มังงะขึ้นหิ้งจากแดนปลาดิบ ‘วันพีซ’ นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของการมีอิสรภาพและความรักต่อพวกพ้อง รวมไปถึงการผจญภัยไปตามเกาะต่างๆ เพื่อค้นหาขุมสมบัติและเพื่อที่จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด ซึ่งเสน่ห์ที่ทุกคนเห็นตรงกันก็คือ การผจญภัยไปยังเกาะต่างๆ ทำให้ตัวละครรวมไปถึงผู้อ่านได้เรียนรู้ผู้คน ระบบนิเวศ การปกครอง รวมไปถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในแต่ละเกาะก็มีการอ้างอิงจากโลกแห่งความจริงที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่าการอ้างอิงถึง LGBTQ+ นั้นก็ปรากฏในวันพีซด้วยเช่นกัน
การนำเรื่องราว สังคม วัฒนธรรม ในโลกแห่งความจริงมาแต่งแต้มสีสันให้กับโลกของวันพีซ นับว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้วันพีซนั้นประสบความสำเร็จไปทั่วโลก และเป็นอีกหนึ่งมังงะที่กลายเป็นเครื่องมือซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในการสื่อสารตั้งแต่วัฒนธรรม เยาวชน สู่ผู้คนทั่วโลก ทั้งยังสะท้อนวัฒนธรรมและภาพสังคม LGBTQ+ ในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม
ภาพจำเดิมๆ ของตัวละคร LGBTQ+
ดินแดนที่มีความอิสระจากกรอบความคิด ขนบธรรมเนียม หรือประเพณีในเรื่องของเพศสภาพนั้น คงเป็นเรื่องที่ชาว LGBTQ+ ถวิลหามาโดยตลอด การได้เลือกตัวตนของตัวเองโดยไม่มีอะไรปิดกั้น พร้อมกับแรงสนับสนุนจากผู้คนที่รายล้อมไปด้วยวิถีชีวิตและแนวคิดที่เหมือนกัน ทำให้เกิดความกลมเกลียวจนเป็นปึกแผ่นและเกิดเป็นอาณาจักรขึ้นมานั้น คงเป็นดินแดนที่สวยงามอุดมไปด้วยความรัก รสชาติแห่งความฝันอันยิ่งใหญ่นี้อาจจะเกิดขึ้นได้ยากในโลกแห่งความจริง แต่ในโลกแห่งจินตนาการนั้นทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้ความคิดสร้างสรรค์และสื่อออกมาด้วยปลายปากกา
เกาะโมโมอิโระ เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ในแกรนด์ไลน์หรือเส้นแบ่งน่านน้ำ เรียกได้ว่าเป็นเกาะสวรรค์ ทั้งเกาะเต็มไปด้วยสีชมพู ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ พืชพรรณ หรือแม้กระทั่งท้องฟ้าก็ยังกลายเป็นสีชมพู
เกาะโมโมอิโระเป็นที่ตั้งของอาณาจักรคามาบักกะ เป็นอาณาจักรที่มีสมญานามว่า ‘Those with a Heart of a Maiden’ หรือ ‘ผู้ที่มีหัวใจของหญิงสาว’ ซึ่งเมื่อนำชื่ออาณาจักรที่เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลออกมาตรงๆ ตัว จะแปลได้ว่า ‘เต็มไปด้วยกะเทย’
เกาะนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อหนึ่งในสมาชิกของโจรสลัดหมวกฟาง ‘ซันจิ’ ถูกส่งมายังเกาะแห่งนี้ แต่เนื่องจากนิสัยความคลั่งไคล้ผู้ชายของสาวประเภทสองที่อาศัยอยู่ในเกาะนั้นขัดแย้งกับนิสัยความคลั่งไคล้หญิงสาวรูปงามอย่างซันจิโดยสิ้นเชิง จึงขนานนามสถานที่แห่งนี้ว่า ‘นรก’ สำหรับซันจินั่นเอง
