“เวลาได้ยินชื่อสถานี คนไทยอาจจะพอเดาได้ว่าชื่อนี้มีที่มาจากอะไร แต่ต่างชาติเขาจะได้ยินแค่ชื่อผ่านๆ ไป แต่ไม่รู้เลยว่าสามย่านคืออะไร อิสรภาพมีชื่อมาจากอะไร”
RailTones เป็นโปรเจกต์ธีสิสจบการศึกษาของ ‘รักษ์ ศิวรักษ์’ นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CommDe) ที่ตั้งใจออกแบบจิงเกิลเพลงสำหรับรถไฟฟ้า MRT แต่ละสถานีให้มีความแตกต่างและดึงอัตลักษณ์ของย่านนั้นๆ ออกมา
จากญี่ปุ่นสู่จิงเกิลไทย
รักษ์เล่าให้เราฟังว่า เขาได้แรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้จากการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และสังเกตว่าสถานีรถไฟฟ้าแต่ละสถานีจะมีเพลงของตนเอง ซึ่งหลังจากหาข้อมูลเพิ่มเติม รักษ์ยังพบว่าเพลงเหล่านั้นประพันธ์โดยมือคีย์บอร์ดวงคาสิโอเปีย ผู้เป็นศิลปินคนโปรดของเขา
ประกอบกับตัวรักษ์มีความสนใจเรื่องเพลงและเล่นคีย์บอร์ดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงอยากนำทั้งหมดนี้มาผสมผสานเป็นงานจบปีการศึกษาของตนเอง
แต่ความแตกต่างสำคัญระหว่างจิงเกิลของสถานีรถไฟฟ้าญี่ปุ่นและโปรเจกต์ที่รักษ์ตั้งใจทำคือ จุดประสงค์ในการใช้งาน เนื่องจากของญี่ปุ่นเป็นการใช้เพลงความยาว 7 วินาทีที่เท่ากับเวลาก่อนประตูรถไฟฟ้าจะปิด เพื่อเป็นการเตือนให้ประเทศที่มีผู้คนใช้รถสาธารณะหนาแน่นสูงได้รู้ตัวและไม่วิ่งฝ่าเข้าไป รวมถึงจังหวะและทำนองเพลงยังต้องแต่งให้ผู้ได้ยินเกิดความรู้สึกสว่าง สดใส เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายในสถานีที่เป็นปัญหาใหญ่ของแดนปลาดิบนั่นเอง
เสริมจุดเด่นของย่านด้วยจิงเกิล
ในขณะที่ประเทศไทยนั้นมีบริบทที่ต่างออกไป จากข้อมูลที่รักษ์ได้สืบค้นและวิเคราะห์พบว่า ไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศสูง การสร้างจิงเกิลโดยเน้นแหล่งท่องเที่ยวหรือจุดเด่นของย่านละแวกสถานีนั้นดูจะเหมาะสมมากกว่า
ซึ่งความคิดนี้ก็สอดคล้องกับ MRT หรือรถไฟฟ้าใต้ดินของไทย ที่ตกแต่งบางสถานีให้เป็นธีมตามย่านหรือสถานที่สำคัญบริเวณนั้นๆ เช่น สถานีสามยอดที่มีตึกด้านนอกสถานีเป็นโทนเดียวกันกับตึกโดยรอบ สถานีสนามไชยที่ตกแต่งภายในอาคารด้วยสถาปัตยกรรมไทยโบราณสอดคล้องกับวัดและวังโดยรอบ
รักษ์จึงแบ่งประเภทของสถานีรถไฟฟ้า MRT ออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มย่านการค้า (Commercial) กลุ่มย่านวัฒนธรรม (Cultural) และกลุ่มที่พักอาศัย (Residential) เพื่อออกแบบจิงเกิลให้ตรงกับจุดเด่นของย่าน
ความยากของการออกแบบเสียงให้เข้ากับย่าน
แม้จะทำซาวนด์ได้เอง และแบ่งกลุ่มสถานีรถไฟฟ้าตามย่านให้ทำงานง่ายขึ้นแล้ว ทว่าความยากของการออกแบบคือ ความทับซ้อนหรือชื่อชวนสับสนของแต่ละพื้นที่ เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าวแต่กลับอยู่สถานีพหลโยธิน หรือ MRT สถานีพหลโยธินแต่เชื่อมกับ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ทำให้เขาต้องคัดสรรและเลือกจุดเด่นที่จะนำมาใช้เป็นเสียงจิงเกิลอยู่นาน
รวมถึงสถานีในกลุ่มที่พักอาศัยที่รักษ์เลือกใช้เป็นเพลงเดียวกัน ซึ่งเป็นทั้งความตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจไปพร้อมๆ กัน ด้วยอุปสรรคที่ว่าบางสถานีในกลุ่มที่พักอาศัยหาอัตลักษณ์ของพื้นที่ได้ยากมาก ทำให้ผุดเป็นไอเดียว่า กลุ่มนี้ควรชูเรื่อง ‘บ้าน’ ด้วยเสียงดนตรีที่ทำให้ผู้โดยสารรู้ถึงการ ‘ต้อนรับกลับบ้าน’ น่าจะดีที่สุด
แต่ก็ไม่วายทิ้งกิมมิกสำคัญด้วยโน้ตดนตรี 2 – 3 โน้ตสุดท้ายของจิงเกิลในกลุ่มนี้ ที่จะลงท้ายในจำนวนที่เท่ากับพยางค์ของชื่อสถานีนั้นๆ ร่วมกับการใช้เสียงสูงต่ำให้พอดีกับการออกเสียงของชื่อสถานี เช่น คลองเตย ก็เป็นโน้ตสองตัวในเสียงสามัญ เป็นต้น
ล่าสุดทาง MRT ได้มาชมงานนี้แล้วเช่นเดียวกัน และแสดงความเห็นเพิ่มเติมเรื่องเสียงจิงเกิลนี้ว่าอาจจะช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาในการนำทางได้อีกด้วย โปรเจกต์นี้จึงน่าสนใจและมีแนวโน้มเกิดขึ้นจริงได้ในอนาคต
ใครที่อยากรู้ว่าแต่ละสถานีจะมีเสียงเป็นอย่างไร การออกแบบนี้ช่วยชูอัตลักษณ์แต่ละย่านได้มากแค่ไหน แวะไปชมผลงานจริงได้ตั้งแต่วันนี้ – 7 มิถุนายน 2568 ที่อาคารเลิศ อุรัสยะนันทน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถลง BTS สถานีสยาม ทางออก 2 หรือ MRT สถานีสามย่าน ทางออก 2 เดินต่อประมาณ 13 นาที หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ bit.ly/45gaZhf