วันหยุดนี้ลองแวะไปพักผ่อนกายใจที่พื้นที่สีเขียวฮีลใจแห่งใหม่ในย่านบางนาดูสิ
เพราะทุกวันในเมืองเรามักต้องพบเจอความเร่งรีบของผู้คน ความตึงเครียดจากงาน และมลพิษที่อยู่รอบตัวตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ส่งผลให้หลายคนต้องคอยมองหาวิธีคลายเครียดอยู่เสมอๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีการผ่อนคลายที่ได้ผลคือ การเข้าใกล้ธรรมชาติเพื่อช่วยฮีลใจให้ได้สัมผัสกับคำว่าสโลว์ไลฟ์กันบ้าง
แต่หากมีเวลาเพียงหนึ่งวัน การไปพักใจในธรรมชาติต่างจังหวัดก็อาจจะไกลเกินไป คอลัมน์ Urban Guide จึงอยากชวนไปใช้เวลาหนึ่งวันให้คุ้มค่าในย่านบางนา กับแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในไบเทคบุรี ที่มีให้ครบทั้งไลฟ์สไตล์และธรรมชาติ ไม่ต้องเดินทางไกลก็ได้สัมผัสสีเขียวในเมือง
ตามเราไปสำรวจ SAMA Garden กันว่า สถานที่ที่เป็น Green Living แบบครบวงจรนี้มีกิจกรรมอะไรให้คนเมืองไปใช้เวลาหนึ่งวันแบบสบายๆ เติมพลังใจให้ขึ้นขีดสีเขียวกันบ้าง
ปรับชีวิตคนเมืองให้สมดุลด้วยการเรียนรู้ชีวิตแบบ Green Living

จริงอยู่ที่ในตอนนี้พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในหลากหลายย่าน แต่ SAMA Garden นั้นเป็นมากกว่าพื้นที่สีเขียวในรูปแบบสวนสาธารณะ เพราะยังเป็นสถานที่ที่รวมความเป็นไลฟ์สไตล์เอาไว้ในที่เดียวด้วย
‘คุณบอย – ษัณปการ แสงจันทร์’ SAMA Garden Department Manager เล่าถึงคอนเซปต์ไอเดียของ SAMA Garden ให้เราฟังว่า เดิมทีพื้นที่ของไบเทคบุรีมีการจัดอีเวนต์อยู่ตลอดเวลา และมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงอยากสร้างความแปลกใหม่ให้พื้นที่ด้วยการกระตุ้น Sensory Awareness หรือการรับรู้ทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้คนผ่านคอนเซปต์ Live & Play เพื่อปรับชีวิตของคนเมืองให้สมดุล
ในเมืองที่มีแต่ตึกรามบ้านช่อง ความสมดุลที่จะทำให้ชีวิตผู้อยู่อาศัยดีขึ้นได้ย่อมหนีไม่พ้นธรรมชาติ และนั่นนำมาสู่การเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาพบกับธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ภายในอาคารแห่งนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนสถานที่ให้ผู้คนหลบหนีความวุ่นวายของเมืองด้วยการมาใช้เวลาไปกับการเรียนรู้ชีวิตแบบ Green Living
Green Lifestyle Centre แห่งแรกในประเทศไทย

SAMA Garden เรียกได้ว่าเป็น Green Lifestyle Centre แห่งแรกในประเทศไทย ที่รวบรวมทุกความต้องการอันหลากหลายของคนเมืองเอาไว้ที่เดียว โดยโครงการนี้ตั้งใจจะเป็นทั้งสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ เติมพลัง และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าท่ามกลางธรรมชาติในย่านบางนา โดยที่คนเมืองไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางนานๆ ออกนอกเมืองเพื่อตามหาพื้นที่สีเขียวในการเยียวยาใจ
Lifestyle Hall พื้นที่ชอปปิงสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย

