วิกฤตผู้ลี้ภัยคือปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ โดยเฉพาะ ‘ผู้ลี้ภัยเด็กและเยาวชน’ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องอพยพไปยังประเทศอื่นๆ ทำให้พวกเขากลายเป็นพลเมืองชั้นสอง (หรือสาม) ที่ไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย และไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในประเทศนั้นๆ ได้
องค์กรต่างๆ จึงพยายามสร้างความตระหนักเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวนี้ เพื่อให้ผู้คนรับรู้ เข้าใจ และยื่นมือเข้าไปช่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบมากขึ้น โดยหนึ่งในวิธีที่ใช้ก็คือการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านศิลปะ อย่างเช่น หุ่นเชิด
หุ่นเชิดตัวนี้มีชื่อว่า ‘Little Amal’ เด็กหญิงสัญชาติซีเรีย อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ ‘The Walk’ ที่จัดขึ้นโดย Good Chance องค์กรอิสระที่ทำงานด้านการแสดง ร่วมกับศิลปินจากทั่วโลก เพื่อสะท้อนปัญหาผู้ลี้ภัยเด็กและเยาวชน และทำให้แน่ใจว่า โลกจะไม่ลืมเด็กหลายล้านคนที่ต้องอพยพออกจากประเทศบ้านเกิด เนื่องจากวิกฤตทางการเมือง สงคราม ความรุนแรง ความยากจน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ
Little Amal เป็นผลงานศิลปะที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เพราะหุ่นเชิดสูง 3.5 เมตรตัวนี้สามารถเคลื่อนไหวได้จริงๆ โดยการสวมทับหุ่นลงบนตัวคนเพื่อควบคุมการเดิน ส่วนมือและใบหน้าก็มีคนคอยเชิดอยู่ด้านข้างคล้ายหุ่นกระบอก ทำให้หุ่นเชิดตัวนี้เหมือนมีชีวิตจริงๆ และกลายเป็นจุดสนใจของผู้พบเห็นทั่วไป ซึ่งผู้ออกแบบและสร้างหุ่นเชิดตัวนี้ก็คือ Handspring Puppet Company บริษัทด้านการแสดงและออกแบบหุ่นกระบอกจากแอฟริกาใต้
ผู้จัดถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการเดินทางเพื่อตามหาแม่ของ Little Amal โดยเป็นการเดินทางไกลกว่า 8,000 กิโลเมตร ซึ่งหุ่นเชิดเด็กหญิงตัวนี้ออกเดินทางตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากบริเวณชายแดนตุรกี-ซีเรีย ก่อนจะข้ามไปยังกรีซ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี เบลเยียม ฝรั่งเศส และล่าสุด Little Amal ได้เดินทางไปถึงประเทศอังกฤษ จุดหมายปลายทางสุดท้ายของโปรเจกต์นี้
การปรากฏตัวของ Little Amal แต่ละครั้งได้รับความสนใจจากผู้คนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ผู้พบเห็นพากันถ่ายรูปและทักทายหุ่นเชิดที่เคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิตจริงตัวนี้ นอกจากนั้น Little Amal เองยังเข้าร่วมกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย ทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับงานศิลปะชิ้นนี้ และสร้างการรับรู้ปัญหาเรื่องผู้ลี้ภัยเด็กได้มากขึ้น
โดยผู้จัดหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยเยียวยาบาดแผลของผู้ลี้ภัย ลดความห่างเหินของชุมชน และกระตุ้นให้สังคมมองเห็นคุณค่าของชีวิตของเด็กๆ เหล่านี้มากขึ้น นอกจากนั้น บรรดาศิลปินยังต้องการเผยแพร่แนวคิดเกี่ยวกับการพลัดถิ่น การสูญเสีย ศักดิ์ศรี และความหวังไปยังชุมชนและเมืองต่างๆ ทั่วยุโรปด้วย
Little Amal จึงเป็นตัวแทนของเด็กๆ หลายล้านคนที่ต้องเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพ และยังช่วยให้ผู้คนเข้าใจและสนับสนุนผู้ลี้ภัยเด็กมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้แก่เด็กเหล่านี้ โดยเฉพาะการเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อให้พวกเขามีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ดีขึ้น อย่างที่เด็กทั่วไปควรจะได้รับ