สำรวจ ‘เมืองทองธานี’ เมืองเล็กในเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหยุดเติบโต

“ครั้งล่าสุดที่ไปเมืองทองคือเมื่อไรกันนะ” คนรักบ้านและสวนอาจตอบว่าเมื่อปลายปีที่แล้วที่งานแฟร์ คนรักรถน่าจะไปเดินเล่นงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หรือหลายคนอาจไปคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชื่นชอบเมื่อไม่นานมานี้ ‘เมืองทองธานี’ ไม่ได้ขึ้นชื่อแค่เรื่องอีเวนต์ที่จัดอยู่ตลอดทั้งปี แต่ยังมีที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ ร้านรวงยันห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ และสนามกีฬาประเภทต่างๆ โดยเฉพาะฟุตบอล กับการมีสโมสรประจำย่านที่มีแฟนคลับเข้าเส้นไม่ต่างจากสโมสรในต่างประเทศ ปกติแล้วคอลัมน์ Neighboroot มักจะชวนผู้อ่านลงพื้นที่ ย่ำตรอก ออกซอย สำรวจย่านต่างๆ ในเมืองหลวงเป็นหลัก แต่สำหรับครั้งนี้เราขอชวนออกไปปริมณฑลเพื่อนบ้านเมืองหลวง อัปเดตวิถีชีวิตชาวเมืองทอง กินอย่างคนเมืองทอง และเชียร์ฟุตบอลอย่างทีมเมืองทองฯ กันดูบ้าง ‘เมืองทองธานี’ เรียกว่าเป็นเมืองขนาดย่อมๆ ก็ไม่ผิดนัก หากเล่าอย่างคร่าวๆ เพื่อให้รู้จักที่มาที่ไปเร็วที่สุด โครงการอภิมหาโปรเจกต์มิกซ์ยูสนี้เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2533 จากความตั้งใจของบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่อยากสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขยับออกมาในเขตชานเมือง ตามอย่างในฮ่องกง พื้นที่รวมๆ ในเมืองทองธานีสามารถแบ่งได้เป็น 2 โซนหลักคือ โซนที่อยู่อาศัย มีทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว แบ่งซอยย่อยๆ แยกจากถนนใหญ่ไม่ต่างจากในเมือง วางแลนด์สเคปและผังเมืองในโครงการมาอย่างดี หากโซนแรกมีวิถีชีวิตที่เงียบๆ และไม่ค่อยพลุกพล่าน อีกฟากหนึ่งคงให้ความรู้สึกต่างออกไป เพราะโซนพื้นที่เชิงพาณิชย์-ศูนย์แสดงสินค้า จะคึกคักตลอดทั้งปี สถานที่ที่หลายคนคุ้นชินน่าจะเป็นชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค […]

‘mum’ โครงการเปลี่ยนขยะจากมหาสมุทรให้กลายเป็นอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์สำหรับชาวประมง

สาเหตุหนึ่งของ ‘ปัญหาขยะจากทะเล’ เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาปลาของชาวประมง ไม่ว่าจะเป็นอวน ทุ่น และเชือก ที่เมื่อใช้งานจนเสื่อมสภาพและไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้แล้ว สิ่งของเหล่านี้มักจะถูกทอดทิ้งจนกลายเป็นขยะจำนวนมากใต้ท้องทะเล ทาง ‘PAN- PROJECTS’ สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงได้ร่วมมือกับ ‘REMARE’ บริษัทสตาร์ทอัปของญี่ปุ่นและชุมชนประมงท้องถิ่นในจังหวัดมิเอะ เพื่อริเริ่ม ‘mum’ โครงการอัปไซเคิลขยะในทะเลให้กลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้งแทนการปล่อยทิ้งเอาไว้หรือนำไปกำจัดทิ้งด้วยการเผา โดยทีมออกแบบเลือกเปลี่ยนขยะเหล่านั้นให้คืนชีพกลับมาเป็นอุปกรณ์ตกปลา ด้วยการนำไปบดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากอุปกรณ์ตกปลาแล้ว โครงการนี้ยังนำขยะมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์เพื่อที่ชาวประมงจะได้นำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ อย่างเช่นใช้เป็นโต๊ะกินข้าวหรือจุดวางสิ่งของและปลาที่จับมาก็ได้ แรงบันดาลใจส่วนใหญ่ของการออกแบบขยะจากทะเลเหล่านี้มาจากวัฒนธรรมของญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดกำเนิดของโครงการ รวมถึงภูมิศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเองที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลกว้างใหญ่ โครงการ mum จึงอยากสร้างความตระหนักและเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อพลาสติกในทะเลว่าขยะเหล่านี้สามารถเปลี่ยนให้เป็นของขวัญจากทะเลที่มีประโยชน์ได้ Sources :Designboom | bit.ly/3J85SUR PAN- Projects | pan-projects.com

