ชวนไปชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและหนังกลางแปลง กับงานเฉลิมฉลอง 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ 23 – 27 เม.ย. 68 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

หากใครยังไม่เคยสัมผัสกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ครั้งนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเปิดให้เข้าชมช่วงค่ำคืนกับกิจกรรม ‘Night at The Museum ยลพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน ‘ใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 เมษายน พ.ศ. 2568 นี้ ทุกคนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในส่วนของ Night at The Museum โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น. นอกจากนี้ ทางกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังจัดกิจกรรมนำชมในหัวข้อ ‘รัตน์ฯ แรกเริ่ม : ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์’ ในวันที่ 23 – 27 เมษายน พ.ศ. 2568 และหัวข้อ ‘ชีวิต (แรก) กรุง : วิถีชีวิตคนต้นกรุงรัตนโกสินทร์’ ในวันที่ […]

คุณก็เป็นได้นะ ฮีโรน่ะ Bangkok Keepers เหล่าฮีโรพลังวิเศษ เล่าเรื่องเมืองหลวงที่ส่งต่อเรื่องราวและความสำคัญของคนทำงานขับเคลื่อนเมือง

“ถึงจะเป็นคนกรุงเทพฯ มาตั้งแต่เกิด แต่พอมาทำโปรเจกต์นี้ก็ได้รู้ว่าเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯ เลย เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยตั้งใจดูเมืองของเรา” ‘ซัน-ชาคร ขจรไชยกูล’ เจ้าของ SUNTUDIO ผู้จบจากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับ Character Design วาดภาพประกอบและงานปั้นโมเดล เล่าถึงตนเองกับชีวิตในกรุงก่อนเริ่มต้นทำโปรเจกต์ Bangkok Keepers จุดเริ่มต้นของเหล่าฮีโร โปรเจกต์ Bangkok Keepers เริ่มต้นจากการเป็นธีสิสที่ซันมีความสนใจเรื่องเหล่าซูเปอร์ฮีโรมาตั้งแต่เด็กๆ ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเป็นเวลาที่ Marvel กำลังดังพอดี เขาจึงลองมาคิดว่าถ้าไทยมีฮีโรจะเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งตัวซันเองไม่ได้อยากตีความไปทางความเป็นไทยแบบดั้งเดิมเพราะมีคนทำกันเยอะแล้ว เลยอยากเล่นกับความเป็นไทยในรูปแบบอื่นๆ ที่ใกล้ตัวมากกว่าอย่างฮีโรกรุงเทพฯ หลังจากได้โจทย์ฮีโรกรุงเทพฯ ซันก็มาต่อยอดว่าสิ่งหรือบุคคลที่เหมาะกับการเป็นฮีโรของเมืองเราคือ พี่ๆ พนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพฯ ทั้งพนักงานกวาดถนน พนักงานเก็บขยะ และพนักงานสูบสิ่งปฏิกูล เพราะเป็นกลุ่มอาชีพที่เหมือนดั่งฮีโรช่วยเหลือเมืองแต่กลับถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง สามฮีโรยอดนักดูแลเมือง ฮีโร 3 ตัวที่ซันอยากเล่าภายใต้โปรเจกต์นี้คือ Sweeprine ฮีโรสาวกวาดถนน ซึ่งเป็นฮีโรตัวแรกที่ออกแบบ เธอเป็นคนกวาดถนนที่โดนสารเคมีบางอย่างเข้าจนทำให้มีพลังวิเศษ สามารถสะสมความร้อนจากการทำงานกวาดถนนกลางแดดทั้งวันแล้วปล่อยกลับออกมาเป็นเปลวไฟได้ ตัวที่สองคือ The Plunger Man ฮีโรสูบส้วมรุ่นลุง […]

เรียนรู้เหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ รับมือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างไรบ้าง

