สำหรับคนที่ Follow เธออยู่แล้ว เรารู้กันดีว่าช่อง ‘ครูแพรว’ ไม่ใช่ช่องสอนหนังสือ
เราไม่ได้ติดตามครูแพรวในฐานะครู แต่คือ Porn Creator ทรานส์เจนเดอร์ยอดนิยม เจ้าของแอ็กเคานต์ OnlyFans ที่มีจำนวน Subscribers จากทั่วโลกหลักพัน และมียอด Followers ในช่องทางอื่นๆ เรือนแสน
สารภาพตามตรง เราเคยคิดว่าชื่อแอ็กเคานต์เป็นแค่กิมมิกให้จำง่ายเฉยๆ แต่พอได้นั่งคุยกับ ‘แพรว-แพรวไพลิน กสิวัฒนา’ แบบตัวต่อตัวกันในบ่ายวันนี้ เราถึงรู้ว่าเธอเป็นครูจริงๆ
นอกจากบทบาทคนทำคลิปเสียว ครูแพรวคือหนึ่งในหุ้นส่วนและครูของโรงเรียนสอนแต่งหน้า กันคิ้ว และสอนบุคลิกภาพแห่งหนึ่งในขอนแก่น แถมเธอยังเป็นนางงามที่เพิ่งคว้ามงกุฎ Miss Trans Thailand มาหมาดๆ เมื่อปี 2022 และกำลังปลุกปั้นช่องยูทูบที่ทำคอนเทนต์เมาท์มอยและไลฟ์สไตล์ของตัวเองขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น
เส้นทางชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ตั้งแต่รู้ว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน ครูแพรวก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ชีวิตก็คือชีวิต มันไม่มีอะไรง่ายและไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
คอลัมน์ The Professional คราวนี้ เราจึงอยากชวนครูแพรวมาทบทวนเส้นทางที่ผ่านมา แล้วสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากชีวิตและการทำงานในฐานะ Porn Creator กับอีกสารพัดบทบาทของเธอให้เราฟัง
นี่คือบทเรียนที่เธอไม่เคยเล่าหน้ากล้อง ไม่เปิดเผยบน OnlyFans หรือที่ไหน Exclusive สุดๆ บนเว็บไซต์ urbancreature.co เท่านั้น
บทที่ 1 เงินเท่านั้นที่น็อกเอเวอรี่ติง
“แพรวเกิดที่นครศรีธรรมราช โตที่ชุมพร พ่อเป็นทหาร ส่วนแม่ทำธุรกิจร้านอาหารและทำสวน ตอนเด็กๆ เป็นเด็กเรียบร้อยเพราะพ่อแม่ไม่ให้กรี๊ดกร๊าด พวกเขาถึงขนาดที่เคยปรับให้แพรวกลับไปเป็นเด็กผู้ชายด้วยการให้ไปเตะบอลกับเพื่อน แพรวก็ไป แต่ไม่ได้ไปเตะบอล ไปยืนเต้นกับเพื่อนกะเทยที่โดนพ่อแม่บังคับมาเหมือนกัน ก่อนกลับบ้านก็จะเอารองเท้าชุบขี้โคลนให้ดูเหมือนไปเล่นบอลมาจริงๆ วันที่เป็นจุดเปลี่ยนคือวันที่แม่มาแอบดูว่าแพรวเตะบอลจริงไหม เขาเลยรู้ความจริงและบอกเราว่าถ้าอยากเป็นผู้หญิงก็ต้องใช้ชีวิตแบบผู้หญิง หลังจากนั้นเราเลยเริ่มเปลี่ยนตัวเองให้ไม่กรี๊ดกร๊าด เน้นเรียนเป็นหลัก
“จุดเปลี่ยนอีกจุดคือตอน ม.4 พ่อถามว่าทำไมไม่ไปเรียนนักศึกษาวิชาทหาร ไม่กลัวได้เป็นทหารเหรอ แพรวตอบว่าไม่กลัว เพราะจบ ม.6 จะทำนมเลย พ่อก็ถามต่อว่าจะเอาเงินที่ไหนทำ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก แพรวเริ่มจากการขายวิตามิน ขายวิกให้กะเทยเด็กในช่วงกีฬาสี ทำให้เราเริ่มมีทุน พออายุสิบแปดก็ได้ทำหน้าอกอย่างที่ตั้งใจ การทำธุรกิจสอนให้รู้ว่าแพรวต้องทำงาน เพราะถ้าไม่ทำงานก็จะไม่ได้เงินไปจ่ายในสิ่งที่ต้องการ”