ประชากรผู้อาศัยของราชอาณาจักรแห่งนี้จะเป็นชายชาตรีที่มีหัวใจของหญิงสาวหมดทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นตัวละคร ‘กะเทย’ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสื่อบันเทิงต่างๆ ที่มีลักษณะทางกายภาพเหมือนผู้ชายอย่างชัดเจน แต่มีบุคลิกภาพและอารมณ์ในแบบผู้หญิงอย่างมากเช่นกัน
ผนวกกับที่ซันจิต้องทุรนทุรายหนีสุดชีวิต ทำให้เป็นภาพที่ ‘ตลก’ และ ‘น่ากลัว’ ไปพร้อมๆ กัน ประเด็นที่กลายเป็นข้อถกเถียงก็คือ ‘ภาพลักษณ์’ ของเหล่าตัวละคร LGBTQ+ ในเกาะแห่งนี้จะถูกดีไซน์ออกมาให้ดูน่ากลัว ถึงแม้ว่าจะมีความตั้งใจดีไซน์ตัวละครเพื่อจุดประสงค์เชิงตลก แต่ก็เป็นภาพจำเดิมๆ ของชาว LGBTQ+ ที่ต้องเห็น…อีกแล้ว
ภาพลักษณ์อันหลากหลายที่ต้องการ
‘Asian Boss’ สื่อคุณภาพในโลกโซเชียลมีเดียที่คอยถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ในทวีปเอเชียแบบเจาะลึกถึงผู้คน ได้ทำการสัมภาษณ์ชาว LGBTQ+ ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อเป็นกระบอกเสียงถึงทัศนคติของชาว LGBTQ+
หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์ได้กล่าวไว้กับรายการว่า
“คุณจะเห็นชาวเกย์จำนวนมากในทีวีญี่ปุ่น คนเหล่านั้นมักมีภาพจำให้ดูแปลกประหลาด คุณจะเห็นเทรนด์ของเกย์หรือกะเทยที่ถูกหัวเราะเยาะ ผู้ชมจะดูพวกเขาเพราะมันประหลาด
“ถึงแม้ว่าฉันต้องการจะพูดถึงประเด็น LGBTQ+ คนอื่นจะมองมันเป็นเรื่องตลก
และคนที่มีรสนิยมตรงตามเพศของตัวเองจะมองมันเป็นเรื่องบันเทิง (Fiction)
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังไม่มองว่ามันเป็นปัญหาอะไรจริงๆ”
ประเด็นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการโชว์ วาไรตี้ หรือรายการตลกต่างๆ มักจะนำเสนอตัวละคร LGBTQ+ ด้วยภาพลักษณ์ที่ตลกหรือแปลกประหลาดเท่านั้น
ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ภาพจำของชาว LGBTQ+ นั้นแปลกประหลาด เป็นตัวตลก และไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม โดยเฉพาะช่วงสมัยก่อนที่โลกออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปัจจุบันก็มีสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ หลายเรื่องที่นำเสนอชีวิตของเหล่า LGBTQ+ ที่พยายามโชว์ภาพลักษณ์ของ LGBTQ+ ให้เกิดความหลากหลาย วันพีซก็นำเสนอตัวละคร LGBTQ+ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน
ภาพสะท้อนความเป็นผู้นำ เอ็มโพริโอ อิวานคอฟ
“ปาฏิหาริย์จะโบยบินลงมาบนหัวของคนที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้น อย่ามาดูถูกปาฏิหาริย์ให้มันมากนัก!”