อาคารสั่นคลอน อาการวิงเวียน ที่พักอาศัยเสียหาย ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แม้จุดเกิดเหตุจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรงในประเทศไทย แต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่สูงถึง 7.7 แมกนิจูด ส่งผลให้คนเมืองผู้แทบไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนรับรู้ถึงความสั่นไหว และกลายเป็นผู้ประสบภัยในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกเหนือจากความตื่นตระหนกตกใจแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ทั้งที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานที่อาจไม่ได้คำนึงถึงการเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวรุนแรงแบบนี้มาก่อน และด้วยความที่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่คนกรุงเทพฯ ต้องเจอกับแผ่นดินไหว ก่อให้เกิดความสับสนในการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้า วิธีการป้องกันตัวเอง ความปลอดภัยของการใช้ชีวิตในอาคาร หรือกระทั่งการใช้เส้นทางจราจรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่เคยมีใครให้ข้อมูลมาก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ คอลัมน์ Report จะพาไปสำรวจว่า ในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กรุงเทพฯ ต้องเจอกับปัญหาในการรับมือสถานการณ์แบบไหนบ้าง มีการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร และประเทศไทยสามารถนำวิธีการเตรียมพร้อมป้องกันภัยจากประเทศที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านี้อยู่บ่อยครั้งมาปรับใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ปัญหาเมืองที่เกิดขึ้นในวันภัยพิบัติ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศูนย์กลางที่เมียนมาเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากปัญหาเรื่องตึกสูง ที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งเห็นได้จากโครงสร้างอาคารที่เกิดรอยแตก รอยร้าว หรือแย่ไปกว่านั้นคือ เศษโครงสร้างอาคารหลุดล่อนออกมา จนทำให้หลายคนหวาดผวาไปกับการใช้ชีวิตบนตึกสูงแล้ว สถานการณ์ในวันนั้นยังแสดงให้เห็นถึงปัญหาระบบขนส่งในเมือง รวมถึงพื้นที่อพยพที่ไม่สามารถรองรับชาวกรุงได้ เสียงบ่นอื้ออึงของคนกรุงหลังสถานการณ์แผ่นดินไหวคือ เรื่องถนนกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ รถเมล์ รถจักรยานยนต์ที่แน่นิ่ง ไม่ขยับ รถเคลื่อนตัวได้เพียง 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแออัดยาวนานขนาดที่แผ่นดินไหวผ่านไปแล้ว 8 ชั่วโมง การจราจรก็ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ รวมถึงเหล่าขนส่งสาธารณะระบบรางอย่าง […]

เปลี่ยนการเดินในเมืองให้สนุกขึ้น ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบทางเท้า ที่ส่งเสริมให้คนเอนจอยกับการเดิน