คาเฟ่เจ้าชายน้อยแห่งแรกในกรุงเทพฯ ดื่มกาแฟพร้อมชมภาพเอ็กซ์คลูซีฟในอาร์ตแกลเลอรี ที่ซอยสวนพลู

แฟนหนังสือเจ้าชายน้อยในไทยไม่ต้องวางแผนเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศ แต่สามารถขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าไปสู่ดวงดาวหรือ ‘คาเฟ่เจ้าชายน้อย’ แห่งแรกในกรุงเทพฯ กันได้แล้วที่ซอยสวนพลู  โดยคาเฟ่เจ้าชายน้อยแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ ‘L’Envol Art Space’ อาร์ตแกลเลอรีของ ‘Arnaud Nazare-Aga’ ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้สร้างผลงานประติมากรรมเจ้าชายน้อย ที่นอกจากจะนำไปจัดแสดงที่ฮ่องกงและสิงคโปร์แล้ว ผลงานเหล่านี้ยังมีให้ชมในคาเฟ่และอาร์ตแกลเลอรีแห่งนี้ด้วย สำหรับเมนูในคาเฟ่นี้ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากรายละเอียดต่างๆ ในเรื่อง ทั้งทีรามิสุชีป จากตัวละครแกะของเจ้าชายน้อย, บราวนีบ็อกซ์ จากกล่องใส่แกะ, สตรอว์เบอร์รีโรส จากดอกกุหลาบที่เจ้าชายน้อยทะนุถนอมเป็นอย่างดี และโรสลาเต้ ที่ลาเต้อาร์ตในถ้วยจะเป็นภาพของเจ้าชายน้อย นอกจากจะมีขนมและเครื่องดื่มแล้ว ในคาเฟ่ยังมีหนังสือเจ้าชายน้อยในเวอร์ชันภาษาต่างๆ ให้ได้อ่านระหว่างดื่มด่ำกับบรรยากาศดวงดาวของเจ้าชายน้อยกัน อีกหนึ่งความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้ที่ไม่อยากให้แฟนหนังสือเจ้าชายน้อยพลาดไปก็คือ ผลงานต่างๆ จากหนังสือที่มีเฉพาะในคาเฟ่แห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพดราฟต์แรกของเจ้าชายน้อยที่เป็นออริจินัลดราฟต์ ภาพดราฟต์ Butterfly Hunter ที่ไม่มีในหนังสือ รวมถึงภาพหมวกหรืองูกินช้างที่มีแค่สองชิ้นบนโลกเท่านั้น และเร็วๆ นี้ทางคาเฟ่ยังจะจัดอีเวนต์ Storytelling ที่ Arnaud Nazare-Aga จะมาพูดคุยกับแฟนหนังสือถึงเรื่องราวของคาเฟ่นี้ด้วย คาเฟ่เจ้าชายน้อยเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. ที่ L’Envol Art Space by […]

Live House ธุรกิจที่ส่งเสริมให้คนเข้าถึงศิลปะมากขึ้น l Urban เจอนี่ เจอ Live House

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับงานศิลปะอาจจะไม่ใช่ของคู่กัน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล้าเบียร์มีส่วนทำให้ผู้คนเข้าถึงและอินกับผลงานได้ง่ายขึ้น เครื่องดื่มประเภทนี้จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาของวัฒนธรรมการชมงานศิลปะในประเทศไทยมาช้านาน แต่จะเป็นอย่างไรถ้ามีสถานที่ที่ตั้งใจทำให้ตัวเองเป็นเหมือนกระดาษเปล่า และเปิดโอกาสให้ศิลปินทุกแขนงมาสาดสีผ่านไอเดียและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ โดยไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีแนวร็อก แนวอิเล็กทริก หรือจะจัดแสดงผลงานวิชวลหรือคอนเซปต์อาร์ต โดยมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจุดประสงค์รอง Urban เจอนี่ เอพิโสดนี้ จึงอยากพาทุกคนไปรู้จัก DECOMMUNE สถานที่ที่ไม่จำกัดตัวเองเป็นแค่ไลฟ์เฮาส์ ซึ่งมีแนวคิดการทำธุรกิจด้วยการหาจุดตรงกลางระหว่างความมึนเมาและการแสดงผลงานสร้างสรรค์

