เที่ยว West Coast ชมธรรมชาติสุดล้ำตั้งแต่ธารน้ำแข็ง ชายหาดสีดำ ไปจนถึงทะเลสาบกระจก - Urban Creature

กลับมาเที่ยวนิวซีแลนด์กันต่อ โดยพาร์ทนี้จะเป็นพาร์ทสุดท้ายแล้ว เราจะพาออกเดินทางจาก Queenstown ขับรถเลียบชายฝั่งด้านตะวันตก ก่อนจะกลับไปที่เมือง Christchurch กัน ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าทริปนี้จริงๆ แล้วเราขับถลงใต้ไปดูฟยอร์ดที่ Millford Sound กันด้วย แต่ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ ไม่ได้รูปกลับมาเท่าไหร่ เลยคิดว่าจะเขียนถึงฝั่ง West Coast เลยดีกว่า ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปชมฟยอร์ด แนะนำเลยว่าต้องไป ไกลหน่อยแต่คุ้มแน่นอน (แต่ส่วนตัวเราแอบชอบฟยอร์ดที่นอร์เวย์มากกว่า) เพราะจะได้เจอธรรมชาติสุดอลังการ ทั้งป่าฝนและภูเขาที่อุดมสมบูรณ์และยิ่งใหญ่สุดๆ เลยหล่ะ

กลับมาต่อกันที่ West Coast เราจะเริ่มตั้งต้นกันที่ Queenstown เมืองใหญ่ของเกาะใต้ที่คิดว่าทุกคนที่มาเที่ยวเกาะใต้ก็น่าจะมาพักกันที่นี่ เราออกเดินทางจาก Queenstown ขับรถกลับไปยังเส้น Crown Range Road ผ่านโค้งหักศอกและภูเขาสีทองที่เราเคยผ่านมาแล้วตอนจะขับรถเข้า Queenstown แต่วันนี้ฝนตก หมอกลงหนามาก เรียกได้ว่ามองเห็นไม่เกิน 3 เมตร เลยต้องขับรถแบบระวังสุดๆ แต่เราก็ได้รูปวิวแปลกๆ อีกอารมณ์หนึ่งมาฝากกัน

เราขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึง Lake Hawae โดยจะขับเรียบทะเลสาบไปทางตะวันตก โชคดีที่วันนี้ลมสงบ เราเลยแอบจอดแวะข้างทางถ่ายรูปวิวทะเลสาบและภูเขาที่สะท้อนลงบนพื้นน้ำทำให้ได้รูปสะท้อนสวยๆ ก่อนจะขับรถต่อไปยังเส้น Haast Pass อีกหนึ่งถนนสวยๆ สุดโด่งดังของที่นี่ โดยสต็อปแรกที่เราจะไปกันคือ Blue Pools Walk ที่ตั้งอยู่ใน Mount Aspiring National Park โดยเราต้องจอดรถและเดินเท้าผ่านป่าอันอุดมสมบูรณ์เข้าไปประมาณ 15 นาที ก่อนจะเจอธารน้ำสีฟ้าสวยสดและใสสุดๆ เพราะเป็นน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งบนภูเขา ก่อนจะไหลไปลงแม่น้ำ Makarora ที่นี่เราประทับใจกับธรรมชาติที่สมบูรณ์สุดๆ ต้นไม้ทั้งหลาย ทั้งต้นบีช เฟิร์นหลากหลายชนิด และไลเคนต่างๆ เต็มไปหมด ที่สำคัญคือน้ำที่นี่สีสวยและใสมากๆ ใสจนมองเห็นก้นลำธารเลยแหละ ! 

เราขับรถกันมาเรื่อยผ่านป่าที่อุดมสมบูรณ์ ระหว่างทางก็จะเจอน้ำตกบ้างให้แวะไปชมพอหอมปากหอมคอ ขับต่อมาเรื่อยๆ บนถนน Haast Pass จนมาถึงเส้นเรียบชายหาด ซึ่งจุดต่อไปที่เราจะไปแวะกันคือ Knights Point Lookout เป็นจุดชมวิวเล็กๆ ที่ให้เราได้ชมวิวเกาะแก่งเล็กๆ น้อยๆ และสูดกลิ่นทะเลกัน ก่อนจะขึ้นรถกันอีกรอบและขับลัดเลาะชายฝั่งไปจนถึง Bruce Bay ชายหาดสีดำที่มีป่าต้น Rimu เรียงรายอยู่ริมชายหาดและสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากหาดทรายสีดำและคลื่นที่แตกฟองขาวแล้วก็ยังมีท่อนไม้ที่กระจัดกระจายอยู่บนชายหาดที่ทอดยาวเต็มไปหมด เรียกได้ว่าเป็นวิวที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่นอน