เคยคิดไหมว่า ทำไมเราถึงไม่อยากใช้เวลาในวันหยุดออกไปเดินเท้าท่องแต่ละย่านของเมือง คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แดดร้อน ทางเท้าไม่ดี หรือเดินได้ไม่สะดวก แต่นอกเหนือจากความปลอดภัยและความสะดวกสบายทั่วๆ ไปอย่างทางเท้าที่กว้างตามมาตรฐาน ความสม่ำเสมอของพื้นทางเท้าที่ไม่เหยียบแล้วเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือแม้กระทั่งไฟส่องสว่างตลอดการเดิน ยังมีอีกปัจจัยสำคัญอย่างการออกแบบสนุกๆ ที่จะช่วยทำให้การเดินในเมืองของพวกเรามีสีสันมากขึ้นได้อีก คอลัมน์ Urban Sketch ขอลองออกไอเดียว่า จะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเปลี่ยนการเดินธรรมดาๆ ให้มีชีวิตชีวาและสนุกได้ตลอดทาง 1) พื้นจอ Interactive เดินอย่างเดียว มองพื้น มองทางแล้วก็เบื่อๆ ถ้ามีจอ Interactive ที่ทำให้การเดินไม่ต้องมองแต่อะไรซ้ำๆ ก็คงดี เราเลยคิดถึงจอที่โต้ตอบได้ พร้อมใส่อะไรสนุกๆ อย่างปลาทองที่ว่ายไปว่ายมา พร้อมผืนน้ำที่เมื่อเราเหยียบแล้วมีคลื่นเกิดขึ้น กระทั่งทุ่งหญ้าที่มีกระรอกตัวเล็กๆ กระโดดดึ๋ง เวลาเหยียบจุดไหนหญ้าก็เกิดการเคลื่อนไหว 2) จุดแวะนับก้าวและเติมพลัง นี่เราเดินมาไกลแค่ไหน เป็นจำนวนกี่ก้าวแล้ว หรือวันนี้เดินได้มากกว่าเมื่อวานไหม นี่เลย เราขอเสนอจุดแวะนับก้าวและเติมพลังให้ทุกคนนำ Smart Watch ไปแปะที่แท่นพร้อมขึ้นโชว์เป็นลำดับแข่งขัน และมอบรางวัลให้นักเดินคนเก่งที่สะสมจำนวนก้าวได้มากที่สุดในสัปดาห์ คู่กับบริการเช่ายืมเซตนักเดินอย่างหมวก แว่นกันแดด ร่ม หรือพัดลมจิ๋ว โดยมีค่าบริการคิดตามรายชั่วโมงและคืนได้ที่จุดแวะนับก้าวจุดต่อไป อีกส่วนสำคัญที่จุดนับก้าวนี้มีคือ ข้อความให้กำลังใจสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ร่วมแข่งขันเดินแชมเปียนชิป แต่ก็ต้องการกำลังใจดีๆ ให้ผ่านวันยากๆ […]

ชาว Urban Creature และ 5 รูตเดินสุดมัน เติมความสนุก เติมความสดชื่น เติมใจให้เต็มอิ่มด้วยสองเท้า

ใจพร้อม กายพร้อม เตรียมตัวออกไปเดินเมืองสนุกๆ แล้ว แต่สิ่งเดียวที่ยังขาดคือเส้นทางสุดมันที่จะไม่เป็นการเดินเรื่อยๆ แสนธรรมดา วันนี้ชาว Urban Creature ขอเลือกรูตสนุกๆ ในดวงใจ เพื่อเป็นไอเดียให้ทุกคนได้ไปเดินตามกันง่ายๆ ตั้งแต่รูตชิลๆ สบายๆ ในการเดินสวนโดยไม่ต้องออกแรงมาก เส้นทางสีเขียวที่จะเติมความสดชื่นให้กับวัน หรือเส้นทางสุดประหยัดที่ทำให้รู้ว่าการเดินช่วยให้เราเก็บเงินได้อีกมาก ใครพร้อมเข้าก๊วนนักเดิน ลองเริ่มด้วยลิสต์เหล่านี้ก็ได้ ชื่อ : ชิตวัน เพชรรัตน์ตำแหน่ง : Graphic Designerรูตที่ชวนเดิน : เส้นทางของตัวละครหลักตำแหน่งที่ตั้ง : maps.app.goo.gl/LG8YxZFRCsvQQDn2APlaylist ฟังเพลินตลอดเส้นทางเดิน : open.spotify.com/playlist/0BbfmZFZ2CDocgmVFVFy9o?si=2221ac44fa3f4ddd โดยส่วนตัวแล้ว สวนหลวง ร.9 เป็นสถานที่ที่มักจะนึกถึงในวันที่อากาศดีเป็นพิเศษจนอยากทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนส่วนมากมีเป้าหมายเป็นการวิ่งออกกำลังกายยามเย็น แต่ในมุมคนที่ไม่ค่อยชอบออกแรงเท่าไหร่ สวนนี้มีเส้นทางที่เหมาะจะนำมาประกอบเพลย์ลิสต์โปรดที่ทำให้เรากลายเป็นตัวเอกในโลกของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยการเล่น MV หรือสร้างฉากหนังในหัว หรือหากมองอย่างจริงจังกว่านั้น การได้อยู่คนเดียวท่ามกลางธรรมชาติก็ทำให้เราได้ยินสิ่งที่ตัวเองคิดชัดขึ้น พักผ่อนจากการตอบสนองสิ่งต่างๆ และทบทวนตัวเองอย่างตั้งใจ ในสวนขนาดใหญ่นี้มีเส้นทางหลายเส้นที่เดินสนุก แต่วันนี้ขอเสนอเส้นทางเลียบทะเลสาบ ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นเส้นทางที่เย็นสบายอยู่ตลอดด้วยลมที่พัดผ่านน้ำ เริ่มจากลานออกกำลังกาย เราจะเดินผ่านครอบครัวที่กำลังปิกนิก คนปั่นเรือเป็ด และบางทีก็มีเวทีดนตรีสด เมื่อเดินไปเรื่อยๆ […]

