กาแฟแบบเทพๆ ที่ Red Diamond เลียบด่วนฯ รามอินทรา
ร้านกาแฟคราฟต์แบบดิบๆ ความ Contrast ที่ลงตัวเอาเสียมากๆ สำหรับคอกาแฟขั้นเซียน ต้องโดน!
ร้านกาแฟคราฟต์แบบดิบๆ ความ Contrast ที่ลงตัวเอาเสียมากๆ สำหรับคอกาแฟขั้นเซียน ต้องโดน!
lifestyle Neighborhood Red Diamond UrbanCreature
หลังจากสภาฯ ผ่านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ มาตรา 69 ว่าด้วยการห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขต 12 ไมล์ทะเลนับจากทะเลชายฝั่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นกฎหมายห้ามทั่วๆ ไปที่ดีและช่วยรักษาระบบนิเวศสัตว์น้ำ แต่แท้จริงแล้วการแก้ไขร่างกฎหมายนี้กำลังอนุญาตอย่างกลายๆ ให้จับปลาด้วยอวนล้อมขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขตไกลกว่า 12 ไมล์ทะเลได้ ซึ่งจากตัวอย่างอวนแหนั้นมีความเล็กได้ถึง 3 – 5 มิลลิเมตร เป็นขนาดที่ปลายปากกาผ่านไม่ได้ด้วยซ้ำ และยังอนุญาตให้จับสัตว์น้ำในเวลากลางคืนได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องใช้ไฟล่อ ทำให้ปลาตัวเล็กตัวน้อย ลูกปลาหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาติดอวนได้ง่ายขึ้น เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ผลที่ตามมาคือ เหล่าสัตว์น้ำวัยอ่อนจะถูกตัดตอนการเจริญเติบโตโดยอัตโนมัติ และยังทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ เพราะการใช้อวนล้อมสัตว์น้ำในเวลากลางคืนจะมีลูกสัตว์น้ำติดมาราว 50 เปอร์เซ็นต์ และทำลายระบบนิเวศปลาไทย จนอาจกล่าวได้ว่า หลังจากนี้เราอาจไม่มีปลาไทยกินกันอีกเลย สถานการณ์ปัจจุบันของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ หลังจาก สว. ได้รับวาระ 1 เข้าสภาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาแก้ไขร่างเพิ่มเติม และจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา วาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป หากผ่านครบแล้วก็จะบังคับใช้ตามขั้นตอน หลายภาคส่วนจึงออกมาคัดค้านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ […]
ที่ Kenkoon Showroom วันนี้กำลังมีการรีโนเวต ‘ดิว-ดุลยพล ศรีจันทร์’ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง PDM บอกว่าพวกเขากำลังแปลงโฉมชั้น 2 ของโชว์รูมให้เป็นชั้นจัดแสดงสินค้าของ PDM โดยเฉพาะ ต้อนรับขวบปีที่แบรนด์กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 พอดิบพอดี สำหรับคนรักงานดีไซน์และของแต่งบ้านสุดเก๋ เราคงไม่ต้องแนะนำว่า PDM เป็นใคร แต่สำหรับใครที่เคยได้ยินชื่อพวกเขาผ่านหู อาจจำได้ว่าพวกเขาเป็นแบรนด์เสื่อของคนไทยที่อัปเกรดเสื่อแบบบ้านๆ ให้เก๋ไก๋ แต่งบ้านสวยจนขายดิบขายดีแม้จะมีราคาหลักพัน วันนี้ PDM เติบโตไปมากกว่านั้น โดยสองผู้ก่อตั้งอย่างดุลยพลและ ‘แมน-แมนรัตน์ สวนศิลป์พงศ์’ ตั้งใจให้เป็นแบรนด์ที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ (Living Fashion Stuffs) ขายตั้งแต่เสื่อ โต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงสินค้าที่พกติดตัวออกไปนอกบ้านได้ โดยมีดีเอ็นเอที่ไม่เหมือนใคร คือต้องสดใหม่ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และเห็นแล้วต้องอุทานว่า ‘คิดได้ยังไง’ โต๊ะรูปทรงดอกไม้ พระพุทธรูปที่ขยายตัวได้ด้วยเทคนิคแรงดันน้ำ ตี่จูเอี๊ยสีแดงสดใส เปิด-ปิดไฟได้ ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์จากเนเธอร์แลนด์ เหล่านี้คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของสินค้าของพวกเขา เราพบกับดุลยพลในวันที่อากาศปลายปีหนาวกำลังดี ชวนเขามาคุยว่า PDM มีเคล็ดลับออกแบบอย่างไรให้ครองใจชาวเก๋มาได้เป็นสิบๆ […]