เอ็มโพริโอ อิวานคอฟ
เอ็มโพริโอ อิวานคอฟ หรือ อีวา มีตำแหน่งเป็นผู้ปกครองอาณาจักรคามาบักกะ และเป็นหนึ่งในผู้นำกองทัพของคณะปฏิวัติที่มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างรัฐบาลโลก ด้วยเหตุนี้ ทำให้อิวานคอฟถูกจับและถูกส่งไปในคุกอิมเพลดาวน์ และได้สถาปนาดินแดนนิวคาม่า ดินแดนลับในอิมเพลดาวน์ที่ยึดมั่นในความอิสระอีกด้วย
อิวานคอฟเป็นชายที่มีร่างกายสูงใหญ่ มีขนตาที่โดดเด่น และทรงผมแอโฟรสีม่วงอันโดดเด่น ด้วยการดีไซน์รูปร่างหน้าตาและคาแรกเตอร์ของอีวานคอฟ ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นที่จดจำได้ง่าย นิสัยส่วนตัวของอีวานคอฟจะเป็นคนที่เสียงดังและเปิดเผย ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและความผูกพันเหนือสิ่งอื่นใด เขามักจะมีแรงจูงใจในการช่วยเหลือเพื่อนฝูงอยู่เสมอ นอกจากนี้ เขายังมีความเชื่อว่าผู้คนควรเป็นในสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือโอคามะ (กะเทย) ขอแค่ได้เป็นสิ่งที่อยากเป็นก็เพียงพอแล้ว อิวานคอฟเคยกล่าวไว้ว่าการแบ่งแยกเพศนั้นได้ก้าวข้ามมันไปตั้งนานแล้ว
‘ปาฏิหาริย์’ ในความคิดของอิวานคอฟจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้เท่านั้น เขาเป็นคนที่สนับสนุนคนที่ไม่ละทิ้งความฝันอย่างสุดแรงกล้า และจะไม่แยแสคนที่คอยพึ่งพิงคนอื่นตลอดเวลา อีวานคอฟมักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับ ‘กำลังใจ’ ในการใช้ชีวิตกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
ความสามารถพิเศษของอิวานคอฟนั้นเรียกได้ว่าเหมาะสมอย่างมาก เขาเป็นมนุษย์ที่กินผลไม้ปีศาจ โฮรุ โฮรุ (ฮอร์โมน) เข้าไป จึงกลายเป็นมนุษย์ที่ควบคุมฮอร์โมนได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ อุณหภูมิร่างกาย สารก่อให้เกิดสี การเติบโต หรือแม้กระทั่งอารมณ์ เปรียบเป็นวิศวกรของร่างกายมนุษย์ที่สามารถดัดแปลงมนุษย์จากภายในร่างกายได้นั่นเอง
ภาพสะท้อนของมิตรภาพ Bentham Bon Clay
Bon Clay ในอดีตเคยเป็นหนึ่งในศัตรูตัวหลักของกลุ่มหมวกฟาง แต่ด้วยมิตรภาพที่เกิดขึ้นทำให้เป็นเพื่อนรักกันในที่สุด บอน เคลย์จึงเป็นหนึ่งในตัวละครแรกๆ ที่เรียกตัวเองว่า ‘กะเทย’ มีลักษณะอุปนิสัยคล้ายคลึงกับอิวานคอฟ คือเป็นคนพูดจาเสียงดังและเปิดเผย นิสัยที่โดดเด่นสุดๆ ของบอน เคลย์ เป็นคนที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อช่วยเหลือมิตรภาพเพื่อนฝูง ปัจจุบันเป็นผู้ดูแลดินแดนนิวคาม่าในคุกอิมเพลดาวน์แทนอิวานคอฟ
นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของตัวละครบอน เคลย์นั้นยังถูกใจแฟนๆ วันพีซเป็นอย่างมาก เพราะเขาเป็นคนที่เสียสละ มีความชอบธรรมอย่างไม่น่าเชื่อ และภูมิใจในตัวเองอย่างมากที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเพื่อนฝูง เขามักจะกระตุ้นให้เกิดการกระทำดังกล่าวโดยการกล่าวว่า การละทิ้งมิตรภาพของเขานั้นขัดต่อ ‘วิถีแห่งกะเทย’