ไม่ต้องดื่มน้ำแบบกลัวหมดตอนอยู่นอกบ้านอีกแล้ว กทม.ติดตั้งตู้เติมน้ำเย็นฟรีกว่า 200 จุด ช่วยดับร้อนพร้อมลดจำนวนขยะพลาสติก

หลายคนรู้ดีว่า การดื่มน้ำระหว่างวันโดยเฉพาะการดื่มน้ำเย็นจากกระบอกน้ำเก็บความเย็นเป็นตัวช่วยคลายความร้อนจากอากาศอบอ้าวได้ดีสุดๆ แถมยังช่วยลดการสร้างขยะได้ แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่าการพกกระบอกน้ำติดตัวไม่ได้ช่วยลดขยะเท่าไรนัก เพราะหากดื่มหมดแล้วก็ต้องซื้อน้ำดื่มมาเติมใหม่อยู่ดี กรุงเทพมหานครร่วมมือกับภาคเอกชนติดตั้งตู้กดน้ำเย็นฟรี หลังจากปี 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการนำร่องติดตั้งตู้กดน้ำดื่มฟรี 10 จุดในกรุงเทพมหานครไปแล้ว โดยในปีนี้ได้ขยายพื้นที่การให้บริการตู้กดน้ำมากถึง 200 จุด ซึ่งตอนนี้ติดตั้งแล้วกว่า 188 จุดตามสถานที่ต่างๆ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักงานเขต สวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา ศูนย์นันทนาการ ห้องสมุด ศูนย์ฝึกอาชีพ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงจุดเติมน้ำได้สะดวกสบายขึ้น บริการตู้กดน้ำดื่มไม่ได้โฟกัสแค่การซัพพอร์ตเราให้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอพร้อมคลายร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มระหว่างวัน รวมไปถึงช่วยลดขยะพลาสติกจากขวดน้ำใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วย เช็กจุดเติมน้ำได้ที่ tinyurl.com/bcnkpujx 

ใครยังโสดยกมือขึ้น!เมื่อกรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองร้างรัก จากจำนวนคนโสดเกินครึ่งเหตุเพราะผังเมืองและชีวิตไร้ความโรแมนติก