ใครเคยผ่านเส้นวิทยุ-พระราม 4 หรือเคยแวะเวียนไป ‘One Bangkok’ อาจเคยพบการก่อสร้างขนานใหญ่ที่วันนี้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้ทุกคนได้เข้าไปเยี่ยมชม กับ ‘โครงการอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง’ ซึ่งจัดแสดงอยู่ในอาคารสีเขียวขาว จำลองสถานีวิทยุโทรเลขแห่งประเทศไทยที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเปิดใช้งานเมื่อ 111 ปีก่อน นิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการถาวรจากการร่วมงานของทีม One Bangkok กรมศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม และนักโบราณคดี เพื่อย้อนชีวิตและลมหายใจของสถานีวิทยุที่เป็นจุดส่งสัญญาณจากกรุงเทพฯ ไปยังสงขลาและเยอรมนีได้สำเร็จ นอกจากนี้ ภายใต้อาคารสีเขียวขาวดูสวยงามยังเก็บฐานอาคารและตอม่อของอาคารจริง รวมถึงยังมีเสาส่งสัญญาณวิทยุความสูงจริง 60 เมตรเอาไว้ด้วย โดยที่เราจะเห็นความสูงของเสาได้เพียง 20 เมตรจากยอดเท่านั้น เพราะอีก 40 เมตรที่เหลือถูกฝังไว้ใต้ดินนั่นเอง นิทรรศการนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวของการเปลี่ยนผ่านพื้นที่จากครั้งหนึ่งที่เคยเป็นสถานีวิทยุ ก่อนกลายเป็นพื้นที่ของทหารเรือ โรงเรียนเตรียมทหาร สนามมวยเวทีลุมพินี และกลายเป็นที่ตั้งของ One Bangkok ในปัจจุบัน จากการเก็บรวบรวมข้าวของและหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงไว้ให้เราได้เห็นถึงรากเหง้าของพื้นที่ อย่างชุดเครื่องชามจากหลากหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น หรือขวดเหล้าที่คาดว่าเป็นของใช้ของทหารในอดีต รวมถึงชุดฉนวนแก้วที่อยู่ด้านล่างของเสาวิทยุด้วยเช่นกัน นิทรรศการนี้ประกอบด้วย 4 โซนที่น่าสนใจ โดยมีโซนที่ 1 นำเสนอเรื่องยุควิทยุโทรเลข เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสื่อสารไร้สายของประเทศ และนำพาความทันสมัยมาสู่ย่านแห่งนี้ โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของอาคารสถานีฯ เทคโนโลยีวิทยุโทรเลข และการเชื่อมต่อกับยุโรปโดยตรงเป็นครั้งแรก […]
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์* ค่ำคืนนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ในซอยเปลี่ยวที่มืดมิด ฝนตกพรำ พื้นเต็มไปด้วยน้ำขังและความสกปรก กลางซอยมีร้านขายโคมไฟขนาดคูหากว่าๆ ที่เปิดไฟสว่างไสวทั้งคืน ทันทีที่ประตูเปิดออก เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมด้วยชายหนุ่มสวมแว่นสีชาที่ยืนขึ้นต้อนรับกับคำถามว่า “มีอะไรให้ช่วยครับ” นี่คือเรื่องราวของอีกหนึ่งซีรีส์ในจักรวาลซีรีส์ชื่อดังอย่าง Moving ซึ่งดัดแปลงจากเว็บตูนของนักเขียน ‘คังฟูล’ มาสู่ซีรีส์ความยาว 8 ตอน เรื่อง ‘Light Shop’ ที่เส้นแบ่งระหว่างคนเป็นกับคนตายมาบรรจบกันที่ร้านโคมไฟ ด้วยฉากเปิดเรื่องที่ชายหนุ่มเดินลงมาจากรถเมล์ในเส้นทางกลับบ้าน ที่ป้ายรถเมล์นั้นเขาได้เจอกับหญิงสาวใส่ชุดสีขาว ผมยาวสีดำปิดหน้าปิดตา นั่งรออยู่พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ทุกวัน ควบคู่กับช่วงต้นของเรื่องที่เหล่าตัวละครเหมือนจะมีความสามารถในการมองเห็นผีได้ คล้ายจะพาเราเข้าไปอยู่ในโลกหลังความตายเหมือนซีรีส์ขนหัวลุกทั่วๆ ไป ก่อนเรื่องราวจะตัดสลับระหว่างโลกกึ่งความเป็นความตายและห้องพักผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยโคม่า ที่มีเหล่าพยาบาลสาวคอยดูแล จนผู้ชมหลายคนถึงกับเอ่ยปากว่า ช่วง 4 ตอนแรกกับ 4 ตอนหลังของซีรีส์เหมือนกำลังเล่าคนละเรื่องกันอยู่ แล้วจึงนำมาสู่ครึ่งหลังของ Light Shop ที่เฉลยถึงจุดร่วมของเหล่าตัวละครซึ่งประสบอุบัติเหตุบนรถเมล์คันเดียวกันจนอยู่ในภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย คล้ายกำลังใช้วันเวลาวนลูปในซอยเปลี่ยวที่หนีออกไปไม่ได้ พร้อมประเด็นสำคัญว่ามนุษย์ทุกคนมีหลอดไฟเป็นของตัวเองคนละหนึ่งหลอด เมื่อเราอยู่ในช่วงระหว่างความเป็นและความตาย เรามีหน้าที่พาตัวเองไปยังร้านโคมไฟและหาหลอดไฟของตนเองให้เจอจึงจะกลับไปยังโลกมนุษย์ได้ แต่ถ้าหากเราหาร้านโคมไฟไม่เจอ หรือตัดสินใจทิ้งหลอดไฟอันริบหรี่ของตนเองไปนั้น เราก็จะจากโลกนี้ไปเหมือนคนตายคนอื่นๆ ความยากลำบากขณะมีชีวิตของคนชายขอบ ความพิการ “ทำไมจำฉันไม่ได้สักที” กลายเป็นคำถามที่ทำให้ ‘จียอง’ หรือผีสาวชุดขาวคอยตามติด ‘ฮยอนมิน’ […]