‘สิงคโปร์’ ประเทศขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยความเจริญก้าวหน้าอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องเทคโนโลยี ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างธรรมชาติให้อยู่ร่วมกับชีวิตในเมืองได้อย่างสมดุล
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อพูดถึงสิงคโปร์และสถานที่ท่องเที่ยว หลายครั้งเราก็มักจะคิดถึงแต่จุดท่องเที่ยวแบบเดิมหรือแลนด์มาร์กที่ไม่ว่าไปกี่ครั้งก็ต้องแวะไปเยี่ยมชมทุกครั้ง แม้จะคลาสสิกแต่กลับทำให้การท่องเที่ยวนั้นไม่แปลกใหม่ขึ้นเลย
เพราะเหตุนี้ แคมเปญ ‘Made in Singapore’ โดย ‘การท่องเที่ยวสิงคโปร์’ (Singapore Tourism Board : STB) จึงเกิดขึ้นเพื่อชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาสัมผัสประสบการณ์ในสิงคโปร์ได้อย่างเต็มที่และต่างไปจากเดิม ผ่านจุดท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ที่แทรกตัวอยู่ในทุกที่ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่หลอมรวมอยู่ในเกาะแห่งนี้
ดังนั้นหากใครมีแพลนจะไปท่องเที่ยวสิงคโปร์เร็วๆ นี้ และยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง คอลัมน์ Urban Guide ขอแนะนำ ‘4 สถานที่’ และ ‘2 กิจกรรม’ ที่จะเปลี่ยนการเที่ยวสิงคโปร์แบบธรรมดาให้พิเศษมากกว่าเดิม รับรองว่าต่อให้เป็นการกลับไปเที่ยวซ้ำอีกครั้งก็จะไม่รู้สึกเบื่อหรือจำเจแน่นอน
Jewel Changi สัมผัสธรรมชาติกลางศูนย์การค้าในสนามบิน
ไปถึงสิงคโปร์ทั้งทีไม่ควรพลาดแลนด์มาร์กแห่งใหม่อย่าง ‘Jewel Changi’ ที่โดดเด่นด้วยลักษณะอาคารโดมกระจก มาพร้อม ‘น้ำตก’ ความสูงกว่า 40 เมตร รายล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ จนแทบไม่เชื่อว่าธรรมชาติทั้งหมดที่เห็นอยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าภายในสนามบิน
โดมขนาดใหญ่ที่เห็นประกอบด้วยกระจกกว่า 9,000 แผ่น แต่ละชิ้นมีขนาดไม่ซ้ำกัน และเป็นกระจกที่ถูกออกแบบมาให้ลดความร้อนได้ ด้วยหลักการทำงานนี้จะช่วยรักษาพืชพรรณต้นไม้และช่วยประหยัดพลังงานภายในอาคารของ Jewel Changi ได้ค่อนข้างมาก
ใครที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง เราขอแนะนำให้แวะไปรับความสดชื่นจากน้ำตกและพักสายตากับสีเขียวของต้นไม้กันก่อน โดย Jewel Changi จะอยู่ติดกับอาคาร Terminal 1 ที่เดินถึงกันได้ แล้วค่อยออกไปสนุกกับกิจกรรมอีกมากมายที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสกันในเกาะสิงคโปร์แห่งนี้
เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนร้านค้าภายในศูนย์การค้าเปิดตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.
แผนที่ : maps.app.goo.gl/BwQyXKaufw9ZFUs89
CapitaSpring สวนขนาดย่อมบนตึกสูงระฟ้า
การไปเยือนสิงคโปร์ครั้งนี้ หนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดคือจำนวนพื้นที่สีเขียวที่มีให้เห็นอยู่ตลอดการเดินทาง ไม่เว้นแม้แต่ตามตึกสูงที่มองขึ้นไปก็จะเห็นสีเขียวของต้นไม้ ด้วยนโยบายจากรัฐบาลที่กำหนดให้อาคารใหม่ที่สร้างขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาต้องมีพื้นที่สีเขียว 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ทำให้แทบทุกตึกในสิงคโปร์มีสีเขียวแทรกตัวอยู่ ไม่ว่าจะในลักษณะของสวนบนดาดฟ้าหรือการปลูกต้นไม้แทรกตามแต่ละชั้นตึก
เช่นเดียวกันกับตึก ‘CapitaSpring’ ที่เราได้ไปเยือนก็เป็นตึกสำนักงานขนาดใหญ่ที่ออกแบบดาดฟ้าให้กลายเป็น ‘Sky Garden & Green Oasis’ สวนที่มีต้นไม้หลากหลายชนิด มีทั้งต้นไม้ที่เพิ่มความสวยงามและพืชผักสวนครัวที่บางชนิดถูกนำไปใช้ประกอบอาหารในร้าน ‘1-Arden’ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย สวนบนตึกแห่งนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ชวนให้เราได้พักผ่อนและชมวิวเมืองท่ามกลางธรรมชาติบนตึกสูงไปพร้อมๆ กัน
เวลาทำการ : คนทั่วไปเข้าฟรีทุกวันจันทร์-ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ) เวลา 08.30 – 10.30 น. และ 14.30 – 18.00 น. เท่านั้น
แผนที่ : maps.app.goo.gl/AdGUzaEaCub4tpUV6
Singapore Zoo หนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลก
สวนสัตว์ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศที่พร้อมต้อนรับทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ซึ่ง ‘Singapore Zoo’ เองก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว แล้วทำไมเราถึงจะไม่แวะไปดูให้เห็นกับตากันล่ะ
Singapore Zoo ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ มีสัตว์กว่า 4,200 ตัว ในพื้นที่ที่แบ่งออกเป็น 11 โซน สวนสัตว์แห่งนี้ถูกออกแบบให้มีความใกล้เคียงถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ มากที่สุด ผู้มาเยือนจะได้พบกับสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ทั้งที่เคยเห็นในสวนสัตว์ทั่วไปและสัตว์แปลกๆ ที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นหนึ่งพื้นที่การเรียนรู้ที่น่าสนใจของคนทุกวัยที่ได้ไปเที่ยวที่สิงคโปร์
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 – 18.00 น. (เข้าได้จนถึงเวลา 17.00 น.)