ทิ้งทวนกระแส Single’s Inferno รายการเดตสุดฮิตของประเทศเกาหลีใต้ ด้วยคอนเซปต์เข้าใจง่ายอย่างการมีคู่จะได้ไปเดตกันที่เกาะสวรรค์ ใช้ชีวิตสนุกสนาน มีความสุข ส่วนคนที่จับคู่ไม่สำเร็จก็ต้องจมอยู่ในเกาะนรกต่อไป ถ้าพูดว่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยคนโสดคือเกาะนรก ตอนนี้กรุงเทพมหานครของเราก็อาจจะเป็นเกาะนรกไม่ต่างกัน เนื่องจากข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน (SES) ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2566 พบว่า ทั้งประเทศมีคนโสดอยู่ 23.9 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดง่ายๆ ว่า ถ้ามีคนไทยเดินมา 5 คน หนึ่งในนั้นเป็นคนโสด และส่วนที่สำคัญที่สุดคือ คนโสดส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเมือง โดยกรุงเทพฯ มีสัดส่วนคนโสดต่อประชากรในพื้นที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ถึงร้อยละ 50.4 อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ 1 ใน 3 ของคนโสด (32.7%) จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป และเมื่อแบ่งตามเพศพบว่า คนโสดเพศหญิงมีสัดส่วนคนจบปริญญาตรีอยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าเพศชายเกือบเท่าตัว โดยคนโสดเพศชายมีสัดส่วนคนจบปริญญาตรีอยู่ที่ 25.7 เปอร์เซ็นต์ หรือสรุปง่ายๆ ว่า คนโสดส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่จบปริญญาตรีและอาศัยอยู่ในตัวเมือง แน่นอนว่าพออ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจพานคิดถึงเหมยลี่ ไอคอนิกแห่งสาวโสดชาวกรุง หรือแม้กระทั่งเราๆ เองที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ด้วยใจลำพังเช่นกัน ช้ำใจที่ยังโสด ต้องโทษผังเมืองกรุงเทพฯ […]

กินอร่อยแถมสบายใจ ไม่สร้างขยะ ส่อง 600 ร้านอาหารบน ‘ร้านนี้ไม่เทรวม’ โครงการใหม่ที่ กทม.ปักหมุดร้านที่แยกขยะดี

หลังจากความสำเร็จของโครงการไม่เทรวม ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะของ กทม. และลดปริมาณขยะได้อย่างต่อเนื่อง จาก 11,000 ตันต่อวันในปี 2562 เหลือ 9,000 ตันต่อวันในปีนี้ และยังช่วยลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้ถึง 300 ล้านบาท ปีนี้ กทม.จึงทำโครงการใหม่ที่ตรงจุดมากยิ่งขึ้น โดย ‘พรพรหม วิกิตเศรษฐ์’ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ได้อธิบายถึงระบบการจัดการขยะของ กทม.ว่า มีการแบ่งขนาดเป็น S M และ L  ไซซ์ S คือการจัดการขยะของประชาชนทั่วไปตามบ้านเรือนต่างๆ ไซซ์ M คือร้านอาหาร ส่วนไซซ์ L คือห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ขนาดใหญ่ที่มีขยะจำนวนมาก ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีร้านอาหารกว่า 200,000 ร้าน และเป็นแหล่งกำเนิดขยะจำนวนไม่น้อย กทม.จึงเข้าไปดูแลขยะหลังครัวและหลังกินจากการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางผ่านโครงการ ‘ร้านนี้ไม่เทรวม’ ที่ร่วมมือกับร้านอาหารที่มีการจัดการขยะถูกต้อง พร้อมปักหมุดร้านที่เข้าร่วมโครงการบนเว็บไซต์ Greener Bangkok เพื่อให้ทุกคนเลือกอุดหนุนร้านที่แยกขยะดีๆ กันได้ง่ายขึ้น นอกจากเป็นการชี้เป้าร้านอาหารที่แยกขยะได้ดีแล้ว โครงการนี้ยังช่วยคาดการณ์ปริมาณขยะที่เกิดจากร้านอาหารและงบประมาณในการจัดการขยะอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะรูปแบบใหม่ของกรุงเทพมหานครที่จะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม 2568 ตามประเภทผู้ก่อขยะ […]