ชวนไปฟังเพลง อ่านซีน ทำเวิร์กช็อป ในงานฤดูร้อน happening 10Fest 4 – 5 มี.ค. 66 ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

ชวนไปฟังเพลง อ่านซีน ทำเวิร์กช็อป ในงานฤดูร้อน happening 10Fest วันที่ 4 – 5 มี.ค. 66 ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ หน้าร้อนนี้ เรามีงานน่ารักๆ มาชวนทุกคนออกไปเดินเล่นกันกับ ‘happening 10Fest’ ครั้งที่ 1/10 ที่มาในธีม ‘Summer Summer’ รับรองว่าจะได้พบกับความอบอุ่นที่ไม่อบอ้าวแน่นอน ความอบอุ่นที่หนึ่งคือ การเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากคอนเสิร์ตของเหล่าวงดนตรีและศิลปินที่ยกขบวนกันมาทำให้ฤดูร้อนครั้งนี้สดชื่นหัวใจ เช่น Bell Warisara, No One Else, Jesse Mek, Ketaya, Vitamin D from The Sun และ Coconut Sunday อบอุ่นที่สองไปกับหลากหลายแบรนด์ดีไซน์เกือบ 50 รายชื่อที่จะนำสินค้าที่เห็นแล้วใจบอกเลยว่าของมันต้องมี แถมยังพ่วงด้วยราคาสุดพิเศษมาวางจำหน่ายภายในงานนี้ อบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีกกับ Special Workshop ที่จะได้ทักษะที่ไม่เคยมีกลับบ้านไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ‘BIGKNIT BIG […]

ต่างศาสนาก็อยู่ร่วมกันในที่เดียวได้ ‘Abrahamic Family House’ พื้นที่ที่รวมศาสนสถานของคริสต์ ยูดาห์ และอิสลามไว้ด้วยกัน

ใครจะคิดว่าในโลกนี้จะมีสถานที่ที่นำศาสนสถานของ 3 ศาสนาอย่างคริสต์ ยูดาห์ และอิสลาม มาอยู่รวมในพื้นที่เดียวกันที่มีขนาด 6,500 ตารางเมตรได้ ‘Abrahamic Family House’ คือชื่อเรียกของสถานที่แห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ในย่านศิลปวัฒนธรรมบนเกาะซาดิยาต เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้เปิดตัวให้สาวกทั้ง 3 ศาสนาได้เข้าใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากมีการลงนามในเอกสารว่าด้วยภราดรภาพของมนุษย์โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส และแกรนด์อิหม่าม อาเหม็ด อัล-ตอเยบ ให้สร้างขึ้นในปี 2019 การออกแบบครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างมากของสตูดิโอออกแบบ ‘Adjaye Associates’ เพราะต้องออกแบบให้ทั้ง 3 ศาสนสถานมีขนาดที่เท่ากัน เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าไม่มีอาคารใดในสามหลังที่โดดเด่นไปกว่ากัน และในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ตัวอาคารเป็นพื้นที่ที่สาวกทั้ง 3 ศาสนาอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ขัดกับหลักคิดและแนวทางออกแบบศาสนสถานอื่นๆ Abrahamic Family House เป็นเสมือนศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้และการสนทนาระหว่างศาสนา ที่พร้อมเปิดรับคนทั่วไปที่ไม่ได้นับถือศาสนาใดให้เข้ามาเยี่ยมชม ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาได้จริง โดยพื้นที่ภายใน Abrahamic Family House แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ 1) Imam Al-Tayeb Mosque […]

