รู้สึกเหมือนกันไหมว่า การเล่นกับน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์อื่นๆ ช่วยชุบชูใจให้วันเทาๆ ของเราสดใสขึ้นมาได้ทันที
เพราะว่าบางครั้งวิธีการคลายเครียดอย่างการนอน เล่นเกม หรือฟังเพลงก็อาจไม่ได้ช่วยให้เลิกโฟกัสกับความเครียดได้ขนาดนั้น แต่ในขณะเดียวกัน การเติมหมาเติมแมวกลับทำให้เราลืมความขมุกขมัวในใจไปได้ เหมือนกับว่าในความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ซ่อนพลังพิเศษที่ช่วยไล่ความเครียดที่ติดอยู่กับเราให้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
สุขภาพจิตดีเพราะมีสัตว์เลี้ยง
การที่รู้สึกสบายใจสดใสแฮปปี้จากการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่การรู้สึกไปเอง เพราะข้อมูลจาก National Library of Medicine พบว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ได้ยินเสียง หรือแม้แต่การมองเห็นความน่ารักของน้องๆ ก็ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นแล้ว ยิ่งถ้าได้สัมผัสตัวสัตว์ ลูบคลำ หรือเล่นด้วย จะช่วยส่งผลต่อการลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และระดับความวิตกกังวลก็จะลดลงตามไปด้วย


สอดคล้องกับการศึกษาของ University of Washington ที่พบว่าเพียงแค่ระยะเวลา 10 นาทีที่ปล่อยให้นักศึกษาได้ใช้เวลากับน้องหมาน้องแมว สามารถช่วยลดระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดลง และเพิ่มเซโรโทนินกับโดพามีน สารที่ทำให้มีความสุขและสร้างความผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้
เพราะฉะนั้น หากใครกำลังรู้สึกเครียดกับเรื่องราวต่างๆ แค่วางทุกอย่างลงและเดินไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยใหญ่ คอยเกาพุงหรือลูบหัวให้น้องๆ สักพัก เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นได้แล้ว
Pet Friendly พื้นที่บูสต์เอเนอร์จีทั้งคนและสัตว์
แล้วถ้าไม่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองล่ะ จะเยียวยาจิตใจอย่างไรได้บ้าง
คาเฟ่สัตว์อาจเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดในการไปเล่นกับน้องหมาน้องแมว แต่การเข้าคาเฟ่แต่ละครั้งย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าถ้าครั้งสองครั้งก็คงพอจ่ายไหว แต่หากต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าไปลดความเครียดเป็นประจำ อาจกลายเป็นการสร้างความเครียดให้เพิ่มขึ้นแทน
จะดีกว่าไหมหากเมืองมีความ Pet Friendly ที่ทำให้ผู้คนพบเจอความน่ารักของเหล่าสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นๆ ที่ต้อนรับให้เด็กๆ ใช้เวลานอกบ้านไปพร้อมกับผู้ปกครอง


นอกจากนี้ การที่เมืองเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงอาจส่งผลให้มีพื้นที่สาธารณะมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ออกมายืดเส้นยืดสายและใช้เวลาร่วมกัน แถมเด็กๆ ยังได้เพลิดเพลินกับเพื่อนร่วมสปีชีส์อีกด้วย ส่วนคนทั่วไปที่อยากผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยการชมสิ่งที่น่าสนใจอย่างความน่ารักของหมาแมวก็แวะเข้ามาใช้งานพื้นที่นี้ด้วยกันได้ ยิ่งถ้าเจ้าของน้องสี่ขาตัวนั้นตัวนี้ใจดีให้อนุญาต เราก็จะได้ลูบขนนิ่มๆ เกาพุงอ้วนๆ ของเจ้าสัตว์เหล่านี้เป็นของแถมไปด้วย
ไม่ใช่แค่การเปิดพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงบ้านอื่นๆ เป็น Emotional Support ให้กับคนที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้เท่านั้น แต่การมีพื้นที่ Pet Friendly จำนวนมากในเมืองยังเป็นการพาผู้ปกครองสัตว์เลี้ยงออกมาพบปะคนใหม่ๆ และมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมากขึ้น ช่วยลดความวิตกกังวลทางสังคมโดยมีเด็กๆ เป็นตัวกลาง เพราะการได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากับผู้คนบ้างก็เป็นส่วนช่วยในการลดความเครียดในอีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้เมืองมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วย
Sources :
Calm | tinyurl.com/t3farvdx
Moment of Clarity | tinyurl.com/mkhkxyhp
PubMed | tinyurl.com/2n7j5re2
ScienceDaily | tinyurl.com/45jaev4p
Your Neighbourhood | tinyurl.com/3nx3dbew