จาก Bruce Bay เราจะขับรถไปต่อยาวไปจนถึง Fox Glacier น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไป Fox Glacier ปิดเพราะมีดินถล่ม แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเราก็ตั้งใจจะมาเที่ยวทะเลสาบ Lake Matheson อยู่แล้ว ซึ่งที่นี่โด่งดังมากเรื่องน้ำที่นิ่งราวกับกระจกทำให้เห็นเงาสะท้อนของวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เราแวะมาที่ถึง 2 รอบทั้งเช้าและเย็นเพราะตอนเย็นที่เรามาลมแรงมาก น้ำเลยไม่นิ่งแบบที่หวัง ต้องมาใหม่ในช่วงเช้า ซึ่งเราก็มาถึงกันเช้ามากๆ น่าจะประมาณ 7 โมงเช้า แล้วรีบเดินเข้าป่าไปหาทะเลสาบกระจกอันโด่งดัง กว่าจะมาถึงจุดชมวิวจุดแรกใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้เห็นวิวทะเลสาบและเงาสะท้อนสวยๆ พร้อมด้วยวิว Mount Tasman และ Mount Cook ที่หลบอยู่ในก้อนเมฆ เป็นวิวที่สวยและสงบมากๆ ก่อนกลับอย่าลืมแวะทานข้าวเช้าและนั่งชมวิวที่ Matheson Cafe กันด้วยหล่ะ เพราะที่นี่วิวสวยสุดๆ เลย

หลังจากนั้นเราก็มาต่อกันที่ Franz Josef Glacier เพื่อมาดูธารน้ำแข็งซึ่งจริงๆ แล้วช่วงเวลาที่เรามาคือหน้าร้อน ธารน้ำแข็งจึงเหลือให้เห็นไม่ค่อยเยอะ ยิ่งเจอภาวะโลกร้อนเข้าไป ธารน้ำแข็งแห่งนี้ก็จะหดสั้นลงทุกปีๆ ถ้าใครอยากเห็นเต็มๆ อาจจะต้องมาหน้าหนาว ส่วนใครที่อยากดูธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดจริงๆ เขามีทัวร์เฮลิคอปเตอร์ให้ขึ้นไปชมธารน้ำแข็งกันด้วย แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณครึ่งวัน เราเลยเลือกดูอยู่ห่างๆ ดีกว่า โดยการจะไปดูธารน้ำแข็งได้เนี่ยจะต้องเดินป่ากันนิดหน่อย จริงๆ ประมาณ 15-30 นาทีก็จะได้เห็นธารน้ำแข็งกันแล้ว แต่ใครที่อยากดูใกล้ๆ ก็สามารถเดินต่อไปได้เรื่อยๆ เป็นชั่วโมงระว่างทางก็จะมีต้นไม้มีน้ำตกให้ชมไปพลางๆ

หลังจากชมธารน้ำแข็งเสร็จ เราต้องยิงยาวขับรถขึ้นเหนือเพื่อกลับไป Christchurch กัน โดยเส้นทางที่เราจะไปกันคือ Arthur’s Pass หนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดและสูงที่สุดในเขต Southern Alps ของนิวซีแลนด์ ซึ่งจริงๆ แล้วที่นี่ก็มีเส้นทางรถไฟที่มีชื่อเสียงมากๆ คือ TranzAlpine ที่วิ่งจาก Greymouth สู่ Christchurch ผ่านเส้น Arthur’s Pass เช่นกัน ระหว่างทางเราได้แวะที่ Otira Viaduct Lookout อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของที่นี่ ที่จะมองเห็นวิวถนน ลำธารที่คดเคี้ยว และหุบเขาด้านหลัง ตลอดเส้นทางเราได้เจอวิวภูเขาที่สวยงามแปลกตา ก่อนจะมาจอดที่สต็อปสุดท้าย Castle Hill ลานหินแปลกตาที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานเพราะฝนเริ่มลงเม็ด แต่ก็ประทับใจกับวิวที่แปลกตาและความสงบเวิ้งว้างของที่นี่มากๆ เลย

ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เราได้มา Road Trip กับครอบครัวที่นี่ต้องบอกเลยว่าคุ้มสุดๆ เพราะธรรมชาติที่นี่สวยจริงๆ แถมยังมีความหลากหลายสุดๆ ตั้งแต่ภูเขาหญ้าสีทอง ทุ่งดอกไม้ ทะเลสาบ ฟยอร์ด ป่าฝน ไปจนถึงชายหาด เรียกได้ว่าใครที่ชอบสายธรรมชาติห้ามพลาดเด็ดขาดเลย วันนี้เราก็ขอจบทริปนิวซีแลนด์แบบสวยๆ เท่านี้ก่อน  คราวหน้าจะพาไปเที่ยวไหนต่ออย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะ !

Writer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.