พาไปเที่ยว 10 ร้านหนังสือทั่วโลกที่ขายคอนเซปต์จัดๆ จับคู่กับหนังสือภายในร้าน

เหตุผลที่คุณจะเข้าร้านหนังสือสักแห่งคืออะไร อาจเป็นเพราะมีหนังสือที่อยากได้ มีการตกแต่งร้านที่สวยงาม หรือบังเอิญเจอจนต้องลองแวะเข้าไป ทว่าบางร้านไม่ได้มีแค่หนังสือหรือการออกแบบร้านที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังจัดจ้านด้วยคอนเซปต์เฉพาะตัว จนกลายเป็นร้านหนังสือที่มาพร้อมกิมมิกแบบที่หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครทำ คอลัมน์ Urban’s Pick จึงอยากพาทุกคนไปรู้จัก 10 ร้านหนังสือจากทั่วโลก ที่ไม่ได้ขายแค่หนังสืออย่างเดียว แต่ยังขายคอนเซปต์ที่ยูนีกแบบสุดๆ ตั้งแต่ร้านที่ขายหนังสือประเภทเดียว ร้านที่ขายหนังสือสัปดาห์ละหนึ่งเรื่อง ร้านที่มีแต่หนังสือและสินค้าเกี่ยวกับแมว ไปจนถึงร้านหนังสือลอยน้ำที่เปลี่ยนโลเคชันไปเรื่อยๆ The Ripped BodiceCulver City, USA ถ้าให้พูดถึงร้านหนังสือที่สวยที่สุดในสหรัฐอเมริกาคงจะยากไปสักหน่อย เพราะมีหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ถ้าเปลี่ยนคำถามเป็นร้านหนังสือที่โรแมนติกที่สุดในสหรัฐฯ คำตอบคงหนีไม่พ้น ‘The Ripped Bodice’ ใน Culver City รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นร้านหนังสือเพียงแห่งเดียวที่ทั้งร้านมีขายเฉพาะหนังสือโรแมนติกเท่านั้น หนังสือโรแมนติกใน The Ripped Bodice มีเนื้อหาให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น หนังสือแนวโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ แนวโรแมนติกร่วมสมัย แนวโรแมนติกอาถรรพ์ แนวไซไฟ และเรื่องราวที่เกี่ยวกับ LGBTQ+ รวมทั้งยังมีให้เลือกหลายภาษา นอกจากหนังสือแล้ว ร้านค้ายังมีสินค้าอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย โดยจะเน้นการสนับสนุนธุรกิจอิสระที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของเป็นหลัก ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ของเหล่าคนรักหนังสือแนวโรแมนติก […]

‘ซีรีส์วาย’ ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยหรือสื่อที่กำลังทำลายอุตสาหกรรมบันเทิง?

แม้ ‘ซีรีส์วาย’ จะดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ในสังคมเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ปัจจุบันซีรีส์วายได้กลายมาเป็นซีรีส์อีกประเภทหนึ่งที่สามารถครองใจผู้ชมทั้งจอแก้วและโลกออนไลน์ได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์ ที่ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างประเทศต่างก็พูดถึงตัวซีรีส์และนักแสดงจนติดเทรนด์กันอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงคนทั่วไปมองว่านี่คือหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในปัจจุบัน อีกทั้งอุตสาหกรรมนี้ยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง เนื่องจากสร้างรายได้อย่างมหาศาลทั้งในและนอกประเทศ จนก่อให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เรียกว่า ‘Y Economy’ แต่ซีรีส์วายจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ฟังดูดีมีเพียงแง่บวกของประเทศเราได้จริงๆ ใช่ไหม เพราะในอีกมุมหนึ่ง สื่อประเภทนี้ก็เข้ามาสร้างผลกระทบไม่น้อยให้อุตสาหกรรมบันเทิงบ้านเรา จนบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า หรือจริงๆ แล้วซีรีส์วายกำลังเป็นสื่อที่ทำลายอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยอยู่กันแน่ หนังเรียก ‘เกย์’ แต่ซีรีส์เรียก ‘วาย’ เคยสังเกตกันไหมว่า ทำไมเราถึงเรียกภาพยนตร์ที่มีตัวเอกเป็นชายรักชายว่า ‘หนังเกย์’ แต่พอเป็นซีรีส์ที่มีนักแสดงนำรูปแบบเดียวกันกลับเรียกว่า ‘ซีรีส์วาย’ ที่เป็นเช่นนี้เพราะภาพยนตร์ของกลุ่ม LGBTQIA+ ที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ไม่ว่าจะเป็น ‘รักแห่งสยาม’ ‘พี่ชาย My Hero’ หรือ ‘My Bromance’ ต่างฉายในช่วงเวลาที่คำว่า ‘วาย’ ยังไม่เป็นที่พูดถึงและใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงบริบทของสังคมไทยก็ยังไม่เปิดรับความหลากหลายทางเพศมากนัก แตกต่างจากการเข้ามาของสื่อบันเทิงในรูปแบบซีรีส์ที่ใช้นักแสดงหลักเป็นเพศชายในประเทศไทยครั้งแรกอย่าง ‘Love Sick The Series’ ที่มีการดัดแปลงบทละครจากนิยายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ถูกเรียกระหว่างกลุ่มนักอ่านและนักเขียนด้วยกันเองว่า ‘นิยายวาย (Y)’ ซึ่งย่อมาจากศัพท์ภาษาญี่ปุ่นคำว่า Yaoi […]

