลังเปิดกว้าง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจเห็นคนเมืองถือกาแฟพร้อมดื่มติดตัวเป็นภาพคุ้นชิน
กาแฟพร้อมดื่ม มากกว่าการปลุกให้ตื่น คือการเติมเต็มชีวิต
ถ้าอยากรู้จักพฤติกรรมการบริโภคให้ดีขึ้น ก็ต้องเข้าใจบริบทการดื่มว่าผู้บริโภคดื่มเมื่อไหร่ ที่ไหน จากอินไซต์การตลาด
สุภนัฐเผยว่า กาแฟพร้อมดื่มไม่ใช่แค่ตัวเลือกไว้สูบฉีดความสดชื่นก่อนทำงาน แต่คาเฟอีนในรูปแบบนี้มีที่ทางในทุกเวลาของชีวิต ทั้งยังเป็นเครื่องดื่มปลุกจากความงัวเงียในยามเช้า หรือเป็นตัวบูสต์พลังงานตอนทำงานช่วงบ่าย นอกจากนั้นแล้ว กาแฟพร้อมดื่มที่ผู้บริโภคมองหาในอนาคตยังมีแนวโน้มตอบโจทย์ใน 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่
Experience More – ในยุคใหม่ที่ผู้คนต้องการแสดงตัวตนของตัวเอง กาแฟพร้อมดื่มกลายเป็นไอเทมบ่งบอกตัวตนผู้บริโภค ด้วยการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างทั้งด้านรสชาติ รสสัมผัส หรือแพ็กเกจจิ้ง
Convenience Unlocked – ตอบชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งด้วยแพ็กเกจจิ้งที่หยิบจับพกพาสะดวกสบาย และไม่ว่าจะไปที่ไหนก็หาซื้อสินค้าได้ง่าย ไม่ต้องรอ
Wellness Waves – มากกว่าการเป็นเครื่องดื่มสูบฉีดพลังงานระหว่างวัน คือเครื่องดื่มที่เป็นมิตรกับสุขภาพและมีคุณประโยชน์เพิ่มเติม เช่น กาแฟพร้อมดื่มลดน้ำตาล ใช้นม Lactose Free หรือ Plant Based หรือเป็นกาแฟ High Protein ที่เหมาะกับคนควบคุมน้ำหนักหรืออยากสร้างกล้ามเนื้อ
Rooted Origin – สตอรีการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งวัตถุดิบชั้นยอด คือสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา เพิ่มคุณค่ากาแฟพร้อมดื่มให้เป็นยิ่งกว่าเครื่องดื่มสำเร็จรูป แต่เป็นเครื่องดื่มที่ผ่านกระบวนการผลิตอันพิถีพิถัน เพื่อส่งมอบของคุณภาพสู่มือผู้บริโภค
นวัตกรรมจาก Tetra Pak เพื่อกาแฟพร้อมดื่มแบบพรีเมียมในอนาคต
นอกจากเทรนด์การบริโภคกาแฟพร้อมดื่มที่เราพูดคุยกัน ทาง Tetra Pak ยังถือโอกาสนี้พาเราทัวร์ ‘Customer Innovation Centre (CIC) Bangkok’ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า ที่เป็นดั่งห้องแห่งจินตนาการและห้องแล็บในที่เดียวกัน นำข้อมูลทางการตลาดมาทดลองปั้นเป็นไอเดีย สร้างผลิตภัณฑ์ตัวอย่างให้ลิ้มลองจริง
‘สุทธินันท์ เตชะทยานนท์’ ผู้จัดการฝ่าย Customer Experience บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด เปรยให้เราฟังว่า CIC Bangkok หรือศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าในกรุงเทพฯ แห่งนี้ เป็นศูนย์นวัตกรรมฯ แห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก และเป็น 1 ใน 6 แห่งจากทั่วโลก
ผู้จัดการฝ่าย Customer Experience บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด
งานนี้ Tetra Pak นำตัวอย่างนวัตกรรมกาแฟมาให้ชิมกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ตั้งแต่กาแฟสกัดเข้มข้นรูปแบบพร้อมดื่ม ที่ผู้บริโภคนำไปผสมน้ำหรือนมเองได้อย่างง่ายดาย กาแฟโปรตีนสูงที่มีโปรตีน 10 กรัมต่อ 200 มิลลิลิตร ซึ่งใช้โปรตีนจากพืช ทำให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่มละมุนลิ้น หรือไอเดียสุดเซอร์ไพรส์ นั่นคือ กาแฟรส Mojito ที่แทรกด้วยกลิ่นมิ้นต์อันหอมหวน เติมทั้งพลังงานและความสดชื่นในคราวเดียว
อีกนวัตกรรมโดดเด่นที่ Tetra Pak ยกมาให้เราได้สัมผัสคือ ‘Tetra Prisma® Aseptic 250 Edge DC26’ บรรจุภัณฑ์ทรงแปดเหลี่ยมสะดุดตาที่ออกแบบมาให้ถือสะดวก ทั้งยังสร้างความแตกต่างให้สินค้าได้อย่างดีเมื่อไปอยู่บนชั้นวางในร้านสะดวกซื้อ
ตัวกล่องทำจากวัสดุกระดาษ (Carton) เป็นหลัก เน้นความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความใส่ใจ และฝาปิด DreamCap™ ออกแบบมาช่วยให้ดื่มได้อย่างสะดวกตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic) ไม่ต้องเงยคอจนเกินไป
ไม่เพียงแค่นั้น กล่องเดียวกันนี้ยังเก็บกักคุณภาพของเครื่องดื่มไว้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะดื่มจากกล่องไหนก็ได้รสชาติไม่ผิดเพี้ยนจากกันอย่างแน่นอน
Tetra Pak พร้อมจับมือกับพาร์ทเนอร์
ตอนนี้โลกกาแฟพร้อมดื่มของไทยกำลังอยู่ในช่วงน่าตื่นเต้น เพราะเป็นช่วงเวลาและโอกาสในการทดลองคิดค้นกาแฟที่ตอบไลฟ์สไตล์คนเมือง
หากใครเป็นผู้ประกอบการที่มีใจรักอยากมอบกาแฟคุณภาพสู่มือผู้บริโภค Tetra Pak พร้อมเป็นคู่หูพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ตั้งไข่ไอเดีย ไปจนถึงวันเผยโฉมสินค้าในท้องตลาด และการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตหากสนใจปรึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์กับตัวจริง ติดต่อสอบถาม Tetra Pak ได้ที่ www.tetrapak.com/en-th/solutions/categories/other-beverages/coffee
Writer