บทที่ 2 หนามยอกเอาคลิปบ่ง
“แพรวมั่นใจว่าจะใช้ชีวิตแบบทรานส์เจนเดอร์แน่แล้ว หลังเรียนจบเลยย้ายไปอยู่ภูเก็ตเพราะอยากได้คำแนะนำจากพี่ๆ ทรานส์เจนเดอร์ที่นั่น เป็นที่มาของการเข้าสู่วงการประกวดนางงาม แพรวเดินสายประกวดอยู่ประมาณหนึ่งปี หลังจากนั้นก็ได้ทุนไปเรียนรัฐประศาสนศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในขอนแก่น ประกอบกับมหาวิทยาลัยที่ภูเก็ตออกกฎห้ามไม่ให้ทรานส์เจนเดอร์แต่งชุดผู้หญิง เราเลยเลือกย้ายไปดีกว่า
“ตอนอยู่ขอนแก่น แพรวไปลงประกวดนางงามเวทีหนึ่ง หลังส่งรูปพอร์เทรตไปสมัครเสร็จ มันก็มีรูปโป๊ของแพรวหลุดบนอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นคิดว่าเส้นทางนี้ของเราจบแล้ว ไปต่อไม่ได้แล้ว แพรวดาวน์จนไม่อยากไปมหา’ลัย ไม่อยากกินข้าว โทษตัวเองว่าทั้งๆ ที่เราก็ใช้ชีวิตมาแบบกะเทยที่ดีคนหนึ่ง ทำไมชีวิตเราถึงมาเจอจุดเปลี่ยนแบบนี้ แล้วเราจะเดินทางไหนได้ต่อ มันเคว้งนะ เพราะถ้าเราเป็นนางงามต่อไป รูปโป๊ของเราก็จะถูกกระจายต่อเรื่อยๆ เราเลยเลือกถอยออกมาและใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป (เสียงสั่น)
“ที่แย่กว่านั้นคือ เราโดนขู่เรื่องรูปหลุดมาเรื่อยๆ จากคนกลุ่มเดิมที่เขารู้ว่าเรามีรูปหลุด เราจะทำอะไรมันก็เหมือนมีชนักแทงอยู่ข้างหลัง โดนขู่อยู่แปดปีจนเราถามตัวเองว่า เราจะหลุดพ้นจากตรงนี้ได้ยังไง แพรวคิดอะไรไม่ออกนอกจากความคิดว่า ถ้าจะเอาชนะความกลัวตรงนี้ เราก็ต้องชนะแบบที่เป็นตัวเอง
“หล่อนขู่รูปนี้ฉันมาแปดปี เดี๋ยวฉันทำรูปใหม่เลย มันเลยเป็นที่มาของการเข้าสู่วงการ Porn Creator โดยที่แพรวไม่ได้คิดเป็น Porn Creator ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ”
บทที่ 3 ดุดัน ไม่เกรงใจคนดู
“ช่วงประมาณสามปีที่แล้ว OnlyFans ยังไม่ดังในไทย แพรวจึงเริ่มจากปล่อยรูปและคลิปในช่องทางทวิตเตอร์ก่อน โดยไม่ได้คิดเรื่องรายได้เลย คิดแค่ว่าอยากให้คนที่ขู่เราเห็นคลิป มันจะได้เลิกขู่เราซะที แต่ปรากฏว่าพอลงคลิปไปแล้วฟีดแบ็กดีมาก ยอดผู้ติดตามขึ้นมาสองหมื่นในวันเดียว
“ทีมซัปพอร์ตของ OnlyFans ที่เขากำลังหาครีเอเตอร์คนไทยมาเห็นเข้าเลยทักเรามา ตอนแรกคิดว่าเขาหลอกเราหรือเปล่าวะ เพราะครีเอเตอร์ไทยในตอนนั้นมีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ แต่มีเพื่อนกะเทยคนหนึ่งของเราทำ แพรวเลยทักไปหาเขา ถามว่าได้เงินจริงเหรอ เพื่อนบอกว่าได้จริง