แคมเปญ #ออนหยุดขัง อยู่ที่ไหนก็ให้กำลังใจ ‘ตะวัน-แบม’ ได้ ในเว็บไซต์ freeourfriends

แคมเปญ #ออนหยุดขัง อยู่ที่ไหนก็ให้กำลังใจ ‘ตะวัน-แบม’ ได้ในเว็บไซต์ freeourfriends เรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องในสังคมไทยตอนนี้คือ มูฟเมนต์การเรียกร้องสิทธิ์ให้คืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองของ ‘ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ และ ‘แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์’ หลังจากที่ทั้งคู่ประกาศเจตนาว่าจะอดน้ำและอาหารตั้งแต่เข้าเรือนจำ จนตอนนี้พวกเขาพาร่างกายอันอิดโรยไปปักหลักบริเวณหน้าศาลฎีกา เป็นเวลารวมกว่า 40 วันแล้ว ทั้งคู่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า เพื่อนทุกคนจะต้องได้สิทธิในการประกันตัว ซึ่ง ณ เวลานี้ยังเหลือผู้ถูกคุมขังที่เหลือคือ ‘คทาธร’, ‘ถิรนัย’ และ ‘ชัยพร’ ซึ่งเมื่อการเรียกร้องยังไม่สิ้นสุด นั่นเท่ากับว่าการอดอาหารและน้ำยังคงดำเนินต่อไป โดยทั้งสองยังคงไม่เข้ารับการรักษาร่างกายใดๆ  ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนไม่น้อยก็มุ่งหน้าเดินทางไปร่วมกิจกรรมเรียกร้องที่หน้าศาลฎีกา ในหลายจังหวัดมีการจัดแคมเปญยืนหยุดขัง หรือคนไทยในต่างประเทศก็พยายามแสดงสัญลักษณ์และส่งเสียงร่วมกับตะวัน-แบม เพื่อให้ศาลพิจารณาปล่อยเพื่อนๆ ของพวกเขาที่ยังคงถูกลิดรอนสิทธิ์จากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง  ส่วนใครที่ไม่สะดวกเดินทางออกจากบ้านหรือไปยังสถานที่นัดหมาย ทางเว็บไซต์ ‘freeourfriends.org’ ได้สร้างแพลตฟอร์ม ‘ออนหยุดขัง’ ที่ไม่ว่าใคร จะอยู่ที่ไหนในโลกก็สามารถมายืนหยุดขังร่วมกันได้  วิธีการง่ายนิดเดียว เพียงคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ www.freeourfriends.org ก็จะพบกับหน้าต่างให้เราเลือกการแสดงตัวตนในแบบที่ต้องการ ได้แก่ สีของตัวละครและข้างของมือที่ถนัด หมุดหมายที่ทุกคนจะได้เข้าไปร่วมยืนหยุดขังกันคือ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ประดับประดาด้วยต้นทานตะวันเรียงราย โดยเมื่อเข้าไปในพื้นที่ เรายังเลือกได้อีกว่าจะแสดงออกในอิริยาบถแบบไหน เช่น นั่ง […]

‘คลองแม่ข่า’ สายน้ำเน่าที่กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นอนาคตของเมืองเชียงใหม่ หรือจะถอยหลังลงคลอง