แผนที่ : maps.app.goo.gl/6iuAkvyHqqfum7pS9
Mandai Bird Paradise สวนนกขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ถัดไปไม่ไกลจาก Singapore Zoo มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานมานี้ นั่นคือ ‘Mandai Bird Paradise’ สวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่เปิดให้ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ชื่นชอบนกได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของสัตว์ชนิดนี้ตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิดกว่า 3,500 ตัวจาก 400 สายพันธุ์ ทั้งจากแอฟริกา อเมริกาใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
ภายในสวนนกมีทั้งหมด 10 โซน และกรงนกขนาดใหญ่จำนวน 8 กรงที่เชื่อมต่อกัน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจได้อย่างสะดวกสบาย โดยแต่ละกรงได้จำลองระบบชีวนิเวศจากทั่วโลกเอาไว้ ทั้งป่าฝนแอฟริกา พื้นที่ชุ่มน้ำในอเมริกาใต้ นาข้าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงป่ายูคาลิปตัสของออสเตรเลีย ซึ่ง Bird Paradise ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ดูแล วิจัย และอนุรักษ์พันธุ์นกอีกด้วย
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น. (เข้าได้จนถึงเวลา 17.00 น.)
แผนที่ : maps.app.goo.gl/VHVbSMTYSBzC6W9VA
Singapore Sidecars นั่งวินเทจเวสป้าลัดเลาะชมเมือง
เมื่อพูดถึงการนั่งรถชมเมือง ภาพที่นึกถึงอาจจะเป็นรถบัสสองชั้นที่ค่อยๆ วิ่งไปตามถนนสายใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตของผู้คนในเมือง
แต่สำหรับ ‘Singapore Sidecars’ คือบริการที่จะพาเราลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ในเมืองด้วยรถ ‘เวสป้า’ พาหนะที่ครั้งหนึ่งเคยมีโรงงานผลิตอยู่ที่สิงคโปร์แห่งนี้ เพื่อให้เห็นชีวิตการเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นจริงๆ และได้เห็นมุมมองต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราอาจจะไปไม่ถึงด้วยตัวเอง รวมไปถึงยังได้เก็บบรรยากาศแทบทั้งหมดของเมืองในเวลาไม่กี่ชั่วโมงได้อีกด้วย
Singapore Sidecars มีรอบทัวร์ให้เลือกตั้งแต่เช้าจนถึงกลางคืน ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาจะทำให้เราได้เห็นเมืองในมุมที่แตกต่างกันออกไป ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองทัวร์ได้ที่ sideways.sg/tours
Instagram Walking Tour เดินชมย่านที่ผสมผสานด้านวัฒนธรรม
การนั่งรถเวสป้าไปในย่านต่างๆ อาจพาให้เราได้เห็นวิถีชีวิตกันแบบรวดเร็วเท่านั้น แต่หากใครอยากรู้รายละเอียดและเจาะลึกการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่น เราก็ขอชวนให้ลงชื่อในโปรแกรม ‘Instagram Walking Tour’ โปรแกรมที่จะใช้เวลา 2 ชั่วโมงพาเราเดินสำรวจ 3 ย่านที่อยู่อาศัย ได้แก่ ‘Waterloo’, ‘Bugis’ และ ‘Kampong Glam’
ความน่าสนใจก็คือย่านเหล่านี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของสามชนชาติ ได้แก่ อินเดีย จีน และมาเลเซีย ที่ถึงแม้จะแตกต่างทั้งเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม แต่ผู้คนก็สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ตัวอย่างเช่น บนถนน Waterloo ที่มีวัดจีนตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับวัดฮินดู มีกระถางธูปแบบจีนตั้งอยู่หน้าวัดสำหรับทำความเคารพเทพเจ้าในรูปแบบของชาวจีน เป็นต้น
โดยระหว่างทางเดินไปในย่านต่างๆ เราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามของอาคารเก่าและใหม่ รวมถึงได้เรียนรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับความเชื่อของการสร้างตึกเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีทริกเล็กๆ น้อยๆ ของการถ่ายรูปย่านต่างๆ สำหรับลงโซเชียลผ่านมุมมองใหม่ๆ ที่เราอาจจะนึกไม่ถึงอีกด้วย
ใครสนใจจองโปรแกรม Instagram Walking Tour แบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ singaporewards.visitsingapore.com/en/experiences/37930