“แพรวลังเล จนทีมนั้นเขาทักมาอีกรอบจึงตอบตกลงเพราะเรามีคลิปในมืออยู่แล้ว ซึ่งคลิป ณ ตอนนั้นเป็นคลิปที่ทำตามใจเรา ตั้งกล้องถ่ายธรรมดา พอได้มาทำจริงๆ ถึงต้องมีการปรับให้เป็นคลิปที่คนดูอยากดู จุดขายของแพรวคือมีสตอรี ให้ความสำคัญกับความสมจริง เราใส่ความเป็นตัวเองลงไปเยอะมาก เราใช้ชีวิตยังไง มีไลฟ์สไตล์แบบไหน สเปกผู้ชายที่เราชอบเป็นแบบไหน ทั้งหมดคือเป็นเราเลย
“เราอยากให้คนที่เข้ามาเสพผลงานของเราคุ้มค่าที่สุด อยากยกระดับครีเอเตอร์ไทย เลยตั้งใจจะทำให้คลิปมีคุณภาพมากที่สุด คำว่าคุณภาพหมายถึงความคมชัดและฟีลลิ่งที่จัดเต็ม เราพยายามใส่ฟีลลิ่งลงไปให้คนดูรู้สึกได้ คนดูดูแล้วต้องรู้สึกได้ บางทีคนดูก็ชอบถามว่าทำไมแพรวชอบกรี๊ดในคลิป (หัวเราะ) ในชีวิตจริงอาจจะไม่ได้ถึงขั้นนั้น แต่แพรวทำเพราะบางทีเรารู้สึก แต่คนดูเขาไม่รู้ไง แพรวเลยอยากสื่อสารให้เขาเข้าถึงความรู้สึกของเรา”
บทที่ 4 คอมมูฯ ครูแพรว
“กระบวนการทำคลิปเริ่มตั้งแต่การหาคนที่จะมาถ่ายด้วย ถ้าถูกใจกัน แพรวก็จะฝากเขาตรวจสามอย่างคือ ตรวจ HIV ซิฟิลิส และตับอักเสบ พอดีลได้ก็นัดถ่ายทำโดยตกลงกับเขาให้ละเอียด ในแง่ของการเปิดเผยตัวตน ถ้าคู่ของเราเปิดเผยตัวตนได้ แพรวก็จะเล่าเรื่องประกอบคลิปตามความเป็นจริง แต่ถ้าเขาอยากปิดบังตัวตน เราก็ต้องบิดการเล่าเรื่องนิดหนึ่ง เช่น คนนี้เป็นหมอ แต่ในคลิปอาจกลายเป็นทหาร เพื่อเซฟคนที่มาถ่ายกับเรา
“คลิปแต่ละคลิปจะเป็นส่วนผสมของตัวแพรวกับคู่นอน แพรวจะถามเขาก่อนว่าเขาชอบเซ็กซ์แบบไหน จะไม่บรีฟให้เขาทำอะไร เพราะไม่งั้นคลิปก็จะเป็นแบบเดิมๆ ซ้ำๆ นั่นคือเหตุผลที่แพรวเปลี่ยนคู่นอนในคลิปเสมอ บางทีก็รับแฟนคลับมาถ่ายด้วย เพราะแพรวอยากได้ความสดใสและความแตกต่าง ขั้นตอนถัดมาคือการตกลงกันเรื่องสถานที่ ถ่ายทำจริง และเข้าสู่กระบวนการตัดต่อ ซึ่งแพรวทำเองทั้งหมด ยุคก่อนหน้าเป็นการถ่ายแบบเรียลๆ แต่ทุกวันนี้มีการเกรดสี ใส่ซับไตเติล เพราะบางทีตอนมีอะไรกัน แพรวกับคู่นอนจะชอบกระซิบ แต่คนดูไม่ได้ยิน (หัวเราะ) เราเลยใส่ซับไตเติลให้คนดูรู้เรื่องด้วย หลังจากนั้นก็ลงคลิปในเว็บไซต์ อีกไม่กี่วันก็ตัดตัวอย่างลงในทวิตเตอร์
“มีช่วงหนึ่งที่ทวิตเตอร์ของแพรวโดนปิดเลยหันไปใช้ Telegram แทน เราสร้างกลุ่มในเทเลแกรมเพื่อแชร์คลิป แต่ต่อมามันกลายเป็นกลุ่มครูแพรว Family ที่เป็นแฟมิลีจริงๆ เราไม่ได้ใช้กลุ่มแค่ดูคลิป แต่คุยกับคนที่อยู่ในนั้นเป็นหมื่นๆ กับหลายๆ เรื่อง มีกะเทยเข้ามาถามเรื่องฮอร์โมน การมีเซ็กซ์แบบป้องกัน การตรวจเลือด หรือแม้กระทั่งผู้ชายสเตรทที่ไม่เคยกินทรานส์เจนเดอร์เลย เขาก็เข้ามาปรึกษากันในกลุ่ม ซึ่งแพรวมองว่าตรงนี้เป็นคอมมูนิตี้ที่ดีมาก”
บทที่ 5 รสนิยมไม่เท่ากับเพศ