‘ถนนบริพัตร’ เดินเมืองไปตามย่านสารพัดช่างในเขตเมืองเก่าที่กำลังรอวันพัฒนา

ในเกาะรัตนโกสินทร์และเขตเมืองเก่าของกรุงเทพฯ มีถนนหลายสายตัดกันไปมาเป็นโครงข่าย หลายสายถูกมองข้าม และหลายสายคนไม่รู้จัก เช่นกันกับ ‘ถนนบริพัตร’ หากเอ่ยเพียงแค่ชื่ออาจไม่คุ้นว่าถนนสายนี้อยู่ตรงไหน ซึ่งจริงๆ แล้วเส้นทางสายยาวเลียบไปตามคลองรอบกรุงนี้มีถนนอีกหลายสายตัดผ่าน แถมติดกับย่านสำคัญอีกหลายแห่ง ทั้งสำราญราษฎร์-ประตูผี สามยอด วรจักร คลองถม จนถึงเยาวราช เชื่อว่าต้องมีบางคนบ้างละที่เคยเดินหรือนั่งรถผ่านโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อมองจากแผนที่จะเห็นว่าถนนสายนี้เป็นเส้นตรงยาวอยู่พอตัว เชื่อมระหว่างถนนราชดำเนินกลาง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กับถนนเยาวราช เชิงสะพานภาณุพันธุ์ ใกล้กับเวิ้งนาครเขษม โดยตลอดสองฟากฝั่งถนนมีอาคารพาณิชย์รุ่นเก่าวางตัวเรียงกันอย่างสวยงาม คอลัมน์ Neighboroot รอบนี้อยากชวนออกแรงเดินเมืองสักนิด เหลียวซ้ายแลขวาโซนอื่นๆ ของถนนสายประวัติศาสตร์นี้ ดูกิจการร้านรวงที่สืบทอดมาแต่อดีต รวมถึงเปิดบทสนทนากับผู้คนดั้งเดิมและสมาชิกใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาทำให้ย่านนี้เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาจากที่เคยเห็น ถ้าพร้อมแล้ว ไปเดินกัน! ถนนสายประวัติศาสตร์และตลาดใหญ่ในความทรงจำ เขตเมืองเก่ามีถนนหลายสายที่ตั้งชื่อตามพระนามของเหล่าเจ้านายพระองค์ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตัดใหม่ที่กระจายจากใจกลางเมืองออกสู่ชานพระนครในสมัยนั้น ถือเป็นพยานของการพัฒนาเมืองเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว โดยปัจจุบันหลายแห่งกลายเป็นย่านการค้าที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ที่มาของชื่อถนนสายนี้คงเกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้รับพระราชทานที่ดินจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วจึงพัฒนาพื้นที่ย่านนี้โดยตั้งใจให้เป็นที่รื่นรมย์ของชาวเมือง ดังชื่อที่ตั้งว่า ‘นาครเขษม’ โดยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนแต้จิ๋วที่ตั้งบ้านเรือนร้านค้าขายสรรพสินค้านานาชนิด ตั้งแต่เครื่องทองเหลือง เครื่องดนตรี ข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงของเก่าของสะสม หลายฝน หลายหนาว รอบข้างของถนนสายนี้เปลี่ยนแปลงไปหลายหน้าตา ผู้คนสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปมา กระทั่งเร็วๆ […]

‘สองแถวแปลงร่าง’ นิทรรศการที่ชวนมองความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงรถสองแถวให้ดีขึ้น พร้อมทดลองนั่งสองแถวโฉมใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

