‘ประเทศไทย’ ถือเป็นดินแดนแห่ง ‘ศูนย์กลางการค้าประเวณี’ ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก จนทำให้นักท่องเที่ยวมากมายต่างมีหมุดหมายข้ามทวีปมาเพื่อสัมผัสบริการทางเพศหลากหลายรูปแบบ
เว็บไซต์ Havocscope ที่เก็บข้อมูลผู้ค้าบริการทางเพศทั่วโลกพบว่า ในปี 2557 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเพศของประเทศไทยสามารถทำรายได้มากกว่าสองแสนล้านบาทต่อปี และอีกห้าปีต่อมาก็ขยับเป็นสองล้านล้านบาท ซึ่งอาจกลายเป็นรายได้หลักของประเทศเลยทีเดียว
แม้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเพศของไทยจะเฟื่องฟูและทำรายได้มหาศาล แต่ไฉนการค้าประเวณีในประเทศนี้ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แถมสังคมยังมองว่าธุรกิจเหล่านี้ทำให้เกิดอาชญากรรม การค้ามนุษย์ และยังเป็นเรื่องผิดบาปเพราะขัดต่อศีลธรรมทางศาสนา
รวมไปถึงการมีเอี่ยวเก็บส่วยแบ่งกันรวยของเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบและผู้ทรงอิทธิพลต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือกฎหมาย และอาจเป็นเหตุผลที่แก้ไม่ได้หากธุรกิจนี้ยังเป็นสีเทา
คอลัมน์ Urban Sketch จึงอยากจำลองให้ประเทศไทยสามารถปัดเป่าความสกปรกของธุรกิจสีเทานี้ให้กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเพศของไทยได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความน่าจะเป็นอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ยกระดับอาชีพ Sex Worker
เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบอาชีพ ‘Sex Worker’ หรือผู้ให้บริการทางเพศ มักได้รับการตีตราจากมุมมองทางศีลธรรมของสังคมว่าเป็นอาชีพที่ไร้ซึ่งเกียรติใดๆ และเป็นต้นตอของปัญหาการเกิดอาชญากรรมต่างๆ นั่นเพราะว่าอาชีพ Sex Worker เป็นอาชีพลับเฉพาะ
การเปลี่ยนให้มีกฎหมายคุ้มครองการค้าประเวณี ทำให้ธุรกิจค้าบริการทางเพศโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ จะช่วยคุ้มครองสิทธิด้านต่างๆ ของผู้ค้าบริการ รวมถึงการป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ได้ เป็นต้น
ทั้งกำหนดให้ผู้ค้าบริการมีบัตรประจำตัวสองใบ ได้แก่ ใบประกอบวิชาชีพและใบรับรองสุขภาพ รวมถึงกำหนดให้ผู้ประกอบอาชีพและผู้ประกอบธุรกิจสถานค้าบริการต้องเสียภาษี เพื่อจะได้มีสวัสดิการต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ
ปรับพื้นที่และกำหนดเขต Sex Trade Zones
‘Red Light District’ หรือย่านโคมแดงในประเทศที่การค้าประเวณีถูกกฎหมายอย่างเนเธอร์แลนด์ คือพื้นที่ที่ทำให้ย่านเริงรมย์กลายเป็นสถานที่ที่ผู้ใช้บริการทางเพศรวมทั้งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวยามราตรีร่วมกันได้ และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโสเภณีให้ผู้ชมได้เข้าใจบริบทของอุตสาหกรรมนี้มากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าประเทศไทยสามารถทำ Red Light District ได้เช่นกัน แต่จะต้องกำหนดที่ตั้งให้ห่างไกลจากสถานศึกษา วัด หรือโรงพยาบาล เพื่อความเหมาะสม รวมถึงจัดการเรื่องความดังจากเครื่องขยายเสียงให้อยู่ในเดซิเบลที่เหมาะควรและปลอดภัยตามที่สาธารณสุขกำหนด
ที่สำคัญ ย่านโคมแดงในไทยจะต้องจัดให้เป็นสถานที่สำหรับการเดิน เพื่อลดอุบัติเหตุทางท้องถนน และมอบอำนาจให้ชุมชนในแต่ละเขตพื้นที่จัดการดูแลแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของตนเองได้
สร้างศูนย์เตือนภัย Sex SOS Center
แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนและความมึนเมาถือเป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้นการมี ‘ศูนย์เตือนภัยส่วนกลาง’ ของพื้นที่ และแบ่งเป็นศูนย์เตือนภัยขนาดย่อมที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ตลอดถนน จะช่วยให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มาใช้บริการรู้สึกสบายใจ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องความปลอดภัยตลอดเวลา เมื่อเกิดเหตุใดๆ พวกเขาจะสามารถไปถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงในย่านนี้จะได้รับการคุ้มครองด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เปิดการใช้งานอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
จัดทำป้ายบอกทาง Sex Findings
ในแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน นอกจากเราจะได้สัมผัสความอลังการของแสงสีเสียงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างมองเห็นนั่นคือป้ายมากมายที่ล้วนแต่เป็นป้ายโฆษณา แต่ป้ายส่วนใหญ่กลับไม่บอกรายละเอียดที่ชัดเจนให้แก่ผู้ใช้บริการ
ดังนั้น Red Light District ของเราจะต้องออกแบบ ‘ป้ายที่มีความสร้างสรรค์’ ที่มาพร้อมกราฟิกสไตล์ร่วมสมัย ที่ผสมผสานด้วยความน่ารัก มีความสวยงามบ่งบอกอัตลักษณ์ของย่าน และสื่อสารข้อมูลได้อย่างครบถ้วน
หัวใจสำคัญคือต้องบอกทางและข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่ชัด ทั้งป้ายกำหนดเส้นทางของโซนต่างๆ รวมถึงประเภทบริการที่แบ่งตามรสนิยม โดยในบางโซนต้องจัดให้มีการกำหนดขอบเขตอายุ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ
เฝ้าระวังสุขภาพด้วย Sexual Health Clinic
อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในย่านเริงรมย์คือ ‘ศูนย์ตรวจสุขภาพ’ ที่ให้ผู้ให้บริการสามารถเข้ารับการตรวจรักษาสุขอนามัยได้อย่างเป็นประจำ และยังมีใบรับรองสุขภาพเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความปลอดภัยด้านสุขภาพของผู้ใช้บริการด้วย
โดยเบื้องต้นก่อนเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ในย่าน ผู้ใช้บริการเองจะต้องผ่านการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ตามเกณฑ์ที่กำหนด และค้นหายาเสพติดที่อาจก่อความวุ่นวายในสถานที่ท่องเที่ยวด้วย รวมถึงในศูนย์แห่งนี้ยังมีคลังยาที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสภาวะทางเพศหลากหลายรูปแบบ รวมถึงมีสินค้าเสริมความสนุกทางเพศมากมายให้เลือกช้อปตามความสนใจ
ให้บริการ 24 ชั่วโมงผ่านแนวคิด Sex Services Around the Clock
เพราะเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องแฟนตาซีที่ผู้คนหลากเพศ หลากวัย ต่างต้องเรียนรู้พบเจอแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา นอกจากร้านค้าหรืออาคารที่เปิดให้บริการช่วงกลางคืนแล้ว พื้นที่แห่งนี้จึงควรเปิดให้ผู้คนได้มาเดินเล่นและสำรวจในช่วงกลางวันได้ด้วย
โดยช่วงกลางวันของย่านนี้จะเปิดใช้งานอาคารได้อย่างหลากหลาย เพื่อรองรับผู้คนทุกเพศทุกวัย ให้พวกเขาได้เข้าพบปะกัน และเดินเล่นในแหล่งรวมสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นชุดเครื่องแต่งกายที่ช่วยส่งเสริมรสนิยมทางเพศ อุปกรณ์เสริมสร้างประสบการณ์เสียว หรือไอเทมที่ช่วยเพิ่มความฟินให้กับคู่รัก ตลอดถนนก็ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ช็อป และอื่นๆ ที่ทุกร้านจะมาในธีมเซ็กซ์แบบเน้นๆ
รวมถึงในบางสัปดาห์ พื้นที่แห่งนี้ยังจัดเสวนาแบ่งปันความรู้เรื่องเพศศึกษาให้ผู้คนทุกกลุ่มได้มาอัปเดตและแลกเปลี่ยนความรู้กันได้อีกด้วย