“ในการทำคลิป สิ่งที่ยากที่สุดของแพรวคือกระบวนการคิดว่างานชิ้นนี้จะเป็นยังไง และมันกระทบกับสังคมแค่ไหน คอนเทนต์ที่แพรวจะไม่ทำแน่ๆ คือคอนเทนต์ชุดนักเรียน ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กแต่มันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่อาจทำให้เด็กนักเรียนโดน Sexual Harassment หรือเกิดการข่มขืนในชุดนักเรียนมากขึ้น
“แพรวรู้สึกว่าพอเรามาอยู่จุดนี้ ถ้าแพรวไม่ใส่ใจสังคม คนรอบตัว หรือแม้กระทั่งคนที่เขามาถ่ายด้วยเลย มันจะทำให้เกิดกระแสลบกับตัวแพรวเอง
“หลายคนพูดว่าแพรวเป็นคนช่วยให้ทรานส์เจนเดอร์กล้าเปิดเผยตัวตนมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเวลาทรานส์เจนเดอร์ เลดี้บอย หรือกะเทย ไปมีเซ็กซ์กับผู้ชายจะต้อง ‘แอบงู’ (พยายามปิดไม่ให้คู่นอนเห็นอวัยวะเพศชาย) ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถเป็นตัวเองอย่างที่เราเป็นได้เลย ไม่ต้องแอ๊บว่าเป็นผู้หญิงหรือเป็นทรานส์ที่แปลงเพศแล้ว ทุกคนสามารถภูมิใจในตัวเอง รวมถึง Porn Creator ที่เป็นทรานส์เจนเดอร์เองก็สามารถทำคลิปแบบเป็นตัวเองได้ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนไม่กล้าทำเพราะกลัวว่าจะไม่มีใครยอมรับ ทำไปแล้วไม่มีคนดู แต่ความเป็นตัวเองนั่นแหละที่แพรวมองว่าขายได้ ถ้าเราเป็นคนอื่น เราจะเป็นได้ไม่นาน แต่เราเป็นตัวเองได้เสมอ
“ในขณะเดียวกัน แพรวรู้สึกว่าคลิปของเราทำให้ผู้ชายหลายคนไม่ได้รู้สึกกลัวทรานส์เจนเดอร์หรือเลดี้บอยเหมือนเมื่อก่อน การจะกินงูหรือไม่กินงู เป็นรุกหรือเป็นรับ สุดท้ายแล้วแพรวมองว่ามันเป็นรสนิยม กิจกรรมบนเตียงไม่ได้นิยามเพศของคนคนนั้น เหมือนคำว่า My body, my choice ที่หลายคนชอบพูดกันนั่นแหละ ร่างกายฉัน ฉันมีสิทธิ์เลือก คุณสามารถใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะบอกว่าผิด และเซ็กซ์มันก็เป็นแค่รสนิยมเท่านั้น”
บทที่ 6 Porn Creator ก็มนุษย์คนหนึ่ง
“ตอนนี้แพรวเปิด OnlyFans มาได้สองปี ถ่ายมาเกือบสองร้อยคลิป แม้จะยังแฮปปี้กับการทำคลิปอยู่แต่ก็ยังอยากทำอย่างอื่นเหมือนกัน นั่นทำให้แพรวเริ่มกลับไปสู่วงการประกวดนางงามอีกครั้ง ด้วยเพราะทุกวันนี้หลายเวทีเปิดกว้างมากขึ้น อีกอย่างคือมันเป็นความฝันของแพรวด้วย เป้าหมายอย่างเดียวของแพรวคือการได้มงกุฎจากเวทีใดสักเวที แล้วก็ได้มงกุฎจากเวที Miss Trans Thailand กลับมา