‘รถสองแถว’ เป็นรถโดยสารที่เราอาจไม่ค่อยนึกถึงเท่าไรเพราะไม่ได้ใช้บริการมากนัก ทั้งที่ความจริงแล้ว ในหลายๆ พื้นที่สองแถวยังคงเป็นขนส่งที่จำเป็นต่อการเดินทางอยู่ ถึงอย่างนั้น รถโดยสารประเภทนี้กลับไม่ค่อยได้รับการพัฒนาในแง่ฟังก์ชันการออกแบบเท่าไร ทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, บัสซิ่ง ทรานสิท และ MAYDAY! จึงร่วมมือกันปรับโฉมรถสองแถว พร้อมชวนทุกคนมาสำรวจในนิทรรศการ ‘สองแถวแปลงร่าง’ งาน Bangkok Design Week 2025 ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นอกจากนิทรรศการที่ชวนไปทำความเข้าใจขนส่งสาธารณะเส้นเลือดฝอยอย่างรถสองแถวแล้ว ภายในงานยังมีโมเดลรถสองแถวแปลงร่างที่เปิดให้ใช้บริการในช่วง BKKDW 2025 ด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารบางส่วนได้ลองสัมผัสประสบการณ์การนั่งรถสองแถวแบบใหม่ ที่ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้ใช้รถสองแถวแบบใหม่นี้มากขึ้นก็ได้ ออกแบบใหม่เพื่อการใช้งานและความปลอดภัย ‘ศุภกร ศิริสุนทร’ Co-founder และ CFO บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด เล่าให้เราฟังว่า โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากทางโตโยต้า ที่มีแนวคิด Mobility For All สนับสนุนความหลากหลายในการเดินทางได้เลือกรถสองแถวมาเป็นโจทย์เพราะพนักงานในโรงงานหลายคนต้องอาศัยรถสองแถวในการเดินทางระยะสุดท้าย (Last Mile Transportation) ส่วนทางบัสซิ่งเองก็เคยร่วมงานกับโตโยต้ามาก่อนแล้ว จึงร่วมมือกันพูดคุยและลงมือพัฒนารถสองแถวว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนได้บ้าง […]

‘เจริญกรุง’ จากถนนดินอัดแห่งแรก สู่ย่านสร้างสรรค์ต้นแบบ เส้นทางความเจริญของกรุงเทพฯ ตามชื่อที่ตั้ง

รู้ไหมว่า กว่า ‘เจริญกรุง’ จะกลายมาเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างในปัจจุบันนี้ต้องเจอสถานการณ์อะไรบ้าง ภาพจำของเจริญกรุงที่เราคุ้นตาคงเป็นแหล่งรวมร้านถ่ายรูปที่เรียงรายอยู่ตลอดแนวถนน ทั้งยังเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการและอาร์ตแกลเลอรีที่หมุนเวียนมาไม่ซ้ำเป็นประจำทุกเดือน จนได้เป็นย่านแรกของไทยที่ก้าวสู่การเป็น ‘ย่านสร้างสรรค์’ จากการรวมตัวของคนหลายกลุ่มที่ช่วยกันฟื้นฟูและขับเคลื่อนย่านให้กลับมาคึกคักกันอีกครั้งเช่นในปัจจุบัน โดยเริ่มดำเนินการผ่านโปรเจกต์ Bangkok Design Week ที่เราคุ้นเคย แต่ก่อนที่เจริญกรุงจะเดบิวต์ใหม่เป็นย่านสร้างสรรค์ที่เหมาะกับการมาเดินเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น ย่านนี้เคยเป็นที่รู้จักในด้านการเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของการเดินทางบนคอนกรีตที่สะดวกสบายในปัจจุบัน เพราะเจริญกรุงนับว่าเป็น ‘ถนนสายแรก’ ของกรุงเทพฯ ที่สร้างด้วยเทคนิคตะวันตก ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายสำคัญที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางสังคม สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองและความเจริญที่เริ่มคืบคลานทยอยเข้ามาในเมืองทีละนิดๆ ส่งผลให้เกิดเป็นการคมนาคมที่เข้าถึงง่าย มีความสะดวกสบายในปัจจุบัน คอลัมน์ Urban Tales ขอพาทุกคนย้อนดูไทม์ไลน์การเดินทางกว่า 160 ปีของเจริญกรุง ตั้งแต่เริ่มมีถนนใช้เป็นครั้งแรก พากรุงเทพฯ ก้าวเข้าสู่เมืองแห่งความทันสมัย ก่อนผลัดเปลี่ยนสู่ยุคตกทุกข์ได้ยากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และผงาดขึ้นอีกครั้งในฐานะย่านสร้างสรรค์แรกของไทย กำเนิด ‘ถนนเจริญกรุง’ จากเส้นทางสายน้ำสู่พื้นคอนกรีตแบบตะวันตก ไม่ว่าเราจะเดินไปที่ไหนในกรุงเทพฯ สังเกตได้ว่าแทบทุกพื้นที่จะมีคลองเล็กใหญ่ให้เห็นอยู่เสมอ และส่วนใหญ่คลองเหล่านี้มักบรรจบหรือมีจุดที่เชื่อมโยงเป็นสายเดียวกัน ถือเป็นร่องรอยจากอดีตที่แสดงให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯ มีความใกล้ชิดกับสายน้ำมาก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบ้านเรือนติดแม่น้ำลำคลอง การประกอบอาชีพประมง รวมถึงการใช้ทางน้ำเป็นเส้นทางหลักสำหรับสัญจรไปมาในอดีต จึงไม่แปลกที่เขตหรือแขวงในกรุงเทพฯ มักขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘บาง’ ที่หมายถึงทางน้ำเล็กๆ ที่ไหลขึ้นลงตามระดับน้ำในแม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล เพื่อใช้เรียกสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับสายน้ำ […]