หากเอ่ยถึง ‘คลองแม่ข่า’ ในปัจจุบัน หลายคนน่าจะนึกถึงทางเดินเลียบคลองสวยๆ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในตัวเมืองเชียงใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ขณะนี้ และเพิ่งได้รับสมญาใหม่ว่าเป็น ‘คลองโอตารุ’ ของจังหวัดเชียงใหม่ แต่หากย้อนกลับไปถามคนเชียงใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ทุกคนจะนึกถึงคลองแม่ข่าว่าเป็นแหล่งน้ำเน่าเสีย นั่นคือภาพลักษณ์ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาสำหรับคนเชียงใหม่  เพราะตลอดหลายปีนั้น ชาวเชียงใหม่ต่างคุ้นเคยกับการได้เห็นและได้ยินการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ที่ทุกครั้งจะต้องมีนโยบายทำคลองแม่ข่าให้กลับมาใสอยู่ด้วยเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม หลายคนจึงอดไม่ได้ที่จะหมดหวังได้เห็นคลองแม่ข่ากลับมาใส จนกระทั่งปีที่แล้วที่มีการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแม่ข่าใหม่ให้สวยงาม ด้วยภาพสะอาดสะอ้านแปลกใหม่ที่ถูกนำเสนอออกมา ทำให้คลองแห่งนี้กลับมาได้รับความสนใจจากคนเชียงใหม่จำนวนมาก ก่อนจะขยายไปถึงคนจังหวัดอื่นๆ ที่เดินทางมาเที่ยวเดินถ่ายรูปเล่นที่คลองแห่งนี้ ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่เองก็พยายามจัดให้มีกิจกรรมภายในพื้นที่แห่งนี้อยู่สม่ำเสมอ ชาวเชียงใหม่หลายคนที่ได้มาเดินเล่นที่นี่ ต่างแสดงความยินดีที่คลองแม่ข่ากลับมาเป็นคลองน้ำใส ไม่เน่าเสียอีกแล้ว…แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะพื้นที่ที่มีการปรับภูมิทัศน์ให้เดินเล่นกันนั้นเป็นเพียงแค่ระยะ 756 เมตร จากระยะทั้งหมด 11 กิโลเมตรของคลองแม่ข่าในเขตเมืองเชียงใหม่ที่ยังคงเน่าเสีย มีปัญหา และรอคอยการแก้ไขพัฒนาต่อไป จึงทำให้มีเสียงค่อนขอดขึ้นมา ตั้งแต่ความพยายามเป็นญี่ปุ่นทั้งที่เชียงใหม่ก็มีวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของตนเอง จังหวัดพยายามนำเสนอแต่ภาพลักษณ์ดีๆ ของพื้นที่คลองบริเวณนี้เพื่อซุกปัญหาคลองแม่ข่าในส่วนอื่นๆ อีกจำนวนมากไว้ใต้ภาพสวยงาม หรือแม้แต่ตำหนิว่านี่เป็นการถอยหลังลงคลอง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะ 756 เมตรของคลองแม่ข่าครั้งนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป และเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นว่าแม่ข่าเกี่ยวโยงกับผู้คน และมีคนจำนวนไม่น้อยกำลังให้ความสนใจกับลำน้ำสายนี้ คลองแห่งนี้มีความสำคัญต่อเชียงใหม่อย่างไร ทำไมถึงมีหลายองค์กรหลายผู้คนพยายามปรับปรุงให้มันกลับมาดีอีกครั้งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา  ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแม่น้ำสายนี้ คอลัมน์ Report ขอนำเสนอเรื่องราวหลากหลายมิติที่สายน้ำนี้ได้ไปเกี่ยวโยง โดยลองถอยออกจากความเป็นคลองโอตารุ ไม่ต้องถึงกับถอยลงคลอง แค่ถอยมามองและทำความรู้จักกับน้ำแม่ข่า […]

บรรเทาอาการปวดประจำเดือนด้วย ‘Myoovi’ อุปกรณ์ขนาดพกพาที่ส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็กผ่านผิวหนัง