“ถามว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นนางงามและ Porn Creator ไปพร้อมกันได้ เพราะถ้าตัดเรื่องคลิป 18+ ออกไป แพรวรู้สึกว่าเรายังมีมุมอื่นที่คนสามารถเอาไปเป็นต้นแบบได้ ทั้งเรื่องการศึกษา ความสู้ชีวิต การทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก อีกทั้งบริบทของแต่ละเวทีก็ต่างกัน บางเวทีหา Role Model ให้กะเทยรุ่นต่อไป บางเวทีหาคนสื่อสารเรื่องความเท่าเทียม แต่ Miss Trans Thailand บอกว่าทุกคนเท่ากัน เพราะเจ้าของเวทีเขามองว่าทุกคนมีสิทธิ์ฝันและทำตามความฝันของตัวเอง
“แพรวเคยเจอกระแสด้านลบบ้างตั้งแต่ปล่อยคลิปออกไป บางคนก็บอกว่าทำอย่างนี้แล้วเขาจะกล้าส่งลูกมาเรียนบุคลิกภาพด้วยได้ยังไง แต่ก็พยายามมองข้าม เพราะคิดว่าสิ่งที่แพรวทำบนเว็บไซต์กับสิ่งที่แพรวจะสอนเด็กคือคนละเรื่องกัน แม้แต่ทุกวันนี้ที่ไปเป็นวิทยากรสอนเด็กมหา’ลัย เขาก็รู้ว่าแพรวเป็น Porn Creator แหละ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ พวกเขาตั้งใจเรียนกับแพรวทุกครั้ง แพรวเลือกเป็น Porn Creator และยอมรับผลที่ตามมาอยู่แล้ว เพราะผลที่ตามมามันไม่ได้ร้ายแรงกว่าการที่เราไม่ยอมรับตัวเอง
“การยอมรับตัวเองทำให้แพรวรู้จักเมื่อวาน เห็นวันนี้ และรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ถ้าแพรวไม่ยอมรับตัวเอง มองตัวเองเป็นความผิด และโทษตัวเองว่าทำไมเราพาชีวิตตัวเองไปสู่จุดที่มีรูปหลุด แพรวก็ไปไหนต่อไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้จักยอมรับตัวเอง ให้อภัยตัวเอง เข้าใจตัวเอง เราจะไม่โทษตัวเองอีกต่อไป พรุ่งนี้ก็เริ่มใหม่ได้เสมอ”
บทที่ 7 Sex Work is Work
“แพรวมองว่าตอนนี้สังคมไทยเปิดใจยอมรับ Porn Creator มากขึ้น แต่คนกับกฎหมายเป็นคนละเรื่องกัน กฎหมายไม่ได้รองรับหรือปกป้องสิทธิของ Porn Creator หรือ Sex Worker เลย
“สิ่งที่แพรวอยากเห็นคืออยากให้อาชีพนี้ถูกกฎหมาย อยากให้มันเป็นเหมือนอาชีพปกติธรรมดาอาชีพหนึ่ง เคยไปอ่านคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตที่บอกว่า Sex Worker บางคนได้เงินมาก็ไม่จ่ายภาษีหรอก เราอยากบอกว่าจริงๆ เรื่องจ่ายหรือไม่จ่ายมันเป็นเรื่องของตัวบุคคลมากกว่า ไม่ใช่อาชีพ ถ้าวันหนึ่งทุกคนได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันในทุกอาชีพ แพรวเชื่อว่าคนส่วนใหญ่พร้อมจ่ายเพื่อให้เราได้สวัสดิการที่ดีกลับมา
“ถ้าจะมีคำแนะนำอะไรที่บอกกับคนที่อยากเป็นครีเอเตอร์บ้าง อย่างแรกเลยคือคิดให้ดี อย่าเห็นแค่จำนวนเงินแล้วเข้ามาทำเลย เพราะฟีดแบ็กที่จะเกิดขึ้นมันส่งผลต่อทั้งชีวิตนะ ไม่ใช่ใครเข้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จในพื้นที่นี้ คำพูดที่พูดบ่อยมากคือสิ่งที่อยู่บนออนไลน์มันจะอยู่ตลอดไป แต่ถ้าใครที่เลือกแล้วและอยากเป็น Porn Creator ก็ต้องยอมรับฟีดแบ็กให้ได้ ใช้ชีวิตแบบรักตัวเอง ทำงานแบบไม่ดูถูกผู้บริโภค และขอให้มีความสุขกับทางที่เลือก”