มากไปกว่าการเป็นพื้นที่สีเขียวในเมือง ก็ยังมีเรื่อง Sensory Awareness ที่เป็นอีกแก่นสำคัญของที่นี่ที่คุณบอยพูดถึง โดย Sensory แรกที่เราได้พบคือกลิ่นหอมบางๆ ของเครื่องหอมจากสินค้ากลุ่ม Spa Product ที่ดึงดูดให้เราเดินเข้าไปยังด้านในโซนแรกของ SAMA Garden อย่าง Lifestyle Hall พื้นที่ชอปปิงที่รวบรวมสินค้าแบรนด์ไทยนานาชนิด เชิญชวนให้ผู้มาเยือนเลือกดูสินค้าได้ตามใจชอบ
ขณะเดียวกัน พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้มีแค่สินค้าสปาคุณภาพดีของไทยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยของใช้และสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าแบรนด์ไทยคุณภาพดี ตอบโจทย์คนเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างพิถีพิถัน ทั้งในเรื่องการเป็นสินค้างานคราฟต์จากชุมชนท้องถิ่น ซัพพอร์ต Well-being มีความ Eco-Friendly ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเหล่าสินค้าที่ส่งออกต่างประเทศจนมีชื่อเสียงโด่งดังแต่คนไทยหลายคนอาจยังไม่รู้จักก็มีให้เลือกซื้อในบริเวณ Lifestyle Hall ด้วยเช่นกัน


สร้างประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยงานฝีมือและต้นไม้จริง

“เราพบว่าประเทศไทยมีชุมชนที่ทำหัตถกรรมต้นไม้ดอกไม้ปลอมที่สวยอยู่เยอะมาก ทำให้เกิดความคิดว่า ไม่ใช่แค่ต้นไม้จริงเท่านั้นที่จะสร้างการรับรู้ทางประสาทสัมผัสได้ SAMA Garden จึงมี Green Wall ต้นไม้ปลอมจากงานฝีมือของคนไทย และใช้ต้นไม้จริงแทรกเอาไว้ด้วย เพื่อให้ดูแลต้นไม้ได้อย่างทั่วถึงและคงความสดชื่นของสีเขียวเอาไว้ได้นานกว่าการใช้ต้นไม้จริงทั้งหมด” คุณบอยเล่าให้เราฟังในระหว่างทางที่จะเดินเข้าสู่โซนถัดไป
ซุ้มต้นไม้ขนาดใหญ่ทำให้เรารู้สึกถึงการได้รับการต้อนรับจากธรรมชาติที่ทำให้พลอยสดชื่นไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าหากไม่สังเกตและไม่ได้ฟังคุณบอยเล่าถึงไอเดีย Green Wall นี้ก็อาจไม่ทันรู้ว่า กำแพงต้นไม้ที่เราเห็นเป็นการผสมผสานกันระหว่างต้นไม้จริงและต้นไม้จากงานฝีมือที่กลมกลืนกันจนแทบแยกไม่ออก

เมื่อเดินผ่านซุ้มเข้ามาแล้ว เราจะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน คุณบอยเล่าให้ฟังว่า โครงสร้างของพื้นที่นี้เดิมทีมีโดมครอบอยู่แล้ว ทางโครงการแค่เปลี่ยนผืนผ้าใบให้มีความโปร่งแสงมากขึ้น เพื่อเปิดรับแสงให้เข้ามาภายในพื้นที่และเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้สมบูรณ์แบบขึ้น
ส่วนกลางของโถงนั้นถูกจัดไว้ให้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมหรืออีเวนต์ต่างๆ ซึ่งหากเป็นในช่วงวันธรรมดา ลานโล่งนี้จะมีโต๊ะที่ประกอบขึ้นจากลังไม้พร้อมกับเก้าอี้วางตั้งไว้ให้คนที่เข้ามาใช้บริการได้นั่งพักผ่อน
และในระหว่างที่เรานั่งพักกันอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงที่คลอมากับบรรยากาศ ซึ่งคุณบอยเฉลยว่าเสียงนี้เป็น Soundscape หรือทัศนียภาพของเสียงที่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ เข้ากับธรรมชาติ นับเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Sensory Awareness ตามไอเดียของ SAMA Garden นั่นเอง
เพลิดเพลินกับการเลือกต้นไม้ที่ House of Plants

