เคยเป็นไหม? ในวันทำงานเรามักมีอาการป่วยแปลกๆ และเพื่อนในออฟฟิศก็เริ่มมีอาการคล้ายๆกัน หรือคุณอาจกำลังมีอาการของ ‘โรคภูมิแพ้ตึก Sick Building Syndrome (SBS)’ ภัยใกล้ตัวของเหล่าพนักงานออฟฟิศที่คุณอาจไม่รู้ตัว
จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์แตกต่างไปจากเดิมปัจจุบันเรามักถูกจำกัดด้านการใช้พื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมของคนเมืองที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในตึกทั้งวัน คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ แฟลต ตึกแถว หรือแม้แต่การอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีพื้นที่ภายนอกตัวบ้านมากนัก ซึ่งการต้องทำงานหรืออยู่แต่ในตึกสูง อาคารที่เปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวันไม่เคยได้รับอากาศจากธรรมชาติเลย นั่นส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของคุณโดยตรงอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
| ปีศาจร้ายบนตึกสูง
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของประเทศทำให้มีประชากรจำนวนมากเข้ามาอยู่อาศัย และเมื่อประชากรหลั่งไหลเข้ามาก็ย่อมไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยซึ่งสมัยก่อนการอยู่อาศัยในบ้านเราจะเป็นแนวราบซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ในช่วง 5-7 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนกรุงเทพฯได้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นการอยู่อาศัยแบบแนวตั้งมากขึ้น อาทิเช่น ตึก คอนโดมิเนียม หอพัก เป็นต้น
วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักใช้เวลา 80-90% อยู่ภายในตึกหรือออฟฟิศที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและมีการระบายอากาศไม่เพียงพอขาดการถ่ายเทที่ดี ซึ่งจะทำให้มีสิ่งปนเปื้อนสูงกว่าภายนอกอาคารที่โล่งแจ้งจึงทำให้เกิดอาการไม่สบายอย่างเฉียบพลันซึ่งโรคนี้ไม่ใช่โรคที่เพิ่งเกิดใหม่โดยเป็นโรคที่ถูกยอมรับโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นเวลากว่า 34 ปีมาแล้ว
หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ ขณะอยู่ที่ทำงาน เช่น ปวดศีรษะ ระคายเคือง ตา จมูก หรือลำคอ จาม น้ำมูกไหล คันตามผิวหนัง หน้ามืด คลื่นไส้ ขาดความกระตือรือร้นในการทำงานไวต่อกลิ่นมากขึ้น หดหู่ อ่อนเพลีย ง่วงนอน รวมถึงมีอาการปวดหัวด้วยซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากภาวะผิดปกติด้านสุขภาพทางตา จมูก ลำคอ การหายใจส่วนล่างและผิวหนัง แต่อาการเหล่านี้กลับหายไปเองเมื่อออกมาข้างนอกซึ่งคุณไม่ได้คิดไปเองว่าตัวเองกำลังป่วย เพราะสัญญาณเหล่านี้บอกว่าคุณกำลังเป็น ‘โรคภูมิแพ้ตึก’ เข้าซะแล้ว
| ปราบปีศาจร้ายให้อยู่หมัด
สิ่งสำคัญในการปราบปีศาจร้ายที่แฝงอยู่ในตึกของเรานั้นมีขั้นตอนดังนี้
1. การจัดสภาพแวดล้อมภายในอาคารควรมีพื้นที่ให้อากาศหมุนเวียนจากภายนอกบ้าง และปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง หรือเปิดหน้าต่างตอนที่ปิดแอร์ เพื่อให้อากาศที่ค้างอยู่ในตึกระบายออกไปเพื่อเพิ่มระบบการถ่ายเทอากาศโดยเฉพาะบริเวณที่มีสารเคมีระเหยออกมา เช่น ห้องน้ำ ห้องถ่ายเอกสารหรือห้องที่มีปริ๊นเตอร์ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกำจัดกลิ่นควัน เป็นต้น
2. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน ทำงาน ตลอดจนการพักผ่อนเรามักวนเวียนอยู่เพียงภายในห้องสี่เหลี่ยมหรือภายในตึกสูงเป็นส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วมนุษย์กับธรรมชาติมีความเกี่ยวข้องกันในทุกๆแง่มุมลองเปลี่ยนวิถีชีวิตพาตัวเองกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของชีวิตซึ่งความสงบของธรรมชาติจะทำให้เกิดความผ่อนคลาย มีเวลาเรียนรู้ตัวเอง มีอิสระทางความคิดเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วย
เพียงเท่านี้ปีศาจร้ายบนตึกสูงก็จะหายไปโดยที่คุณไม่ต้องกินยาเลย เพราะการได้ออกมาสัมผัสกับธรรมชาติเป็นยารักษาที่ดีที่สุดแล้ว โรคภูมิแพ้ตึกและอาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากตึกนั้นเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีป้องกันและปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อเราจะได้มีสุขภาพที่ดี ไม่เจ็บไม่ป่วย เตรียมพร้อมออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
References :
http://www.homedeedee.com/th/article/9427
http://dpm.nida.ac.th/main/index.php/articles/fire/item/157-sick-building-syndrome
Writer
