ในวันที่ประชากรเพิ่มขึ้น แต่โลกของเรายังมีขนาดเท่าเดิม คำถามคือในอนาคต ถ้าคนเกิดล้นโลกขึ้นมาจริงๆ เราจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร ? เพราะนอกจากผลกระทบต่างๆ ที่ต้องเจอแล้ว ประเด็นเรื่องพื้นที่พักอาศัยก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถของมวลมนุษยชาติด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถขยายโลกให้กว้างขึ้นได้ การลดขนาดของที่อยู่จึงเป็นคำตอบของการแก้โจทย์ในครั้งนี้
ซึ่งในหลายประเทศ รวมถึงองค์กรใหญ่ๆ อย่าง MINI แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษ ต่างก็ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง จนทำให้เกิดโปรเจกต์ “MINI LIVING” ขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 2016 ที่ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Creative Use Of Space” และได้กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น อย่าง ลอนดอน นิวยอร์ค ลอสแอนเจลิส และล่าสุด “ปักกิ่ง” ได้ถูกเลือกให้เป็นที่จัดแสดงงาน “China House Vision 2018” เรามาดูกันว่าปีนี้จะมีแนวคิดหรือนวัตกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในโลกอนาคตเจ๋งๆ อะไรบ้าง ตามมาดูกัน
“MINI LIVING URBAN CABIN คือสัญลักษณ์หรือตัวแทนของการให้ความสำคัญกับชุมชน และการเชื่อมต่อกับผู้คนรอบข้าง ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกใบนี้”
| China House Vision 2018 แนวคิด นวัตกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยของโลกอนาคต
China House Vision 2018 ที่ปักกิ่งครั้งนี้ เต็มไปด้วยผลงานจากแบรนด์ระดับโลกมากมายที่งัดมาโชว์กันสุดฤทธิ์ ในครั้งนี้ MINI เองได้จับมือกับ Dayong Sun จาก PENDA สถาปนิกท้องถิ่นของจีน ร่วมกันสร้างสรรค์บ้านหลังเล็กของโลกอนาคต “MINI LIVING URBAN CABIN” โดยใช้ชุมชน “หู่ทง” (Hutong) เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
“MINI LIVING URBAN CABIN” หลังนี้ ยึดหลักการ Big Life, Small Footprint คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี บนทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์แบบฉบับ MINI
| Why is “Beijing” ? ทำไมต้อง “ปักกิ่ง”
“ปักกิ่ง” นอกจากจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่า มีความหนาแน่นของประชากรเป็นอันดับต้นๆ ของจีน แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของการเมือง วิทยาศาสตร์ การศึกษา การคมนาคม การท่องเที่ยว รวมไปถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังหลงเหลืออยู่อย่าง “หู่ทง” (Hutong) ชุมชนโบราณหนึ่งเดียวในกรุงปักกิ่ง ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ให้คงเอกลักษณ์ ความงาม รวมถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นตรอกซอกซอย หรือแบบบ้านหลังเล็กที่สร้างติดกัน ทำให้คนในชุมชนต้องอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในพื้นที่ขนาดเล็กที่อยู่รายล้อมพระราชวังต้องห้าม ท่ามกลางความเจริญและตึกระฟ้าของมหานครที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
| MINI LIVING URBAN CABIN ที่อยู่อาศัยสุดล้ำ สำหรับโลกอนาคต
MINI LIVING URBAN CABIN คือบ้านหลังใหม่ของคนเมืองในโลกอนาคต ถูกออกแบบให้มีขนาดพื้นที่เล็กเพียง 15 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 2 ส่วนที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน คือ พื้นที่ส่วนตัว (Private Space) และ พื้นที่ส่วนรวม (Public Space) โดยได้แนวคิดนี้มาจากบ้านพักอาศัยในชุมชนหู่ทง
ภายในพื้นที่มีการใช้กลไก Pull , Fold , Rotate และ Stick ที่สามารถปรับเปลี่ยน พลิกแพลงฟังก์ชันการใช้งานได้ตามใจชอบบนพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด เช่น ผนังบางส่วนที่สามารถหมุนให้กลายเป็นโต๊ะ, ช่องหน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้ หรือผนังที่มีรูและหมุดสำหรับปรับเปลี่ยนตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เป็นต้น
เพราะตัวบ้านมีขนาดเล็กและเป็นชั้นเดียว ทำให้ทีมออกแบบดีไซน์หลังคาบ้านเป็นกระจก เพื่อให้สามารถมองเห็นวิวรอบตัวบ้านได้
ภายใน Urban Cabin ยังมีมุมน่ารักๆ อย่าง “ชิงช้า” ที่แขวนอยู่บริเวณพื้นที่เชื่อมต่อกลางบ้านไว้ให้เรานั่งเพลิดเพลินชวนให้นึกถึงวันวานในวัยเด็กที่ผ่านมา
| “MINI LIVING URBAN CABIN” In The Future
ในอนาคตมินิเองก็มีโปรเจกต์จะนำ “MINI LIVING URBAN CABIN” ที่เคยเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั้ง 5 แห่ง มาเชื่อมโยงกันเป็น Global Village และพัฒนาโปรเจกต์ MINI LIVING ต่อไปเพื่อสานต่อเจตนารมณ์และ Brand Passion ของมินิ ที่จะสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของมนุษย์ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักคิด Big Life, Small Footprint
Writer
พัชรี บอนคำ
Graphic Designer