ความสุขของคนรักต้นไม้แบบเราเมื่อเข้ามาที่นี่คือ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน วางสายตาไว้บริเวณใดก็ตาม ก็จะเห็นสีเขียวของต้นไม้อยู่ในกรอบสายตาเสมอ ดังนั้นหากจะบอกว่าพื้นที่นี้เป็นสวรรค์ของคนรักต้นไม้ก็คงไม่ผิดนัก และตรงนี้ก็เป็นอีกโซนที่มีสีเขียวของต้นไม้โดดเด่นขึ้นมา
“House of Plants เกิดขึ้นจากไอเดียที่อยากให้คนรู้สึกว่า ไม่ว่าพื้นที่จะเล็กแค่ไหนคุณก็สามารถปลูกต้นไม้ได้ โดยต้นไม้ที่อยู่ข้างในนี้ทั้งหมดคือ House Plants หรือต้นไม้ที่ปลูกในบ้านหรือในคอนโดฯ ได้ทั้งนั้น” คุณบอยบอกกับเราในระหว่างที่พาไปดูต้นไม้ที่วางเรียงรายอยู่บนชั้น
เหล่าพืชพรรณสีเขียวที่วางขายในโซนนี้มีให้เลือกซื้อถึง 1,000 ชนิด ทั้งต้นที่เป็นที่นิยมและต้นที่หายาก มีตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักแสน โดยแต่ละต้นจะมีป้ายข้อมูลกำกับแจ้งการดูแลที่แตกต่างกันไป รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับต้นไม้ เพื่อให้คนที่ไม่รู้ว่าจะซื้อต้นไหนติดมือกลับบ้านได้มาเลือกตามความสนใจและความต้องการจากข้อมูลบนป้ายนี้

อีกหนึ่งสิ่งที่เราสังเกตเห็นคือ แม้ว่าจะเป็นโซนที่มีแต่ต้นไม้ แต่บริเวณโดยรอบนั้นกลับไม่มีน้ำเจิ่งนองอยู่ตามพื้นเลยแม้แต่น้อย
ข้อสงสัยของเราได้รับคำตอบทันทีเมื่อคุณบอยชี้ให้ดูสายเล็กๆ ที่ปักเข้าไปที่โคนต้น และท่อน้ำที่วางอยู่บนชั้น พร้อมอธิบายถึงการทำงานของสายเล็กๆ เหล่านี้ว่าเป็นการให้น้ำอย่างตรงจุดผ่านการคำนวณด้วยเทคโนโลยี เพราะในต้นไม้หลายชนิดโซนรากคืออวัยวะสำคัญในการดูดน้ำ วิธีนี้จะช่วยให้ต้นไม้ได้รับน้ำอย่างเหมาะ และไม่ต้องเสียน้ำทิ้งจากการรดน้ำด้วย
แม้ว่าจะมีบึงรับน้ำที่สามารถนำน้ำมาใช้ได้อยู่ตลอดเวลา แต่ SAMA Garden ก็แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการดูแลต้นไม้ที่จะส่งต่อไปยังมือลูกค้าที่มาเลือกซื้อ และความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างการไม่ปล่อยน้ำที่ใช้รดต้นไม้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์


แม้ว่าจะมีต้นไม้ละลานตาจนแทบเลือกไม่ได้ว่าจะพากระถางไหนกลับบ้านไปด้วย เราขอแนะนำให้คนที่อยากได้ตัวเลือกเพิ่มออกไปชมด้านนอกของ House of Plants ที่มีพื้นที่จัดแสดงพรรณไม้และตัวอย่างสวนกลางแจ้งอันอุดมไปด้วยต้นไม้หลากชนิดหลายราคา รอให้คนรักต้นไม้ใจเต้นตึกตักขนกองทัพต้นไม้กลับไปทำสวนที่บ้านอีก