‘Bangkok Pains’ บอร์ดเกมที่จำลองการใช้ชีวิตหนึ่งปีบนความเจ็บปวดของการอยู่กรุงเทพฯ

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ แต่ละวันแทบไม่ต่างอะไรจากการเล่นเกม เพราะมักมีอะไรเซอร์ไพรส์เราอยู่เสมอ วันดีคืนดีก็ดวงดีแบบสุดๆ หรือวันไหนใส่เสื้อผิดสีก็อาจโชคร้ายไปตลอดทั้งวัน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่อาจเป็นเพราะการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ นั้นเดาได้ยากจนเหมือนกับว่ามีคนเล่นเกมกับชีวิตเราทุกวัน หลายคนคงคิดไม่ต่างกันในแง่ที่เราเหมือนตัวละครในเกมที่โดนควบคุม เช่นเดียวกับเอเจนซีโฆษณา ‘Invisible Ink’ ที่หยิบเอาคอนเซปต์การใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในกรุงเทพฯ มาออกแบบเป็นบอร์ดเกมขำๆ ในวัน April Fool’s Day แต่กลับได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้แนวคิดนี้ถูกนำไปต่อยอดและพัฒนา ด้วยการนำความโกลาหลและเสน่ห์เฉพาะตัวของกรุงเทพฯ มาเป็นแรงบันดาลใจ จนได้ออกมาเป็นบอร์ดเกม ‘Bangkok Pains’ ให้ทุกคนได้เล่นกันจริงๆ โดยเนื้อหาของเกมจะมุ่งเน้นไปยังการเอาตัวรอดจากอุปสรรค ซึ่งเป็นความเจ็บปวดในกรุงเทพฯ เช่น การเปลี่ยนอาชีพ การเดินทาง หรือแม้แต่สิ่งไม่คาดคิดต่างๆ ที่เราจะได้เจอในเมืองนี้ เกมนี้เล่นได้ตั้งแต่ 2 – 6 คน วิธีการเล่นก็ไม่ยากแค่แต่ละคนต้องเลือกอาชีพที่คิดว่าสามารถอยู่รอดได้ในกรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปี ผ่านการจั่วการ์ด ‘Pain or Gain’ และลุ้นว่าในแต่ละตานั้นจะต้องเจออะไรบ้าง เช่น ค่าปรับที่ต้องเสีย ค่ารักษาพยาบาลจากอาหารข้างทาง หรือโบนัสที่ได้มาแบบเซอร์ไพรส์ เพื่อหาผู้ชนะที่เอาชีวิตรอดมาได้พร้อมกับเงินที่เหลือมากที่สุด ใครที่เผชิญหน้ากับความลำบากในการใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ แล้วยังไม่หนำใจ ยังอยากลำบากได้อีก และอยากลองท้าทายชะตาชีวิตในรูปแบบของเกมบ้าง กดสั่งซื้อบอร์ดเกมแบบพรีออเดอร์ในราคา […]

1 2 3 4 5

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.