ทุกๆ เดือน ผู้มีประจำเดือนต่างต้องประสบปัญหาความทรมานจากการปวดท้องประจำเดือนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงานหรือแม้แต่ทำกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไป จนต้องกินยาและนอนพักผ่อนเพื่อให้อาการทุเลาลง แต่บางครั้งอาการปวดท้องประจำเดือนก็ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด หากใครมีอาการรุนแรงอาจต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเครื่องกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ที่ได้รับการวิจัยและพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยได้ แต่ด้วยขนาดที่เทอะทะและมีสายเกะกะ จึงทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งานเท่าไรนัก ‘Adam Hamdi’ แพทย์ชาวอังกฤษคิดค้นและพัฒนา Myoovi ผลิตภัณฑ์ลดอาการปวดประจำเดือนในรูปแบบอุปกรณ์ไร้สายและพกพาสะดวก ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับเครื่อง TENS ในการส่งพัลส์ (Pulses) หรือสัญญาณไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ความเจ็บปวดเดินทางไปยังสมองและช่วยบรรเทาอาการปวดให้ลดลง โดยผู้ใช้งาน Myoovi จะรู้สึกเหมือนถูกนวดเป็นจังหวะๆ นอกจากนี้ ตัวอุปกรณ์ยังใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง มาพร้อมกับแผ่นรองสำหรับติดผิวหนังในจุดที่ปวด โดยตัวแผ่นรองนี้มีอายุการใช้งานประมาณ 20 – 30 ครั้งหรือนานกว่านั้นจนกว่าจะไม่เหนียวติดตัว หากเทียบระยะเวลาคร่าวๆ ก็อาจใช้งานได้นานถึงสองเดือนเลยทีเดียว Myoovi วางจำหน่ายในราคา 120 ปอนด์ หรือประมาณ 5,000 บาท สั่งซื้อได้ที่ myoovi.co.uk Sources:Dezeen | bit.ly/3IYnvWR Myoovi | myoovi.co.uk

เหล่ามังงะที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของนักเขียนการ์ตูน ‘สะอาด’

ขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่นักอ่านมังงะตัวยงหรือชื่นชอบงานเขียนประเภทการ์ตูนอะไรขนาดนั้น และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกหยิบงานของ ‘สะอาด’ มาอ่านช้าเหลือเกิน เมื่อเทียบกับคนรอบๆ ตัวที่รู้จักและอ่านงานของเขาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่รู้จักเขาเอาซะเลย เพราะเท่าที่จดจำได้ ชื่อของ ‘สะอาด’ น่าจะเป็นชื่อของคนทำงานสร้างสรรค์กลุ่มแรกๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวด้านการเมือง และแสดงจุดยืนของตัวเองอย่างเข้มแข็งผ่านปากคำให้สัมภาษณ์ในหลากหลายสื่อ รวมถึงผลงานการ์ตูนที่เผยแพร่ผ่านช่องทางของเขาเอง และลงตามสื่อออนไลน์ที่เขาร่วมงานด้วย ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง, ครอบครัวเจ๋งเป้ง, บทกวีชั่วชีวิต, การศึกษาของกระป๋องมีฝัน และให้รักเป็นบทกวีชั่วชีวิต คือผลงานส่วนหนึ่งที่ผ่านมาของนักเขียนการ์ตูนรุ่นใหม่คนนี้ นอกจากลายเส้นที่ไม่เนี้ยบ มุกตลกร้าย และคาแรกเตอร์ตัวละครที่มีเสน่ห์ (ปนกวนๆ) สิ่งที่ทำให้ผลงานของสะอาดเป็นที่ชื่นชอบของนักอ่านจำนวนมาก น่าจะหนีไม่พ้นประเด็นสังคมที่เขาสอดแทรกไว้ในการ์ตูน ตั้งแต่เรื่องอาชีพการงานของคนทำงานสร้างสรรค์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุน การศึกษา ชาติพันธุ์ สิทธิเสรีภาพ เป็นต้น ยังไม่นับการดำเนินเรื่องที่ชวนให้ติดตาม รู้สึกร่วมไปกับตัวละคร และทิ้งท้ายด้วยความหวังเล็กๆ ที่ทำให้คนอ่านอย่างเราเกือบน้ำตาคลอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงชวน ‘สะอาด’ หรือ ‘ภูมิ-ธนิสร์ วีระศักดิ์วงศ์’ มาบอกเล่าถึงเหล่ามังงะที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา ตั้งแต่มังงะเรื่องแรกที่ชอบ เรื่องที่เปลี่ยนชีวิตและแนวคิด นักเขียนมังงะที่ชื่นชม ตัวการ์ตูนที่ยกนิ้วให้ ไปจนถึงมังงะที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่าน เราจำการ์ตูนเรื่องแรกที่อ่านไม่ได้ แต่จำเรื่องแรกที่อ่านแล้วชอบมากๆ ได้ คือเรื่อง ‘จอมโจรอัจฉริยะ’ นักเขียนคือ โกโช […]

1 89 90 91 92 93 355

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.