ได้ต้นไม้ที่ถูกใจแล้วก็ต้องดูแลพวกเขาให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ อย่าลืมแวะมาโซน Garden Gadgets ที่พร้อมพรักไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทำสวนครบวงจร เพื่อรองรับทุกความต้องการในการจัดแต่งต้นไม้ ทำสวน ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ใช้งาน Outdoor
ส่วนใครเป็นมือใหม่ในวงการต้นไม้ สตาร์ทเส้นทางการเป็น Plant Lover เรียบร้อยแล้ว อยากได้คำแนะนำจากสตาฟ หรือต้องการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการเลี้ยงดูต้นไม้ให้งอกงาม เดินตรงมาขอเคล็ดลับจากตรงนี้ได้เช่นกัน
คลินิกต้นไม้ ที่ต่อให้พืชของเราป่วยแค่ไหนก็ช่วยเหลือได้

ไม่ใช่แค่ซื้อขายต้นไม้ แต่ SAMA Garden ยังมีพื้นที่ที่เรียกว่า SOS: Plants Service Counter หรือคลินิกต้นไม้ คอยประจำการอยู่ด้วย
คุณบอยบอกกับเราว่า ส่วนนี้เป็นสเตชันที่คอยให้คำปรึกษาทั้งเรื่องของการดูแลหรือแม้แต่การรักษาต้นไม้ป่วยโดยไม่คิดค่าบริการ และทีมงานหมอต้นไม้ประจำคลินิกแห่งนี้ได้รับการเทรนจาก Sireepark (โครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล) ทำให้มั่นใจได้ว่าความรู้และคำแนะนำที่เราจะได้รับไปนั้นเป็นองค์ความรู้ด้านต้นไม้โดยตรงที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ความน่ารักคือ การนำต้นไม้มารับคำปรึกษาที่นี่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นต้นไม้ที่ซื้อกับทาง SAMA Garden เท่านั้น แถมยังมีผลิตภัณฑ์ ยา อาหารเสริมสำหรับต้นไม้จำหน่ายให้เรานำไปบำรุงสวนเล็กสวนใหญ่ที่บ้านด้วย
Pet Friendly เปิดพื้นที่ให้พักผ่อนพร้อมสัตว์เลี้ยง

นอกจากเป็นพื้นที่ฮีลใจให้ผู้คน SAMA Garden ยังเป็นพื้นที่ Pet Friendly ที่ต้อนรับเหล่าสัตว์เลี้ยงให้ได้ออกมาใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติในเมืองกับเจ้านาย รวมถึงได้พบปะกับสัตว์เลี้ยงจากบ้านอื่น
แล้วถ้าเจ้านายได้ต้นไม้กลับบ้าน เด็กๆ ก็มีของให้กลับบ้านได้เหมือนกันกับ Pet Zone ที่เต็มไปด้วยของกินของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้คนรักสัตว์มาเลือกซื้อของฮีลใจให้น้องๆ สี่ขา


ส่วนใครที่กังวลเรื่องของความสะอาดก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทาง SAMA Garden ได้จัดพื้นที่รองรับการเข้าห้องน้ำให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงในบริเวณโซน Outdoor เพื่อให้น้องๆ ขับถ่ายกันอย่างสะดวกสบาย ไม่รบกวนผู้ใช้บริการคนอื่นๆ
สัมผัสรสชาติอาหาร SEA ที่มีวัตถุดิบจากสมุนไพรหน้าร้าน

เราได้เห็นความสวยงามของพื้นที่ ได้กลิ่นความหอมของสินค้าแบรนด์ไทย ได้ยินเสียง Soundscape ที่เปิดคลอเบาๆ กันไปแล้ว คุณบอยเลยขอพาเราไปดูพื้นที่ที่ผู้ใช้บริการจะได้รับรสชาติจากธรรมชาติกับร้านอาหาร GAYA Restaurant & Bar ที่ยังคงคอนเซปต์การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งต้นไม้ที่รายล้อมอยู่หน้าร้านนั้นเป็นสมุนไพรของไทยและต่างชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารของร้านนั่นเอง
เราถามคุณบอยถึงที่มาที่ไปของไอเดียการเป็นร้านอาหารที่มีจุดขายเป็นเมนูอาหาร Southeast Asia และได้รับคำตอบว่า ในไบเทคบุรีมีร้านอาหารตะวันตกหลายร้าน แต่ที่ยังขาดไปคืออาหารจากประเทศในโซน Southeast Asia และการทำอาหารของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้มักมีการใช้สมุนไพรเป็นวัตถุดิบคล้ายกันเกือบทั้งหมด อีกทั้งหลายประเทศก็ใช้สมุนไพรจากต่างทวีปด้วยเหมือนกัน
เมนูอาหารของ Southeast Asia จึงตอบโจทย์ GAYA Restaurant & Bar ในการนำเสนออาหาร SEA ที่ใช้สมุนไพรเป็นตัวชูโรงเมนู ให้รสชาติที่หลากหลาย และมีตัวเลือกมากมายให้ผู้บริโภคเลือกทาน
พักดื่มชาและใช้เวลากับตัวเองที่ GAYA Tea Room