ในมุมของตัวละครอย่างอีวานคอฟ หรือบอน เคลย์ จะได้คำตอบรับที่ดี เป็นพลังบวกที่ขับเคลื่อนให้วันพีซมีความสนุกเพิ่มขึ้นอย่างมาก เหล่าแฟนคลับไม่เพียงแต่รักตัวละครเหล่านี้เพราะความสนุกสนานเฮฮา แต่พวกเขายังถูกมองเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่เป็นพันธมิตรและมีอิทธิพลต่อกลุ่มหมวกฟางอีกด้วย สองตัวละครนี้เป็นตัวละคร LGBTQ+ ที่ไม่เคยถูกนำเสนอในแง่ลบต่อแฟนๆ ถึงแม้จะสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์เชิงตลกได้ แต่ก็ไม่แสดงให้เห็นถึงเจตนาร้าย แถมยังเป็นตัวละครที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพอย่างชัดเจน พวกเขาไม่เคยถูกมองว่าเป็น ‘ตัวละครที่น่ากลัว’
ภาพลักษณ์ของตัวละคร LGBTQ+ ไม่จำเป็นต้องติดตลกเสมอไป
อินาซึมะ หนึ่งในสมาชิกกองทัพปฏิวัติที่คอยติดตามอิวานคอฟอยู่ไม่ห่างก็เป็นตัวละครที่ควรกล่าวถึงเป็นพิเศษเมื่อพูดถึงเรื่อง LGBTQ+ เพราะเป็นตัวละครนี้มีความเท่ นุ่มลึก และเป็นตัวละคร LGBTQ+ ที่ไม่ได้ถูกสร้างมาใช้ในเชิงตลกหรือส่อให้ไปในทางที่ล่อแหลมอีกด้วย
คิคุโนะโจ คืออีกตัวละครที่น่าสนใจ สิ่งที่ทำให้คิคุน่าสนใจก็เพราะเป็นตัวละคร LGBTQ+ ที่ถูกดีไซน์มาไม่มีเหมือนกับตัวละคร LGBTQ+ ตัวอื่นเลย โดยคิคุเป็นตัวละครที่ไม่ได้ใช้ลักษณะท่าทางหรือสรีระร่างกายในการบ่งบอกเพศที่แท้จริงกับตัวเอง กลับกันผู้อ่านจะสามารถเรียนรู้อัตลักษณ์ทางเพศผ่านบทสนทนาของตัวละครเพียงเท่านั้น
ตัวละครนี้ไม่มีภาพลักษณ์เชิงลบให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่าคิคุเป็นภาพลักษณ์ของตัวละคร LGBTQ+ ที่ดีที่สุดของวันพีซเลยก็ว่าได้
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและก้าวหน้าอย่างมากที่ได้เห็นตัวละคร LGBTQ+ ในการ์ตูนมังงะระดับโลกในเชิงบวกมากขึ้น แท้จริงแล้วยังมีอีกหลายตัวละครที่ถูกดีไซน์ออกมาให้เป็นมากกว่าแค่เพศหญิงหรือชาย สิ่งที่อาจารย์โอดะกำลังนำเสนอนั้นสามารถเป็นภาพลักษณ์และภาพจำในอนาคตสำหรับคนรุ่นเก่าและใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ย้อนกลับมาในสังคมญี่ปุ่น หากพูดถึงสิทธิพื้นฐานต่างๆ ของชาว LGBTQ+ ก็ถือว่ามีพัฒนาการเป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานในเอเชีย อย่างการจัด Tokyo Rainbow Pride ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2012 และมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี รวมไปถึงการสอดแทรกตัวละคร LGBTQ+ ลงไปในสื่อบางมุม และถึงแม้ว่าตอนนี้คู่รักเพศเดียวกันจะยังไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็มีบางเมืองที่สามารถออกใบรองรับในการอยู่ร่วมกันของคู่รักเพศเดียวกันได้แล้ว
Photo Credit : One Piece