ส่วน GAYA Tea Room จะมีกลิ่นความเป็นตะวันตกขึ้นมาอีกหน่อย ทว่ายังคงส่วนผสมของสมุนไพรไทยอยู่ด้วย ซึ่งชาที่นำมาใช้ในร้านนี้เป็นชาแบรนด์ไทยที่ส่งขายต่างประเทศเป็นหลัก และมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างการช่วยเกษตรกรในการนำผลผลิตอย่างผลไม้บางชนิดที่มีเยอะจนล้นตลาดหรือขายไม่ทันมาสกัดให้เป็นชากลิ่นใหม่ๆ
คุณบอยเสริมอีกว่า การดื่มชาเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น มีเวลาในการละเลียดชิมรสชาติและดื่มด่ำความหอมของชา ตรงกับคอนเซปต์ของพื้นที่ที่อยากให้คนที่มา SAMA Garden ได้ใช้เวลาไปอย่างช้าๆ โดยไม่ต้องเร่งรีบ

ผ่านไปแล้วกับสี่ประสาทสัมผัสที่สถานที่แห่งนี้มอบให้ และนี่คือ Sensory Awareness สุดท้ายที่ว่าด้วยการสัมผัส
คุณบอยพาเรามายังพื้นที่เวิร์กช็อปที่เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์กันได้ฟรี ซึ่งกิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปในแต่ละเดือน ใครที่เป็นสายเวิร์กช็อป ชอบหากิจกรรมสนุกๆ ทำ เช็กข้อมูลกิจกรรมประจำเดือนและจองคิวเข้าร่วมทำเวิร์กช็อปได้ที่ SAMA Garden

ความน่าสนใจของพื้นที่แห่งนี้คือ ความรู้ที่นำเสนอไม่ได้มีแต่เรื่องของต้นไม้อย่างเดียว เพราะชั้นสองของพื้นที่เวิร์กช็อปยังมีร้านหนังสือเล็กๆ ที่เชิญชวนให้ผู้คนขึ้นมาใช้เวลาเลือกดูหนังสือใหม่ๆ หรือเครื่องเขียนและของเล่นตามหมวดหมู่ เพราะภายในร้านนั้นจัดวางสินค้าตามโซน เช่น โซน Art & Craft ก็จะเป็นกลุ่มหนังสือในหมวดหมู่งานคราฟต์และอาร์ตทอยที่จัดวางเอาไว้ด้วยกัน เป็นต้น

วันไหนที่อยากพักผ่อน อยากกลับมาคอนเนกต์กับธรรมชาติ ความสงบ และตัวเอง ลองหลบหนีความวุ่นวายมาพักใจกับบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ SAMA Garden เพราะนอกจากได้ใช้เวลาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากความเร่งรีบของเมืองแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้เราได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสอย่างครบถ้วน
SAMA Garden
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
Gaya restaurant & bar
🗓 TUE – SUN | ⏰️ 11.00 – 22.00
🚫 Closed on Monday
Gaya Tea Room
🗓 TUE – SUN | ⏰️ 11.00 – 17.00
🚫 Closed on Monday
พิกัด : 88 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
(BTS สถานีบางนา ทางออก 1 เดินตามทางเชื่อมเข้าสู่ไบเทคบุรี ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที)
แผนที่ : maps.app.goo.gl/YZnXrPjD3Yvw8awRA